I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง - ตอนที่ 914
จุดอ่อนของเฟิงชิวเยี่ยน
ก่อนหน้านี้โจวเหวินดูดซับผลึกลมปราณมามากมาย 1ในนั้นรวมไปถึงผลึกระดับเร้นลับด้วย ซึ่งโจวเหวินเองก็รู้สึกได้เลยว่าวิชายาลมปราณของเขาเองก็ใกล้เข้าช่วงพัฒนาเข้าไปทุกที แต่ไม่รู้ว่าทำไม ทุกๆครั้งที่มันเหมือนจะพัฒนาต่อ แต่มันกลับไม่ถึงขั้นนั้นซักทีเหมือนกับว่ามันยังขาดอะไรบางอย่าง
“ขาดอะไรกันนะ”โจวเหวินมองดูยาลมปราณที่เหมือนก้อนเพรชตรงหน้าของเขาแล้วคิด
สิ่งที่ขาดไปนั้นไม่ใช่พลังงานลมปราณแน่ๆ เพราะตอนนี้วิญญาณชีวิตยาลมปราณนั้นยังเป็นขั้นแรกอยู่เลย และมันก็ดูดซับลมปราณระดับเร้นลับไปเยอะมากแล้วด้วย เพราะงั้น ทั้งในด้านคุณภาพและปริมาณปรกติแล้วมันก็น่าจะเกินกว่าขั้นเริ่มต้นมาตั้งนานแล้ว
“ถ้าไม่ขาดพลังงานแล้วทำไมยาลมปราณถึงยังไม่พัฒนาอีกละ”โจวเหวินคิด แต่ก็ยังคิดไม่ออก แต่ตอนที่เขากำลังคิดอยู่นั้นเอง จู่ๆโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เฟิงชิวเยี่ยนส่งข้อความมา ปรกติแล้วเฟิงชิวเยี่ยนเป็นคนที่พูดน้อยอยู่แล้วทำให้คนส่วนมากไม่ค่อยเข้าใจที่เขาจะสื่อเท่าไร
“โค้ชครับ ขอบคุณที่ช่วยสอนนะครับ ตอนนี้ผมก้าวข้ามจุดอ่อนของตัวเองแล้ว วิชาดาบผมพัฒนาไปอีกขั้นแล้วครับ ถ้าโค้ชมีเวลาช่วยมาดูวิชาดาบของผมหน่อยจะได้ไหมครับ”
โจวเหวินรู้ดีว่าวิชาดาบของเฟิงชิวเยี่ยนนั้นมันพัฒนาไปเร็วมากอยู่แล้ว แต่เขาก็ชินแล้ว เลยตอบกลับไป “ฉันคงยังไม่กลับมหาลัยอีกซักพักใหญ่ๆเลย ถ้าเกิดถึงเวลาแล้วเดี๋ยวฉันจะกลับไปหานะ”
“ผมรอไม่ได้แล้วครับโค้ช โค้ชอยู่ที่ไหนครับ เดี๋ยวผมไปหา”เฟิงชิวเยี่ยนตอบ
โจวเหวินส่งเส้นทางของเขาให้เฟิงชิวเยี่ยน ยังไงระหว่างทางเขาก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้วการได้เจอคนรู้จักนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเหมือนกัน โจวเหวินเลยเก็บยาลมปราณลงไป ก่อนจะฟาร์มเกมส์ต่อที่หลูไท่ การพัฒนาวิญญาณชีวิตเนตรกระจกนั้นเป็นไปได้ด้วยดีมากๆ ด้วยความเร็วแบบนี้อีกไม่กี่วันมันคงพัฒนาเป็นขั้นพัฒนาแน่ๆ
โจวเหวินเล่นเกมส์ไปเรื่อยๆแต่แล้วเขาก็รู้สึกได้ว่ารอยสักของเขามันสั่น แล้วสัตว์อสูรของเขาก็ออกมาด้วยตัวเองโดยที่ไม่ต้องรอให้เขาอัญเชิญ
“ธิดาปีศาจเหรอ เกิดอะไรขึ้น”โจวเหวินถามธิดาปีศาจที่มองตรงไปยังทะเลสาบข้างทางเหมือนกับจะขออะไรบางอย่าง
“อาหาร”ธิดาปีศาจตอบ แล้วมองไปทางทะเลสาบ
โจวเหวินไม่รู้ว่าอาหารที่ธิดาปีศาจหมายถึงนั้นคืออะไรกันแน่ เพราะว่าอาหารของธิดาปีศาจนั้นมันแปลกประหลาดมากๆ ขนาดที่ว่ามีผู้พิทักษ์ให้กินทั้งตัวยังไม่กินเลย จะกินแต่ผลไม้แห่งความเยาววัยอย่างเดียว
ทะเลสาบข้างทางนั้นไม่ได้ใหญ่มาก การได้ยินของสดับวานรสามารถฟังได้อย่างครอบคลุมแต่ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรที่แปลกประหลาดออกไปเลย
ทะเลสาบแห่งนี้ดูเป็นทะเลสาบธรรมดาๆที่ไม่มีอะไรเลย มีปลากุ้งปูปรกติไม่มีสิ่งมีชีวิตต่างมิติหรือพื้นที่ต่างมิติอยู่แถวนี้เลยแม้แต่น้อย
โจวเหวินมองแผนที่ในมือถือแล้วพบว่าจริงๆแล้วในแผนที่มันไม่มีทะเลสาบอยู่ตรงนี้
“แล้วอาหารอยู่ไหนละ”โจวเหวินถามธิดาปีศาจ
ธิดาปีศาจชี้นิ้วออกไปกลางทะเลสาบ โจวเหวินมองตามนิ้วไปที่ทะเลสาบพยายามหลี่ตามองดูว่าตรงนั้นมันมีอะไรกันแน่ ตรงกลางของทะเลสาบนั้น มีไม้ไผ่แท่งนึงตั้งตระหง่านกลางทะเลสาบ บนไม้ไผ่นั้นมีอะไรบางอย่างที่คล้ายๆหุ่นไล่กาอยู่ด้ววย
“อาหารที่ว่านี้มันหุ่นไล่กาเหรอ” โจวเหวินถามแล้วชี้ไปที่หุ่นไล่กา
ธิดาปีศาจพยักหน้า ตายังคงมองไปที่หุ่นไล่กาอยู่
เพราะว่าตอนนี้ผลไม้แห่งความเยาววัยที่โจวเหวินเคยเก็บมาได้โดนกินไปหมดแล้ว หลายๆวันที่ผ่านมานี้ ธิดาปีศาจยังไม่กินอะไรเลย เลยอาจจะเดาๆได้ว่าเธอก็แอบหิวเหมือนกัน
“ฉันจะไปเอามาให้นะ”โจวเหวินพูด
“อันตราย”ธิดาปีศาจส่ายหัวจริงจัง
ปรกติแล้วธิดาปีศาจจะไม่ค่อยพูดอะไรเท่าไร แต่ถ้าเธอพูดคำว่าอันตราย โจวเหวินเลยต้องผงะแล้วตั้งใจดูที่หุ่นไล่กาอีกครั้ง
หุ่นไล่กานั้นดูไม่มีอะไรผิดปรกติเลย มันเป็นหุ่นไล่กาที่ทำมาจากกองฟางล้วนๆ โจวเหวินใช้สดับวานรฟังเครื่องในของมันแล้ว มันก็มีแต่ฟางกับฟาง
นอกจากตัวของมันที่เป็นฟางแล้ว ก็ยังมีเสื้อผ้าขาดๆกับหมวกฟางอีกด้วย ซึ่งก็ดูไม่มีอะไรพิเศษเลยแม้แต่น้อย หุ่นไล่กาตัวนี้เหมือนกับว่าตั้งอยู่ที่นี้มาตั้งนานแล้ว ทำหน้าที่คอยไล่นกน้ำที่จะมาโฉบปลากินในทะเลสาบ
พอมองดูดีๆแล้ว เสื้อผ้ากับหมวกฟางนั้นตอนนี้เริ่มเน่าเปื่อยแล้ว ร่างกายของมันก็อับชื้นเหมือนกับราขึ้น ดูเป็นหุ่นไล่กาเก่าๆที่ทิ้งไว้นานมากๆ
แต่ทันใดนั้นธิดาปีศาจก็กัดปาก มองจ้องเขม็งไปที่หุ่นไล่กา ก่อนจะกระโดดกลับขึ้นหลังของวัวต้าเหว่ยแล้วพูด “หนี”
โจวเหวินตกใจแล้วหันกลับไปมาหุ่นไล่กาอีกครั้ง มันยังคงยืนนิ่งเหมือนหุ่นไล่กาที่ไม่มีชีวิต ไม่เห็นมีอะไรที่น่ากลัวแม้แต่น้อย
แต่ถึงอย่างนั้นโจวเหวินก็เชื่อในการตัดสินใจของธิดาปีศาจ เขาเลยกระโดดขึ้นหลังวัวยักฆ์ต้าเหว่ยแล้ววิ่งหนีออกจากบริเวณนั้นทันที หลังจากที่ผ่านทะเลสาบไปได้ซักพักแล้ว ธิดาปีศาจก็ยังมองดูไปที่ทะเลสาบนั้นเหมือนกับจะคิดอะไรบางอย่าง
“มันคืออะไรหน่ะ”โจวเหวินอยากจะรู้ให้ได้ว่าหุ่นไล่กานั้นมันคืออะไรกันแน่
“อาหาร” ธิดาปีศาจตอบมาแค่นี้
โจวเหวินจำเส้นทางเอาไว้ เพื่อไม่ให้บังเอิญเส้นทางนี้อีก ถึงแม้ว่ามันจะดูไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่ถ้าธิดาปีศาจเห็นว่าต้องหนีแบบนั้น โจวเหวินก็ไม่คิดจะทำเป็นเรื่องเล่นๆเหมือนกัน
หลังจากที่เดินทางต่อไปได้อีกซักพักใหญ่ๆ เขาก็เห็นนกสีฟ้าขนาดใหญ่บินด้วยความเร็วสูงบนอากาศ หลังจากนั้นมันก็บินวนรอบๆโจวเหวินหลายครั้ง ก่อนจะลงจอดตรงหน้าของโจวเหวิน และคนที่ลงมาจากหลังของนกตัวนั้น ก็คือเฟิงชิวเยี่ยนนั้นเอง
“ไม่สายเลยจริงๆ”โจวเหวินหัวเราะ
เฟิงชิวเยี่ยนพูดด้วยความจริงใจ “หลังจากที่ผมเอาก้าวข้ามจุดอ่อนของตัวเองไปได้ ผมก็พัฒนาฝีมือดาบขึ้นแล้วครับ ผมอยากได้ให้โค้ชช่วยดูให้หน่อย ผมเลยรีบมาที่นี้เลยครับ”
“ถ้างั้นขอฉันดูหน่อยละกันว่าวิชาดาบของนายไปถึงไหนแล้ว โจวเหววินวางหยาเอ๋อลงบนหลังของวัวยักฆ์ก่อนจะกระโดดลงมาบนหญ้าข้างๆเขา
เฟิงชิวเยี่ยนไม่เสียเวลาอัญเชิญวิญญาณชีวิตของตัวเองออกมา ถือไว้ในมือในท่าพร้อมเตรียมโจมตี
“เดี๋ยวก่อน เมื่อกี้นายบอกว่านายก้าวข้ามจุดอ่อนของตัวเองได้แล้ว แล้วนายคิดว่าอะไรเป็นจุดอ่อนของนายละ”โจวเหวินพูดกับเฟิงชิวเยี่ยนก่อนที่จะเริ่มโจมตี
เฟิงชิวเยี่ยนตอบ “ผมคิดมาตั้งนานแล้วครับ ว่าถึงแม้ว่าวิชาดาบของผมจะยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่ปัญหาทั้งหลายเหล่านั้นมันแก้ไขได้ด้วยการฝึกอย่างตั้งใจ มันเรียกว่าเป็นข้อบกพร่องมากกว่าจุดอ่อนครับ เพราะงั้นสิ่งที่ผมเรียกได้ว่าเป็นจุดอ่อนจึงมีแค่อย่างเดียวเท่านั้น นั้นก็คือความสัญโดษครับ”
“ความสัญโดษงั้นเหรอ”โจวเหวินไม่เข้าใจที่เฟิงชิวเยี่ยนจะสื่อ
“ใช่คววามความสัญโดษ เพราะว่าวิชาดาบของผมนั้นมันคือการต่อสู้ด้วยตัวคนเดียว ถ้าเกิดโดนลุมจากคนที่เก่งเท่าๆกันละก็ ผมก็แพ้ได้ง่ายๆเพราะเรื่องขีดจำกัดทางร่างกายกับการโดนโจมตีจากรอบทิศทาง”เฟิงชิวเยี่ยนพูด
โจวเหวินพูด “นั้นมันนับว่าเป็นจุดอ่อนด้วยเหรอ ถ้านั้นเป็นจุดอ่อนจริงคนทุกคนบนโลกก็ต้องมีจุดอ่อนนี้ซิ”
“แล้วนายก้าวข้ามจุดอ่อนนั้นไปได้ยังไงกันละ”โจวเหวินเองก็เริ่มสงสัยแล้วเหมือนกัน