I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง - ตอนที่ 1069 : ความเป็นไปได้ของสัตว์อสูรที่แข็งแกร่ง
- Home
- I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง
- ตอนที่ 1069 : ความเป็นไปได้ของสัตว์อสูรที่แข็งแกร่ง
เมื่อโจวเหวินกลับมา เขาไม่ได้มุ่งหน้าไปที่วิหารเทพธิดาแห่งดวงจันทร์ แต่เขาวนรอบๆ และเข้าไปใกล้พระราชวังดวงจันทร์
เนื่องจากโจวเหวินไม่รู้ว่าคำพูดของเทพธิดาแห่งดวงจันทร์เป็นความจริงขนาดไหน เขาจึงต้องการมุ่งหน้าไปยังพระราชวังดวงจันทร์เพื่อดู
ด้วยยาอมตะอยู่ในมือ และเมื่อล่อลวงกระต่ายหยกมา พร้อมกับราชันย์แห่งมังกรทะเลทั้งเจ็ดและธิดาปีศาจ เขาก็ส่งผลต่อการต่อสู้ได้อย่างมาก คงไม่สายเกินไปที่จะตัดสินใจหลังจากที่ได้รู้ว่าฝ่านไหนจะเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ
ในขณะนี้ แทบไม่มีหมอกหนาวในพระราชวังดวงจันทร์ มีเปลวเพลิงลุกไหม้อยู่ทุกหนทุกแห่ง และอาคารหยกหลายแห่งก็ลุกเป็นไฟ
ท่ามกลางเปลวเพลิง มีเพียงวังหยกที่มีหมอกเย็นเล็กน้อยพลุ่งพล่าน
สำหรับต้นออสมันตัสขนาดใหญ่ ใต้เศษพากจากการสู้ กลีบจำนวนมากร่วงหล่นและกระจายไปทั่วทุกแห่ง
ฉันรวยแล้ว มีกลีบดอกไม้มากมาย และแต่ละกลีบก็เทียบเท่ากับสัตว์อสูรระดับมหากาพย์… โจวเหวินเห็นว่ากลีบดอกไม้มีมากมาย เขาไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานขนาดไหนในการหยิบมันขึ้นมาทีละอัน ดังนั้นเขาจึงเรียกกองทัพตัวโน้ตและปล่อยให้พวกมันหลอมรวมกับกลีบดอกไม้
เขาพบว่าสัตว์อสูรที่อยู่ต่ำกว่าระดับเร้นลับยากที่จะรักษาความแข็งแกร่งของการต่อสู้ในอวกาศ อย่างไรก็ตาม สัตว์อสูรสามารถอยู่รอดได้ในอวกาศ
แม้ว่า ตัวโน้ตจะมีความแข็งแกร่งในการต่อสู้ในอวกาศแทบเป็นศูนย์ แต่การเอาชีวิตรอดก็ไม่ใช่ปัญหา
ตัวโน้ตนับพันกระโจนใส่กลีบดอกไม้ที่ร่วงลงมา ตัวโน้ตทุกตัวดูดพับกลีบดอกไม้ทันทีเมื่อสัมผัส ทำให้พวกมันเข้าสู่การวิวัฒนาการ
ฉากที่สัตว์อสูรหลายหมื่นตัววิวัฒนาการพร้อมกันนั้นงดงามมาก
โจวเหวินมีตัวโน้ตเกือบ 100,000 ตัว และกลีบดอกไม้ที่ร่วงหล่นที่นี้มีมากกว่า 100,000 กลีบ
เขาเรียกสัตว์อสูรระดับตำนานและสัตว์อสูรอื่นๆ ที่เขามักจะรวบรวมมาและให้พวกมันดูดพับกลีบดอกไม้
สัตว์อสูรที่อยู่ในระดับตำนานได้รับการเลื่อนระดับโดยตรง แต่สัตว์อสูรที่อยู่ในด่านระดับมหากาพย์นั้นมีเพียงสถานะที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น เมื่อพวกเขาใช้กลีบดอกไม้กลีบที่สอง เอฟเฟกต์จะอ่อนลงมาก
โจวเหวินเรียกราชมาร หวังว่ามันจะดูดพับกลีบดอกไม้และเลื่อนระดับอย่างรวดเร็ว มันไม่แม้แต่จะมองไปที่กลีบดอกไม้ด้วยพ้ำ เขาไม่ได้ตั้งใจจะดูดพับพวกมัย
เจ้านี้จุกจิกเกินไปไหม? โจวเหวินค่อนข้างพูดไม่ออก
นับตั้งแต่ราชมารถูกฟัก มันเอาพลังงานจากไข่สัตว์อสูรเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้น พวกมันต้องอยู่ในระดับเดียวกัน มันไม่มีอะไรอีก
ยังมีกลีบดอกไม้ที่ร่วงหล่นจากต้นไม้อยู่อีกมาก แต่พวกมันทั้งหมดอยู่ใกล้สนามต่อสู้มากเกินไป โจวเหวินกลัวว่าจะถูกลากเข้าไปเกี่ยวข้อง ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าเข้าใกล้
ขณะที่เขาลังเลว่าจะหยิบกลีบดอกไม้นั้นดีไหม เขาก็ได้ยินเสียงปังดังลั่น วังหยกที่ปล่อยหมอกเย็นยะเยือกได้ถูกระเบิดและถูกทำลายลงทันที
หมอกเย็นหายไปหมด ในเวลาเดียวกัน ร่างสองร่างก็ปรากขึ้นจากลำแสงน้ำแข็ง เห็นได้ชัดว่าพวกมันไม่สามารถรักษาร่างความกลัวไว้ได้
โจวเหวินมองเห็นสาวหิมะในสภาพที่น่าสงสารในพากปรักหักพังของวัง คางคกสีทองเข้มขนาดให่ร่วงลงมาใส่เธอ
ในขณะนั้น ร่างของคางคกสีทองเข้มก็ปล่อยออร่าที่เย็นจัด ร่างกายของมันถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง แต่บางจุดก็ไหม้เกรียมด้วยเปลวไฟแล้ว ไม่มีการป้องกันจากน้ำแข็ง
มันคือสาวหิมะและคางคก ทำไมฉันไม่เห็นฉางเอ๋อ? โจวเหวินมองไปรอบๆ แต่ไม่เห็นฉางเอ๋อในตำนาน
ขณะที่เขารู้สึกงุนงง เขาเห็นเว่ยเกอเดินออกจากกองไฟทีละก้าว เขาไม่ได้ถืออะไรไว้ในมือ แต่เปลวไฟรวมตัวกันเป็นขวานต่อสู้ที่ห้อยลงกับพื้น
“ฉางเอ๋อ เจ้าหยุดข้าไม่ได้ ยอมแพ้พะ” เว่ยเกอพูดขณะเดินไปทางคางคกสีทองเข้ม
เขาคุยกับใคร? ไหนฉางเอ๋อ? มีเพียงคางคกตัวนั้นอยู่ที่นั่น… โจวเหวินเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อสายตาขณะจ้องมองคางคกสีทองเข้ม
เขาไม่อยากเชื่อการคาดเดาของเขา เทพธิดาแสนสวย ฉางเอ๋อ แท้จริงแล้วเป็นคางคก มันไม่ตลกเกินไปเหรอ?
อย่างไรก็ตาม คางคกใช้น้ำแข็งอีกครั้งและยืนอยู่ตรงหน้าเว่ยเกอ ดูเหมือนว่าต้องการจะต่อสู้ต่อไป แต่ก็ไม่สามารถใช้ร่างความกลัวได้ พลังต่อสู้ของมันลดลงอย่างมาก ต่อให้ต่อสู้ต่อไป มีเพียงความตายเท่านั้นที่รอมัน
สาวหิมะได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างเห็นได้ชัด เธอไม่สามารถใช้ร่างความกลัวได้ แต่เธอก็ไม่ได้ดื้อรั้นเหมือนคางคก
ขณะที่เว่ยเกอเดินไปหาคางคก เขาก็พูด “ฉางเอ๋อ จะมารังควานทำไม? ให้ข้าโค่นต้นไม้อมตะ แม้ว่าเจ้าจะสูญเสียความสามารถในการมีชีวิตอยู่ตลอดไป แต่เจ้าสามารถฟื้นรูปลักษณ์ดั้งเดิมของเจ้าและไม่ต้องเป็นคางคกที่น่าเกลียดอีกต่อไป นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าต้องการเหรอ? หรือเจ้าอยากจะเป็นคางคกน่าเกลียดเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ตลอดไป?”
เมื่อโจวเหวินได้ยินสิ่งนี้ เขามั่นใจว่าคางคกเป็นฉางเอ๋อในตำนาน
ฉางเอ๋อเป็นคางคกจริงๆ ฉันสงสัยว่าคนที่เพ้อฝันเกี่ยวกับฉางเอ๋อจะมีปิกิริยายังไง เมื่อได้เห็นรูปร่างหน้าตาที่แท้จริงของเธอ? โจวเหวินแอบดีใจที่เขาไม่ได้กินยาอมตะทันทีหลังจากได้รับมัน
ดังนั้น ยาอมตะที่สร้างขึ้นโดยใช้ต้นไม้แห่งความเป็นอมตะ มีผลข้างเคียงเชิงลบแบบนี้
โจวเหวินไม่อยากก้าวเข้าสู่ระดับเร้นลับมากกว่าที่จะเป็นคางคก
“ต่อให้ข้าน่าเกลียดและถูกโลกดูถูก ข้าก็จะรอเขาที่นี่” ในที่สุดคางคกก็พูดขึ้น อันที่จริงมันเป็นเสียงของผู้หิง
“เขาเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดา แม้ว่าเขาจะมีพลังพิเศษ เขาก็เป็นเพียงฝุ่นผงในแม่น้ำแห่งกาลเวลา ฝุ่นที่สลายหายไปที่ไหนก็ไม่รู้ การรอคอยนั้นไร้ผล” เว่ยเกอกล่าว
“ไม่ เขาจะมา เขาจะ…” ฉางเอ๋อตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
“ถ้าเจ้ารู้ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น ทำไมเจ้ายังทำตั้งแต่แรก? เดิมทีข้าอยากจะไว้ชีวิตเจ้าเพราะสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันของข้า ในเมื่อเจ้าปรารถนาความตาย ข้าทำได้เพียงเติมเต็มความปรารถนาของเจ้า” เว่ยเกอกล่าวขณะที่เขาค่อยๆ ยกขวานเพลิงในมือขึ้นหวังว่าจะฆ่าคางคก
โจวเหวินลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหยิบน้ำยาอมตะออกมา เขาเรียกกระต่ายหยกออกมาและมุ่งหน้าไปยังฉางเอ๋อ
“ฉางเอ๋อ ขอถามหน่อย ถ้าต้นไม้อมตะถูกโค่นลง ดวงจันทร์จะถูกทำลายจริงเหรอ?” โจวเหวินถามคางคกสีทองเข้ม
“ไม่” เดิมทีฉางเอ๋อไม่ต้องการตอบเมื่อเธอเห็นว่ามันเป็นเด็ก แต่เมื่อเธอเห็นกระต่ายหยกข้างๆโจวเหวิน เธอก็ตื่นตระหนกเล็กน้อยและตอบคำถามของเขา
เทพธิดาแห่งดวงจันทร์โกหกฉันจริงๆเหรอ? โจวเหวินขมวดคิ้วภายในใจ
ด้วยความประหลาดใจของเขา ฉางเอ๋อกล่าวต่อ “อย่างไรก็ตาม ต้นไม้อมตะนั้นเชื่อมโยงกับสัตว์อสูรของดวงจันทร์ การทำลายต้นไม้อมตะหมายความว่าเมื่อสัตว์อสูรในดวงจันทร์ตื่นขึ้น ดวงจันทร์พึ่งเป็นเปลือกของไข่สัตว์อสูรจะแตกออก
“อะไรนะ… เธอกำลังบอกฉันว่าดวงจันทร์เป็นไข่สัตว์อสูร…” โจวเหวินมองที่ฉางเอ๋ออย่างไม่อยากจะเชื่อ เขาแทบไม่อยากเชื่อหูของเขา
เขาไม่ได้ตกใจกับความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรในดวงจันทร์ แต่ข่าวนี้ทำให้เขานึกถึงอย่างอื่น
ถ้าดวงจันทร์เป็นไข่สัตว์อสูรแล้วโลกล่ะ? ถ้าโลกเป็นไข่สัตว์อสูรด้วย สัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สิ่งมีชีวิตต่างมิติกำลังมองหาจะอยู่ภายในโลกงั้นเหรอ?
หากสัตว์อสูรฟักออกมา โจวเหวินก็นึกไม่ออกว่าโลกจะเป็นยังไง