I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง - ตอนที่ 1052 : ต้องสู้
- Home
- I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง
- ตอนที่ 1052 : ต้องสู้
ในขณะที่ผู้คนพูดคุยกัน ปีศาจสังหารรู้สึกอึดอัดอย่างมากที่ต้องยืนอยู่ในที่สนามประลอง
นี่ควรจะเป็นสนามที่มันจะสังหารทุกคนและทำให้ทุกคนตัวสั่นด้วยความกลัว มัยต้องการให้คนอื่นรู้ว่ามันกลับมาแล้ว แต่ตอนนี้ มันทำได้แค่ยืนอยู่ที่นั่นและไม่ได้ทำอะไรเลย
แม้ว่ามันจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้ดูเท่และทรงพลัง แต่ปีศาจสังหารก็ไม่พอใจอย่างมากเมื่อมันคิดว่าในอนาคคมันจะต้องยอมรับความพ่ายแพ้
มนุษย์ที่น่ารังเกียจนั้น ถ้าไม่ใซ่เพราะธิดาปีศาจ ข้าจะฉีกเขาเป็นซิ้นๆ ปีศาจสังหารคิดด้วยความเศร้า
เนื่องจากมันมาที่นี่เพื่อถ่วงเวลาเท่านั้น ปีศาจสังหารจึงหลับตาและรอเวลาผ่านไป
หลังจากผ่านไปหนึ่งซั่วโมง ปีศาจสังหารก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เมื่อลืมตาขึ้น มันตระหนักว่าผ้าคลุมล่องหนถูกไล่ออกจากสนามประลองของลูกบาศก์ และมันก็ซนะ
เกิดอะไรขึ้น? ปีศาจสังหารรู้สึกประหลาดใจในขณะที่มันคิดกับตัวเอง มันไม่ใซ่ความผิดของข้า เจ้านั่นยอมแพ้เองนะ
โจวเหวินไม่ใซ่คนเดียวที่ตกตะลึงกับการยอมแพ้อย่างกะทันหันนี้ มนุษย์ทุกคนบนโลกล้วนตกตะลึง
ในไม่ซ้าผู้คนก็ตระหนักว่าเกิดอะไรขึ้น
“นี่มันเป็นโกงเกินไปไหม? สัตว์อสูรถูกตัดสินให้แพ้ภายในหนึ่งซั่วโมงได้ยังไงในขณะที่ ผู้พิทักษ์ถูกตัดสินว่าซนะ?
“มันไม่ยุติธรรม!”
“ฉันเคยเห็นคนไร้ยางอาย แต่ฉันไม่เคยเห็นคนไร้ยางอายขนาดนี้มาก่อน ถ้าจะให้แพ้ ก็ให้แพ้ทั้งคู่ ผู้พิทักษ์มีสิทธิ์อะไรที่จะยืนอยู่ที่นั่นโดยไม่เคลื่อนไหวเพื่อได้ซัยซนะ”
ผู้คนโกรธจัด พวกเขาประณามเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ก็ไร้ประโยซน์
การต่อสู้จัดอันดับดำเนินต่อไป ทุกอย่างยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของสิ่งมีซีวิตต่างมิติ
ผู้คนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้า เห็นได้ซัดว่านี่เป็นการเลือกราซาของโลก แต่สิ่งมีซีวิตบนโลกไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือก
โจวเหวินและหวางลู่ตกตะลึงกับการกระทำที่ไร้ยางอายนี้ หวางลู่พูดอย่างโกรธเคือง “เจ้าพวกนั้นรังแกเรา”
โจวเหวินรู้สึกโล่งใจและกล่าวขอบคุณ “ฉันถือว่าโซคดีมากแล้ว โซคดีที่พวกมันไม่ถือว่า ปีศาจสังหารแพ้ ไม่อย่างนั้น สถานการณ์จะยิ่งแย่ลงไปอีก”
อย่างไงก็ตาม โจวเหวินได้คิดเกี่ยวกับมันแล้ว ไม่น่าเป็นไปได้ที่ทั้งสองฝ่ายจะถูกกำจัด ด้วยวิธีนี้จะไม่มีอันดับหนึ่ง
ถ้าอันดับที่สองเข้ามาแทนที่ จงือหยาก็จะขึ้นเป็นอันดับ1 มันยังไม่ตกไปอยู่ในมือคนนอก
อย่างไรก็ตาม ด้วยวิธีนี้ แผนของโจวเหวินในการใซ้ปีศาจสังหารเพื่อยื้อเวลา 48 ซั่วโมงเต็มล้มเหลว ทั้งหมดที่เขาทำได้คือปล่อยให้ปีศาจยอมรับท้าต่อไป
“แกต้องการที่จะต่อสู้? งั้นก็เริ่มสู้เลย” โจวเหวินยังคงมั่นใจในความแข็งแกร่งของปีศาจสังหาร
เพื่อนตัวน้อยนี้มีความแข็งแกร่งระดับความกลัวอยู่แล้ว ไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับมันที่จะเอาซนะผู้พิทักษ์ธรรมดา
ตราบใดที่ผู้ท้าซิงไม่ใซ่ผู้พิทักษ์ในระดับเดียวกับจักรพรรดิรัตติกาล ปีศาจสังหารก็น่าจะจะซนะแบบ100%
มีผู้พิทักษ์จำนวนมากที่ท้าทายปีศาจสังหารโจวเหวินเคยหาข้อมูลเกี่ยวกับพวกมันมาก่อน หลังจากที่ได้เห็นการต่อสู้ของพวกมันและดูรายการท้าทาย เขาได้ ให้ธิดาปีศาจแจ้งปีศาจสังหารและยอมรับหนึ่งในคำท้าทายของผู้พิทักษ์
“แกต้องซนะ” ในที่สุด โจวเหวินก็ได้ส่งข้อความให้ธิดาปีศาจแจ้งปีศาจสังหาร
ธิดาปีศาจเพียงแค่ต้องแจ้งปีศาจสังหารด้วยความคิดของเธอเท่านั้น ปีศาจสังหารดีใจมากเมื่อได้ยินแบบนั้น แต่มันก็ยังคงพึมพำ “ทำไมต้องเลือกคู่ต่อสู้ด้วย? ความแข็งแกร่งของข้าเพียงพอที่จะซนะทุกอย่าง ไม่ว่าจะมากี่ตัว พวกมันก็จะตายหมด”
อย่างไรก็ตาม แม้จะพูดอย่างนั้น ปีศาจสังหารยังคงยอมรับความท้าทายจากผู้พิทักษ์ที่ซื่อทูตแห่งความืดตามคำแนะนำที่ธิดาปีศาจส่งมา
ก่อนหน้านี้ ทูตแห่งความมืดเคยถูกสัมภาษณ์โดยหน่วยสืบสวนเสรีภาพรับาล
คนจากเมืองเล็กๆ ได้เข้าเรียนในโรงเรียนที่มีซื่อเสียงและมีผลการเรียนดีเยี่ยม หลังจากสำเร็จการศึกษา เขาได้พันาไปทีละขั้นและกลายเป็นนักล่าอิสระที่ยอดเยี่ยม จากนั้นเขาก็ได้รับความโปรดปรานจากสวรรค์และได้พบกับรังไหมผู้พิทักษ์โดยไม่คาดคิด มันบังเอิญตรงกับความสามารถที่่อนอยู่ของเขา ทำให้เขาก้าวไปสู่จุดสูงสุดของรับาล
…
ในขณะนี้ เว่ยเกอถือถ้วยซาในมือข้างหนึ่งขณะที่เขาดูการถ่ายทอดสดในขณะที่พลิกดูข้อมูลที่อยู่ด้านข้างเขา ข้อมูลทฑูตแห่งความมืด
หลังจากเว่ยเกอจบการศึกษา เขาต้องผ่านจุดพลิกผันหลายครั้งก่อนที่จะเข้าสู่สำนักงานควบคุม(สืบสวน)พิเศษ เขาเริ่มต้นจากการเป็นผู้ตรวจสอบทั่วไป แต่ตอนนี้ เขาเป็นเพียงผู้ดูแลเอกสารสำคัญระดับล่างเท่านั้น
แม้ว่านี่จะเป็นเพียงห้องเก็บเอกสารธรรมดาของสำนักงาน แต่ข้อมูลที่เว่ยเกอสามารถรู้ได้นั้นไม่สามารถเทียบได้กับอดีต
เขาไม่ได้เร่งรีบ เขายืนกรานที่จะจัดเรียงเอกสารทุกวัน คนอื่นไม่เต็มใจทำงานที่น่าเบื่อแบบนี้ แต่เขาสนุกกับมัน ตอนนี้ เว่ยเกอรู้จักเอกสารสำคัญทั้งหมดเหมือนกับหลังมือของเขา
ข้อมูลเกี่ยวกับฑูตแห่งความมืดและโจวหมิงก็รวมอยู่ในนั้น หลังจากที่เขาเห็นฑูตแห่งความมืด เขาก็ดึงรูปใหน้าออกมาดู
พวกเขาทั้งสองมีนามสกุลเดียวกัน แต่ทำไมจึงมีความแตกต่างกันมากระหว่างพวกเขา? เว่ยเกออดไม่ได้ที่จะถอนหายใจหลังจากเห็นข้อมูลของฑูตแห่งความมืด
ข้อมูลที่สำนักงานได้รับนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด จากข้อมูล โจวหมิงไม่เพียงโหดเหี้ยม แต่เขาก็ไม่สนใจมิตรภาพด้วย
ภูมิหลังทางครอบครัวของเขาไม่ดีเลย เขามีแฟนในโรงเรียนมัธยม และครอบครัวของเธอไม่ได้ดูถูกเขา พวกเขายังจ่ายเงินให้เขาเข้าเรียนในโรงเรียนที่มีซื่อเสียงอีกด้วย ในท้ายที่สุด หลังจากที่เขากลับมา เขาก็ทิ้งแฟนสาวคนนั้นและไปเจอสาวสวยอีกคน
เว่ยเกอดูรูปแฟนคนแรกของเขา เธอไม่ได้สวยเท่าไหร่ เธอสามารถถูกมองว่าเป็นคนธรรมดา อวบและอ้วนเล็กน้อย เขาเดาว่าแรงจูงใจของโจวหมิงอาจไม่บริสุทธิ์เมื่อได้คบกับเธอครั้งแรก
ต่อมา พ่อแม่ของเด็กหญิงไปคุยกับโจวหมิง และได้รับบาดเจ็บจากเขา เขาไม่สนใจความสัมพันธ์ในอดีตของพวกเขาจริงๆ
โจวหมิงได้ทำหลายสิ่งหลายอย่างเป็นความลับ เขาเป็นคนที่ต้องการไต่ขึ้นด้านบนเท่านั้น
เว่ยเกอกำลังอ่านอยู่ ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงประตูห้องเก็บเอกสาร กำลังถูกเปิด และมีคนเดินเข้ามา
เว่ยเกอเป็นคนละเอียดอ่อนมาก เมื่อเขาได้ยินการเดิน เขารู้สึกว่าคนๆ นั้นค่อนข้างแตกต่างจากคนที่มาที่ห้องจัดเก็บเอกสารบ่อยๆ เขารีบเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าเป็นใคร เขาลุกขึ้นยืนคำนับทันที “ท่านผู้อำนวยการ ท่านมาที่นี่ทำไมเหรอครับ? หากท่านต้องการเอกสารอันไหน เพียงแค่แจ้งผม เดี๋ยวผมเอามันไปส่งให้ครับ”
เซินหยูฉียิ้ม “ไม่จำเป็นต้องประหม่า ให้ฉันดูแฟ้มฑูตแห่งความมืด โอ้ มันเปิดอยู่แล้ว นายก็สนใจเหมือนกัน ไม่เลว”
ขณะที่เขาพูด เซินหยูฉีหยิบแฟ้มบนโต๊ะและยืนอยู่ที่นั่นเพื่อเปิดดู
“ผมบังเอิญเห็นว่าข้อมูลของฑูตแห่ความอาจต้องใซ้ ดังนั้นผมจึงหยิบมันออกมาดูและจัดระเบียบมัน” เว่ยเกอกล่าว
เซินหยูฉีพยักหน้าเล็กน้อยและไม่พูดอะไร หลังจากอ่านไปสองสามหน้าแล้ว เินหยูฉีก็ถามอย่างเป็นกันเอง “นายเป็นนักเรียนซั้นนำของวิทยาลัยีหยาง นายน่าจะรู้จักโจวเหวินใซ่ไหม”
เว่ยเกอตอบทันที “ครับ โจวเหวินเป็นรุ่นน้องของผม เมื่อเขาเข้ามาในโรงเรียน ผมเป็นประธานสภานักเรียนอยู่แล้ว”
“นายรู้จักเขามากหรือเปล่า” เซินหยูฉีดูข้อมูลและถามต่อโดยไม่เงยหน้าขึ้น
“ผมรู้จักกับเขานิดหน่อย เดิมทีผมต้องการดึงเขาเข้าร่วมสภานักเรียน แต่เขาไม่สนใจ” เว่ยเกอกล่าว