I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง - ตอนที่ 835
ความจุของเบม่อน
ฉางเสี่ยวคิดวางแผนมาดีแล้ว แต่น่าเสียดายที่เขาดูถูกปริมาณความต้องการในการกินของเบม่อนมากไปหน่อย เขาคิดว่าเบม่อนต้องใช้เวลาอีกหลายวันในการพักแล้วย่อยที่กินไปเยอะขนาดนั้น
แต่ในวันต่อมา เบม่อนกลับหิวขึ้นมาใหม่อีกครั้งและกิน กิน กินเยอะกว่าวันแรกซะอีก
“มันควรจะอิ่มได้แล้วไม่ใช่เหรอ”ฉางเสี่ยวเริ่มรู้สึกแปลกๆ
แต่เบม่อนกลับกินต่อไปในวันที่3 มันสวาปามเท่าไรก็ไม่เคยพอ มันกินหินเวทมนตร์ที่อยู่ตรงหน้าทั้งหมด พวกเขาใช้เวลาในการจัดการกับปัญหาหินเวทมนตร์เพียงแค่3วันเท่านั้น ทุกอย่างถูกจัดการลงด้วยเบม่อนใน3วัน แต่ฉางเสี่ยวก็ไม่ได้ดีใจเลย เพราะนั้นหมายความว่าในเมื่อหินเวทมนตร์หมด แล้วเบม่อนจะกินอะไรละ
กว่าจะถึงเวลางานประมูล เบม่อนกินเยอะมากกว่ามนุษย์ทั้งตระกูลกินซะอีก จำนวนผลึกและแร่งินที่มันกินนั้นแค่ไม่กี่วันก็ทำให้ขนหน้าแข้งของเขาล่วงได้
“ไม่อยากจะเชื่อเลย เบม่อนมันไม่ต้องย่อยด้วยซ้ำ มันกินหินเวทมนตร์ไปตั้งเยอะขนาดนั้น มันควรจะต้องมีเวลาย่อยบ้างซิ นั้นหินเวทมนตร์เลยนะ ทำไมมันถึงหิวได้ละ”ฉางเสี่ยวเริ่มหวั่นใจ
แต่หลังจากนั้นไม่นานฉางเสี่ยวนั้นก็พบว่าตัวแองอ่อนด้อยเกินไป
เพียงแค่ครึ่งเดือนหลังจากที่เบม่อนมาอยู่ด้วย ฉางเสี่ยวก็สังเกตเห็นอาการหิวแบบที่โจวเหวินบอก ฉางเสี่ยวกัดฟันแล้วเอาผลึกที่อยู่ในคลังของเขา มาให้เบม่อนกิน ซึ่งกินไปได้ครึ่งคลังถึงจะพอยับยั้งอาการหิวได้
หน้าของฉางเสี่ยวเสียขึ้นมาเลย ถ้าเบม่อนยังกินอยู่แบบนี้ อีกแค่4-5วันมันคงจะกินผลึกหมดคลังแน่ๆ แต่แล้วหลังจากนั้นละจะทำยังไง
ฉางเสี่ยวจู่ๆก็คิดว่าบางทีนี้อาจจะเป็นแผนการร้านของโจวเหวินก็ได้ โจวเหวินบอกมาว่า ให้เขาเลี้ยงดูให้อาหารมันอย่างน้อยก็จนกว่าที่เขาจะออกจากภูเขาหลงหู แต่นั้นมันก็อีกตั้งเดือนกว่า แล้วฉางเสี่ยวจะเอาผลึกเอาแร่เงินเยอะขนาดนั้นมาจากไหนกัน
“ไม่ซิ ถ้าเบม่อนกินเยอะขนาดนี้ ทำไมโจวเหวินถึงยังเลี้ยงดูมันอยู่ได้ละ ขนาดฉันยังเลี้ยงมันไม่ไหวเลย โจวเหวินก็ต้องไม่ไหวหนักกว่าเดิมซิ”ฉางเสี่ยวรู้สึกได้ว่าโจวเหวินต้องมีวิธีการบางอย่างที่ทำให้เบม่อนไม่จำเป็นต้องกินแน่ๆ ตัวอย่างเช่นการให้เบม่อนหลับเพื่อลดการใช้พลังงานของมัน
แต่ฉางเสี่ยวไม่รู้ว่าวิธีนั้นมันคืออะไรเขาเลยบากหน้าไปถามพี่ฉางชุนชิว
หลังจากที่ได้ยินฉางเสี่ยวเล่าแล้ว ฉางชุนชิวก็ส่ายหน้า “แล้วฉันจะทำอะไรได้ละเนี่ย ไปขอโทษเขาแล้วคืนเบม่อนให้โจวเหวินไปเถอะ ไม่งั้นเราก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว นายเองก็คงเลี้ยงมันถึงเดือนไม่ไหวถูกไหม ฉันเองก็คงให้นายยืมผลึกเอาไปให้มันกินไม่ได้หรอก”
“ฉันหมายถึงว่ามันพอจะมีวิธีการไหนที่ทำให้เบม่อนไม่หิวแล้วกินตลอดเวลาบ้างไหม ไม่งั้นไม่ว่าใครก็ไม่น่าจะแบกรับค่าอาหารแบบนั้นได้หรอกนะ โจวเหวินเองก็คงไม่ได้ให้อาหารมันแบบนี้ทุกวันหรอก พี่พอจะหาทางให้หน่อยได้ไหม”ฉางเสี่ยวกลัวเสียหน้าเลยไม่กล้าไปหาโจวเหวินตรงๆ
“ฉันช่วยไม่ได้หรอก ไปถามโจวเหวินซะซิ”ฉางชุนชิวพูดตรงๆ
แม้แต่ฉางชุนชิวยังช่วยอะไรไม่ได้ฉางเสี่ยวเองก็หมดหนทางเหมือนกัน แต่จะให้เขาไปขอโทษโจวเหวินก็คงไม่ได้ ศักดิ์ศรีของเขามันค้ำคออยู่
“ฉันไม่เชื่อหรอกว่าโจวเหวินมันจะสามารถเลี้ยงเบม่อนที่กินจุขนาดนี้ได้ มันต้องมีทางซักทางซิวะ”ฉางเสี่ยวไม่ยอมแพ้พาเบม่อนกลับไปหาทางต่อ
แต่ถึงอย่างนั้นความหิวของเบม่อนนั้นมันไม่ใช่ความหิวแบบที่ทนกันได้ หิวแล้วมันต้องได้กิน และมันก็คงไม่กินแค่เค้กก้อนเดียวแน่ๆ
ฉางเสี่ยวลองคิดหาทางหลากหลายวิธี แม้กระทั้งการสะกดจิตให้เบม่อนหลับก็ลองแล้วแต่มันก็ไร้ผล เพราะถึงแม้จะหลับได้แต่กระเพาะและความหิวของเบม่อนก็ทำงานตลอดเวลา ตราบใดที่อาการหิวยังอยู่โจวเหวินก็จะรู้สึกได้แน่ๆ
ฉางเสี่ยวไม่อยากเสียเบม่อนไป เขาเลยเอาอาหารมาป้อนเบม่อนทุกครั้งที่เบม่อนรู้สึกหิว แต่พอผ่านไปได้เพียงไม่กี่วัน ผลึกและไข่สัตว์อสูรทั้งหมดก็หมดลงจากคลังของเขา หลังจากนั้นเขาก็ทำได้แค่หยิบยืมของชาวบ้านเท่านั้น
ฉางเสี่ยวนั้นยังไงก็เป็นมนุษย์ ศักดิ์ศรีของเขามันทำให้เขาต้องแบกหน้าไปขอผลึกจากคนอื่น เขายอมทุบหม้อข้าวหม้อแกงตัวเองทั้งหมด ยังดีเสียกว่าที่จะส่งเบม่อนกลับไปตอนนี้
แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ยังไม่พอ ฉางเสี่ยวเลยรู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเอง ถ้าเขารู้ว่าเบม่อนกินเยอะขนาดนี้เขาก็คงไม่สัญญากับโจวเหวินให้เสียหน้าหรอก
ถึงตอนนี้เบม่อนมาอยู่กับเขาแล้ว แต่เขากลับรักษาอะไรมันไว้ไม่ได้เลย
“สัตว์อสูรบ้าอะไรวะเนี่ย นี่มันหลุมดูดตังชัดๆ ไอ้โจวเหวินบ้านั้นมันเลี้ยงสัตว์อสูรเวรนี้ให้เป็นระดับเร้นลับได้ไงกัน”ฉางเสี่ยวรู้สึกเครียด
ถึงแม้ว่าโจวเหวินจะมีวิธีที่ทำให้เบม่อนไม่หิวระหว่างวันได้ แต่การที่จะพัฒนามันให้เป็นระดับเร้นลับนั้น เบม่อนก็ยังจำเป็นต้องกินอย่างมหาศาลอยู่ดี เขารู้ได้เลยว่าโจวเหวินนั้นลงทุนกับเบม่อนไปมากแค่ไหนกัน
…
ระหว่างนั้นโจวเหวินก็อาศัยอยู่ในตำหนักเทียนฉีไปเรื่อยๆ ตอนเช้าเขาออกไปเดินเล่นในเมือง เหตุผลหลักๆก็เพื่อที่จะให้หลิวหยุนหาเขาเจอ แต่โชคไม่ดีเลย ที่จนถึงป่านนี้หลิวหยุนก็ยังไม่มา ทำให้โจวเหวินแอบห่วงนิดหน่อยว่าหลิวหยุนจะโดนหยาเอ๋อฆ่าตายไปแล้ว
ตอนที่เขากลับมายังตำหนักเทียนฉีตอนกลางคืนนั้น เขาก็พบว่าฉางชุนชิวนั่งรอเขาอยู่ที่สวน ตรงจุดที่เขาจะต้องผ่าน เหมือนกับว่ามารอเขาอยู่ยังไงอย่างงั้น
“มารอฉันอยู่เหรอ”โจวเหวินถามฉางชุนชิวที่ลุกขึ้นแล้วเดินตรงมา
ฉางชุนชิวยื่นกล่องไม้เล็กๆให้โจวเหวิน “นี้เครื่องรางที่ฉันบอกก่อนหน้านี้”
“ฉันสัญญากับฉางเสี่ยวแล้วว่าจะให้ยืมเบม่อนฟรีๆ นายไม่ต้องให้ฉันก็ได้”โจวเหวินพูด
ฉางชุนชิวพูดพร้อมรอยยิ้ม “เรื่องนั้นฉางเสี่ยวผิดเอง ฉันต้องขอโทษแทนน้องฉันด้วยนะ ถือซะว่าเป็นสิ่งของแทนคำขอโทษไง จะได้ไหม”
“ถ้านายมาพูดถึงขนาดนี้จะให้ฉันไม่รับมันก็จะหักน้ำใจกันเกินไปซินะ งั้นฉันรับมันไว้ละกัน แล้วเดี๋ยวฉันจะเรียกเบม่อนกลับมา เหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วกัน”โจวเหวินพูด
“อย่าพึ่งเรียกเบม่อนกลับมา ให้ฉางเสี่ยวมันพยายามให้อาหารต่ออีกซัก2วันเถอะ ถือซะว่าเป็นการลงโทษน้องชายของฉันละกัน”ฉางชุนชิวพูด
“ได้ ตามนั้นละกัน”โจวเหวินพูดแล้วรับกล่องไม้มา
จากนั้นฉางชุนชิวก็ยื่นกล่องอีกกล่องมาให้กับโจวเหวิน “ส่วนนี้ ไม่เกี่ยวกับเรื่องเมื่อกี้ อันนี้ฉันให้จากใจฉัน นายอาจจะต้องใช้มันในงานประมูล”
“ถ้างั้นฉันจะรับไว้นะ ขอบคุณ”โจวเหวินไม่ปฏิเสธ
หลังจากคุยกันไปได้ซักพัก ฉางชุนชิวก็จากไปโจวเหวินก็กลับห้องไปเปิดกล่อง กล่องแรกนั้นมีเครื่องรางมนตร์เปลี่ยนชีวิต ส่วนอีกกล่องนึงนั้นเป็นบัตรเหมือนกับนามบัตรทางธุรกิจที่ไม่มีลวดลายอะไรมาก นามบัตรนั้นทำมาจากหิน สลักคำ2คำเอาไว้ว่า “เทียนฉี”
“เอาไปใช้อะไรได้ละเนี่ย”โจวเหวินมองไปมาแล้วพบว่า นามบัตรนั้นมันทำมาจากหินธรรมดา ไม่ใช่ผลึกหรอสิ่งของจากต่างมิติ
ในอีกมุมนึงของเมืองหลงหู เมสซิสอยู่กับชายแก่คนหนึ่ง กำลังพูดคุยกันอยู่
“เราต้องได้อสูรปฐพีมาให้ได้ ถ้าซื้อไม่ได้ ก็ใช้ไม้แข็งเลย”ชายแก่พูดกับเมสซิส “เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมม นายอาจจะต้องลงมือในวันนั้นเลย”
“ผมกับผู้พิทักษ์พร้อมตลอดครับ ตอนไหนก็ได้ทั้งนั้นครับ”
“รอให้รู้ผลงานประมูลก่อนก็ได้ ยังไงที่นี้ก็คือเขตภูเขาหลงหู เขตพื้นที่ของตระกูลฉาง ถึงนายจะลงมือตอนนี้ได้ แต่ฉันเองก็อยากจะลองดูมมากกว่าว่าจะเกิดอะไรขึ้นภายในภูเขาแห่งนี้บ้าง”ชายแก่พูด