I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง - ตอนที่ 842
ขุดสุสานมาร
“ชุนชิว ทำไมถึงพาเขามานี้ละ” ชายชราคนหนึ่งที่ขมวดคิ้วทันทีที่เห็นฉางชุนชิวมาพร้อมโจวเหวิน
“ลุงครับ โจวเหวินเขาบอกว่ามีสกิลที่สามารถทำการสำรวจแบบพิเศษได้ เขาอาจจะช่วยเราหาปัญหาในสุสานมารได้ครับ ผมเลยพาเขามาลองดู”ฉางชุนชิวไม่ได้พูดว่าโจวเหวินเป็นคนขอมาเอง
“งั้นก็รีบเลย อย่าเสียเวลา”ชายแก่ไม่พูดอะไรต่อ
ฉางชุนชิวพาโจวเหวินไปที่บริเวณหน้าสุสานมาร โจวเหวินรู้สึกได้เลยว่าปราณมารที่นี้มันเข้มข้นมาก ตอนที่เขามาครั้งล่าสุดนั้นปราณมารมันยังไม่เยอะขนาดนี้เลย
แถมยังมีหินเวทมนตร์ตามพื้นเต็มไปหมดเลยด้วย รูปปั้นหินทั้งหลายต่างแสดงสีหน้าและท่าทางที่ต่างกันออกไป นี้น่าจะเป็นคนของตระกูลฉางที่เผลอกระโดดลงไปแน่ๆ
“แล้วจะสำรวจยังไงละ ต้องการอะไรเป็นพิเศษไหม”ฉางชุนชิวถามโจวเหวิน
“ฉันต้องเข้าไปสำรวจใกล้ๆหน่ะ ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากจะขอถ่ายรูปด้วย”โจวเหวินพูด
“ถ่ายรูปอะได้แต่เร็วหน่อยก็ดี ตอนที่นายเข้าไปใกล้สุสานมารนั้น ห้ามนายเกินเส้นหรือแตะกับหินเวทมนตร์โดยเด็ดขาดนะ ไม่งั้นนายจะเป็นเหมือนพวกเขาแน่นอน”ฉางชุนชิวชี้ไปที่เส้นสีแดงที่ชี้อยู่กลางอากาศ เส้นสีแดงนั้นอยู่เหนือจากสุสานมารประมาณ 10เมตร
“โอเค ไปได้รึยัง”โจวเหวินคิดและลองคำนวณดูแล้ว ระยะ10เมตรมันก็ไกล้มากพอที่จะเข้าไปถ่ายรูปได้แล้ว”
“ไปได้เลย ขอให้เจออะไรนะ”ฉางชุนชิวพูด
โจวเหวินเดินขึ้นไปบนฟ้าด้วยวิชาจ้าวปีศาจ ในขณะเดียวกันเขาก็ใช้แพทย์ปีศาจผสานวิญญาณกับตัวเองแล้วใช้สกิลลำแสงส่องทะลุสาดส่องไปทั่วสุสานมาร
เอาจริงๆดวงตาส่องทะลุนั้นทำอะไรไม่ได้เลย มันไม่สามารถมองทะลุหินหรือโลหะได้ ที่โจวเหวินทำก็แค่แสดงให้ตระกูลฉางเห็นและเข้าใจว่า เขากำลังสำรวจและตรวจสอบอยู่จริงๆ ไม่ได้แค่มาเล่นๆ
ตระกูลฉางพอเห็นลำแสงส่องทะลุสาดส่องไปทั่วๆสุสานแล้วพวกเขาก็มองกันไปมาอย่างสงสัย
โจวเหวินนั้นแสร้งทำเป็นแบบนั้น จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป เอาจริงๆลำแสงส่องทะลุนั้นมองไม่เห็นอะไรซักอย่าง ที่โจวเหวินทำคือแค่ต้องการเอาโทรศัพท์ไปถ่ายรูปสลักเท่านั้น
พอเกมส์เริ่มโหลดแล้ว โจวเหวินก็คลายเครียดลง หลังจากทำหน้าตาเคร่งเครียดมองดูด้านหลังสุสานมารเรียบร้อยแล้ว โจวเหวินก็เดินกลับมาที่แท่นหิน
“เป็นไง เจออะไรไหม”ฉางชุนชิวพูด ตระกูลฉางคนอื่นๆก็มองโจวเหวินด้วยสายตาคาดหวัง
“ตอนนี้ยังไม่เห็นปัญหาอะไร แต่เดี๋ยวฉันขอกลับไปคิดก่อน บางทีอาจจะคิดอะไรขึ้นมาได้บ้าง”โจวเหวินพูด
“โอเค”ฉางชุนชิวส่งโจวเหวินกลับโดยที่ไม่พูดอะไรมาก
หลังจากที่โจวเหวินกลับไปที่ห้องพักแล้ว เขาก็เปิดเกมส์ขึ้นมาทันที เหตุผลที่เขาโหลดมานั้นก็เพราะ 1 เขาอยากรู้เกี่ยวกับสุสานนี้จริงๆ 2คือเขาอยากจะช่วยตระกูลฉาง เขาไม่อยากจะเห็นครอบครัวของฉางหยูฉีต้องตายแล้วส่งเธอมาลี้ภัยที่มหาลัยซีหยาง
เกมส์นั้นดาวโหลดเสร็จแล้วชื่อในเกมส์ของมันคือสุสานมารตามเดิม
โจวเหวินเปิดเข้าเกมส์ไปสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเขา คือภูเขาที่โอบล้อม นี้คือจุดที่สุสานมารตั้งอยู่ พร้อมกับหินเวทมนตร์ที่แพร่กระจายไปทั่ว
โจวเหวินพอเห็นหินเวทมนตร์บนพื้นแล้ว พวกมันมีหน้าตาแปลกประหลาดกันออกไปเพราะมีคนจำนวนมากโดดลงไปตายกันแล้ว แต่โจวเหวินอยู่ในเกมส์มันไม่มีหน้าใดๆทั้งนั้น
ตามที่ฉางชุนชิวบอก หลังจากที่มนุษย์แตะหินเวทมนตร์แล้ว ใบหน้าของคนๆนั้นจะโดนสูบไปที่หินเวทมนตร์ ก่อนที่ร่างกายของเขาจะกลายเป็นหินเวทมนตร์ซะเอง
โจวเหวินเชื่อว่าเบม่อนนั้นสามารถกินหินเวทมนตร์ได้อย่างไม่มีปัญหา โจวเหวินเลยลองอัญเชิญสัตว์อสูรมาหลายหลายชนิดแล้วให้แต่ละตัวเหยียบลงพื้นของหินเวทมนตรซึ่งผลของมันก็ทำให้รู้ว่าสัตว์อสูรทุกตัวกลายเป็นหินไปหมด โจวเหวินลองอัญเชิญเบม่อนออกมาด้วย แล้วให้เบม่อนลงไปที่หินเวทมนตร์ เบม่อนนั้นทำท่าทีเหมือนกำลังจะเป็นแต่อัตราความเร็วในการเปลี่ยนเป็นหินนั้นช้ามาก
“มันจะกลายเป็นหินไหมนะ”หลังจากนั้นโจวเหวินก็สั่งเบม่อนให้ใช้สุดยอดพลัง ทำให้ตัวของมันไม่กลายเป็นหินอีกต่อไป โจวเหวินถอนหายใจ โชคยังดีที่เบม่อนนั้นแกร่งมากพอไม่งั้นก็ไม่มีทางเข้ามาในนี้ได้แน่ๆ
เพราะว่าเดิมทีสุสานมารนั้นมันไม่มีทางเข้าอยู่แล้ว ไม่มีปากหลุมด้วย เพราะงั้นเวลาขุดต้องขุดทั้งหลุมขึ้นมาเลยซึ่ง งานนี้ตกอยู่กับเบม่อนเต็มๆ ตระกูลฉางนั้นมีการฝึกวิชาอาคมโบราณ แต่ถึงอย่างนั้น สุสานมารก็ยังขุดออกมาไม่ได้ ไม่งั้น อมรณาจะตื่นขึ้นมา แล้วถ้าถึงตอนนั้น โลกทั้งโลกจะมอดไหม้และไม่เหลืออะไรอีกเลย
ในความเป็นจริง โจวเหวินก็ไม่กล้าขุดหรอก แต่ในเกมส์ เขาพร้อมรับได้ทุกอย่าง
ภายใต้คำสั่งของโจวเหวิน เบม่อนก็เปิดใช้สุดยอดพลัง แล้วต่อยลงไปในสุสานมารด้วยความแรงสูงก่อนที่จะใช้เขาที่หัวหมุนเป็นสว่านเจาะเข้าไปในหินจนเศษหินเวทมนตร์แตกกระจายไปหมด เบม่อนแค่เริ่มขุดเท่านั้น แต่เหมือนกับว่าจู่ๆใบหน้าบนหินเวทย์มนตร์ก็เหมือนมีชีวิต พวกมันลุกขึ้นมาบนพื้นแล้วกลายเป็นรูปปั้นหิน
รูปปั้นหินนั้นพุ่งตัวเข้าใส่เบม่อน โจวเหวินเลยรีบส่งสัตว์อสูรหลายตัวเข้าไปสู้ เพื่อขัดขวางพวกมัน ให้เบม่อนได้ทำงาน
และเพราะว่าพวกมันเป็นหินเวทมนตร์สัตว์อสูรที่โจวเหวินส่งไปนั้นจึงไม่ใช่สัตว์อสูรที่เขาใช้ต่อสู้หลักๆ พวกมันเป็นแค่ระดับมหากาพย์ทั้งหลาย มีระดับเร้นลับแค่ตัวเดียวคือตรีสูญเทพทองคำ
ความเร็วของรูปปั้นพวกนั้นเหมือนจะเป็นแค่ระดับมหากาพย์ แต่พอพวกมันระเบิดตัวแตกไปนั้น พวกมันก็ฟื้นกลับขึ้นมาไม่รู้จักจบจักสิ้น
และถ้าเกิดแตะโดนตัวของรูปปั้นหินพวกนั้นเมื่อไรสัตว์อสูรของโจวเหวินจะกลายเป็นหินเวทมนตร์ทันทีซึ่งมันน่ารำคาญพอสมควรเลย
ยิ่งสถสานโดนขุดมากเท่าไร พวกรูปปั้นหินก็โผล่ขึ้นมามากขึ้นและมากขึ้นเท่านั้น รูปปั้นจากที่เคยเป็นแค่รูปปั้นหินรูปคน ตอนนี้มันกลายเป็นรูปปั้นหินเทพและรูปปั้นหินมารพุ่งเข้าใส่เบม่อนแล้ว
ตอนนี้เบม่อนเปิดใช้สุดยอดพลังอยู่ทำให้มันไร้เทียมทาน ถึงแม้ว่าหินเวทมนตร์พวกนั้นจะโดนตัวยังไงแต่เบม่อนก็ไม่แข็งเป็นหิน พวกมันแค่มารุมล้อมเบม่อนเหมือนเป็นกลุ่มมดรุมตอมเท่านั้น
“ไม่มีทางกำจัดมันเลยเหรอ”โจวเหวินสงสัย เขาลองใช้พลังหลายๆอย่างดูแล้วแต่ผลที่ออกมาก็เปล่าประโยชน์เขาทำลายรูปปั้นได้แต่สุดท้าย มันก็ฟื้นคืนชีพกลับมาอยู่ดี แถมในเกมส์ก็ไม่ได้มีการแจ้งเตือนอะไรเลยด้วย เหมือนกับการทุบหินให้แตก ไม่ได้ฆ่ามันจริงๆ