I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง - ตอนที่ 845
เทพี
“ดูเหมือนว่าเราจะสามารถเข้าไปในหลุมได้เฉพาะตอนที่หายตัวด้วยแหะ เมื่อกี้ลงไปตรงๆตายทันทีเลย ครั้งที่แล้วฉันหายตัวเข้าไปดูเหมือนมันจะมองไม่เห็นฉัน ฉันเลยไม่ตายซินะ”โจวเหวินคิดในใจ
“ถ้าเกิดอยากจะบุกเข้าไปในนั้นจริงๆ มันยากมากๆเลยนะเนี่ย สัตว์อสูรที่มีอย่างน้อยต้องมีเบม่อน มีผ้าคลุมล่องหน มีสดับวานร แถมถ้าเกิดอยากจะรับมือกับผู้พิทักษ์ได้ ก็ต้องมีสัตว์อสูรที่สามารถคุมไฟได้อีก อย่างน้อยก็ต้องมีสัตว์อสูรระดับเร้นลับ4ตัวเลยนะเนี่ย คนธรรมดาที่ไหนจะไปหาสัตว์อสูรเยอะขนาดนี้ได้ แม้แต่ตระกูลฉางเองยังยากเลย”
“แต่ถึงอย่างนั้น การที่จะจัดการกับปัญหาของตระกูลฉางได้นั้นมันไม่น่าจะต้องฆ่าผู้พิทักษ์นะ ขอแค่ฆ่าหน้ากากวิญญาณมารกับมารแล้งได้ก็น่าจะพอแล้ว” โจวเหวินคิดอยู่ว่าจะช่วยฉางหยูฉีได้ยังไงนั้นเอง จู่ๆฉางหยูฉีก็โทรมา
“กลับมาเมื่อไรเนี่ย”โจวเหวินถาม
“พึ่งกลับมานี้เอง…”เสียงของเธอนั้นเหนื่อยอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นเธอก็พูดด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด “โจวเหวิน ฉันขอโทษนะ แต่งานประมูลรอบนี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อยละ”
“ไม่ใช่ว่าอสูรปฐพีมีไว้สำหรับประมูลอยู่แล้วเหรอ”โจวเหวินพอจะเข้าใจได้ว่าในสถานการณ์คับขันแบบนี้ ตระกูลฉางเองก็คงไม่มีอารมณ์มาจัดงานประมูลเหมือนกัน
“งานประมูลยังคงมีตามเดิม แต่จะจัดขึ้นล่วงหน้าด้วย แต่รอบนี้เงื่อนไขของงานประมูลไม่ใช่เงินอีกต่อไปแล้ว แต่ใครก็ตามที่สามารถแก้ไขปัญหาภายในสุสานมารได้ ก็จะได้ไข่สัตว์อสูรของอสูรปฐพีไปเลย”ฉางหยูฉีพูด
“แบบนั้นก็ดีเลยซิเข้าทางเลย”โจวเหวินดีใจมาก ตอนนี้เขารู้แล้วว่าทำไมสุสานมารถึงเป็นแบบนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะยังไม่มั่นใจ100%ว่าเขาจะสามารถแก้ไขปัญหาในสุสานมารได้ เขาควรจะลองดูอีกหลายรอบหน่อย เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น
ที่แน่ๆคือในการจัดการปัญหาของตระกูลฉางนั้นมันไม่จำเป็นต้องฆ่าผู้พิทักษ์ก็ได้ เพราะงั้นเขาถึงมั่นใจมากๆว่าเขาทำได้แน่ๆ แต่เขาเองก็ยังต้องฟาร์มเพิ่มอีกนิดหน่อยเพื่อลดความเสี่ยง ให้แน่ใจว่าจะไม่มีปัญหาจริงๆ
“ฉันเองก็หวังให้มีคนมาแก้ไขปัญหาตอนนี้ได้ซักที ไม่งั้นตระกูลฉางต้องแย่แน่””ฉางหยูฉีตอนนี้เหนื่อยมากๆ เธอไม่ได้คุยอะไรกับโจวเหวินต่อ เธอวางสายทันทีที่พูดจบ
“งานประมูลจะเริ่มขึ้นในอีก2วัน เวลากระชั้นชิดเอาเรื่องเลยแหะ แต่มันก็น่าจะพอในการยืนยันละนะ”โจวเหวินตัดสินใจที่จะเอาไข่ของอสูรปฐพีมาให้ได้
เอาจริงๆ เขาต้องใจจะช่วยฉางหยูฉีแต่แรกอยู่แล้ว การได้ไข่สัตว์อสูรมาเพิ่มนั้นก็ถือว่าเป็นโบนัสไปด้วยเลย
“แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ต้องหาทางปิดบังสัตว์อสูรของฉันด้วยซินะ”โจวเหวินคิดว่าจะทำยังไงถึงจะซ่อนพลังของสัตว์อสูรของเขาได้ เพราะว่าการบุกสุสานมารนั้นมันต้องใช้สัตว์อสูรเยอะมากๆ อย่างน้อยก็ต้องใช้ เบม่อน สดับวานรแล้วก็ผ้าคลุมล่องหนแน่ๆละ
ตอนที่เกมส์สุสานมารเปิดขึ้นอีกครั้งนั้น โจวเหวินก็รีบเข้าไปทันที รอบนี้โจวเหวินพยายามสู้แบบมีแบบแผนที่สุดเท่าที่ทำได้
อันดับแรกให้เบม่อนขุดเพื่อปลุกหน้ากากวิญญาณมารขึ้นมา ก่อนที่โจวเหวินจะหายตัวเข้าไปหลุมแล้วฆ่าหน้ากากวิญญาณมาร ก่อนจะขุดต่อลงไปจนถึงมารแล้ง แล้วให้สดับวานรฆ่ามารแล้ง ขั้นตอนทุกอย่างนั้นสมบูรณ์แบบมากๆ
โจวเหวินรอไปซักพักนึงเพื่อให้มั่นใจว่าหินเวทย์มนตร์พวกนั้นจะไม่งอกขึ้นมาใหม่ หรือไม่มีหน้าคนโผล่ขึ้นมาอีก สัตว์อสูรที่ไปแตะหินเวทย์ก็ไม่กลายเป็นหินและไม่มีสัตว์อสูรตัวไหนจู่ๆก็เดินลงไปในสุสานอีก
“พอรู้แล้วก็ง่ายเลยแหะ เอาละทีนี้ไม่เสียเวลาดีกว่า ต่อไปลองใช้ต้นกล้วยเซียนสู้กับไฟของผู้พิทักษ์ดูละกัน”โจเวหวินบอกเบม่อนให้ขุดลงไปต่อ
หลังจากนั้นไม่นานเบม่อนก็ขุดไปจนถึงหญิงสาวคนนั้นอีกครั้ง หญิงสาวคนนั้นเหมือนกับครั้งที่แล้วเปิดมุ้งออกมาก่อนที่เปลวเพลิงจะทะลักท่วม รอบนี่เขาใช้ต้นกล้วยเซียนที่อยู่หลังโจวเหวินเป่าลมมหาศาลด้วยพลังของสายลมแรกแห่งสามภพ
ในพริบตานั้นเอง เปลวเพลิงที่เคยท่วมหน้าจอนั้นโดนดันกลับไปด้วยสายลมเย็นเฉียบ แม๊กม่าลาวาที่ไหลเข้ามานั้นโดนลมเย็นจนมันแข็งกลายเป็นหิน
เตียงโลหะรวมไปถึงหญิงสาวคนนั้นโดนลมซัดอย่างแรงจนกระเด็นไปไกล ซะจนเห็นเป็นแค่จุดดำๆ ไม่รู้ว่าไปไกลถึงขนาดไหนแต่ที่แน่ๆ มันไกลกว่าที่จะเห็นในเกมส์ได้แล้ว
“สมแล้วที่แป็นสายลมแรกแห่งสามภพ แรงโคตรเลย”โจวเหวินดีใจมาก แม้แต่ผู้พิทักษ์ยังต้านทานแรงลมของต้นกล้วยเซียนไม่ไหวเลย
“คำเตือน คำเตือน เทพีกลายเป็นร่างความกลัว เทพีกลายเป็นร่างความกลัว…”ตอนที่โจวเหวินกำลังดีใจนั้นเอง อักษรสีแดงตัวใหญ่ก็ปรากฏขึ้นในเกมส์เป็นเหมือนคำเตือนเวลาเจอบอสใหญ่ในเกมส์
“ร่างความกลัว…อะไรนะ”โจวเหวินตอบสนองไม่ทัน เขารู้สึกได้ว่าร่างความกลัวที่ว่าน่าจะเป็นระดับความกลัวที่สัตว์อสูรผมเงินพูดถึง โจวเหวินจำได้ว่าสัตว์อสูรส่วนมากในโลกนี้นั้นเป็นแค่ระดับความกลัว แต่เขาไม่ได้บอกอะไรอื่นๆมากกว่านี้อีก
ตอนที่โจวเหวินกำลังสับสนอยู่นั้นเอง โจวเหวินก็เห็นโลกทั้งโลกเปลี่ยนกลายเป็นสีแดง เหมือนกับว่ากำลังจะลุกท่วมไปด้วยไฟ ร่างสีแดงพุ่งทยานขึ้นฟ้าด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ
ทุกที่ๆร่างนั้นบินผ่าน จะติดไฟทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นอากาศหรือภูเขา
เพราะว่าร่างนั้นอยู่ห่างออกไปมากททำให้โจวเหวินมองเห็นไม่ชัดเจน แต่ที่แน่ๆมันน่าจะเป็นผู้หญิงชุดแดงหรือ”เทพี”ตนนั้นแน่ๆ แต่เทพีตนนั้นต่างออกไปจากเดิมก่อนหน้านี้เทพีนั้นสวมชุดเดรสสีแดง แต่ตอนนี้ร่างทั้งร่างของเธอลุกท่วมไปด้วยไฟ ไฟนั้นไม่ได้ลุกท่วมแค่ภายนอก แต่ทั้งร่างกายของเธอมันกลายเป็นไฟทั้งหมด ผมสายติดไฟ เซลทุกอณูร้อนแรงมากจนหลอมอากาศได้ ดวงตาสีแดงก่ำเหมือนกับแม่มดเพลิงในตำนาน แค่เห็นก็รู้แล้วว่านี้คือภัยร้ายแรงถึงชีวิต ตอนที่เธอมาถึงนั้น ภูเขาทั้งภูเขาไหม้เป็นจุล แม่น้ำแห้งเหือดในทันที แผ่นดินแห้งแล้งเป็นสีแดง
โจวเหวินรู้สึกได้ถึงพลังมหาศาลแบบที่เขาไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อนเลย
เบม่อนคำรามขึ้นฟ้าแล้วต่อยขึ้นไปที่เทพีที่รอยอยู่บนอากาศ ตอนนี้มันใช้สุดยอดพลังอยู่หมัดที่ปล่อยออกไปนั้นมันแรงพอที่จะระเบิดภูเขาได้เลย
แต่เทพีนั้นแค่มองเบม่อนอย่างเหยียดหยาม แต่นางไม่ทำอะไรเลย หมัดอันทรงพลังของเบม่อนกลับแตะต้องตัวเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ เหมือนกับว่ามีไฟที่มองไม่เห็นรับหมัดนั้นเอาไว้