I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง - ตอนที่ 936
I บทที่ 936 ข้อตกลงของสาวหิมะ
“วิชาลมปราณเลือดอสูรเป็นวิชาลมปราณลับสุดยอดของราชาปีศาจ มีเพียงผู้ที่สืบสายเลือดท่านั้นที่มีสิทธิ์คู่ควรในการฝึก และในบรรดาผู้สืบสายเลือดทุกคน มีเพียงแค่น้อยนิดเท่านั้นที่จะมีพรสวรรค์มากพอที่จะฝึกวิชาเลือดอสูรจนพัฒนาไปได้ถึงขั้นนี้ได้ เจ้านี้มันเป็นแค่มนุษย์ต่ำต้อย ปรกติแล้วไม่มีทางได้ฝึกวิชาเลือดอสูรซิ…”
สาวหิมะสงสัยในใจ แต่ก็พยายามโจมตีทุกอย่างเข้าใส่หอยมารดาปีศาจ แต่ผลที่ออกมามันก็เท่านั้น พลังของเธอนั้นโดนดูดไปทั้งหมด
“มันไม่มีทางที่มนุษย์จะฝึกวิชาเลือดอสูรได้ซิ เขายังเป็นแค่ระดับมหากาพย์อยู่เลย ทำไมเขาถึงกลายไปเป็นหอยมารดาปีศาจได้ละ แถมยังมีความสามารถทุกอย่างครบอีกด้วย”สาวหิมะมองโจวเหวินอย่างสงสัยเข้าไปใหญ่
“ดูเหมือนว่าเจ้าบ้านจะทำตัวเหมือนกับว่าฉันเป็นแขกไม่ได้รับเชิญซินะเนี่ย”โจวเหวินที่รับพลังแสงเยือกแข็งไปหลายยกรู้สึกได้ถึงพลังงานมหาศาลที่ไหลเวียนเข้ามาในร่างกาย พลังงานทั้งหมดนี้มันช่วยทำให้เขาสามารถคงร่างนี้ได้อีกนานเลย
สาวหิมะนั้นทำใจให้สงบๆแล้วมองโจวเหวินก่อนจะถาม “เจ้าฝึกวิชาเลือดอสูรอย่างนั้นเหรอ
“ฝึกแล้วไงละ”โจวเหวินไม่ได้ปฏิเสธตอนที่เห็นสาวหิมะถามเรื่องความสามารถที่โจวเหวินมี
พอได้ยินว่าโจวเหวินยอมรับ สาวหิมะก็เหมือนจะไม่ค่อยอยากจะเชื่อเลยถามซ้ำ “นี้เจ้าฝึกวิชาเลือดอสูรจริงๆอย่างงั้นเหรอ”
“ก็เห็นแล้วไม่ใช่เหรอ”โจวเหวินพูด
สาวหิมะมองโจเวหวินแล้วคิดในใจของตัวเอง
วิชาลมปราณเลือดอสูรนั้นเป็นวิชาลมปราณโบราณของฝั่งปีศาจที่มีแต่สายเลือดโดยตรงของราชาปีศาจเท่านั้นถึงจะสามารถมองเห็นได้ แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะฝึกได้เลย แต่ถึงอย่างนั้น โจวเหวินมนุษย์ธรรมดา กลับสามารถฝึกได้ ถ้าเกิดสาวหิมะไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเองละก็ เธอเองก็คงจะไม่เชื่อแน่ๆถ้ามีคนมาเล่าให้ฟัง
แม้แต่ตัวของนางเองยังไม่เชื่อตัวเองเลยว่าโจวเหวินนั้นจะฝึกวิชานั้นสำเร็จจริงๆ แต่นอกเหนือจากวิชาเลือดอสูรแล้ว วิชาลมปราณอื่นๆที่สามารถทำแบบนั้นได้ เธอเองก็คิดไม่ออกแล้วเหมือนกัน
ก่อนหน้าที่สาวหิมะจะได้ยินโจวเหวินพูดว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า ตอนแรกเธอเองก็คิดว่ามันเป็นเรื่องตลกแต่ตอนนี้เธอรู้สึกว่าขำเลยแม้แต่น้อย
มนุษย์ธรรมดาที่สามารถฝึกวิชาเลือดอสูรได้ แค่คิดก็ไม่อยากจะเชื่อแล้ว
“ทำไมเจ้าถึงไปเอาวิชาเลือดอสูรมาได้กัน”สาวหิมะไม่โจมตีต่อ แล้วถอนร่างความกลัวแล้วมองโจวเหวินด้วยสีหน้าแปลกๆ
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอด้วยเหรอ”โจวเหวินพูด
ถึงแม้ว่าสาวหิมะจะไม่ตอบ แต่เธอเองก็คิดในใจ “เขาเป็นแค่ระดับมหากาพย์ ยังไงก็ไม่มีทางรอดบนโลกนี้ได้อยู่แล้ว แล้วก็คงไม่ได้มีโอกาสเข้าไปในเผ่าปีศาจเผ่าไหนด้วย อย่าว่าแต่จะได้เข้าถึงราชาปีศาจเลย วิชาเลือดอสูรที่ว่ายากที่จะได้สัมผัสนั้น หรือว่าแท้จริงแล้วจะมีต้นกำเนิดจากบนโลกตามตำนานที่ว่าไว้”
พื้นที่บนโลกที่ว่านั้นถูกเรียกว่าเป็นโบราณสถานต้องห้ามก็ได้ มันคือสถานที่จุติของสิ่งมีชีวิตทรงพลังระดับเทพปีศาจที่เกิดขึ้นมาบนโลก แต่ถึงอย่างนั้น ในบรรดามิติต่างๆที่ว่านั้น ตำนานเองก็ว่ากันไว้ว่าโบราณสถานต้องห้ามนั้น แท้จริงแล้วเป็นสถานที่เกิดมิติต่างๆและสิ่งมีชีวิตต่างมิติทั้งหมด ล้วนเกิดมาจากที่ทั้งสิ้น
แต่มันก็เป็นแค่ตำนานที่ไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันยิ่งกว่านั้นสิ่งมีชีวิตต่างมิติที่แกร่งๆเองก็คงไม่ยอมรับหรอกว่าตัวเองจะเกิดมาจากสถานที่กระจอกๆแบบนั้น
แต่ตอนนี้สาวหิมะเริ่มคิดแล้วว่าตำนานอาจจะเป็นจริง ไม่งั้นโจวเหวินที่เป็นมนุษย์โลก จะไปเรียนรู้วิชาเลือดอสูรมาจากไหน และถ้าบนโลกไม่มีสถานที่แบบนั้นอยู่จริงละก็ เผ่าพันธุ์ทั้งหลายถึงได้พยายามต่อสู้แย่งชิงเพื่อยึดโลกเป็นของตัวเองกันละ
แต่ถึงอย่างนั้น สาวหิมะก็เปลี่ยนใจแล้วคิดอีกรอบ หลังจากผ่านสมรภูมิป่าเถือนบนโลกมามากมายบางทีสายเลือดของราชาปีศาจเองอาจจะมาที่โลกแล้วสลักวิชาเลือดอสูรเอาไว้ที่โลกก็ได้
ด้วยความเป็นไปได้นั้น มันก็พอจะบอกได้อยู่ว่าโจวเหวินนั้นเรียนรู้วิชาเลือดอสูรมาได้ยังไง
“เจ้าสนใจมาตกลงกับข้าไหม”สาวหิมะจู่ๆก็พูดขึ้นมา
“ว่ามาเลย”โจวเหวินตอนนี้ระแวงนิดหน่อย ถึงแม้ว่าเขาจะรอดจากการโดนสาวหิมะฆ่าแล้ว แต่ถ้าเขายังกลับไปที่พื้นที่ภูเขาไฟไม่ได้ละก็ เขาก็จะโดนขังอยู่ที่นี้แล้วกลับไปที่โลกอีกไม่ได้ตลอดกาล
ถ้าสาวหิมะอยากได้ลูกแก้วจิ้งจอกเพื่อการันตีว่าเขาจะกลับโลกได้นั้น โจวเหวินก็จะยอมสละทิ้งทันที ถึงแม้ว่าเขาต้องไปเผชิญหน้ากับความโกรธเกรี้ยวของปีศาจจิ้งจอก9หางตอนกลับไป แต่อย่างน้อยมันก็น่าจะดีกว่าติดอยู่ที่นี่แน่ๆ
แต่ใครมันจะไปคิดละว่าสาวหิมะไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้นเลย “เจ้าสอนวิชาเลือดอสูรให้กับข้า แล้วข้าจะมอบระฆังนภา แล้วข้าก็จะพาเจ้าไปหาตี้ฉินจบเรื่องที่เจ้าต้องทำทั้งหมด”
“เธออยากจะได้วิชาเลือดอสูรเหรอ”โจวเหวินตกใจเล็กน้อยเขาไม่คิดว่านางจะขออะไรแบบนี้
“ใช่แล้ว ขอแค่เจ้ามอบวิชาเลือดอสูรให้ข้า ข้ามั่นใจเลยว่าเจ้าจะสำเร็จทุกอย่างที่เจ้าต้องการมาที่นี้ แล้วข้าเองยังพาเจ้าไปส่งที่ปราสาทเทพมังกรได้อีกด้วยนะ”สาวหิมะพูด
“แล้วฉันจะรู้ได้ไงว่าเธอพูดจริงแล้วจะไม่โกหก”โจวเหวินคิดถึงความเป็นไปได้หลากหลายอย่าง แล้วเขาก็เริ่มรู้สึกได้ว่าบางทีนี้อาจจะเป็นหนทางรอดกลับบ้านของเขาก็ได้
“ข้าช่วยให้เจ้าสำเร็จงานทั้งหมดก่อนได้ จนกระทั้งเจ้าใกล้ไปถึงปราสาทเทพมังกร ก่อนที่เจ้าจะไป ข้าขอแค่ให้เจ้าถ่ายทอดวิชาเลือดอสูรให้กับข้าเท่านั้นเอง”สาวหิมะพูด
โจวเหวินรู้สึกได้เลยว่าข้อเสนอของสาวหิมะนั้นมันดีมากๆ แต่ปัญหาติดแค่ว่าเขาไมได้อยากไปหาเทพเจ้ามังกรเลยแม้แต่น้อย แล้วเขาเองก็ถ่ายทอดวิชาเลือดอสูรออกมาไม่ได้ด้วย
เพราะว่าวิชาเลือดอสูรนั้นมันไม่มีอักษรวิชาให้เรียนรู้มันเป็นภาพ และเราต้องมองภาพเพื่อให้เข้าใจวิชาเลือดอสูร มันเป็นวิชาลมปราณที่ต้องเข้าใจเองและมันสอนกันไม่ได้
ถึงแม้ว่าจะเป็นโจวเหวินที่สำเร็จวิชาเลือดอสูรทั้งหมดแล้ว แต่เขาเองก็บอกคนอื่นไม่ถูกเหมือนกันว่าต้องฝึกวิชาลมปราณนี้ยังไง
“สิ่งที่เจ้าต้องจ่ายมีแค่สอนวิชาลมปราณให้ข้า เจ้าจะได้ทั้งระฆังนภาแถมกลับไปได้อย่างไร้รอยขีดข่วนถึงแม้ว่าเจ้าจะแปลงร่างเป็นหอยมารดาปีศาจได้ แต่เจ้าก็ควรจะรู้ไวว้นะว่าพลังแค่นั้นถึงเจ้าจะตายด้วยน้ำมือข้าไม่ได้แต่พลังของผู้ที่แกร่งกว่านั้นมันใช้งานได้เสมอ เจ้าคิดเหรอว่าข้าไม่สามารถหาผู้ที่มาจัดการเจ้าไม่ได้หน่ะ”สาวหิมะพูด
โจวเหวินถอนหายใจแล้วพูด “ฉันเองก็อยากจะตกลงกับเธอนะ แต่โชคไม่ดีที่วิชาลมปราณนี้มันสอนกันแบบปากต่อปากไม่ได้”
หลังจากที่เธอได้ยินแบบนั้นแล้ว สาวหิมะก็นยิ่งเชื่อเข้าไปใหญ่เลยว่าโจวเหวินต้องฝึกวิชาเลือดอสูรมาแน่ๆ เลยถาม “แล้วเจ้าฝึกยังไงกัน”
“ฉันเคยไปที่ๆนึงแล้วมันเป็นรูปศิลปะ แล้ววิชาลมปราณนั้นก็อยู่ในรูปนั้น ฉันเข้าใจได้โดยการมองภาพไม่ใช่จากการอ่านคำ ถ้าอยากจะได้วิชาลมปราณนี้จริงๆ เธอต้องลองไปดูเอง”โจวเหวินพูด
“ที่ใดกันละ”สาวหิมะถาม
“บนโลก”โจวเหวินตอบ
สาวหิมะพอได้ยินแบบนั้นแล้วก็พูด “ถึงระฆังนภาจะมีพลังข้ามมิติได้ก็จริง แต่มันไม่สามารถเดินทางไปยังโล…”
“ถ้าเธออยากไปฉันมีทางไปนะ”โจวเหวินพูดทันที