I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง - ตอนที่ 1094 : ร่างจริงมาเยือน
- Home
- I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง
- ตอนที่ 1094 : ร่างจริงมาเยือน
คนที่ส่งเสียงร้องให้มนุษย์โจมตีก็เงียบไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาดูการต่อสู้ด้วยความงุนงงขณะที่การแสดงออกของพวกเขาค่อยๆเปลี่ยนไป
ด้วยความช่วยเหลือของสัตว์อสูรระดับเร้นลับทั้งสอง มังกรและค้อนสงคราม และรวมกับความแข็งแกร่งของผู้พิทักษ์ ในตอนแรกทุกคนเชื่อว่านี่จะเป็นการต่อสู้ที่ขาดลอย
และแน่นอนมันควรขาดลอย ยังไงไรก็ตาม มันแตกต่างจากที่พวกเขาคิดไว้ ฝ่ายที่ถูกกดดันและบาดเจ็บคือเทพสงครามเปลวเพลิง
เมื่อมองไปที่พยัคฆ์เกราะวิญญาณที่พุ่งไปทั่วสนามประลองราวกับเทพอสูร เครื่องหมายคำถามก็ผุดขึ้นในจิตใจของผู้คนมากมาย
“สัตว์อสูรอะไรวะเนี่ย? แข็งแกร่งเป็นบ้า!”
“ทำไมันถึงไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งแบบนี้มาก่อน”
“เขากระอักเลือดอีกครั้ง เกราะของเทพสงครามเปลวเพลิงกำลังจะแตก ยิ่งกว่านั้น เขาถูกโจมตีถึงขนาดนี้ แม้จะได้รับความช่วยเหลือจากสัตว์อสูรระดับเร้นลับสองตัว สัตว์อสูรตัวนี้ทรงพลังจริงๆ”
“นี่ไม่ถูกต้อง ไม่ใช่ว่าสัตว์อสูรไม่สามารถชนะผู้พิทักษ์ได้ไม่ใช่เหรอ? ทำไมเขาถึงถูกกระทืบ”
“เทพสงครามเปลวเพลิงคงยังไม่ได้ใช้เทคนิคขั้นสูงใช่ไหม?”
“แล้วการการโจมตีครั้งสุดท้ายคืออะไรละ? รถม้าเพลิงทองคงเป็นการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา”
หอกในมือของพยัคฆ์เกราะวิญญาณโจมตี ขณะที่มันแทงไปที่หข้าที่หน้าอกของเทพสงครามเปลวพลิง และทำให้เกราะอกของเขาแตก เขาเป็นเหมือนกระสอบทราย ด้วยชิ้นส่วนเกราะที่แตกละเอียด เทพสงครามเปลวเพลิงได้กระเด็นไปไกลและล้มลง
พยัคฆ์เกราะวิญญาณไม่หยุด เปลวไฟปีศาจพ่นออกมาจากร่างกายของมันเมื่อมันมาถึงด้านหน้าของเทพสงครามเปลวเพลิงราวกับปีศาจ
ไม่มีโอกาสที่เทพสงครามเปลวเพลิงจะชนะ พยัคฆ์เกราะวิญญาณดูดซับเปลวเพลิงมากเกินไปในช่วงเริ่มต้นของการต่อสู้ ยิ่งมันต่อสู้มากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น ตอนนี้มันง่ายมากที่จะเอาชนะเทพสงครามเปลวเพลิง
เทพสงครามเปลวเพลิงเห็นว่าสถานการณ์กำลังแย่ลงและต้องการยอมรับความพ่ายแพ้เพื่อจะออกจากสนามประลอง
น่าเสียดายที่เขาช้าไปหนึ่งก้าว โจวเหวินมาอยู่ข้างหลังเขาไม่ไกลนักในช่วงเวลาหนึ่ง เขาถืออะไรบางอย่างที่ดูเหมือนระเบิดแล้วขว้างไปที่เทพสงครามเปลวเพลิงก่อนที่จะถอยออกไปอย่างรวดเร็ว
ตูม! ตูม!
พลังงานที่เกิดจากการระเบิดของลูกอ๊อดโบราณทำให้ชุดเกราะเทพสงครามเปลวเพลิงที่แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย นอกจากนี้ การระเบิดยังต่อเนื่อง
หลังจากที่ลูกอ๊อดโบราณขนาดใหญ่ระเบิด มันก็แยกออกเป็นระเบิดขนาดเล็กและระเบิดต่อไป การระเบิดอย่างต่อเนื่องทำให้เทพสงครามเปลวเพลิงแตกเป็นเสี่ยงๆ แทบจะในทันที มันตายจนไม่สามารถตายได้อีก
“มันตายอย่างนั้นเหรอ” บางคนไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้พิทักษ์ถูกโจมตีจนตาย
“ถ้าอย่างนั้นผู้พิทักษ์ก็ไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่คิด ด้วยสัตว์อสูรที่ทรงพลัง เรายังสามารถฆ่าพวกมันได้”
“แต่นั่นต้องการสัตว์อสูรที่จะแข็งแกร่งเพียงพอ สัตว์อสูรของคนคนนั้นแข็งแกร่งมาก”
“สัตว์อสูรระเบิดที่สังหารเทพสงครามเปลวเพลิงดูเหมือนลูกอ๊อดโบราณจากการแสดงสัตว์อสูรครั้งก่อน”
“พอนายพูดถึงมันก็ดูเหมือนอย่างนั้น!”
“คนคนนี้อาจเป็นเจ้าของสัตว์อสูรพวกนั้นรึเปล่า”
“พระเจ้า มันเป็นไปได้จริงๆ!”
ไม่นาน ข่าวนี้แพร่กระจายไป สื่อรายใหญ่ทั้งหมดเริ่มรายงานเรื่องนี้ ท้ายที่สุดแล้ว ผู้คนต่างก็ประทับใจกับการแสดงสัตว์อสูร ก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ได้หยุดการท้าทายของผู้พิทักษ์ตัวอื่นๆ แม้ว่าจะมีผู้พิทักษ์จำนวนน้อยที่ท้า แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ระดับเร้นลับ
จากมุมมองของพวกมัน แม้ว่าสัตว์อสูรของโจวเหวินจะทรงพลัง แต่ก็ไม่ใช่จะชนะมันไม่ได้
โจวเหวินมีสัตว์อสูรระดับเร้นลับ แต่พวกเขาก็มีเช่นกัน ตราบใดที่พวกเขาใช้มันดีๆ มันก็ไม่ยากที่จะจัดการพยัคฆ์เกราะวิญญาณ
นอกจากนี้ หลายคนสามารถบอกถึงจุดอ่อนของพยัคฆ์เกราะวิญญาณ พวกเขารู้ว่าพยัคฆ์เกราะวิญญาณสามารถดูดซับพลังธาตุไฟ และมีประสิทธิภาพอย่างมากในการต่อสู้กับเทพสงครามเปลวเพลิง นี่คือสาเหตุที่เทพสงครามเปลวเพลิงแพ้
โจวเหวินมองดูรายชื่อคำท้าและเห็นทูตแห่งความมืดที่ถูกปีศาจสังหารทำให้กลัวนั้นอยู่ในรายชื่อคำท้า มันเป็นผู้พิทักษ์ที่โจวหมิงได้ทำสัญญาไว้
คนคนนี้กล้าท้าทายันจริงเหรอ? เขาบ้าไปแล้ว? โจวเหวินรู้จักโจวหมิงเป็นอย่างดี
เขาไม่ได้หาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโจวหมิง อย่างไรก็ตาม ด้วยชื่อของปีศาจสังหาร สื่อหลายสำนักรายงานเกี่ยวกับโจวหมิง
ปีศาจสังหารชอบอ่านข่าวให้เขาฟัง นี่คือเหตุผลที่โจวเหวินพอรู้
โจวเหวินรู้สึกว่ามีเพียงความเป็นไปได้เดียวที่คนที่เห็นแก่ตัวและขี้ขลาดแบบนี้จะเสี่ยงท้าทายเขา บางอย่างได้มอบความกล้าให้แก่เขา
แล้วจะเป็นอะไรละ? เป็นไปได้ไหมว่าสิ่งมีชีวิตระดับความกลัวของต่างมิติจะมาสิงเขาเหมือนกับจิ่วเย่ว? โจวเหวินรู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้
ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตต่างมิติระดับภัยพิบัติจะไร้ยางอายขนาดไหน มันก็จะไม่เลือกร่างของมนุษย์ระดับต่ำเพื่อสิงร่าง แม้ว่าอยากจะเลือก ก็จะเลือกพวกที่แข็งแกร่งแบบจิ่วเย่วหรือยุคถ้ำ ใช่ไหม?
โจวเหวินคิดอยู่ครู่หนึ่งและเลือกฑูตแห่งความมืดเป็นคู่ต่อสู้คนต่อไปของเขา
ในไม่ช้า โจวหมิงที่สวมชุดเกราะฑูตแห่งความมืดก็ปรากตัวในสนามประลอง ทันทีที่เขาปรากตัว เขาก็เริ่มควบแน่นประตูแห่งความมืด
โดยไม่คาดคิด โจวหมิงควบแน่นประตูแห่งความมืดอย่างรวดเร็ว
โจวเหวินเห็นปัญหาทันที โจวหมิงถือคริสตัลสีดำอยู่ในมือ พลังส่วนใหญ่ที่ควบแน่นประตูแห่งความมืดมาจากคริสตัลสีดำ
โจวเหวินไม่ใช่คนบ้าเหมือนยา และเขาก็ไม่สนใจที่จะรู้ว่าคริสตัลสีดำคืออะไร หรือประตูแห่งความมืดแตกต่างจากปกติยังไง
ดังนั้นเขาจึงเรียกดาบราตรีทันที ดาบที่มีลักษณะคล้ายควันพุ่งขึ้นไปในอากาศและแทงไปที่โจวหมิง เขาต้องการฆ่าเขาพร้อมกับทูตแห่งความมืดก่อนที่โจวหมิงจะควบแน่นประตูแห่งความมืด
แม้ว่าดาบราตรีจะไม่ได้ไร้เทียมทาน แต่โจวหมิงกำลังควบแน่นประตูแห่งความมืด เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ เมื่อเขาขยับ ประตูแห่งความมืดจะถูกขัดจังหวะ ความพยายามก่อนหน้านี้ทั้งหมดของเขาจะไร้ประโยชน์
โจวหมิงดูดาบราตรีพุ่งมา เขาไม่มีความคิดที่จะหลบ ขณะที่ดาบราตรีแทงเข้าไป ชุดเกราะฑูตแห่งความมืดก็เปล่งแสงสีทองส่องออกมาจากหน้าอกของเขา
มันเป็นอักษรสีทองที่เปลี่ยนเป็นบาเรียสีทองที่ปกป้องโจวหมิง
ดาบราตรีพุ่งไปและกระแทกบาเรียสีทองครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่สามารถผ่าทะลุผ่านมันไปได้
โจวเหวินมองไปที่บาเรียสีทองและรู้สึกถึงพลังของมัน ไม่ว่าเขาจะโง่แค่ไหน เขาก็เข้าใจดีว่าจะเป็นอักษรสีทองหรือคริสตัลสีดำ มันเป็นของต่างมิติอย่างแน่นอน
คนที่ลาดสามารถเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกมันกลัวมนุษย์มาก กลัวว่าจะซ้ำรอยเดิมเหมือนกับยา
โจวเหวินจ้องไปที่ประตูแห่งความมืด เขารู้ว่าเทคนิคของพวกต่างมิตินั้นไม่ธรรมดา สิ่งที่น่ากลัวอย่างแท้จริงจะต้องอยู่ภายในประตูแห่งความมืด
เป็นไปได้ไหมที่สิ่งมีชีวิตต่างมิติต้องการใช้ประตูแห่งความมืดเพื่อลงมาเอง? โจวเหวินคิดกับตัวเอง
ประตูแห่งความมืดควบแน่นด้วยความเร็วที่เร็วมาก ใช้เวลาเพียงครู่เดียวเท่านั้นจึงจะเป็นรูปเป็นร่าง ด้วยเสียงตูม ประตูแห่งความมืดก็เปิดออก เสียงคำรามที่เหมือนมาจากส่วนลึกของขุมนรกดังขึ้นภายในประตูแห่งความมืด
สิ่งมีชีวิตต่างมิติกำลังลงมาด้วยตัวเองงั้นเหรอ? โจวเหวินจ้องไปที่ประตูแห่งความมืดอย่างตั้งใจ