I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง - ตอนที่ 929
ขโมยระฆัง
ภายในโลงนั้นโจวเหวินเอาแต่คิดว่า จะทำยังไงถึงจะขโมยระฆังมาได้แบบไม่มีใครรู้แล้วหนีออกไปให้ได้อย่างปลอดภัย ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะยังไม่แน่ใจว่านั้นเป็นกระดิ่งเดียวกันกับจักรพรรดินีต้องการไหม แต่ไหนๆมันก็มาอยู่นี้แล้ว ถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากจะเอามันกลับไปด้วยสาวหิมะนั้นเป็นระดับความกลัว บาซิลิสก์ตัวนั้นเองก็น่าจะเช่นกัน ต่อหน้าระดับความกลัว2ตัว ก็จะขโมยระฆังมานั้นคงไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ๆ แถมที่นี้เป็นปราสาทน้ำแข็ง จะใช้สกิลมุดดินหนีก็ไม่ได้ การวาปน่าจะเป็นวิธีที่ตอบโจทย์ที่สุด
ตราบใดก็ตามที่สามารถหนีออกมาจากปราสาทน้ำแข็งได้ เขาก็สามารถมุดดินกลับไปที่ประตูมิติได้โดยใช้อสูรปัฐพี
“ดูเหมือนว่าฉันคงต้องลองเสี่ยงดูเท่านั้นซินะ แต่การจะขโมยระฆังจากระดับความกลัว2ตตัวเนี่ย มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ”โจวเหวินจำที่จักรพรรดินีพูดถึงระฆังได้
จักรพรรดินีเคยพูดเอาไว้ว่า ระฆังนั้นคนที่เป็นมนุษย์ไม่สามารถแตะได้ การจะขโมยมันมาได้นั้นต้องใช้สัตว์อสูรที่กินผลไม้เทพมาเท่านั้น หรือก็คือ แพทย์ปีศาจต้องเป็นคนถือระฆังเอาไว้ระหว่างทางกลับ
โจวเหวินลองคำนวณความเป็นไปได้หลายๆอย่างแล้ว เขาก็รู้สึกว่าถึงเขาจะสู้ระดับความกลัว2ตัวไม่ได้ด้วยความสามารถของตัวเอง แต่ถ้าเกิดเขาเข้าถึงระฆังได้ละก็ เขาก็น่าจะหลบหนีออกมาเข้าประตูมิติได้อย่างไม่มีปัญหา
เพราะงั้นโจวเหวินเลยรอ ตัดสินใจแล้วว่าถ้าเกิดสาวหิมะพาเขาไปที่ระฆังอีกครั้งเมื่อไร เขาจะฉวยโอกาสนั้นเข้าฉกมาทันที
เวลาผ่านไปอีก12ชั่วโมง ในที่สุด โจวเหวินก็ได้ยินเสียงนาฬิกาดังขึ้นอีกครั้ง สาวหิมะก็ได้ตื่นขึ้นมาจากการหลับใหล
รอบนี้สาวหิมะก็ทำแบบเดิม เธออุ้มโจวเหวินแล้วเดินไปที่โถงใหญ่แห่งปราสาทน้ำแข็ง
โจวเหวินตั้งใจตั้งมั่นเต็มที่และคิดแผนหนีหลังจากที่ขโมยระฆังมาได้แล้ว
ตอนที่สาวหิมะเดินมาถึงโถงใหญ่ บาซิลิสก์เองก็มายืนอยู่ตรงหน้าระฆังแล้ว เหมือนกับว่าเขาอยู่ตรงนั้นมาโดยตลอดไม่ได้ไปไหนเลย
แต่พอเห็นสาวหิมะเดินเข้ามา บาซิลิสก์ก็เขยิบตัวออกห่าง
ตอนที่สาวหิมะวางโจวเหวินลงกับพื้นแล้วเดินตรงเข้าไปหาระฆังนั้นเอง โจวเหวินเห็นโอกาสและเขาก็ไม่ปล่อยให้มันหลุดมือไป เขาไม่ลังเลแปลี่ยนวิญญาณชีวิตเป็นอารยสูญหาย กลับคืนร่างมนุษย์ก่อนจะวาปตรงไปที่ระฆัง ใช้แพทย์ปีศาจ เชื่อมวิญญาณกับตัวเอง แล้วคว้าระฆังมาทันที จังหวะที่ระฆังแตะโดนตัวของเขานั้น วิญญาณของเขาสั่นไหวอย่างแรง แต่โชคยังดีที่แพทย์ปีศาจมาห่อหุ้มวิญญาณของเขาอีกทีทำให้เขาไม่เป็นไรเท่าไร
สาวหิมะกับบาซิลิสก์ตอบโต้อย่างไว สาวหิมะกลายร่างเป็นร่างความกลัว ส่วนบาซิลิสก์เองก็งอกแขนออกมาอีก4ข้าง พร้อมกลับซัดลำแสงออกมาจากแขนทั้ง6ข้างเข้าใส่โจวเหวินทันที
แต่โจวเหวินพอได้ระฆังมาแล้วก็ตัดสินใจ วาปตัวเองออกจากโถงทันทีโดยไม่หยุดแม้แต่นิดเดียวหลังจากวาปติดต่อกัน4รอบรวดโจวเหวินในที่สุดก็หนีออกมาพ้นจากปราสาทน้ำแข็ง
พอเกือบจะหนีออกมาจากปราสาทได้แล้วโจวเหวินก็อัญเชิญอสูรปฐพีออกมารอเตรียมไว้แล้วคิด “ด้วยความสามารถในการมุดดินของอสูรปฐพี ระยะมุดดินสูงสุดยังไงก็น่าจะเกือบถึงประตูวาปได้แล้ว ถึงแม้ว่าระดับความกลัว2ตัวนั้นจะตามทัน ยังไงฉันก็ยังมีวาปเหลือไว้ฉุกเฉินอีกอันนึงอยู่”
โจวเหวินขึ้นขี่อสูรปฐพีแต่แล้วเรื่องที่โจวเหวินไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ทันทีที่โจวเหวินออกมาจากปราสาทน้ำแข็งได้ ภาพที่โจวเหวินเห็น ภายนอกของปราสาทที่ควรจะเป็นภูเขาสูงใหญ่มหึมา ที่โจวเหวินคิดว่าจะใช้สกิลมุดดินหนี แต่ในคววามเป็นจริงแล้วภายนอกของปปราสาทน้ำแข็ง ไม่ใช่ภูเขา แค่เป็นทะเลสุดลูกหูลู่ตาไม่มีพื้นดินแม้แต่น้อย
น้ำทะเลสีฟ้าจรดเส้นขอบฟ้านอกจากทะเลแล้วก็ไม่เห็นอะไรอย่างอื่นอีกเลย และปราสาทน้ำแข็งนี้ก็กำลังลอยอยู่บนน้ำ
“นี้มัน….เกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นวะเนี่ย”โจวเหวินสับสนสุดๆว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ซู่!!
อสูรปฐพีที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงสุดนั้นหน้าทิ่มลงน้ำทันทีที่ไม่มีพื้นให้เหยียบ น้ำทะเลกระแทกหน้าของโจวเหวินอย่างแรง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าทำไมด้านนอกของปราสาทน้ำแข็งจะกลายเป็นทะเล แต่อย่างน้อยตอนนี้ เขาต้องหนีออกไปให้ไกลที่สุดที่ทำได้ ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
ทันทีทันใดนั้นแอง โจวเหวินก็สั่งให้อสูรปฐพีดำลงไปในทะเลทันที
แต่ก่อนที่อสูรปฐพีจะดำลงไปได้นั้น คลื่นน้ำแข็งก็ยิงมาเป็นลำแสงจากปราสาทน้ำแข็งโจวเหวินเสียวสันหลังทันที ก่อนจะเก็บอสูรปฐพีกลับมาแล้วใช้อารยมิติวาปครั้งสุดท้ายวาปออกจากตรงจุดนั้นโดยด่วน
ลำแสงเยือกแข็งนั้นทันทีที่กระทบกับน้ำทะเล มันก็แช่แข็งน้ำทะเลในระแวกนั้นเป็นวงกว้างทันที น้ำทะเลกลายไปเป็นธารน้ำแข็ง
บาซิลิสก์เองก็ไล่ตามมาอย่างโกรธแค้น หางของมันสะบัดไปมา มันเข้าถึงตัวของโจวเหวินได้ในพริบตาเดียวเท่านั้น ก่อนที่มันจะตวัดมือเป็นใบมีด ใช้สายลมเป็นคมดาบ ฟันเข้าใส่โจวเหวินอย่างบ้าคลั่งกะจะหั่นตัวของโจวเหวินเป็นชิ้นๆให้ได้
โจวเหวินกัดฟันแล้วเรียกเบม่อนออกมาขวางใบมีดพวกนั้น เบม่อนออกมาพร้อมคำรามด้วยสุดยอดพลังรับเข้ากับคมมีด
ฉวก ฉวก
ร่างกายอันกำยำของเบม่อนโดนดาบปาดจนเป็นบาดแผลยาว กระดูกเหมือนจะแตกหักด้วย เบม่อนที่โดนแรงกระแทกนั้นกระเด็นออกไปชนเข้ากับน้ำแข็งทำให้น้ำแข็งแตกเป็นเสี่ยงๆและน้ำทะเลโพยพุ่งมาจากแรงกระแทกนั้น
โจวเหวินที่บินอยู่บนฟ้าพยายามหนีออกจากตรงนั้นให้ไกลที่สุดที่ทำได้ ก่อนจะเรียกเบม่อนกลับมา แล้วสวมผ้าคลุมล่องหนใช้หายตัวสมบูรณ์ทันที
บาซิลิสก์มองไปรอบๆแล้วไม่เห็นร่องรอยของโจวเหวิน มันเลยหันกลับไปตะโกนใส่สาวหิมะ “เจ้าหมอนั้นเจ้าเป็นคนพากลับมาเอง มันเป็นพวกของเจ้างั้นเรอะ”
สาวหิมะพูดด้วยความเยือกเย็น “ถ้ามันเป็นของข้า เจ้าคิดว่าข้าโง่ขนาดให้มันขโมยระฆังนภาไปหน้าด้านๆแบบนี้รึ ถ้าเจ้าสงสัยข้านัก เจ้าเอาเวลาไปลากตัวเขากลับมาดีกว่า ที่นี้ยังไงเขาก็หนีไปไหนไม่พ้นอยู่แล้ว
“เรื่องนี้เจ้าไปอธิบายกับท่านผู้นั้นด้วยตัวเองเลยนะ”บาซิลิสก์พูดแล้วกัดฟันเริ่มออกตามหาโจวเหวินทันที
โจวเหวินสวมผ้าคลุมล่องหนแล้วดำดิ่งลงไปในทะเลลึกทันที เขาหวังพึ่งความสามารถในการหายตัวสมบูรณ์3นาทีอย่างคุ้มค่า ว่ายลงไปใต้น้ำให้ลึกที่สุดที่ทำได้ ทะเลที่นี่เองก็ลึกมาก โจวเหวินดำลงไปแล้วด้านใต้นั้นเขาเห็นอะไรบางอย่างวิบวับเหมือนดวงดาวใต้น้ำ แต่ดาวพวกนั้นมีหลายสี ชวนให้โจวเหวินนึกถึงของเหลวในภูเขาไฟ
ตอนที่โจวเหวินดำดิ่งลงไปเรื่อยๆนั้นเอง เขาก็พบว่าเขาไม่ได้มองผิดจริงๆ สีสันประกายดาวใต้ทะเลดวงนั้นแท้จริงแล้วเหมือนกับที่โจวเหวินเคยเจอ มันคือน้ำพุหลากสี ที่พ่นน้ำพุออกมาพร้อมผลึก ทันทีที่ผลึกโดนน้ำทะเลแล้ว มันก็กลายเป็นสิ่งมีชีวิตต่างมิติแต่ต่างกันตรงที่ว่าสิ่งมีชีวิตต่างมิติของที่นี้ทั้งหมดนั้นเป็นสัตว์น้ำหมดเลย