I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง - ตอนที่ 859
มารพยัคฆ์เกราะวิญญาณ
หลังจากที่ลังเลอยู่พักใหญ่ๆ โจวเหวินก็ตัดสินใจว่าจะยังไม่ฟักมัน เขาตั้งใจที่จะลองรวมร่างดูกับสัตว์อสูรที่เขามีก่อน
เอาจริงๆ ตอนนี้โจวเหวินอยากจะโยนมันทิ้งแล้วด้วยซ้ำ มันไม่มีสกิลไหนเลยที่ทำให้โจวเหวินรู้สึกว่ามีประโยชน์ ทุกสกิลมันมีข้อเสียหมดเลย สกิลทุกอย่างนั้นจะแข็งแกร่งและรุนแรงขึ้นต่อเมื่อเราทำความชั่ว และมันจะใช้ได้ผลอย่างมากเมื่อใช้ใส่คนดี
ถ้าโจวเหวินเป็นจอมปีศาจที่ฆ่าคนเป็นผักปลาละก็ จงฉีคงเป็นสัตว์อสูรที่สมบูรณ์แบบสำหรับเขาแน่ๆ แต่ปัญหาคือโจวเหวินไม่ค่อยชอบทำเลวเท่าไรด้วย และเขาก็ไม่ได้คิดจะฆ่าคนดีคนบริสุทธิ์ เพราะงั้นการฟักจงฉีออกมามันเป็นความสี่ยงรุนแรงมาก โจวเหวินเลยไม่ค่อยอยากลองดูเท่าไร แต่พอดูไปซักพัก เขาก็พบว่าจงฉีกับสัตว์อสูรตัวอื่นที่เขามีนั้นมันเข้ากันแทบจะไม่ได้เลย แต่ตอนที่เขากำลังจะตัดสินใจทิ้งมันไปนั้นเขาลองอัญเชิญสิงโตเกราะเวทมาแล้วลองเทียบความเข้ากันได้ดู
ค่าความเข้ากันได้มันมีมากกว่า93 ซึ่งเยอะจนน่าตกใจมาก
“รวมร่างกันได้ด้วยเหรอเนี่ย ความเข้ากันได้ของเจ้า2ตัวนี้มันมีเยอะจนเกินเหตตุละนะ”โจวเหวินคิดซักพัก ถึงมันจะเลวยังไงแต่มันก็เป็นระดับเร้นลับที่ยังสามารถพัฒนาได้ต่อ ซึ่งมันอาจจะแกร่งมากๆในอนาคตก็ได้
“ดูเหมือนว่าสิงโตเกราะเวทก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับฉันอยู่แล้ว บางทีการเอามารวมร่างก็อาจจะมีประโยชน์ก็ได้ แบบ ลบลบเป็นบวกอย่างงี้ ถึงมันจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแต่มันก็คงไม่แย่ไปกว่านี้แล้วละ ไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี้”โจวเหวินเกิดความคิดว่าจะลอง เลยกดรวมร่างสิงโตเกราะเวทกับไข่ของจงฉี
ความเข้ากันได้93%นั้นเรียกได้ว่ามันไม่มีทางพลาดเลย ไข่ของจงฉีนั้นเป็นวัตถุดิบเสริมพลังชั้นเยี่ยม จากไข่มันกลายเป็นหมอกแล้วแทรกเข้าไปในร่างของสิงโตเกราะเวท การรวมร่างเสร็จสมบูรณ์สิงโตเกราะเวทไม่ได้เปลี่ยนหน้าตาไปเท่าไร แต่ความรู้สึกที่เห็นมันนั้นเปลี่ยนไปพอสมควรเลย
โจวเหวินเลยรีบเข้าไปดูค่าความสามารถ “ถ้าเกิดสกิลจอมบงการโดนเอาออกไปได้ก็คงจะดีซินะ
มารพยัคฆ์เกราะวิญญาณ ระดับเร้นลับ (สามารถพัฒนาได้
พลังชีวิต เลวทรามต่ำช้า
วิญญาณชีวิต วิญญาณมารพยัคฆ์
กรงล้อแห่งโชคชะตา ป่าเถื่อน
พลังง 81
ความเร็ว 81
ร่างกาย 81
พลังงานลมปราณ 81
สกิล เตาหลอมร้อยเหล็กไหล บุกทะลวง คำสาปหินเวทย์ คนสัตว์ขี่ผสานเป็น1 ปืนเจาะเกราะ ขี่มาร มารวารีปฐพีทลาย จอมบงการ
…. โจวเหวินอ่านค่าความสามารถแล้วงงแตกทันที ค่าความสามารถของมันนับว่าเป็นระดับดับสุดยอดแล้ว มันเป็นสัตว์อสูรที่เก่งขนาดที่มี8สกิล เป็นครั้ง+แรกที่โจวเหวินรวมร่างได้สกิลมาเยอะกว่านี้ แถมยังงมีโอกาสพัฒนาต่อไปได้ในอนาคตอีก แต่สกิลจอมบงการก็ยังอยู่ อันนี้โจวเหวินยอมรับได้ แต่สกิลมารวารีปฐพีทลายก็เสือกมาด้วยซะงั้น
“มีทั้งสกิลจอมบงการทั้งสกิลมารวารีปฐพีทลาย แบบนี้ฉันจะได้ตายก่อนได้ใช่งานมันไหมเนี่ย “ โจวเหวินตอนนี้เริ่มอยากจะทำลายสัตว์อสูรตัวนี้ทิ้งแล้ว
แต่ถึงอย่างนั้น พอโจวเหวินมานั่งคิดดูดีๆอีกที เขาก็เริ่มลังเล เพราะยังไงตั้งแต่อยู่กับเขามา สกิลจอมบงการนั้นไม่ได้มีผลอะไรกับเขา การมีสกิลมารวารีปฐพีทลายก็คงไม่ต่างอะไรกันเท่าไร
“ลองดูไปก่อนละกัน ถ้าไม่ไหวจริงๆค่อยไปหาวิธีฆ่ามันทิ้งทีหลัง” โจวเหวินคิดแบบนั้นก่อนจะเก็บมารพยัคฆ์เกราะวิญญาณกลับเข้าตัว แล้วก็เรียกเสือโชคดีออกมาเพื่อให้ดวงดีขึ้นมาบ้างเล็กน้อย ซึ่งหลังจากทำแบบนั้นแล้วโจวเหวินก็รู้สึกได้ว่าดวงของเขามันดีขึ้นจริงๆ เพราะยังไงตอนนี้โจวเหวินก็มีค่าดวง12แต้มเล้ว ถึงจะมีอะไรทำให้ดวงซวยมากมาย แต่อย่างน้อยไม่มีอะไรแย่ๆเกิดขึ้นก็ดีมากๆแล้ว
ตอนนี้วิญญาณชีวิตประกายดาวยากที่จะพัฒนายิ่งกว่าธุลีดาวซะอีก โจวเหวินเดินทางไปเรื่อยๆแล้วพบว่าถึงแม้ว่าประกายดาวจะเติบโตขึ้นก็จริง แต่มันเติบโตในแบบที่ช้ามากๆ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ไม่รู้ว่าต้องไปไหนมาไหนอีกกี่ที่กว่าที่มันจะพัฒนาเป็นขั้นสมบูรณ์
เส้นทางที่โจวเหวินเดินทางไปนั้นส่วนมากเป็นถนนที่มนุษย์ยังใช้งานอยู่หมดดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยจะได้เจอปัญหาอะไรมาก ทุกวันนี้โจวเหวินขี่วัวยักษ์ต้าเหว่ยแล้วออกเดินทางไปตามภูเขาสายลม พอตกดึกเขาก็ยังออกจากเขตภูเขาไม่ได้ เบื้องหน้าของเขานั้นมีเพียงแค่ภูเขาแล้วภูเขาเล่า ถนนนั้นเป็นเหมือนกับงูที่เลื้อยพันไปมาตามภูเขา
โจวเหวินเดินต่อไปแล้วพบว่ามีรถบรรทุกขนาดใหญ่มากมายจอดเรียงกันอยู่ตามถนนด้านหน้าของเขาเหมือนกับเป็นกองคาราวานขนส่งหรืออะไรซักอย่างแต่ไม่รู้ว่าพวกเขามาทำอะไรกันที่นี้ ปรกติแล้วกองคาราวานขนส่งนั้นจะจอดในที่ประจำทนั้น ปรกติมันไม่มีทางจอดกลางภูเขาในกลางดึกแบบนี้แน่ๆ
ด้านหลังของกองรถนั้น มีคนเฝ้ายามหลายๆคนที่สวมชุดทหารพอ พวกเขาเห็นวัวยักษ์ต้าเหว่ย พวกเขาก็พงะ ทหารหลายๆคนวิ่งมาจากกองพันแล้วยกปืนขึ้นเตรียมเล็งยิงที่วัวยักษ์
แต่พอพวกเขาเห็นโจวเหวินนั่งอยู่บนหลังวัวยักษ์ พวกเขาก็สบายใจขึ้นมาเปราะนึง แต่ก็ยังไม่ไว้วางใจ เล็งปืนไปที่พวกเขาต่อ “
“พวกเราคือกองขนส่ง คุณเป็นใครกัน”เจ้าหน้าที่ตะโกนหาโจวเหวินไกลๆ
“นักศึกษาของมหาลัยซีหยางครับ ผมกำลังจะกลับมหาลัย เกิดอะไรขึ้นที่นี้เหรอครับ”โจวเหวินไม่ได้วิ่งต่อ เขาให้วัวยักษ์หยุดตรงนั้นแล้วถาม
“ไม่รู้ว่าทำไมถนนปังฉางถึงถล่มลงมาซะอย่างงั้นเลย รถของเราขับผ่านต่อไปไม่ได้ตอนนี้เรากำลังหาวิธีแก้กันอยู่ ถ้าเกิดนายไม่มีสกิลบินละก็ แนะนำว่าให้เปลี่ยนเส้นทางไปต่อจะดีกว่านะ”เจ้าหน้าที่พูด
“ผมบินได้ครับ แต่ผมบินได้ไม่ไกล ขอผมดูสถานการณ์ตอนนี้หน่อยได้ไหมครับ”โจวเหวินพูด
เจ้าหน้าที่คุยกันไปมาก่อนจะพูด “ได้ มาได้แต่ต้องเอาสัตว์อสูรออกไปก่อน”
โจวเหวินเก็บวัวยักษ์ต้าเหว่ยแล้วเดินตรงเข้ามาพร้อมหยาเอ๋อในมือ
“เป็นนักศึกษามาเดินทางบนถนนในเวลากลางคืนมันก็อันตรายพอแล้ว ทำไมถึงมีเด็กทารกมาด้วยละ”เจ้าหน้าที่มองหยาเอ๋อในมือ
อาจจะเป็นเพราะว่าโจวเหวินอุ้มหยาเอ๋อมาด้วย เจ้าหน้าที่ทหารเลยยอมให้โจวเหวินผ่านเข้ามาได้
“โลกนี้มันโหดร้ายครับ ครอบครัวของเธอเสียไปแล้ว ผมเก็บเธอมาได้แล้วจะพาเธอกลับมหาลัยครับ”โจวเหวินพูด
ทหารเริ่มสงสาร บรรยากาศผ่อนคลายลงมากแล้ว
“โลกมันก็แบบนี้ละนะ”เจ้าหน้าที่ถอนหายใจแล้วหลีกทางให้
ถนนบนภูเขานั้นพังระเนระนาด คาดการณ์ว่ามีภูเขาพังนับ100เมตร เจ้าหน้าที่ระดับมหากาพย์ใช้สัตว์อสูรบินได้ค่อยๆเคลื่อนย้ายสัมภาระและรถข้ามไปทีละคัน แต่ถึงอย่างนั้น สัตว์อสูรบินได้ที่ยกของหนักๆได้นั้นมีแค่3ตัวเท่านั้น ทำให้ความเร็วในการขนส่งนั้นช้ามากๆ โจวเหวินมองถนนที่ถูกตัดขาดแล้วขมวดคิ้ว
ถนนบนภูเขานั้นถล่มลงมาแบบยับเยิน แถมยังมีร่องรอยของอะไรบางอย่างขนาดใหญ่บนภูเขาอีกด้วย โจวเหวินยมองมันซักพักแล้วพบว่ามันไม่เหมือนกับการที่หินถล่มตามธรรมชาติเท่าไรเลยมันไม่ได้เหมือนกับอะไรบางอย่างใหญ่ๆมาชนด้วย แต่มันเหมือนกับอะไรบางอย่างมากินภูเขาไปซะมากกว่า