I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง - ตอนที่ 867
กระจกหยินหยาง
โจวเหวินรู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายของเขานั้นมันขยับไม่ได้ และต้องเดินตามผู้วิเศษจิงเต้าไปยังสุสานปฐมกษัตริย์
ทุกการทำงานของร่างกายยังคงปกติดี เขาสามารถใช้สกิลทั้งหลายได้ปรกติ แต่ไม่รู้ว่าทำไม โจวเหวินถึงเดินตามผู้วิเศษจิงเต้าแบบห้ามไม่อยู่เลย
โจวเหวินไม่สามารถโจมตีมั่วได้ด้วย อันดับแรกเขาต้องสังเกตุการณ์กระจกนั้นก่อนว่ามันทำอะไรได้โดยใช้พลังของสดับวานร แล้วโจวเหวินก็พบว่า บนกระจกนั้นมีเงาของเขากับหลิวหยุนอยู่ด้วย
ปัญหาก็คือ ตอนนี้ตอนนี้ผู้วิเศษจิงเต้าเดินหันหน้าออกห่างจากตัวของเขา มันเป็นไปไม่ได้ที่กระจกโบราณนั้นจะมีเงาของพวกเขาอยู่ แล้วมันมีเงาของพวกเขาได้ยังไงกัน
หลิวหยุนที่โดนลากกลับมานั้นรวบรวมพลังไว้เต็มที่ พร้อมจะปล่อยตลอดเวลา แต่เขาก็ลังเลหลายครั้งไม่กล้าโจมตีผู้วิเศษจิ้งเต้า
ถึงแม้ว่าผู้วิเศษจิงเต้าจะหันหน้าออกห่างพวกเขา แต่คนๆนั้นยังไงก็คือผู้วิเศษจิงเต้าอยู่ดี สำหรับหลิวหยุนแล้วเขาคิดว่าการลอบโจมตีผู้วิเศษจิงเต้านั้นไม่ใช่เรื่องที่ควรเอาซะเลย
โจวเหวินเองก็ไม่ได้โจมตีแต่อย่างใด แต่เขาแอบลองใช้วิชาลมปราณต่างๆพยายามหาทางแก้ ลองเปลี่ยนวิญญาณชีวิตเพื่อให้หลุดจากการควบคุมของกระจกโบราณ
ถ้าเกิดไม่สามารถหลุดจากการควบคุมของกระจกแล้วไปโจมตีผู้วิเศษจิงเต้าเข้าละก็ ตัวพวกเขาที่โดนควบคุมอยู่ยังไงก็เสียเปรียบมากๆ
ความสามารถของวิญญาณชีวิตที่สามารถล้างคำสาปก็ไม่มีผล เพราะดูเหมือนกระจกโบราณนั้นจะไม่ใช่คำสาป โจวเหวินลองใช้ไท่ฉางไค่เทียนจิงดูก็แล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถหลุดจากการควบคุมได้
“ไม่ใช่คำสาป แล้วมันคืออะไรกันละ”โจวเหวินทันใดนั้นก็รู้สึกได้ถึงปัญหา
หยาเอ๋อที่อยู่ในมือของโจวเหวินนั้น ไม่ได้มีสะท้อนอยู่ในเงาของกระจก
“ทำไมถึงไม่มีเงาของหยาเอ๋อละ หรือว่าผู้วิเศษจิงเต้าไม่ได้ต้องการหยาเอ๋อตั้งแต่แรก หรือว่าหยาเอ๋อเป็นคนพิเศษที่กระจกโบราณทำอะไรเธอไม่ได้กันแน่ ถ้ามันเป็นเพราะว่าหยาเอ๋อเป็นคนพิเศษ บางทีเธออาจจะช่วยเราได้ก็ได้”โจวเหวินคิดมาซักพักใหญ่ๆพยายามหาจุดแตกต่างระหว่างหยาเอ๋อกับตัวเขาเอง มันอาจจะเป็นเพราะว่าจริงๆแล้วหยาเอ๋อเคยตายมาแล้วครั้งนึงแล้วไม่ได้นับเป็นมนุษย์อีกต่อไปแล้วก็ได้
โจวเหวินคิดซักพักก่อนจะลองเปลี่ยนวิชาลมปราณมาเป็นจุลปรัชญาดู เขาอยากจะลองดูว่าวิญญาณชีวิตราชานรกนั้นจะสามารถเอาชนะการควบคุมของกระจกโบราณได้มากน้อยแค่ไหน แต่สุดท้ายผลที่ออกมาก็เปล่าประโยชน์ แต่ถึงอย่างนั้น หลังจากที่โจวเหวินเปิดใช้ราชานรกแล้วมองไปที่ผู้วิเศษจิงเต้า โจวเหวินก็ผงะทันที
เขาแทบไม่เชื่อสายตาจนอยากจะขยี้ตาด้วยซ้ำ เขามองดูแล้วมองดูอีก แต่ก็แหมือนเดิม บนร่างของผู้วิเศษจิงเต้านั้นไม่มีเปลวเพลิงแห่งบาปอยู่เลยแม้แต่น้อย โจวเหวินมองมนุษย์มาแล้วนับไม่ถ้วน เขาไม่เคยเจอมนุษย์คนไหนที่ไม่มีไฟแห่งบาปเลย แต่บนตัวของผู้วิเศษจิงเต้านั้น ไม่มีแม้แต่ประกายไฟแห่งบาปซะด้วยซ้ำ
“เป็นไปไม่ได้หน่ะ ยิ่งคนทำเลวมากเท่าไร เปลวเพลิงแห่งบาปก็จะลุกท่วมมากเท่านั้น ผู้วิเศษจิงเต้าเป็นถึงจอมมารของรัฐบาลกลาง เขาฆ่าคนไปมหาศาล ทำเลวทรามนับไม่ถ้วน ทำไมไม่มีบาปเลยละ อะไรคือไฟแห่งบาปกันแน่ๆ อย่าว่าแต่การที่เขาเป็นจอมมารเลย แม้แต่คนธรรมดาที่ไม่ค่อยได้ทำเลวอะไรยังมีไฟแห่งบาปเลย มันไม่มีทางเป็นไปได้ด้วยซ้ำที่เขาจะไม่มีไฟนั้น…. หรือว่ามันจะมีวิธีขจัดไฟแห่งบาปได้แต่ ฉันยังไม่รู้กันนะ” โจวเหวินคิด
พลังของราชานรกนั้นไร้ผล โจวเหวินเลยได้แต่ลองหาทางอื่น เขาลองแปลี่ยนวิชาลมปราณไปเรื่อยๆลองหาวิธีใหม่ๆแต่ก็ยังหลุดออกจากการควบคุมไม่ได้
หลิวหยุนเองก็ลองหาวิธีมากมายเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็เป็นเหมือนเดิมตอนที่พวกเขามาถึงหน้าสุสานปฐมจักรพรรดิ พวกเขาก็ยังคงขยับร่างกายไม่ได้อยู่ดี
ผู้วิเศษจิงเต้านั้นหยุดลงก่อนจะเขย่ากระจกทำให้ทั้ง2คนขยับตัวได้อีกครั้งก่อนที่ผู้วิเศษจิงเต้าจะยิ้มแล้วพูด “กระจกโบราณนี้มีชื่อว่ากระจกหยินหยาง พวกนายคงไม่เคยได้ยินชื่อของมันหรอก แต่ในสมัยโบราณ กระจกหยินหยางนั้นเป็นเครื่องมือของเทพสวรรค์เพื่อใช้ขจัดวิญญาณ ที่ฉันทำก็แค่ใช้มันผนึกวิญญาณของพวกนายไว้ ถ้านายตามฉันมาทำตามเงื่อนไขให้สำเร็จ พวกนายก็จะเป็นอิสระแต่เอาจริงๆพวกนายจะเลือกขัดขืนไม่ไปก็ได้ แต่วิญญาณของพวกนายก็จะโดนผนึกอยู่ในกระจกหยินหยางไปเรื่อยๆจนกระทั้งวิญญาณนั้นสลายไปในที่สุด”
“แล้วจะเกิดอะไรขึ้นละถ้าวิญญาณของพวกเราสลายไป
“ก็ถ้าจะให้พูดง่ายๆ กระจกหยินหยางนั้นจะเป็นการกักขังวิญญาณ1ใน3ของมนุษย์เฉยๆ ถึงจะเสียวิญญาณส่วนนั้นไป มันก็ไม่มีปัญหาเพราะอีก2ส่วนก็ยังอยู่ มันไม่ได้ทำความเสียหายกับร่างกายแต่อย่างใด แต่ในทางจิตใจ จะเรียกว่าเสียสติไปเลยก็ได้นะ”ผู้วิเศษจิงเต้าพูดแล้วยิ้ม
หลิวหยุนกับโจวเหวินมองหน้ากันเอง โจวเหวินรู้ดีว่าผู้วิเศษจิงเต้านั้นไม่ใช่พวกเก่งแต่ปากแน่ๆ เงาภายในกระจกหยินหยางนั้นไม่ได้จู่ๆก็เกิดขึ้นมาแน่ๆ มันคือวิญญาณของพวกเขาที่โดนกักขังในนั้นจริงๆ
หลิวหยุนคิดอะไรขึ้นมาได้บางอย่างก่อนจะถามออกไป “หรือว่ากระจกหยินหยางนั้นจะเปนสมบัติล้ำค่าจากสงครามฉางโจวในตำนานกัน”
“รู้ดีเหมือนกันนี้ แต่มันไม่ใช่สมบัติหรอก มันเป็นแค่สัตว์อสูรระดับเร้นลับเท่านั้นละ หรือจะให้พูดใหม่ก็คือ มันเป็นสัตว์อสูรที่เหนือกว่าระดับเร้นลับปรกติอยู่นิดหน่อยนะ”ผู้วิเศษจิงเต้าพูด
“สัตว์อสูรระดับความกลัวงงั้นเหรอ”โจวเหวินมองกระจกหยินหยาง
ผู้วิเศษจิงเต้าหลี่ตามอง “แม้แต่เรื่องระดับความกลัวก็รู้ด้วยอย่างงั้นเหรอ หึหึ ใช่แล้วละ กระจกหยินหยางนั้นเป็นระดับความกลัว ถ้าฉันอยากจะฆ่าพวกนาย แค่คิดฉันก็ฆ่าได้แล้ว แต่พวกนายไม่ต้องกังวลไปหรอกนะว่าจะเป็นแบบนั้น เพราะในเมื่อฉันฆ่าพวกนายได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว ฉันก็คงไม่หลอกพวกนายมาที่สุสานนี้หรอก พวกนายจะได้รับอิสระตราบใดก็ตามที่ช่วยฉันเข้าไปในนั้น แล้วของในสุสานนั้นฉันต้องการแค่อย่างเดียวเท่านั้น ที่เหลือจะเอาอะไรก็เอาไปเลย”
“ยังไงเราก็ขัดขืนไม่ได้นี้ อยากทำอะไรก็เอาเลย”หลิวหยุนพูด
โจวเหวินไม่ได้พูดอะไร เพราะมันต้องเป็นแบบนั้น
แต่เขาเองก็ยังคิดในใจ “ถ้ากระจกหยินหยางเป็นสัตว์อสูรแล้วสามารถเลื่อนขั้นไปเป็นระดับความกลัวได้ ถ้าอย่างนั้นสัตว์อสูรที่สามารถพัฒนาต่อได้อย่างเช่นมังกรเทียนเองก็น่าจะพัฒนาไปถึงระดับความกลัวได้เหมือนกัน แต่จะว่าไปแล้วจะพัฒนาต่อไปยังไงละเนี่ย”
โจวเหวินจำคำที่จักรพรรดินีพูดไว้ได้ ว่ามีแค่ระดับความกลัวเท่านั้นที่จะเอาชนะระดับความกลัวด้วยกันได้ ถึงแม้ว่าเขาจะมีสัตว์อสูรอยู่มากมายแต่มันไม่มีถึงขั้นนั้นซักตัว การจะเอาชนะกระจกหยินหยางได้นั้นคงไม่ง่ายเลย
“ตอนนี้มันหาทางพัฒนาไประดับความกลัวไม่ทันแล้ว มันจะมีทางอื่นไหมเนี่ยที่จะรอดพ้นจากกระจกหยินหยางแล้วฆ่าผู้วิเศษจิงเต้าได้เลย”โจวเหวินคิด
ผู้วิเศษจิงเต้านั้นเคยบาดเจ็บสาหัสมาก่อน แม้แต่ตัวเขาเองยังบอกเลยว่าร่างกายของเขานั้นไม่ได้แข็งแรงเหมือนแต่ก่อน หากไม่มีปัจจัยจากภายนอกช่วย เขาก็คงอยู่ได้อีกไม่นาน
“เอาละ เรียกอสูรปฐพีออกมาแล้วพาพวกเราเข้าไปข้างในได้แล้ว จะได้ไม่มีใครตายกัน”ผู้วิเศษจิงเต้าพูด