I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง - ตอนที่ 1051 : การปรากฏตัวของปีศาจสังหาร
- Home
- I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง
- ตอนที่ 1051 : การปรากฏตัวของปีศาจสังหาร
บังเอิญว่าผ้าคลุมล่องหนไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ ทว่าตรีศูลทองคำยอมรับความพ่ายแพ้และออกจากสนามประลอง
ผู้คนเชื่อว่านี่เป็นสัญญาณของการยอมแพ้ สันนิษฐานว่าเจ้านายของตรีศูลทองคำไม่ต้องการที่จะยื้อต่อ
“มันจบลงแล้วเหรอ? แม้ว่าฉันรู้ว่ามันไม่มีความหมาย แต่ฉันไม่รู้ว่าทำไม ฉันยังมีความคาดหวังที่อธิบายไม่ได้” ใครบางคนกล่าวด้วยความผิดหวัง
“บางทีอาจเป็นเพราะความคาดหวังของเราเอง ในโลกความเป็นจริง เรามีหลายอย่างที่อยากทำ แต่ด้วยเงื่อนไขของเราเองหรือหลายๆ เหตุผล เราไม่สามารถทำได้ บางครั้งเราก็แอบหวังในใจว่ามีใครสักคนทำสิ่งที่เราทำไม่ได้ ต่อให้เป็นแค่การดูคนอื่นประสบความสำเร็จ เราก็มีความสุข” เพื่อนของเขากล่าวหลังจากครุ่นคิด
“ถูกตัอง แม้ว่าเราจะไม่สามารถเข้าร่วมในการต่อสู้จัดอันดับได้ แต่เราก็ยังหวังว่าจะมีมนุษย์สายเลือดบริสุทธิ์จริงๆ ที่สามารถเข้าร่วมได้ ไม่ใช่คนที่มีผู้พิทักษ์”
อีกคนพูดขึ้น “ไม่มีความแตกต่างไม่ใช่เหรอ? สัตว์อสูรและผู้พิทักษ์ไม่ใช่พลังภายนอกที่เหมือนกันเหรอ?”
“จะเหมือนกันได้ยังไง? สัตว์อสูรได้มาจากการทำงานหนักของเราเอง นั่นคือพลังที่เราสามารถควบคุม แต่ผู้พิทักษ์ล่ะ? พลังของพวกมันเป็นของพวกมัน ในท้ายที่สุด พวกมันเป็นตัวแทนของเผ่าพันธุ์ต่างมิติ แม้ว่าพวกมันจะชนะ มันก็หมายความว่าเผ่าพันธุ์ต่างมิติที่พวกมันเป็นตัวแทนได้รับชัยชนะ ไม่ใช่มนุษย์แบบเรา”
มีหลายคนที่มีความคิดเหมือนพวกเขา แต่ทุกคนรู้ว่ายุคของผู้พิทักษ์กำลังจะมาถึง นี่เป็นแนวโน้มที่ไม่สามารถย้อนกลับได้
ผ้าคลุมล่องหนขึ้นเป็นที่หนึ่ง และผู้พิทักษ์ส่งคำท้าทันที
ผ้าคลุมล่องหนเป็นสัตว์อสูร ตามกที่เปลี่ยนแปลง มีเวลาเพียงสามนาทีในการยอมรับคำท้า
สามนาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว มนุษย์จ้องไปที่หน้าจอ สงสัยว่าผ้าคลุมล่องหนจะยังเลือกสัตว์อสูรเป็นคู่ต่อสู้หรือไม่
มีแสงสว่างวาบขึ้นบนหน้าจอขณะที่ผ้าคลุมล่องหนยอมรับคำท้า อย่างไรก็ตาม คราวนี้ สิ่งที่ท้าทายผ้าคลุมล่องหนไม่ใช่สัตว์อสูร แต่เป็นผู้พิทักษ์
ดูท่าแล้วเขาคงยอมแพ้จริงๆ ทุกคนถอนหายใจภายใน แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าความล้มเหลวเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่พวกเขาก็ไม่เต็มใจที่จะเห็นช่วงเวลานี้มาถึง
“ปีศาจสังหารเป็นผู้พิทักษ์ที่ฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน ฉันสงสัยว่ามันเป็นของใคร”
“ดูเหมือนว่ามีเพียงผู้พิทักษ์เท่านั้นที่ขึ้นไปบนเวที เพื่อนมนุษย์ของมันไม่มากับมันด้วย”
“มันดูถูกผ้าคลุมล่องหนขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“นั่นเป็นความจริง แม้ว่าผู้พิทักษ์ที่อยู่ในสนามประลองจะเป็นระดับเร้นลับ แต่พวกมันแข็งแกร่งกว่าสัตว์อสูรระดับเร้นลับอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ผ้าคลุมล่องหนไม่ใช่สัตว์อสูรที่มีความแข็งแกร่งในการต่อสู้มากนัก ฉันเชื่อว่าในที่สุด ผู้พิทักษ์คงชนะ”
ทุกคนรู้สึกท้อแท้ การต่อสู้ของผู้พิทักษ์ที่พวกเขารอคอยนั้นไม่น่าสนใจอีกต่อไปแล้ว
“ในที่สุดมันก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม ให้ฉันดูว่าผู้พิทักษ์ตัวอื่นแข็งแกร่งแค่ไหน” ชายในชุดเกราะผู้พิทักษ์ยิ้มเมื่อเขาเห็นปีศาจสังหารปรากฏตัว
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่นาน ผู้คนก็ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ
หลังจากที่ ปีศาจสังหารเข้าสู่สนามประลองของลูกบาศก์ มันก็ลอยขึ้นไปในอากาศ มันดูลึกลับ ทรงพลัง และมีอำนาจเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม มันเพียงลอยไปที่นั่นและมองขึ้นไปบนท้องฟ้าในมุม 45 องศาโดยไม่โจมตี
“เดี๋ยวก่อน เกิดอะไรขึ้น? ดูผู้พิทักษ์นั่นสิ ท่าทางที่มันแสดงดูไม่คุ้นเคยไปหน่อยเหรอ?”
“อย่าบอกนะว่ามัยมาที่นี่เพื่อถ่วงเวลาเหมือนสัตว์อสูรพวกนั้นเหรอ?”
“ไม่… เป็นไปไม่ได้…”
“ฉันไม่คิดว่ามันเป็นไปได้เช่นกัน จุดประสงค์ของผู้พิทักษ์ที่ถ่วงเวลาไว้คืออะไร? นอกจากนี้ ถ้ามีผู้พิทักษ์ ทำไมเขาไม่ปรากฏตัวพร้อมกับผู้พิทักษ์ล่ะ? ทำไมเขาถึงต้องใช้สัตว์อสูรพวกนั้น?”
“แต่ดูสิ มันเหมือนกับสัตว์อสูรตัวก่อนจริงๆ มันแค่ยืนอยู่ที่นั่นโดยไม่ขยับ”
ทันใดนั้น ระลอกคลื่นก็เกิดขึ้นอีกครั้งในรัฐบาล ทุกคนต่างคาดเดาว่าผู้พิทักษ์ปีศาจสังหารกำลังทำอะไร ทำไมมันถึงทำเช่นนี้?
เจ้านายของปีศาจสังหารและเจ้านายของผ้าคลุมล่องหนเป็นคนเดียวกันหรือแค่ช่วยกันถ่วงเวลา?
“ครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ปีศาจสังหารยังไม่เคลื่อนไหว ดูจากสถานการณ์แล้วไม่น่าผิดพลาด มันยังคงยื้อเวลา”
“ช่างเถอะ ในเมื่อเขาครอบครองผู้พิทักษ์ ทำไมเขาถึงไม่ใช้มันก่อนหน้านี้ล่ะ? กลับกลายเป็นว่านี่คือคนที่เริ่มต้นด้วยการใช้ความช่วยเหลือจากผู้พิทักษ์”
“ถูกตัอง ถ้าเขาไม่มีผู้พิทักษ์ เขาจะลาสัตว์อสูรระดับเร้นลับจำนวนมากได้ยังไง และจะทำให้ไข่สัตว์อสูรดรอปเป็นจำนวนมากยังไง”
“นายไม่คิดว่ามันแปลกเหรอ? ทำไมเพื่อนมนุษย์ของมันไม่เข้าร่วม? แต่ผู้พิทักษ์กลับเข้าร่วมด้วยตัวเอง”
ตามที่ผู้คนพูดคุยกัน หน่วยสืบสวนเสรีภาพรัฐบาล ได้เผยแพร่บทความเรื่อง “สัญญาระหว่างมนุษย์และผู้พิทักษ์”
มีการเสนอแนวคิดที่น่าสนใจในบทความ ความคิดนี้ยังทำให้เกิดการตอบสนองเป็นอย่างมากในรัฐบาล
บทความชี้ว่าจนถึงตอนนี้ มนุษย์มากกว่า40คนได้รู้จักทำสัญญากับผู้พิทักษ์ บางคนไม่ได้ปกปิดตัวตนและกลายเป็นคนดังในหมู่มนุษย์ด้วยส้ำ
เดิมทีบางคนอาจเป็นคนที่ไม่เป็นที่รู้จักและกลายเป็นคนดังที่มีชื่อเสียงในรัฐบาล
หน่วยสืบสวนเสรีภาพรัฐบาลได้สัมภาษณ์ส่วนหนึ่งของพวกเขาด้วย มนุษย์ทุกคนที่มีผู้พิทักษ์กล่าวว่าสัญญาของพวกเขากับผู้พิทักษ์นั้นยุติธรรมอย่างมาก ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสามารถยกเลิกสัญญาเมื่อใดก็ได้โดยไม่ต้องเสียอะไร
อย่างไรก็ตาม นักข่าวจากหน่วยสืบสวนสอบสวนเสรีภาพรัฐบาล ชี้ให้เห็นว่าแม้ว่าสัญญานี้จะดูยุติธรรมอย่างมาก แต่ก็ไม่เป็นแบบนั้น
หลังจากที่มนุษย์ทำสัญญากับผู้พิทักษ์ การเติบโตของมนุษย์จะหยุดลง สำหรับผู้พิทักษ์ พวกมันสามารถแข็งแกร่งขึ้นต่อไปได้ ดูเหมือนเป็นสัญญาที่ยุติธรรม แต่ในท้ายที่สุด มีเพียงผู้พิทักษ์เท่านั้นที่ได้รับประโยชน์
แน่นอน เมื่อมนุษย์มีผู้พิทักษ์ พวกเขาสามารถใช้ผู้พิทักษ์เพื่อทำสิ่งต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อพวกเขาได้ อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุด มนุษย์เป็นเหมือนเครื่องมือมากกว่า
การปรากฏตัวเพียงคนเดียวของปีศาจสังหาร ในสนามประลองทำให้นักข่าวของหน่วยสืบสวนเสรีภาพรัฐบาลคิดอย่างกระทันหัน ดังนั้น เขาจึงตั้งคำถามว่ามีเพียงวิธีเดียวที่มนุษย์จะทำสัญญากับผู้พิทักษ์จริงเหรอ
นอกจากนี้ เขายังคาดเดาความเป็นไปได้ของสัญญาแบบอื่นที่ทำให้มนุษย์เป็นฝ่ายควบคุม มนุษย์จะเป็นฝ่ายยกเลิกสัญญา ผู้พิทักษ์ไม่สามารถเป็นยกเลิกสัญญาได้
“เป็นไปได้ยังไง? ความแตกต่างของความแข็งแกร่งระหว่างมนุษย์และผู้พิทักษ์นั้นมากเกินไป แม้ว่าจะมีสัญญาแบบนี้ แต่ผู้พิทักษ์ก็ไม่เต็มใจที่จะลงนามในสัญญานั้นอย่างแน่นอน”
“ถูกตัอง ตอนนี้ มนุษย์ต้องการผู้พิทักษ์ พวกมันจะลงนามในสัญญาแบบนั้นได้ยังไง”
“ดูเหมือนว่าวิธีการทำสัญญานี้จะยุติธรรมกว่า ผู้พิทักษ์ได้รับประโยชน์จากมนุษย์ ดังนั้นจึงไม่สมเหตุสมผลที่พวกมันสามารถจากไปได้ตามต้องการ”
“ถูกตัอง แม้แต่การหย่ากันก็ต้องแบ่งทรัพย์สินของครอบครัว การปล่อยให้ผลประโยชน์ทั้งหมดของเราถูกครอบครองโดยผู้พิทักษ์นั้นไม่ยุติธรรม”