I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง - ตอนที่ 1038 : ข้อเสนอของเฉินหยูฉี
- Home
- I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง
- ตอนที่ 1038 : ข้อเสนอของเฉินหยูฉี
*เทียนกวง = สกายพาส
*เชินหยูฉี–> เชินหยูฉี
*สรุป คือ เชินหยูฉี ผู้ชายนะครับ เว็ปที่แล้วเขาใช้she แต่พอประโยคอื่นก็he ผมก็งงอยู่ เอาเป็นว่าผู้ชายนะครับ ขอโทษด้วยครับ
“โจวเหวิน”
ขณะที่โจวเหวินกำลังจะดูว่าเขาจะรีดไถเอาสถานีอวกาศมายังไง ประตูเล็กๆ ก็ปรากฏขึ้นข้างทางเข้าหลักของสกายพาส ชายที่สง่างามมากก็เดินออกมา
โจวเหวินจำเขาได้ในทันที เขาเป็นผู้อำนวยของสำนักงานควบคุมพิเศษเชินหยูฉี โจวเหวินได้พบกับเชินหยูฉี เมื่อเขาไปที่มหาวิทยาลัยชีหยางเนื่องจากหวังหมิงหยวน
อย่างไรก็ตาม ในตอนนั้น เชินหยูฉีเป็นภูเขาที่โจวเหวินทำได้เพียงแหงนหน้ามอง เชินหยูฉีสามารถด่าเขาได้ด้วยการพลิกมือของเขา
ตอนนี้สิ่งต่าง ๆ แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง โจวเหวินมั่นใจอย่างยิ่งว่าเขาสามารถด่าเชินหยูฉีได้
ในํฐานะผู้อำนวยการ เชินหยูฉีได้เดินออกมาจากสกายพาสด้วยตัวคนเดียว เขาไม่ได้นำผู้ตรวจสอบมาด้วยในขณะที่เดินไปหาโจวเหวิน
แม้ว่าโจวเหวินจะปฏบัติต่อสำนักงานในํฐานะศัตรูมาโดยตลอด แต่เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องปรบมือให้เชินหยูฉี เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น เขาก็ปล่อยออร่าอันสง่างามราวกับภูเขาที่ไม่สามารถถูกสั่นคลอน
“ผู้อำนวยการเชิน มันไม่ง่ายเลยที่จะพบคุณ” โจวเหวินพูดกับเชินหยูฉี
“ทำไมคุณถึงอยากพบผมละ” เชินหยูฉีกล่าวอย่างเฉยเมย
“ผมควรจะเป็นคนถามคุณนะครับ ผู้อำนวยการเชินสำนักงานต้องการเชิญผมมาตลอดไม่ใช่เหรอครับ?” โจวเหวินกล่าว
ออร่าของเชินหยูฉีหนักแน่นดั่งขุนเขา เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “สำนักงานต้องการจับกุมคุณเพราะความสัมพันธ์ของคุณกับผู้วิเศษจิ่งเต้าอีกทั้งเนื่องจากคุณเป็นลูกศิษย์ของหวังหมิงหยวน นี่เป็นขั้นตอนปกติ เรามีหลักการที่ชัดเจน”
“ถ้าอย่างนั้น คุณว่าผมผิดหรือเปล่า” โจวเหวินจ้องไปที่เชินหยูฉีอย่างเย็นชา
ดวงตาของเชินหยูฉีไม่ได้หลบหรือแสดงการประนีประนอม เขามองเข้าไปในดวงตาของโจวเหวินและกล่าวต่อ “จากมุมมองของสำนักงาน คุณเข้าใจผิดจริงๆ อย่างไรก็ตาม มันไม่มีความหมายที่จะบอกว่าใครถูกและใครผิดในตอนนี้ ด้วยความแข็งแกร่งของคุณ มันไม่มีประโยชน์ที่จะพูดถึงคุณว่าถูกหรือผิด”
“ผู้อำนวยการเชิน คุณเรียกผมว่าผู้ร้ายนอกกฏหมาย?” โจวเหวินถามอย่างใจเย็น
“แน่นอนว่าไม่ ผมได้ศึกษาข้อมูลของคุณช้ำแล้วช้ำเล่า บางทีคุณอาจไม่เชื่อผม ความเข้าใจของผมเกี่ยวกับนิสัยของคุณอาจจะดีกว่าตัวคุณเองสะอีก” เชินหยูฉีกล่าว
“ผมอยากรู้ว่าตัวเองเป็นคนยังไง” โจวเหวินมองเชินหยูฉีด้วยความสนใจ
เชินหยูฉีพูดช้าๆ “ถ้าคุณรู้ความคิดเห็นของผม ผมเกรงว่าคุณจะต้องด่าผม ดังนั้นจึงไม่มีประโยชน์ที่จะพูดออกมา ยังไงก็ตาม ผมมีข้อเสนอเกี่ยวกับความแค้นระหว่างคุณและสำนักงาน ผมเชื่อว่าคุณจะสนใจ”
“บอกผมเกี่ยวกับมัน” โจวเหวินพูดขณะที่เขาจ้องไปที่เชินหยูฉี
“เรียกสัตว์อสูรระดับตำนานของคุณออกมาตัวหนึ่ง” เชินหยูฉีกล่าว
โจวเหวินค่อนข้างสงสัยว่าทำไมคนอย่างเชินหยูฉีถึงกล้าพบเขาเพียงลำพัง เขามีอะไร? ดังนั้นเขาจึงเรียกสัตว์อสูรระดับตำนานตามคำขอของเชินหยูฉี
มันคือวัชระมัลลา*ระดับตำนาน สิ่งมีชีวิตต่างมิติที่พบเห็นได้ทั่วไปในประตูมังกรโกรตโต
“วัชระมัลลา ไม่ใช่สัตว์อสูรระดับตำนานที่แย่ มันออกจะหายาก” เชินหยูฉีกล่าวขณะที่เขาหยิบเศษคริสตัลออกมาและถือไว้ในมือของเขา
*ขอทับศัพท์ไปเลยนะครับ คิดชื่อเท่ๆไม่ออก
โจวเหวินค่อนข้างสับสนว่าทำไมเชินหยูฉีถึงหยิบเศษคริสตัลออกมา อย่างไรก็ตาม เมื่อเขามองอย่างระมัดระวัง เขาก็ตระหนักว่ามีกลีบดอกไม้สีขาวราวหิมะอยู่ภายในเศษคริสตัล
โจวเหวินไม่ได้ถามว่ามันคืออะไรเพราะเขารู้ว่าตั้งแต่ที่เชินหยูฉีนำมันออกมา เขาจะอธิบายให้ชัดเจนอย่างแน่นอน
เขาแค่สงสัยเล็กน้อยว่ากลีบดอกไม้นี้วิเศษขนาดไหนที่ทำให้เชินหยูฉีมั่นใจว่ากลีบดอกไม้นี้จะทำให้เขาลงมือ
เชินหยูฉีไม่ได้พูดอะไรอีก เขาบดเศษคริสตัลและปล่อยให้กลีบดอกไม้ลอยออกมา แล้วใช้ลมจากฝ่ามือส่งกลีบดอกไปยังวัชระมัลลา
กลีบดอกตกลงบนหัวของวัชระมัลลา และหลอมรวมเข้ากับร่างของวัชระมัลลา เหมือนหิมะที่กำลังละลาย
หลังจากนั้น โจวเหวินก็เห็นร่างของวัชระมัลลาเปล่งแสงประหลาดออกมา ดูเหมือนจะเริ่มวิวัฒนาการจริงๆ
วัชระมัลลาเป็นเพียงสัตว์อสูรระดับระดับต่ำและไม่มีความสามารถในการวิวัฒนาการ ดังนั้น ภายใต้สถานการณ์ปกติ ไม่มีทางเป็นไปได้ที่มันจะวิวัฒนาการ
อย่างไรก็ตาม กลีบดอกไม้เล็ก ๆ นั้นทำให้วัชระมัลลาวิวัฒนาการได้ มันน่าตกใจจริงๆ
“โลกนี้ไม่มีศัตรูถาวร มีแต่ผลประโยชน์เท่านั้น อย่าพูดถึงว่าใครถูกหรือผิดในอดีต ถึงตอนนี้ แม้ว่าคุณจะสังหารคนทั้งสำนักงาน คุณก็จะไม่ได้รับประโยชน์อะไร อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่คุณเต็มใจ คุณสามารถรับดอกไม้ดังกล่าวเมื่อเข้าร่วมกับสำนักงาน… มีแบบนี้หลายพันดอก…” เชินหยูฉีพูดช้าๆ
โจวเหวินถูกล่อลวง โดยไม่สนใจความจริงที่ว่ากลีบดอกไม้เหล่านี้ไม่มีประโยชน์กับสัตว์อสูรระดับสูง พวกมันมีประโยชน์มากสำหรับโจวเหวิน
นี่เป็นเพราะสัตว์อสูรระดับตำนานส่วนใหญ่มีปัญหาในการวิวัฒนาการในช่วงแรก เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรอให้พวกมันเติบโตอย่างช้าๆ
ด้วยดอกไม้ดังกล่าว โจวเหวินสามารถใช้พวกมันเพื่อวิวัฒนาการสัตว์อสูรระดับตำนานด้วยความรวดเร็ว
ตัวอย่างเช่น มันยากมากที่จะวิวัฒนาการราชมารนี่เป็นเพราะว่าไข่สัตว์อสูรรูปร่างมนุษย์นั้นหายาก แม้ว่าโจวเหวินจะชื้อมาเป็นจำนวนมาก แต่เขาก็ยังไม่ผ่านเกณ์ที่จำเป็นในการเลื่อนระดับของราชมาร
หากเขามีดอกไม้นี้ เขาสามารถวิวัฒนาการราชมารได้โดยตรงโดยไม่ต้องมีปัญหามากมาย
นอกจากนี้ เชินหยูฉีชึ่งกล่าวว่ามีแบบนี้หลายพันดอก ได้ล่อลวงโจวเหวิน
“ทำไมผมต้องเชื่อคุณ” โจวเหวินถาม
“ทำไมเราไม่เข้าไปดูข้อมูลที่เราบันทึกไว้ล่ะ? จากนั้นคุณสามารถตัดสินใจได้” เชินหยูฉียิ้ม เขารู้ว่าโจวเหวินถูกล่อลวง
โจวเหวินและเชินหยูฉีเข้าสู่สกายพาสและมาถึงํฐานของสำนักงาน เขาเห็นข้อมูลที่เชินหยูฉีและสำนักงานบันทึกไว้เกี่ยวกับดวงจันทร์
โจวเหวินเห็นกระบวนการค้นพบทั้งหมดของกลีบออสมันตัสและตอไม้ออสมันตัสผ่านวิดีโอ
เขารู้ว่าเชินหยูฉีไม่ได้โกหก ด้วยความเร็วของการขุด พวกเขาอาจค้นพบกลีบออสมันตัสนับพัน นอกจากนี้ยังมีตอไม้ต้นออสมันตัสลึกลับอยู่ที่นั่น บางทีมันอาจจะมีค่ามากกว่ากลีบดอก
เป็นไปได้ไหมว่านั่นคือต้นออสมันตัสในตำนานบนดวงจันทร์? แล้วก็คนตัดไม้ในตำนาน นางฟ้าดวงจันทร์และกระต่ายดวงจันทร์นั้นมีจริงงั้นเหรอ? โจวเหวินคิดกับตัวเอง
“เราจะทำงานร่วมกันเพื่อรวบรวมดอกออสมันตัส หลังจากเสร็จสิ้นการเก็บเกี่ยวครึ่งหนึ่งจะเป็นของคุณ” เชินหยูฉีกล่าว
“ผู้อำนวยการเชิน คุณดูไม่เหมือนคนที่จะแบ่งของให้คนอื่นเท่าไหร่” โจวเหวินกล่าวกับเชินหยูฉี
“ถือว่าเป็นประโยชน์ร่วมกัน ดูต่อ” เชินหยูฉรเล่นวิดีโอฉากสุดท้าย
ในไม่ช้า โจวเหวินก็เห็นรอยเท้าขนาดใหญ่และสถานีอวกาศที่แบนราบ
“มีสิ่งมีชีวิตต่างมิติตัวอื่น บนดวงจันทร์งั้นเหรอ” โจวเหวินขมวดคิ้ว
“สำนักงานของเราไม่ได้วางแผนที่จะทิ้งสิ่งของดีๆแบบนี้ ดังนั้นฉันจึงวางแผนที่จะพาคุณไปดวงจันทร์เป็นการส่วนตัว ถ้าคุณยินดีจะไปกับผม คำสัญญาของผมก็จะยังคงเหมือนเดิม ไม่ว่าเราจะได้ดอกออสมันตัสกี่ดอก คุณก็จะได้ครึ่งหนึ่ง” เชินหยูฉีกล่าว
“นอกจากดอกออสมันตัสครึ่งหนึ่งแล้วผมยังต้องการตอไม้นั้น” โจวเหวินกล่าว
“ยินดีที่ได้ร่วมงานกับคุณ” เชินหยูฉียกถ้วยน้ำชาของเขาขึ้น