I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง - ตอนที่ 910
สิ่งมีชีวิตหลุดจองจำ
โจวเหวินมองไปรอบๆแล้วก็ยังไม่พบสิ่งมีชีวิตหลุดจองจำที่ว่า ทุกอย่างที่อยู่ในถ้ำนี้มีแค่ไข่ใบใหญ่ที่อยู่ใจกลางของถ้ำเพียงเท่านั้น
“บ้าเอ้ย บ้าจริงเชียว ถ้ารู้งี้ฉันน่าจะเข้ามาเอาไข่คนเดียวแท้ๆ มูลค่าของไข่ใบนี้มันมากมายกว่าผงเวทมนตร์เป็นล้านเท่าเลย”พิด้าพูดอย่างเสียดาย
แต่โจวเหวินไม่พูดอะไร เขาเดินตรงไปที่ไข่ เพราะว่าสิ่งมีชีวิตต่างมิติที่อยู่ในไข่นั้นยังไม่เกิดออกมาทำให้มันไม่มีอันตรายใดๆ
เขาเดินเข้าไปที่ไข่ ก่อนจะใช้มืออุ้มไข่ขึ้นมา น้ำหนักของไข่นั้นมันหนักกว่าหินที่ขนาดเท่ากันอีก ถึงแม้ว่าไข่จะขนาดไม่ใหญ่มาก แต่น้ำหนักของมันค่อนข้างน่ากลัวทีเดียวถ้าไม่ใช่เป็นเพราะว่าโจวเหวินมีแรงมากพอละก็ เขาเองก็คงจะยกไม่ไหวแน่ๆ
ตอนที่โจวเหวินยกไข่ขึ้นมานั้นเอง จู่ๆเขาก็เห็นรอยแยกของมิติกำลังฉีกขาดออกมาข้างๆ เป็นสัญญาณของการข้ามมิติระยะไกลที่กำลังจะมาโผล่ตรงนี้
จากนั้นโจวเหวินก็เห็น สิ่งมีชีวิตต่างมิติคล้ายๆกับม้ายูนิคอร์นพุ่งทะลุรอยแยกออกมา ตัวของมันถูกห่อหุ้มไปด้วยหินผลึกสีสว่างและมันก็คำรามใส่โจวเหวินกรงเล็บของมันคมกริบทะลุช่องว่างมิติ กรงเล็บนั้นไม่ได้ฟันโจวเหวินโดยตรงแต่มันฟันจนมิติที่อยู่ด้านหน้าของโจวเหวินฉีกใกล้เข้ามา
ในพริบตาเดียวกันนั้น โจวเหวินก็เก็บไข่เข้าไปไว้ในห้วงมิติแห่งความว่างเปล่า ก่อนที่จะเบี่ยงตัวหลบการโจมตีอย่างไว และในขณะเดียวกันนั้นเอง เขาก็อัญเชิญเบม่อนออกมารับการโจมตีของม้าตัวนั้น
ตู้ม!!!
แรงกระแทกของทั้ง2ตัวทำให้เกิดการระเบิดของอากาศภายในถ้ำ ส่งผลให้น้ำทะเลจำนวนมากทะลักเข้ามาจากเพดานถ้ำที่แตก เผยให้เห็นว่าแท้จริงแล้วถ้ำนี้มันอยู่ใต้ทะเลนั้นเอง
คนบนเกาะจำนวนหนึ่งเองก็ได้ยินเสียงกระแทกอย่างแรงและเห็นน้ำที่ระเบิดออกมาเป็นเสาสูงประมาณ10เมตรไม่ไกลจากเกาะ ทันใดนั้นพวกเขารับรู้ได้ทันทีว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นที่นั้นแน่ๆ
ตอนที่มองอยู่นั้นเอง เขาก็เห็นคนๆนึงพุ่งขึ้นมาจากน้ำ คนแรกคือโจวเหวินที่อุ้มเด็กติดมือมาด้วย จากนั้นก็ตามมาด้วยเบม่อนแล้วสิ่งมีชีวิตหลุดจองจำ
สิ่งมีชีวิตหลุดจองจำตัวนั้นพุ่งเข้าใส่โจวเหวินอย่างบ้าคลั่ง และเบม่อนก็เหวี่ยงหมัดเพื่อเข้ารับการโจมตี แต่เบม่อนนั้นยังไม่ทันได้แตะตัวของสิ่งมีชีวิตหลุดจองจำเลย จู่ๆมันก็หายวับไปทันที แล้วปรากฏตัวอีกทีเหนือหัวของโจวเหวิน เกือบจะแตะหัวของโจวเหวินได้อยู่แล้ว
โจวเหวินวาปหลีกออกมาทันที แล้วปล่อยให้การโจมตีของสิ่งมีชีวิตหลุดจองจำนั้นพุ่งผ่านตัวเขาไป
เบม่อนพยายามไล่ตามสิ่งมีชีวิตหลุดจองแต่โชคร้ายที่ความเร็วมันคนละเรื่องกันเลย ทุกๆครั้งที่จะไล่ตามทัน สิ่งมีชีวิตหลุดจองจำจะวาปหนีออกไปตามไล่โจวเหวินอีกรอบ แต่รอบนี้มันวาปเข้าใส่โจวเหวินตอนที่โจวเหวินกำลังจะออกจากวาปพอดีเป๊ะ
ถ้าโจวเหวินไม่ได้มีกระบวนท่าหลบหลีกหรือการตอบสนองที่ดีพอละก็ ช่วงจังหวะเพียงแวบเดียวตัวของเขาอาจจะขาดครึ่งไปแล้วก็ได้
โจวเหวินใส่เกราะเกล็ดมังกรในมือถือตรีสูญเทพสงครามทองคำ เขาใช้ตรีสูญเข้ารับการโจมตีของมันแบบระยะเผาขน
เพล้ง
กรงเล็บของมันทำลายตรีสูญจนสิ้นซาก ถึงโจวเหวินจะใช้โอกาสนี้ในการหนีฉีกออกมา แต่ตรีสูญแตกไปแล้วยังไงก็ไม่รอด
“เชี่ยเอ้ย ตรีสูญที่เคยฟาร์มมาหมดแล้วด้วย”โจวเหวินเริ่มเครียด เขาเคยคิดว่าตรีสูญเทพสงครามทองคำนั้นเขาฟาร์มมาได้เยอะเกินไป แต่ตอนนี้เขากลับพบว่ามีเยอะเท่าไรมันก็ไม่น่าพอ
การโจมตีที่รุนแรงจนน่ากลัวนั้นทำให้โจวเหวินถึงกับตกใจ ถ้าเขามองไม่ผิด เจ้าตัวนี้มีความสามารถในด้านกรงเล็บผ่ามิติ ดาบปรกติถึงจะเป็นระดับเร้นลับแต่ถ้าโดนผ่ามิติเข้าไป ยังไงก็ไม่รอด ไม่งั้นตรีสูญเองก็คงไม่พังง่ายๆเหมือนกัน
“ต่อไปเราคงต้องหาทางอาวุธเพิ่มแล้วละ ไม่งั้นถ้าเจอกับอะไรแบบนี้อีก เราไม่มีทางมั่นใจได้เลยว่าอาวุธเราจะไม่แตกไปซะก่อน”โจวเหวินคิดในใจ เขาหลบการโจมตีได้มากมาย และยังไม่กล้าที่จะสวนกลับใดๆ
“โจวเหวิน ถ้าไม่ไหวก็ถอยออกมาเลย”ฉางเสี่ยวนำทีมกระเรียนขาวตรงเข้ามา
“กำลังต้องการพอดีเลย ฝากจัดการด้วยนะ”โจวเหวินวาปตัวเอง ออกมาก่อนจะไปโผล่ด้านหลังฝูงกระเรียน
ทันทีที่ฉางเสี่ยวสั่งการ ตระกูลฉางๆหลายๆคนหลังกระเรียนก็เริ่มร่ายอาคมเวทขึ้นมาพร้อมกัน ขนาดของเขตอาคมนั้นใหญ่มาก ทันใดนั้นเอง เกิดเป็นเหมือนโดมเขตอาคมขึ้นมาคลุมทั้งท้องฟ้าและขังสิ่งมีชีวิตหลุดจองจำไว้ในนั้น
ลำแสงปริศนาส่องแสงขึ้นมาจากอักษรอาคม ผูกโยงกันไปมาจนกลายเป็นเหมือนร่างแหพลังวิญญาณ จับตัวของสิ่งมีชีวิตหลุดจองจำที่อยู่ด้านใน
ถึงสิ่งมีชีวิตหลุดจองจำจะใช้วาปได้ แต่มันก็ยังไม่หลุดจากตาข่ายวิญญาณ มันวาปไปพร้อมๆกับตาข่าย และปรากฏออกมาก็ยังมีตาข่ายติดอยู่ที่ตัว
ฉางเสี่ยวนำทีมกระเรียนขาวร่างอาคมลมปราณกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขตอาคมวิญญาณนั้นแกร่งขึ้นและแกร่งขึ้น สิ่งมีชีวิตหลุดจองจำนั้นร้องตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวดมาก พยายามจะฉีกกระชากตาข่ายที่คลุมมันเองอยู่แต่ก็ทำไม่ได้ผล
ตาข่ายวิญญาณนั้นดูเหมือนไม่ใช่ตาข่ายแต่ดูเป็นเหมือนรอยสักที่สลักลงไปบนตัวของสิ่งมีชีวิตหลุดจองจำ ไม่ว่ามันจะดิ้นแค่ไหนมันก็ไม่มีวันหลุดออกมาได้แน่นอน
“ตระกูลฉางนี้สุดยอดจริงๆ สกิลนั้นผสานพลังของคนหลายคน หลากหลายสกิลเข้าไป1จนอานุภาพของมันรุนแรงมากๆเลย”โจวเหวินรู้สึกเปิดหูเปิดตาขึ้นมาทันที เขาไม่เคยเห็นสกิลขนาดใหญ่แบบนั้นมาก่อนเลย
แต่ฉางเสี่ยวก็พูดสวนขึ้นมา “ก็ไม่แปลกหรอก คนนอกอย่างนายไม่มีวันได้รู้ความลับของตระกูลฉางอยู่แล้ว”
โจวเหวินไม่พูดอะไรตอบ เขามองตระกูลฉางสู้กับสิ่งมีชีวิตหลุดจองจำต่อไป
ตระกูลเสี่ยกับเหล่านักล่าอิสระคนอื่นๆก็มองดูอยู่ แต่ด้วยความที่ตระกูลฉางเข้าไปสู้อยู่ทำให้พวกเขาเข้าไปแทรกแซงด้วยยาก
การจะไปมีเรื่องกับตระกูลฉางเพื่อแย่งสิ่งมีชีวิตหลุดจองจำกับผงเวทมนตร์มานั้นสำหรับคนส่วนมากมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
แต่ถึงอย่างนั้นทุกคนตอนนี้กำลังอดทนรอกันอยู่ ถ้าเกิดตระกูลฉางล้มสิ่งมีชีวิตหลุดจองจำตัวนั้นไม่ได้จริงๆแล้วพ่ายแพ้สูญเสีย พวกเขาก็จะสามารถเข้าเสียบต่อได้ทันที
ในขณะที่ฝูงชนกำลังดูตระกูลฉางสู้อยู่นั้น จู่ๆก็มีคนๆหนึ่งรีบวิ่งไปตรงที่ปากปล่องภูเขาไฟก่อนจะมองลงไปแล้วค่อยๆปีนลงไปยังภูเขาไฟ
ชายคนนั้นลงไปถึงก้นปล่องข้างบ่อลาวาอย่างไว คนๆนั้นคือพิด้าที่พาโจวเหวินไปหาสิ่งมีชีวิตหลุดจองจำนั้นเอง
“ไอ้พวกโง่ อยากสู้ก็สู้กันไปเลยนะ ขอบใจนะที่ล่อไปให้ แบบนี้ฉันจะได้เอาของที่อยากได้ซักที”พิด้าคิดก่อนจะอัญเชิญสัตว์อสูรเต่าเหล็กทมิฬออกมา ก่อนจะเปลี่ยนร่างมันกลายเป็นชุดเกราะเต็มตัว เตรียมเดินเข้าไปในบ่อลาวา
“ตามที่เราตกลงกันไว้ ทุกๆอย่างนอกจากผงเวทมนตร์ส่วนนึงจะเป็นของฉันทั้งหมดไม่ใช่เหรอ อยากโดนเจ้าเด็กคนนี้แดกรึไง” พิด้ากำลังจะลงบ่อลาวาแต่เขาก็จู่ๆได้ยินเสียงดังขึ้นมา เขาหันหัวกลับไปอย่าตกใจแล้วเห็นโจวเหวินที่ไม่รู้ว่าไปยืนอยู่ด้านหลังเขาตั้งแต่เมื่อไร