I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง - ตอนที่ 889
ดาบ3เทพ
“อดทนไว้ อดทน…”ชูไอตาขวางพยายามข่มจิตสังหารที่เกิดขึ้นในใจ ที่นี้คือที่รัฐบาลกลาง ชูไอกำลังปฏิบัติภารกิจลับอยู่ เธอห้ามเผยตัวตนออกมาเด็ดขาด เพราะงั้นเธอเลยพยามยามข่มตัวเองอย่างสุดแรง
“จะกลับม.กันเลยไหม”โจวเหวินถามกรีฟกับคนอื่นๆ
“กลับซิ ไปพร้อมกันเลย”หลายๆคนกลับมหาลัยไปพร้อมๆกัน
หน่วยข่าวกรองของอันหลานหยางก็ทำงานกันดีมากทันทีที่โจวเหวินกลับมาถึงมหาลัย เธอก็โทรมาหาโจวเหวินทันทีแล้วถามโจวเหวินนัดมากินข้าวเย็นกันคืนนี้
ซึ่งโจวเหวินก็ตกลง เขาไม่ได้เจอหน้าพ่อกับแม่เลี้ยงของตัวเองมานานมากๆแล้ว การได้มาเจอมากินข้าวพูดคุยกันก็ดี
เขาเลยสวมเสื้อผ้าใหม่ๆให้หยาเอ๋อก่อนจะพาหยาเอ๋อไปที่คฤหาสต์ตระกูลอัน
หลังจากที่มาถึงแล้วโจวเหวินก็พบว่าโจวหลิวเฟิงพ่อของเขานั้นไม่อยู่ แต่คนที่อยู่กับอันหลานหยางนั้น คือหญิงสาวที่อายุอยู่ประมาณ 17-20ปี
หญิงสาวคนนั้นแท้จริงแล้วคืออุเอะซึกินาโอะทที่ปลอมตัวเป็นชูไอ พอเธอเห็นหน้าของโจวเหวินกับหยาเอ๋อแล้วเธอก็ตะลึงเล็กน้อยทันที เธอจำได้ว่าโจวเหวินนี้ละคือชายที่บอกว่ามารสวรรค์อ่อนวันนี้
“เข้ามาซิโจวเหวิน ฉันจะแนะนำให้รู้จัก เธอคนนี้คือชูไอ”อันหลานหยางพาโจวเหวินมานั่งลงข้างๆ
อันหลานหยางนั้นไม่ได้ให้โจวเหวินนั่งข้างๆชูไอเพราะว่าเธอรู้จักโจวเหวินดี เธอรู้ว่าโจวเหวินนั้นไม่ใช่คนที่เก่งเรื่องคุยกับผู้หญิง ไม่ซิ จะไม่คุยกับผู้หญิงเลยด้วยซ้ำ ถึงจะเอาเขาไปนั่งข้างๆ ชูไอ เขาก็จะไม่คุยอะไรอีกเลย
“หนูไอ เด็กคนนี้คือหยาเอ๋อ เป็นเด็กกำพร้าที่โจวเหวินรับมาเลี้ยงไว้ ถึงหน้าตาโจวเหวินจะดูเย็นชาแต่เขาก็เป็นคนเอาใจใส่มากๆนะ”อันหลายหยางอธิบายความเป็นมาของหยาเอ๋อแล้วก็อวยโจวเหวิน
“ในโลกที่คนส่วนมากเห็นแก่ตัวกัน คนที่ใจดีแบบนี้หายากนะคะ”ชูไอพูดด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ
“ใช่แล้วละ โจวเหวินน่ะไม่ใช่เป็นคนที่ใจดีอย่างเดียวนะ ยังมีพรสวรรค์อีกด้วย เรียนรู้อะไรแปปเดียวก็เป็นแล้วละ…”อันหลานหยางพยายามโม้โจวเหวินจนโจวเหวินแค่ฟังก็แอบเขิน
“โจวเหวิน ฉันได้ยินมาว่าพรสวรรค์ของเธอมันสูงมากจนสามารถปะทะได้กับ6ตระกูลเลย ช่วยสอนฉันบ้างหน่อยจะได้ไหม”ชูไอหันไปหาโจวเหวินแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม
“ฉันไม่…”โจวเหวินยังพูดไม่จบแต่เขาโดนอันหลานหยางขัดก่อนที่เขาจะพูดจบซะอีก
แค่ฟังจากประโยคแรกของโจวเหวิน อันหลานหยางก็รู้ได้ทันทีเลยว่าโจวเหวินจะตอบว่าไม่มีเวลาแน่นอน เธอรู้ดีมากๆ เพราะงั้นเธอเลยตอบแทน “โจวเหวินเขาได้อยู่แล้วละ แต่ยังไงก็เถอะ หลังจากกินเสร็จแล้วพวกเธอไปเดินเล่นกันเองก็ได้นะ ถ้าหนูไอมีอะไรสงสัยละก็ ถามโจวเหวินได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจ”
อันหลานหยางคิดว่าในที่สุดก็มีผู้หญิงที่ไม่กลัวโจวเหวินแถมยังคิดจะเข้าหาโจวเหวินด้วย อันหลานหยางคิดว่านี้เป็นโอกาสที่ไม่ควรจะปล่อยให้หลุดมือ เพราะเธอเองก็กลัวว่าคนอย่างโจวเหวินนั้นจะขึ้นคานหาแฟนไม่ได้ในอนาคต
“หยาเอ๋อ เดี๋ยวฉันพาไปเล่นด้วยนะโอเคไหม” หลังจากกินข้าวกันเสร็จแล้วอันหลานหยางอยากจะพาหยาเอ๋อไปเล่นด้วยก่อนเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนหนุ่มสาวคุยกันเป็นก้างขวางคอ
แต่หยาเอ๋อกลับเบี่ยงหน้าแล้วเอาหน้าเล็กๆของะเธออิงแอบลงบนไหล่ของโจวเหวินไม่สนใจอันหลานหยางแม้แต่น้อย
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมดูแลเธอเอง ดูเหมือนเธอจะกลัวๆน่ะครับ”โจวเหวินพูด
“ตามใจเด็กแบบนี้มันไม่ดีนะ”อันหลานหยางไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ถึงเธอจะไม่เห็นด้วย แต่เธอก็ไม่ใจร้ายพอจะแย่งหยาเอ๋อไปจากโจวเหวินหรอก
“ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ หนูชอบเด็กค่ะ เดี๋ยวหนูดูแลเธอให้เองนะคะ”ชูไอพูด
โจวเหวินกับชูไอออกจากห้องอาหารไปพร้อมๆกัน จากนั้นชูไอก็เห็นโจวเหวินไม่พูดอะไร เธอเลยพูด “โจวเหวิน ฉันอยากจะให้นายช่วยฉันฝึกหน่อยหน่ะ ถ้าสะดวกเราไปที่สนามซ้อมกันดีไหม”
“ได้ซิ”โจวเหวินตอบกลับมาง่ายๆ ต่อหน้าอันหลานหยาง เขาปฏิเสธอะไรไม่ได้อยู่แล้ว เขาเลยได้แต่ตกลง
ชูไอพอเห็นว่าโจวเหวินรับปากแล้วสายตาของเธอก็เจ้าเล่ห์ขึ้นมาแล้วคิด “วันนี้ละที่นายจะได้รู้ว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงมันเป็นยังไง กล้าดียังไงมาบอกว่ามารสวรรค์อ่อน คอยดูละกันว่าใครจะอ่อนกันแน่”
เหตุผลที่ว่าทำไมเธอถึงบอกให้โจวเหวินไปฝึกด้วยนั้น ไม่ใช่เพราะเธออยากจะสานสัมพันธ์ของเธอกับโจวเหวินแม้แต่น้อย
เป้าหมายของนาโอะในการมาครั้งนี้ไม่ใช่โจวเหวินแต่เป็นงานวิจัยและอาวุธลมปราณรูปแบบใหม่ที่ตระกูลอันกำลังพัฒนาอยู่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับโจวเหวินเลย เธอไม่จำเป็นต้องเข้าหาโจวเหวินเลยด้วย
ถ้ามันไม่ได้เป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นที่ลูกบาศก์ เรื่องที่โจวเหวินพูดวิจารย์มารสวรรค์ว่ากากกระจอกนั้นทำให้เธอหัวร้อนมาก ถ้าไม่เกิดเรื่องนั้นขึ้นนาโอะจริงๆแล้วก็จะนั่งกินข้างกับอันหลานหยางอย่างสุภาพแล้วคุยกับโจวเหวินอย่างเป็นมิตรล้วนๆ เธอจะไม่ชวนโจวเหวินออกมาเลยแม้แต่น้อย
ส่วนในความคิดของโจวเหวินนั่นมันง่ายกว่ามากๆ เขาไม่สนใจอะไรในตัวของชูไอเลยแม้แต่น้อย ที่เขาทำทั้งหมดนั้นก็เพื่อรักษาหน้าของอันหลานหยางเอาไว้ ในหัวของเขานั้นเขายังกำลังหาทางรับมือกับชายแก่ที่กำลังไล่ตามหลังเขามาติดๆอยู่เลย ไม่มีเวลาไปคิดเรื่องอื่นแน่ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะอันหลานหยางป่านนี้เขาคงกลับหอไปเล่นเกมส์แล้ว
ในเมื่อความคิดของทั้งคู่ไม่ตรงกัน แต่สุดท้ายพวกเขาก็มาถึงสนามซ้อมจนได้
ชูไอไม่ได้อยากให้คนอื่นเห็นเธอจึงเช่าห้องซ้อมส่วนตัวมาใช้
“มีอะไรอยากจะให้ฉันช่วยสอนเหรอ”โจวเหวินมองชูไอแล้วถาม
คำพูดนั้นดังเข้าหูชูไอแล้วทำให้เธอหงุดหงิดกว่าเดิม “คิดว่าตัวเองเก่งมากนักซินะถึงจะมาสอนฉันได้ เดี๋ยวนายนั่นละจะได้รู้ว่าใครสอนใครกันแน่”
ชูไอหน้าตายังคงยิ้มแย้มแจ่มใสถึงจะคิดแบบนั้น แล้วเธอก็พูดออกมา “นายรู้เรื่องวิชาดาบรึเปล่า ช่วงนี้ฉันฝึกวิชาดาบอยู่น่ะ แล้วฉันมีปัญหานิดหน่อย นายพอจะช่วยฉันบ้างได้ไหมอะ ช่วยดูให้หน่อยว่าฉันพลาดอะไรตรงไหนไหม”
“เข้าใจละ งั้นลองสาธิตวิชาดาบให้ดูหน่อย แล้วเดี๋ยวฉันจะลองหาให้”โจวเหวินพูดจริงจัง
เขาไม่รู้เลยว่าชูไอนั้นวางแผนมาดีมากๆแล้ว เขาคิดแค่ว่าชูไอคงมาขอให้เขาช่วยจริงๆ ซึ่งที่เขาช่วยนั้นก็เพราะว่าอันหลานหยางล้วนๆเช่นกัน
“ได้เลยงั้นฉันเริ่มละนะ ช่วยฉันดูด้วยละว่าพลาดตรงไหน มีอะไรบอกกันได้เลยไม่ต้องคิดมากนะ”ชูไอพูดแล้วดึงดาบซ้อมออกมา จากนั้นก็มายืนกลางสนามซ้อม
แน่นอนว่าเธอไม่ได้อยากให้โจวเหวินสอนเธอจริงๆหรอก วิชาดาบที่เธอกำลังจะใช้นั้น มันเป็นวิชาดาบที่ไร้ซึ่งจุดบกพร่องไม่พอ มันยังหายากมากๆด้วย
มันเป็นวิชาเพลงดาบที่ชื่อว่าดาบ3เทพ เป็นวิชาดาบที่นาโอะได้มาจากพื้นที่ต่างมิติลึกลับในต่างแดน เธอเป็นคนเดียวที่ล่วงรู้วิชานี้ และเธอไม่เคยแสดงให้คนภายนอกเห็นที่ไหนมาก่อนเลย
ตอนนี้เธอเริ่มร่ายรำและเริ่มใช้ดาบในมือตวัดฟันไปมาเกิดเป็นพลังงานประหลาด มันดูเหมือนเป็นการฟันดาบมั่วๆก็จริงแต่มันก็มีพลังมากๆ
ตอนที่นาโอะได้วิชานี้มา เธอฝึกหนักมาก ฝึกหนักมานานกว่า1ปีเต็มจนกระทั้งเธอได้สำเร็จวิชาดาบ3เทพแล้วเข้าใจถึงแก่นแท้เจตจำนงของดาบ3เทพในที่สุด