I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง - ตอนที่ 1113 : ภูเขาฟางจ่าง
- Home
- I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง
- ตอนที่ 1113 : ภูเขาฟางจ่าง
“ภูเขาฟางจ่าง… นี่อาจเป็นภูเขาฟางจ่างในตำนาน…” ผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่บนหลังเต่าทะเ เลตัวใหญ่ ดวงตาของเธอจ้องมองตรงไปข้างหน้าในขณะที่เสียงของเธอสั่นเทา
ไม่ไกลจากเต่าทะเลคือเกาะที่มีภูเขาอยู่
เกาะและภูเขาดูไม่ใหญ่นัก แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอไม่สามารถมองเห็นยอดภูเขาไ ได้ ภูเขาทะลุผ่านหมู่เมฆที่ไร้สิ้นสุด
เต่าทะเลเข้ามาใกล้เกาะอย่างรวดเร็ว ผู้หญิงคนนั้นกระโดดจากหลังเต่าทะเลและปี นขึ้นไปบนภูเขาอย่างมีความสุข
เธอดูอ่อนเยาว์ อายุราวๆสิบเจ็ดหรือสิบแปดปี เธอดูค่อนข้างบอบบางและสวย เธอปีนขึ้น ไปบนภูเขาด้วยมือและเท้าของเธอ
ภูเขาฟางจ่างเป็นหนึ่งในสามภูเขาอมตะในตำนาน ในอดีต จักรพรรดิฉินองค์แรกได้ส่งผู้ค คนออกทะเลเพื่อค้นหายาอมตะ การค้นหาหลักของพวกเขาคือภูเขาฟางจ่าง
ในบรรดาภูเขาอมตะทั้งสาม กล่าวกันว่าภูเขาเผิงไหลเต็มไปด้วยหญ้าอมตะและสมุนไพรวิ ญญาณ ทำไมจักรพรรดิองค์แรกของฉินจึงไม่ค้นหาภูเขาเผิงไหล แต่ค้นหาภูเขาฟางจ่างที่ไ ไม่มีชื่อเสียงในด้านสมุนไพรอมตะและสมุนไพรวิญญาณนะเหรอ?
นั่นเป็นเพราะว่ากันว่ายอดภูเขาฟางจ่างเป็นที่ซึ่งเทพอาศัยอยู่ นอกจากนี้ คำว่า “ฟางจ จ่าง” ไม่ได้หมายถึงพระ แต่หมายถึง ห้องยา
ดังนั้นสิ่งที่จักรพรรดิฉินองค์แรกต้องการคือยาอมตะที่ทำขึ้นโดยเทพ ไม่ใช่หญ้าอมตะแ และสมุนไพรวิญญาณจากภูเขาเผิงไหล
หากใครกินหญ้าอมตะและสมุนไพรวิญญาณที่ไม่ถูกต้อง พวกเขาจะไม่เป็นอมตะ แต่อาจถึงข ขั้นตาย หากใครต้องการเป็นอมตะจริงๆ พวกเขาต้องกินยาที่ทำขึ้นโดยเทพ
จีโม่ฉิงอายุเพียงสิบเจ็ดปี เธอยังอยู่ในวัยรุ่นและไม่ต้องกังวลเรื่องอายุ
เหตุผลที่เธอมาที่ภูเขาฟางจ่าง ไม่ใช่เพราะเธอต้องการเป็นอมตะ
การปรากฏตัวที่นี่ของจีโม่ฉิงเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดโดยสมบูรณ์ เธอเป็นคนของรัฐ)บา าล แต่ไม่นานมานี้เธอถูกฝ่ายต่างประเทศจับตัวไป อาจถือได้ว่าเป็นการลักพาตัว
โชคดีที่จีโม่ฉิงฉลาดและมีสัตว์อสูรที่สามารถใช้ในทะเลได้ นอกจากนี้ เธอยังดูเด็ก กและอ่อนแอ ผู้คนจึงไม่ระวังเธอ มันทำให้เธอมีโอกาสหลบหนี
จีโม่ฉิงเสียใจที่หนีออกมา เพราะเธอออกทะเลมาเกือบครึ่งเดือนแล้ว แม้ว่าจะไม่ม มีใครหาเธอเจอ แต่เธอไม่รู้ทาง ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะหาผืนแผ่นดิน ดังนั้นในช่วง งครึ่งเดือนนี้จีโม่ฉิงจึงไม่ได้ดื่มน้ำแม้แต่หยดเดียว หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป เธอ อจะต้องตายเพราะความกระหายน้ำอย่างแน่นอน
ที่เธอตื่นเต้นมากที่ได้เห็นภูเขาฟางจ่างไม่ใช่เพราะเธอรู้สึกว่าสามารถหายาอมตะไ ได้ แต่เพราะเธอรู้สึกว่าเธออาจพบแหล่งน้ำและอาหารที่นี่
อย่างไรก็ตาม จีโม่ฉิงรู้สึกผิดหวังอย่างรวดเร็ว สถานที่ซึ่งถูกสงสัยว่าเป็นภูเขาฟางจ่า างในตำนานนั้นว่างเปล่าโดยสิ้นเชิง มันไม่มีแม้แต่หญ้า ยิ่งไม่ต้องพูดถึงน้ำ
จีโม่ฉิงไม่ต้องการที่จะยอมแพ้ เธอต้องการปีนขึ้นไปบนยอดเขาเพื่อค้นหา แม้ว่าจะไม ม่มีแหล่งน้ำ แต่การกินยาอมตะก็พอมีประโยชน์อยู่บ้าง
ทว่าหลังจากที่ปีนขึ้นไปเป็นเวลานาน จนเลือดไหลออกมา เมื่อจีโม่ชิงมองขึ้นไปยอดเขาก ก็ดูเหมือนจะขยายออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดราวกับว่ามันไร้ที่สิ้นสุด
“นี่มันภูเขาบ้าอะไรกัน? ฉันปีนมานานแล้ว ฉันควรจะไปถึงยอดเขาแล้วสิ ทำไมถึงไม่ถึ งยอดเขาสักที” จีโม่ฉิงมึนงง แต่เธอรู้ว่ามันสายเกินไปที่จะเสียใจ
ร่างกายของเธอไม่อนุญาตให้เธอไปที่เกาะอื่นเพื่อหาแหล่งน้ำอีกต่อไป ดังนั้น จีโม ม่ฉิงจึงทำได้เพียงฝากความหวังของเธอไว้กับยอดของภูเขาฟางจ่าง ก่อนที่เธอจะตายจากความ มกระหายน้ำ เธอต้องการดูว่ามีน้ำยาอมตะที่สามารถดับความกระหายน้ำของเธอไหม
แม้ว่าจะไม่มีน้ำยาอมตะ ก็ยังดีที่มีน้ำ จีโม่ฉิงไม่ได้ขออะไรมาก
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่จีโม่ฉิงปีนขึ้นไปเป็นเวลานาน ภูเขาก็ดูเหมือนจะไม่มียอดเข ขา ต่อให้ปีนต่อแค่ไหนก็ไปไม่ถึงยอด
“ฉันทนไม่ไหวแล้ว ฉันปีนต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ ฉันอาจจะตายจากความกระหายน้ำได้เห หมือนกัน” จีโม่ฉิงปีนไปที่ส่วนที่ยื่นออกมาของหินภูเขา นั่งบนมันและหอบอย่างหนัก ตอนนี้ เธอไม่มีแรงเหลือแล้ว
เธอรู้ว่าแม้จะเป็นภูเขาฟางจ่างจริงๆมันก็มีบางอย่างแปลกๆ เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะ ะปีนขึ้นไปบนยอดได้อย่างง่ายดาย
ความต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ของจีโม่ฉิงนั้นรุนแงมาก เธอพูดคำนั้นด้วยความต้องการ ขณะท ที่เธอนั่งพัก ดวงตาของเธอยังคงมองดูสภาพแวดล้อมรอบๆตัว โดยหวังว่าจะหาวิธีขึ้นสู่ยอดเ เขาฟางจ่าง
หลังจากเฝ้าดูอยู่ครู่หนึ่ง ดวงตาของจีโมฉิงก็สว่างขึ้นราวกับว่าเธอพบอะไรบางอย่าง
ภูเขานั้นสูงชันมาก และไม่มีส่วนที่ยื่นออกมา เฉพาะจุดที่เธอนั่งเท่านั้นที่มีหินก้อ อนหนึ่งยื่นออกมา นอกจากนี้ พื้นผิวของหินยังค่อนข้างแปลก
จีโม่ฉิงสังเกตอย่างระมัดระวังและตระหนักว่าหินที่ยื่นออกมานั้นไม่ได้แตกต่างจากหิ นภูเขาที่อยู่ข้างๆ
แม้ว่าหินจะเหมือนกัน แต่จีโม่ฉิงก็ตระหนักว่าพื้นผิวของหินไม่ตรงกับพื้นผิวของหินข้า างๆ
“หากกำแพงภูเขาที่สูงชันแบบนี้มีรอยร้าว มันควรจะพังลงมาด้วยความรวดเร็ว ทว่าหินที่ยื่ นออกมานี้กลับไม่พัง แถมพื้นผิวก็ไม่ตรงกับพิ้นผิวของหินที่อยู่ใกล้เคียง มันต้องมีบางอ อย่างผิดปกติ” ยิ่งจีโม่ฉิงคิดเกี่ยวกับมันมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกว่าเธอคิดถูกมาก กขึ้นเท่านั้น ในขณะที่ดูเหมือนว่าเธอจะมีกำลังใจเพิ่มขึ้น เธอเรียกดาบสั้นออกมา จ จากนั้นเธอก็จับดาบสั้นและใช้ปลายดาบขุดหินตรงที่เชื่อมต่อกับกำแพงภูเขา
เธอค่อยๆขุดตรงรอยต่อของหิน หินเหล่านี้ดูเหมือนจะไม่ได้แข็งอย่างที่เธอคิด พวกมันถ ถูกขุดออกมาอย่างง่ายดายด้วยดาบสั้นของเธอ
“แปลก แม้ว่านี่ไม่ใช่ภูเขาฟางจ่าง แต่ก็ควรเป็นพื้นที่ต่างมิติ ตามหลักเหตุผลแล้ว มันไม่ง่ายเลยที่จะขุดบริเวณนี้ ท้ายที่สุด นี่เป็นเพียงดาบสัตว์อสูรระดับตัวอ่อน…” จีโม่ฉิงคิดกับตัวเองขณะที่เธอขุดด้วยดาบสั้นในมือของเธอต่อไป
เธออ่อนล้าเกินไปและไม่มีเรี่ยวแรงเหลืออยู่มากนัก การที่สามารถอยู่ได้จนถึงตอนนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ของเธอ
แกรก!
ทันใดนั้น เมื่อจีโม่ฉิงขุดอีกครั้ง ดาบสั้นก็ดูเหมือนจะกระทบอะไรบางอย่างและหัก
เมื่อดูอย่างระมัดระวัง วัตถุคล้ายใบดาบก็โผล่ออกมาจากหินที่ถูกขุด ดาบสั้นของเธอถูกวั ตถุคล้ายใบดาบทำให้แตก
การสูญเสียนี้ทำให้จีโม่ฉิงค่อนข้างหดหู่ แม้ว่าสัตว์อสูรของเธอซึ่งเป็นดาบสั้นจะอยู ในระดับตัวอ่อน แต่บางครั้งสัตว์อสูรระดับตัวอ่อนก็มีราคาแพงกว่าสัตว์อสูรระดับมหากาพ พย์ ตระกูลของเธอซื้อสัตว์อสูรตัวนี้ด้วยเงินจำนวนมหาศาล แต่ตอนนี้ มันตายแล้ว
จีโม่ฉิงสัมผัสใบดาบที่ฝังอยู่ในหินและรู้สึกเย็นเฉียบราวกับว่ามันทำมาจากโลหะเย็ น อย่างไรก็ตาม มีเพียงส่วนหนึ่งของใบมีดเท่านั้นที่โผล่ออกมา
จีโม่ฉิงยื่นนิ้วของเธอและจับด้านข้างของใบดาบอย่างระมัดระวังก่อนที่จะเขย่า นี่ทำ ให้เธอประหลาดใจ การเขย่านี้ทำให้ใบดาบขยับ
เธอเขย่ามันอย่างระมัดระวังในขณะเดียวกันก็ดึงมันออกมา ไม่นานเธอก็ดึงดาบออกมาได้ จีโม่ฉิงรู้ทันทีว่ามันเป็นดาบ ตัวดาบตรงเย็นยะเยือกและเหมือนว่าจะทำมาจากทองคำ