I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง - ตอนที่ 1045 : ระดับความกลัวที่เฉื่อยชา
- Home
- I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง
- ตอนที่ 1045 : ระดับความกลัวที่เฉื่อยชา
วิหารจิ้งจอกอมตะมีขนาดเล็กไม่มีแม้แต่กำแพง แม้ว่าจะเรียกว่าวิหาร แต่จริงๆ แล้วเป็นบ้านหลังเล็กๆ ที่สร้างด้วยหิน ประตูมีความสูงเพียงครึ่งเดียวของประตูธรรมดา ถ้าจะเข้าไปก็ต้องก้มต่ำมาก
วิหารนั้นเรียบง่ายมาก แทบไม่มีอุปกรณ์ตกแต่งเลย หินที่ใช้สร้างวิหารมีความไม่สม่ำเสมอและหยาบมาก
มีโต๊ะเครื่องบูชาทำด้วยหินในวิหาร บนโต๊ะถวายเป็นแผ่นไม้โบราณที่มีคำว่า “ราชินีจิ้งจอกอมตะ” สลักอยู่
“รอสักครู่ ยังมีข้อห้ามเมื่อเข้าสู่วิหารจิ้งจอกอมตะ นายต้องคุกเข่าและเข้าไป ไม่อย่างนั้น สิ่งที่นายจะได้รับไม่ใช่โชคดี แต่เป็นโชคร้าย” หวางลู่รีบพูดเมื่อเห็นหลี่กวนกำลังจะเข้าไป
“แล้วแต่เลย ฉันไม่อายที่จะคุกเข่าต่อหน้าราชินีจิ้งจอกอมตะ มันไม่เป็นไรถ้าเธอมอบโชคให้ฉัน” หลี่กวนเป็นคนใจกว้าง เขาเดินไปที่วัดและคุกเข่าลง
ต้องยอมรับว่าพวกเขาสามารถเข้าไปในวิหารเล็ก ๆ ได้ในขณะที่คุกเข่า หลี่กวนต้องก้มศีรษะลงแม้จะคุกเข่าอยู่ก็ตาม ไม่มีทางที่เขาสามารถเข้าไปได้ในขณะที่ยืนอยู่
เมื่อเข้าไปในวิหาร หลี่กวนจุดธูปสามดอกที่โจวเหวินมอบให้เขา เขาคำนับที่แผ่นจารึกของราชินีจิ้งจอกอมตะ ก่อนที่จะใส่ธูปสามดอกลงในกระถางธูป
ในขณะนั้น ก๊ากสีม่วงก็พุ่งออกมาจากแผ่นจารึกของราชินีจิ้งจอกอมตะทันที ก๊ากสีม่วงวนอยู่เหนือศีรษะของหลี่กวน และตกลงบนหน้าผากของเขา ก่อตัวเป็นวงกลมพร่ามัว มันดูเหมือนสุนัขจิ้งจอกที่มีหัวและหางเชื่อมต่อกัน
“แค่นี้เหรอ? โชคของฉันเพิ่มขึ้นไหม” หลี่กวนออกจากวิหารจิ้งจอกอมตะและถามหวางลู่
“มันเพิ่มขึ้นแล้ว ฉันไม่รู้ว่ามันมีผลนานแค่ไหน เมื่อสัญลักษณ์บนหน้าผากของนายหายไป นั่นคือเมื่อหมดเวลา” หวางลู่กล่าว
“ถ้าอย่างนั้นก็อย่าเสียเวลาเลย เยี่ยนน้อย รีบเข้าไปบูชา แล้วมาเสี่ยงโชคกันด้วยการออกไปว่าสิ่งมีชีวิตต่างมิติกันเถอะ” หลี่กวนกระตุ้นให้เฟิงชิวเยี่ยนเข้าไป
เฟิงชิวเยี่ยนหยิบธูปสามดอกและเลียนแบบหลี่กวน เขาเข้ามาในขณะที่คุกเข่าและคำนับ
ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม ก๊ากสีม่วงพุ่งออกมาจากแผ่นจารึก แต่ปริมาณของก๊ากสีม่วงนั้นมากกว่าของหลี่กวนมาก รูปแบบที่เกิดขึ้นก็ชัดเจนขึ้นเช่นกัน เขาสามารถเห็นใบหน้าของจิ้งจอกได้แล้ว มันไม่ได้เบลอเหมือนของหลี่กวน ที่แม้แต่ใบหน้าก็ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
“ทำไมของฉันถึงแตกต่างออกไปเล็กน้อย” หลี่กวนถามขณะที่มองดูสัญลักษณ์บนหน้าผากของเฟิงชิวเยี่ยน
“สัญลักษณ์ที่ยิ่งชัดเจน ยิ่งให้โชคที่ดีและยาวนานขึ้น” หวางลู่อธิบาย
“นี่คือการเลือกปิบัติ ทำไมเอฟเฟคของเยี่ยนน้อยถึงดีกว่าของฉันในเมื่อเราทั้งคู่ล้วนคำนับ?” หลี่กวนกล่าวอย่างเศร้าโศก
“เพราะนานน่าเกลียด” โจวเหวินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ในเมื่อนายหล่อนักแล้ว ทำไมไม่ลองดูล่ะ? นายอาจจะแย่กว่าฉันด้วยก้ำ” หลี่กวนพูดพร้อมกับกระตุกริมฝีปากของเขา
โจวเหวินยังอยากรู้ว่าการเสริมโชคของราชินีจิ้งจอกอมตะมีผลในเกมหรือไม่ ดังนั้นเขาจึงหยิบธูปออกมาสามดอกแล้วเดินไปที่หน้าวิหารจิ้งจอกอมตะ จากนั้นเขาก็เลียนแบบหลี่กวนและคุกเข่าลงที่หน้าประตู
ปัง!!!
แผ่นจารึกในวิหารจิ้งจอกอมตะ ดูเหมือนจะแตกและหล่นจากโต๊ะบูชา หลังจากตกลงสู่พื้นก็แยกออกเป็นสองส่วน
โจวเหวินถือธูปด้วยความงุนงงขณะที่เขามองไปที่แผ่นจารึกสองแผ่นบนพื้น
“นี่… ใช้ได้ไหม” โจวเหวินต้องการจะเข้าไปอีกครั้งเพื่อลองดู แต่เมื่อเข่าของเขาขยับและเขาก็เดินเข้าไปในวิหารเพียงครึ่งก้าว แผ่นจารึกราชินีจิ้งจอกอมตะ ทั้งสองที่หักครึ่งบนพื้นก็ระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยทันที
เมื่อเห็นสถานการณ์นี้ โจวเหวินก็รู้ว่ามันไม่มีประโยชน์อย่างแน่นอน ทั้งหมดที่เขาทำได้คือยืนขึ้นด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น
เฟิงชิวเยี่ยนและหวางลู่มองไปที่โจวเหวินด้วยท่าทางแปลกๆ หลี่กวนไม่ได้แสดงออกมากนัก เมื่อเคยเห็นแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน
“ตาแก่โจว จากการที่มันเป็นแบบนี้ นายไม่ได้ถูกลิขิตให้ถูกเสริมดวงในชีวิตนี้ อย่าเป็นคนที่แข็งแกร่งเกินไปในชีวิตหน้าของนาย ไม่ใช่เรื่องดีที่จะแข็งแกร่งเกินไป” หลี่กวนปลอบโจวเหวินขณะที่เขาตบไหล่เขา
โจวเหวินก็โกรธเคืองเช่นกัน เขารู้ดีว่าการทำแบบนี้ของเขานั้นไม่มีผลดีอะไรเลย แต่เขาไม่สามารถทำอะไรกับมันได้ วิหารส่วนใหญ่ต้องการคุกเข่า แต่การคุกเขาของเขาทำให้เกิดสิ่งเลวร้าย ดังนั้นเขาจึงไม่ได้อะไรจากมัน
“ลืมมันไปเถอะ ฉันจะกลับแล้ว” โจวเหวินไม่ได้รับการเสริมดวงและไม่พบสัญลักษณ์ เขาวางแผนที่จะรีบกลับไปที่ลูกบาศก์ของเมืองกับหวางลู่
เฟิงชิวเยี่ยนและหลี่กวนไปว่าสิ่งมีชีวิตต่างมิติด้วยกัน พวกเขาไม่สนใจที่จะดูโจวเหวินอวดสัตว์อสูรของเขา
โจวเหวินไม่ได้เดินไปไกลก่อนที่เขาจะนึกถึงอะไรบางอย่าง เขาให้หวางลู่กลับไปที่วิหารจิ้งจอมอมตะ ก่อนที่จะเปลี่ยนไปใช้วิญญาณชีวิตราชานรกเพื่อมองจากระยะไกล
เมื่อชำเลืองมอง เขาตระหนักว่ามีพลังวิญญาณสีม่วงปรากขึ้นในวิหารเล็กๆ ราวกับจิ้งจอกสีม่วงใสที่ฝังตัวอยู่ในวิหารขณะจ้องมองโจวเหวินด้วยความประหลาดใจและงงงวย
สิ่งนี้… นับเป็นสิ่งมีชีวิตต่างมิติไหม? โจวเหวินมองไปที่จิ้งจอกร่างวิญญาณ ภายใต้สถานการณ์ปกติ มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นวิญญาณบริสุทธิ์ได้
มีเพียงวิญญาณชีวิตราชานรกเท่านั้นที่อนุญาตให้โจวเหวินมองเห็นสิ่งเหล่านี้
โจวเหวินเรียกตรีศูลทองคำ และให้มันบินเข้าหาร่างวิญญาณของจิ้งจอก
อย่างไรก็ตาม ตรีศูลทองคำพุ่งออกจากร่างวิญญาณของจิ้งจอกโดยตรงและไม่ได้รับบาดเจ็บ สุนัขจิ้งจอกจ้องไปที่โจวเหวินอย่างดุเดือด แต่ดูเหมือนว่าจะกลัวอะไรบางอย่าง มันไม่กล้าโจมตีเขา
โจวเหวินอัญเชิญดาบแสงและดาบราตรี เขายังได้ลองใช้สัตว์อสูรหลายตัวและตระหนักว่าการโจมตีของพวกมันไม่มีประโยชน์ต่อสุนัขจิ้งจอกในสภาพร่างกายวิญญาณ
จิ้งจอกมองเพียงโจวเหวินโดยไม่ได้ตั้งใจจะโจมตีเขา
“นายกำลังทำอะไร?” หวางลู่มองไปที่โจวเหวินด้วยความงุงงง
เธอมองไม่เห็นร่างวิญญาณของจิ้งจอก ทั้งหมดที่เธอเห็นคือโจวเหวินใช้สัตว์อสูรทุกประเภทเพื่อโจมตีอากาศเหนือวิหารอย่างต่อเนื่อง เธอคิดว่าเขาได้รุกรานราชินีจิ้งจอกอมตะและถูกคำสาป
“ไม่มีอะไร” โจวเหวินเห็นว่าการโจมตีของสัตว์อสูรธรรมดานั้นไร้ประโยชน์สำหรับจิ้งจอก ดังนั้นเขาจึงเรียกสาวหิมะในลูกแก้วแห่งความวินาศ
หลังจากออกมาเธอก็จ้องไปที่วิหาร สาวหิมะสามารถเห็นร่างวิญญาณของจิ้งจอกได้อย่างชัดเจน
เมื่อสุนัขจิ้งจอกเห็นสาวหิมะ มันก็แยกเขี้ยวทันทีและจ้องมาที่เธอราวกับว่ามันกลัวเธอ
จิ้งจอกในวิหารแห่งนี้จะเป็นสิ่งมีชีวิตระดับความกลัวได้จริงเหรอ? โจวเหวินเพิ่งเดาได้ก่อนหน้านี้ แต่ตอนนี้เขาเห็นราชินีจิ้งจอกอมตะจ้องมองสาวน้ำแข็ง เขาก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้นไปอีก
ถ้าราชินีจิ้งจอมอมตะเป็นสิ่งมีชีวิตระดับความกลัว ราชาโลกในวิหารแห่งโลก หรือ ภูเขาเทพเจ้าในวิหารเทพเจ้าจะเป็นสิ่งมีชีวิตระดับความกลัวด้วยไหม?
การแสดงออกของโจวเหวินเปลี่ยนไปอย่างผิดปกติ แม้ว่าจะค่อนข้างน่าแปลกใจที่มีสิ่งมีชีวิตระดับความกลัวในวิหาร แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจจริงๆ ก็คือวิญญาณชีวิตของเขาสามารถทำลายจารึกของสิ่งมีชีวิตระดับความกลัวได้ นอกจากนี้ สิ่งมีชีวิตระดับความกลัวไม่ได้ทำอะไรกับเขา
โจวเหวินรู้สึกหวาดกลัวเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หากสิ่งมีชีวิตระดับความกลัวโจมตีเขาจริงๆ เขาควรจะตายไปนานแล้วไม่ใช่เหรอ?