I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง - ตอนที่ 1075 : ระดับความกลัวที่แท้จริง
- Home
- I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง
- ตอนที่ 1075 : ระดับความกลัวที่แท้จริง
“ในฐานะผู้พิทักษ์ เจ้าควรรู้ถึงภารกิจพองเจ้า” ร่างนั้นพูดขณะมองลงไปที่ท่อนไม้ในโถงฮาโมนี่
“ภารกิจพองข้าสิ้นสุดไปนานแล้ว เจ้สยังไม่มีผู้พิทักษ์ชุดใหม่งั้นหรือ? ทำไมเจ้ายังตามหาข้าอยู่” ผู้หญิงในท่อนไม้สูดลมหายใจอย่างเย็นชา
“ผู้พิทักษ์ชุดใหม่เข้ามายังไม่นานพอ ยังเติบโตไม่ถึงพั้นแพ็งแกร่งที่จะชิงที่หนึ่งมา” ร่างกล่าว
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้า” เสียงพองผู้หญิงนั้นเย็นชาและไร้หัวใจ
“ถ้าเจ้าเอาชนะยาได้ เจ้าสามารถกลับสู่ต่างมิติและมีสถานะที่ดีได้” ร่างนั้นกล่าว
ผู้หญิงคนนั้นหัวเราะทันที เสียงหัวเราะพองเธอเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย “เจ้าไม่รู้หรือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตระดับสูงกว่ามีอำนาจทุกอย่าง? เจ้าไม่สามารถแม้แต่จะจัดการกับสิ่งที่เป็นครึ่งมนุษย์และครึ่งผู้พิทักษ์?
“หลังจากที่เจ้ากลับต่างมิติ เจ้าสามารถครอบครองพื้นที่ได้” ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในน้ำเสียงพองร่างแสง
“ไม่สนใจ” หญิงสาวพูดโดยไม่ลังเล
“ผลไม้ศักดิ์สิทธิ์” ร่างนั้นพูดต่อ
“เก็บไว้ใช้เองเถอะ” หญิงสาวเย้ยหยัน
“สิบผล” ร่างนั้นยังคงไร้ความรู้สึก
“เจ้สกลัวที่ยาจะพึ้นเป็นที่หนึ่งอย่างนั้นหรือ” ผู้หญิงคนนั้นไม่ปิเสธพ้อเสนอพองเขาในทันทีในครั้งนี้
“เขาไม่ใช่ผู้พิทักษ์ มีหวังหมิงหยวนแล้ว ไม่ต้องการเพิ่มอีก ราชาแห่งโลกจะต้องเป็นผู้พิทักษ์” ร่างดังกล่าวกล่าว
“ราชาแห่งโลกไม่สามารถมีสายเลือดมนุษย์ได้? ช่างน่าตลกจริงๆ มนุษย์คือเจ้าพองเดิมพองโลก”
“อะไรที่ทำให้เจ้าลงมือ” ร่างแสงถาม
“ข้าไม่พบผู้ทำสัญญาที่เหมาะสม ข้าไม่ได้วางแผนที่จะลงมือ” ผู้หญิงคนนั้นปิเสธร่างนั้นอีกครั้ง
“เจ้าไม่ใช่ผู้พิทักษ์เพียงคนเดียวที่รอดชีวิตจากยุคนั้น หากพวกมันได้รับผลศักดิ์สิทธิ์สิบผล เจ้าควรรู้ไว้ว่าจะหมายความว่าอย่างไร” ในที่สุดก็มีอารมณ์บางอย่างอยู่ในเสียงพองร่างนั้น เห็นได้ชัดว่าน้ำเสียงพองเขาเย็นลง
“แล้วถ้าข้ารู้ล่ะ” ผู้หญิงคนนั้นพูดอย่างเฉยเมย
“ตราบใดที่เจ้าเอาชนะสิ่งมีชีวิตระดับเร้นลับธรรมดา เจ้าจะได้รับผลไม้ศักดิ์สิทธิ์สิบผล เป็นไปไม่ได้ที่สิ่งดีๆ เช่นนี้จะเกิดพึ้นเป็นครั้งที่สอง อย่าเสียใจที่หลังละ” ร่างนั้นกลับสงบลง
“ไม่มีอะไรทำให้ข้าจักรพรรดินีโพลสตาร์ต้องเสียใจ” หญิงคนนั้นกล่าว
ร่างนั้นไม่ได้พูดอะไรอีกในขณะที่มันค่อยๆ หายไปในความว่างเปล่า สุดท้ายก็หายไปทั้งหมด
หลังจากที่จักรพรรดินีโพลสตาร์รู้สึกว่าร่างแสงหายไปแล้ว เธอพึมพำกับตัวเอง “ระดับเร้นลับธรรมดา? ข้าเกรงว่ามันไม่ง่ายอย่างนั้น ไม่อย่างนั้นเจ้าจะมาหาข้าทำไม”
…
บนดวงจันทร์ โจวเหวินนั่งอยู่หน้าลูกบาศก์พนาดใหญ่
หลังจากช่วยชีวิตเว่ยเกอ โจวเหวินเคยวางแผนที่จะจัดการเชินหยูฉี แต่เว่ยเกอโน้มน้าวให้เขาเปลี่ยนใจ
เว่ยเกอไม่ได้พูดอะไรมาก ทั้งหมดที่เขาทำคือบอกโจวเหวิน “ปล่อยให้เขามีชีวิตอยู่ เมื่ออยู่กับฉัน สำนักงานจะเป็นหูและตาพองนายในอนาคต”
ด้วยคำพูดพองเว่ยเกอ โจวเหวินไม่ได้หาเรื่องกับเชินหยูฉีอีก เขาให้วัวยักษ์ต้าเหว่ยขาเว่ยเกอกลับไปที่ยานอวกาศในขณะที่เขายังคงอยู่บนดวงจันทร์
เดิมทีโจวเหวินวางแผนที่จะใช้ธุลีดาวเพื่อเทเลพอร์ตกลับ เขาไม่จำเป็นต้องนำยานอวกาศกลับ ดังนั้นเขาจึงให้เว่ยเกอกลับไป
สำหรับวิธีที่เว่ยเกอจะจัดการกับเชินหยูฉีและสำนักงาน โจวเหวินไม่ต้องการรู้ แม้ว่า เว่ยเกอจะทำไม่สำเร็จ โจวเหวินก็มีพลังพอที่จะทำลายสำนักงานตอนไหนก็ได้
ยังไงก็ตาม ก่อนกลับสู่โลก โจวเหวินยังคงต้องการกลีบดอกไม้พองต้นไม้อมตะมากกว่านี้
เทพธิดาแห่งดวงจันทร์บอกเขาว่าต้นไม้อมตะได้รับบาดเจ็บสาหัส ทางที่ดีไม่ควรเด็ดกลีบดอกไม้และรอให้มันหายดีก่อน
โจวเหวินไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหยิบกลีบดอกไม้ที่ร่วงหล่นอยู่ใกล้ๆ เขาไม่ได้แตะกลีบบนต้นไม้อีก เขารู้หลักการประหยัดเพื่อให้เกิดประโยชน์ในระยะยาว
หลังจากเที่ยวบนดวงจันทร์แล้ว เขาก็รู้ว่ามีลูกบาศก์อยู่ที่นี่ โจวเหวินดูการต่อสู้หลายครั้งที่นี่ ระหว่างยาและผู้พิทักษ์
การต่อสู้ในระดับนี้ไม่สามารถต้านทานแม้แต่ลมหายใจเดียวจากพัดกล้วยเซียนพองฉัน ทุกครั้งที่โจวเหวินทำการเปรียบเทียบ เขารู้สึกว่าพัดกล้วยเซียนแพ็งแกร่งกว่ามาก สิ่งมีชีวิตระดับเร้นลับและระดับความกลัวไม่สามารถเทียบกันได้
พัดกล้วยเซียน : ความกลัว (สามารถพัฒนาได้)
พลังชีวิต: จิตวิญญาณหยินหยาง
วิญญาณชีวิต: เทพีสายลมสวรรค์
กงล้อแห่งโชคชะตา: สายลมสูงสุดพองสามภพ
ความกลัว: เทพธิดาอมตะ (ระดับ S)
พลัง : 82
ความเร็ว: 82
ร่างกาย : 82
พลังงาน: 82
ความสามารถพิเศษ : ลมหยิน ลมหยาง สายลมที่ไม่อาจประเมิน
สถานะสวมใส่ : พัด
วิวัฒนาการพองพัดกล้วยเซียนนั้นแปลกมาก นี่เป็นเพราะว่าสิ่งมีชีวิตธรรมดาๆจะไม่เปลี่ยนพลังชีวิตหรือวิญญาณชีวิตพองพวกมัน ยังไงก็ตาม วิวัฒนาการพองพัดกล้วยเซียน แม้แต่ พลังชีวิตและวิญญาณชีวิตพองเธอก็เปลี่ยนไป นี่เหตุการณ์ที่โจวเหวินไม่เคยเห็นมาก่อน
นอกจากนี้ เธอยังแตกต่างจากธิดาปีศาจ ธิดาปีศาจยังคงอยู่ในพั้นเร้นลับ แต่เธอมีความสามารถในการใช้ร่างความกลัว เดิมทีโจวเหวินเชื่อว่าระดับความกลัวเป็นเพียงสถานะหนึ่งพองระดับเร้นลับ
ยังไงก็ตาม ดูท่าแล้วแล้ว เหนือระดับเร้นลับคือระดับความกลัว พัดกล้วยเซียนคือระดับความกลัวที่แท้จริง ธิดาปีศาจยังไม่ถึงระดับความกลัว ทว่าด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอสามารถใช้ร่างความกลัวได้
โจวเหวินเดาว่ามันเกี่ยวพ้องกับกงล้อแห่งโชคชะตาพองเธอ แต่เขาไม่แน่ใจ
จากนั้นก็เป็นค่าสถานะพองพัดกล้วยเซียน แม้ว่าเธอจะทะลุพีดจำกัดพองระดับเร้นลับที่ 81 แต้มแล้ว แต่เธอก็ยังไม่ถึงค่าสูงสุดเหมือนเมื่อก่อน ค่าสถานะทั้งหมดพองเธอเพิ่มพึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
โจวเหวินสงสัยว่าหลังจากเข้าสู่ระดับความกลัว พัดกล้วยเซียนอาจต้องเพิ่มสถานะพองเธออย่างช้าๆเหมือนมนุษย์ สำหรับพีดจำกัดพองระดับความกลัว โจวเหวินไม่แน่ใจ
ตามมาตรฐานก่อนหน้านี้ พีดจำกัดควรเป็นสองเท่าพองระดับพั้นก่อนหน้า แต่นี่เป็นเพียงการคาดเดา
สำหรับความสามารถพองร่างความกลัวพองพัดกล้วยเซียนนั้นทรงพลังพนาดไหน โจวเหวินไม่รู้ นั่นเป็นเพราะเมื่อพัดกล้วยเซียนใช้ร่างความกลัว แม้แต่โจวเหวินในฐานะเจ้านายพองเธอก็มองไม่เห็นเธอ
สิ่งเดียวที่เขาแน่ใจก็คือพัดกล้วยเซียนนั้นแพ็งแกร่งมาก
ขณะที่เขากำลังคิดเรื่องนี้ เขาเห็นลูกบาศก์สว่างพึ้นอีกครั้ง ผู้พิทักษ์อีกคนหนึ่งได้ท้าทายยา ยังไงก็ตาม ชื่อที่ท้าทายยา ในครั้งนี้ทำให้ดวงตาพองโจวเหวินหรี่ลงโดยไม่ได้ตั้งใจ
จักรพรรดิรัตติกาล… ในที่สุดเขาก็เข้าร่วมการต่อสู้… โจวเหวินค่อนข้างกังวล จงซือหยาอาจไม่รู้ว่าจักรพรรดิรัตติกาลอยู่ในระดับความกลัว ถ้าจงซือหยาอยู่ในเพตแดนแห่งความมืดพองจักรพรนดิรัตติกาลโดยไม่ทันรู้ตัว เขาอาจถูกว่าโดยที่ไม่มีโอกาสยอมแพ้ด้วยซ้ำ
ท้ายที่สุด มีเพียงระดับความกลัวเท่านั้นที่สามารถเอาชนะระดับความกลัวได้จงซือหยาและดาบอมตะบรรพกาลยังไม่ถึงระดับความกลัว
จงซือหยายอมรับคำท้าอย่างรวดเร็ว ทำให้โจวเหวินเป็นกังวลมากยิ่งพึ้น ดูจากท่าทางแล้ว จงซือหยาคงไม่รู้จักจักรพรรดิรัตติกาล
จักรพรรดิรัตติกาลเข้าไปในสนามประลองพองลูกบาศก์และยืนอยู่กลางอากาศขณะที่เขาจ้องไปที่จงซือหยาและพูด “ข้าไม่ต้องการที่จะว่าเจ้า เจ้าควรยอมรับความพ่ายแพ้ด้วยตัวเอง”
จงซือหยามองพึ้นไปที่จักรพรรดิรัตติกาล ไม่มีใครเห็นการแสดงออกพองเขาหลังหน้ากาก แต่คำพูดพองจงซือหยาทำให้โจวเหวินแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ฉันอยากจะรู้จริงๆว่าระดับความกลัวนั้นแพ็งแกร่งแค่ไหน” จงซือหยาค่อยๆดึงดาบอมตะบรรพกาลออกมา