I Just Want To Play Games Quietly ฉันก็แค่อยากเล่นเกมเงียบๆเท่านั้นเอง - ตอนที่ 946
I บทที่ 946 ติดกับ
“เห้ย แลกกันแบบนั้นเลยงั้นเหรอ” โจวเหวินตกใจมาก
“นี้มันอยากจะทำให้อดีตซ้ำรอยพลาดซ้ำ2งั้นเหรอ” ฉางชุนชิวขมวดคิ้วแล้วพูดกับตัวเอง เขามองไปที่หยาที่ตอนนี้ไฟลุกท่วมตัว
ตอนนี้ในหมู่6ตระกูล หลายๆคนเริ่มผิดหวังมากๆแล้ว ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าหยาเป็นใครแต่ เห็นชัดๆเลยว่าอุเอซึกินาโอะนั้นเป็นคนจากต่างแดนแน่ๆ ทำให้คนส่วนมากแอบเชียร์หยากัน
แต่ถึงอย่างนั้น ร่างของหยากลับไม่ระเบิดออกมาแบบที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่าเขาจะโดนเผาด้วยไฟที่ร้อนแรง แต่เขาก็ยังสามารถใช้ดาบฟันโจมตีอย่างต่อเนื่องได้ เขาทำเหมือนกับว่าไฟที่เผาไหม้อยู่รอบตัวเขานั้นเป็นภาพลวงตา ไม่มีอยู่จริง และไม่ได้เผาตัวของเขาอยู่
หลังจากที่ป้องกันดาบได้หลายครั้งรวด แต่นาโอะก็ยังไม่เห็นว่าร่างของหยาจะระเบิดออกมา แม้แต่ชุดเกราะผ้าเองก็ยังไม่โดนเผาไหม้ ใจของเธอเองก็เริ่มเต็มไปด้วยคำถาม
“ทำไมเขาถึงไม่เป็นอะไรเลยละ มันจะมีเหรอคนที่บริสุทธิ์ขนาดเพลิงมารทำอะไรไม่ได้หน่ะ ไม่ซิ เขาต้องมีความสามารถอะไรบางอย่างคอยป้องกันเพลิงมารล้างผลาญแน่นอนเลย”นาโอะคิดในใจ
เพลิงมารล้างผลาญนั้นเป็นสกิลที่มีความรุนแรงสูง แต่เงื่อนไขในการใช้มันมีข้อเดียว คือคนๆนั้นต้องเคยกระทำบาปดั้งเดิมอะไรบางอย่างมา เพลิงมารล้างผลาญถึงจะใช้ได้ผล
ความหยิ่งพยอง ความอิจฉา ความโกรธ ความเกียจคร้าน ความตระกละ ความละโมบโลภมาก และราคะ ทั้งหมดนั้นคือบาปดั้งเดิม ไม่มีใครคนไหนบนโลกที่ปราศจากบาปพวกนี้ ดังนั้น สกิลเพลิงมารล้างผลาญจึงเป็นสกิลที่แข็งแกร่งไร้เทียมทานสำหรับมนุษย์ที่ยังตัดจากบาปไม่ได้
ในตอนแรกยักษ์น้ำแข็งนั้นโดนเพลิงล้างผลาญระเบิดไปเพราะว่าเจ้าของสัตว์อสูรนั้น เคยกระทำความผิดบาป ฆ่าคนไปมากมาย ด้วยความโกรธและความตระกละ
แต่หยานั้นกลับไม่ได้รับผลอะไรเลย ทำให้นาโอะรู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้
หลังจากนั้นไม่นาน คนในรัฐบาลกลางและต่างแดนต่างก็เริ่มเห็นว่าการโจมตีของมารสวรรค์นั้นไม่ได้ผลกับหยา ทำให้คนในรัฐบาลกลางนั้นดูคึกครื้นขึ้นมา ในขณะที่คนในต่างแดนนั้นเริ่มตึงเครียดมากขึ้น
การต่อสู้นั้นดำเนินต่อไป แต่สถานการณ์ตอนนี้นาโอะกำลังเสียเปรียบอยู่นิดหน่อย นางรู้ดีกว่านางต้องจัดการกับหยาให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ เพราะตอนนี้เวลาดูเหมือนจะไม่ได้เข้าข้างเธอแล้ว
“ดูเหมือนว่าคงต้องใช้กงล้อแห่งโชคชะตาของมารสวรรค์แล้วซินะ”นาโอะคิดแล้วตัดสินใจ เธอมองหยาผ่านทางแว่นตาของเธอก่อนที่พลังงานมหาศาลจะแล่นผ่านร่างของเธอไป ทันใดนั้นร่างของนาโอะก็หายวับไปก่อนจะปรากฏตัวอีกทีด้านหลังหยา
กริ๊ก
ร่างของหยานั้นไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร โดนฟันผ่าครึ่งตัวทั้งอย่างงั้น
ทุกๆคนต่างหวาดกลัว ตอนนั้นแม้แต่โจวเหวินเองก็ยังไม่เห็นเลยว่านาโอะฆ่าหยาได้ยังไงกัน มันไม่ใช่เรื่องความเร็วอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าระดับเร้นลับจะเร็วแค่ไหน แต่ยังไงมันก็ไม่มีทางเร็วไปกว่าสกิลเนตรไปได้แน่ๆ ไม่มีทางที่โจวเหวินจะมองไม่ทันเลยแบบนี้
แต่รอบนี้โจวเหวินมองไม่เห็นอะไรเลยจริงๆ ตอนที่นาโอะโจมตีปิดฉาก ร่างของนางหายวับไปทันทีเลย
มันไม่ใช่การวาปด้วย เพราะการวาปปรกติแล้วจะต้องออกมาจากการวาปก่อนถึงจะโจมตีได้แต่ การโจมตีของนาโอะนั้นมันไร้รอยต่อเกินไป ขั้นตอนการออกจากวาปนั้นมันหายไปเลย
เหล่าคนในรัฐบาลกลางหลายๆคนก็เริ่มเกิดความกลัวจนหนาวสั่น พวกเขาเสียวสันหลังมากๆ เมื่อคิดว่าถ้านาโอะใช้ท่าแบบนั้นกับพวกเขา ไม่มีใครบอกได้เต็มปากเลยว่าจะหลบได้พ้น
แต่ทันทีที่ร่างของหยานั้นขาดครึ่งไป สีหน้าของนาโอะนั้นก็ซีดขึ้นมาทันที เพราะตอนที่เธอสังหารนั้น เธอรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างผิดปรกติ เธอจึงรีบหนีออกมา
ทันใดนั้นเอง ร่างศพของหยาก็เปลี่ยนไปเป็นหุ่นเชิด ส่วนหยาอีกคนนึงนั้นปรากฏขึ้นมาตรงจุดที่เขายืนอยู่ตอนที่เขาเข้ามาในลานประลอง
ทุกๆคนงงแตก และไม่เชื่อว่าหยาที่สู้กับนาโอะทั้งหมดที่ผ่านมานั้นเป็นตัวปลอม เป็นหุ่นเชิดไปซะได้
หน้าของนาโอะเองก็เสียหนักมากท่าโจมตีที่รุนแรงที่สุดของเธอถูกใช้ไปแล้ว และมันคงใช้ไม่ได้ไปอีกซักพักแน่ๆ ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมสกิลเพลิงมารล้างผลาญถึงใช้ไม่ผลกับหยา เพราะที่สู้อยู่นั้นไม่ใช่ตัวจริงซะด้วยซ้ำ เป็นแค่หุ่นเชิด
ดาบเทพโบราณกลับมาอยู่ในมือของหยาตัวจริง ที่ยืนจังก้ามองนาโอะอยู่
ในตอนนั้นเอง ทุกๆคนรู้สึกแบบเดียวกันเลยว่าหยานั้นเป็นคนที่แกร่งมากๆ ความแข็งแกร่งที่แพร่กระจายออกมานั้นไม่ใช่ในด้านพลัง แต่มันเป็นแรงกดดันทางจิตวิทยามากกว่า
นี้ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่หยานั้นจะเอาชนะนาโอะได้ไหม แต่แค่การที่เขาสามารถเล่นกับอีกฝ่ายเหมือนชีวิตของนาโอะอยู่ในกำมือของเขา มันก็น่ากลัวเกินพอแล้ว มันทำให้เห็นว่าพลังมันต่างกันเกินไป
ความไม่รู้นั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัว เมื่อเรารู้ว่าพลังนั้นคืออะไรแล้ว ความน่ากลัวทางจิตวิทยาของพลังนั้นก็จะน้อยลง เราสามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น รู้ว่าจะโดนอะไร แต่หยาตอนนี้ทำให้ทุกคนเริ่มรู้สึกไว้ใจไม่ได้และหวาดกลัว
นาโอะเองก็ไม่ลังเลรีบยอมแพ้ทันที ตอนนี้เธอรู้ตัวดีแล้วว่ายังไงสู้ไปเธอก็แพ้ เพราะข้อมูลที่อีกฝ่ายรู้นั้นมันมากกว่าที่เธอรู้อีกฝ่ายมาก ขืนสู้ต่อไปยังไงก็มีแต่ตายกับตาย
การจะเอาชนะอีกฝ่ายได้นั้น จะต้องรู้ความสามารถของอีกฝ่ายก่อน แต่รอบนี้นางไม่มีโอกาสชนะได้เลยแม้แต่นิดเดียว
การยอมแพ้ของนาโอะในครั้งนี้ทำให้อันดับ1ของตารางจัดอันดับกลายเป็นของหยา ส่วนมารสวรรค์ก็ร่วงลงไปเหลือที่2 และผู้พิทักษ์กับสัตว์อสูรทุกตัวที่อยู่ในรายชื่อก็ลดระดับลงมา1โดยอัตโนมัติ
ส่วนร่างของหยาเองก็หายวับไป ไม่มีการแสดงท่าทางดีใจใดๆทั้งสิ้น หลังจากที่ชนะแล้วก็ถอนตัวออกจากสนามประลองทันที
“แกร่งเกินไปแล้ว สมแล้วที่เป็นเจ้าของเทพดาบโบราณ ตัวเจ้าของเองก็แกร่งกว่าซะอีก รอบนี้เราคงไม่ได้เห็นอะไรเซอร์ไพส์ในการประลองอีกแล้วละ”
คนจากรัฐบาลกลางต่างอึ้งในพลังของหยา ชื่อของหยานั้นแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว บางคนเรียกเขาว่าเป็นฮีโร่ซะด้วยซ้ำ
แต่โจวเหวินไม่ได้คิดแบบนั้น หยานั้นแกร่งก็จริง แต่นาโอะเองก็มีพลังทำลายที่แกร่งมากเหมือนกัน จะบอกว่าที่หยาชนะมาได้ก็เพราะเล่ห์กลของหยาเองก็เป็นได้
แต่ถึงอย่างนั้น แผนแบบนี้ก็ใช้ไม่ได้อีกเป็นครั้งที่2แล้ว ทำให้บอกได้ยากว่าเขาจะยังอยู่อันดับ1ได้อีกนานแค่ไหน
หลังจากกลับมาที่มหาลัยแล้ว โจวเหวินก็เห็นรายงานข่าวเกี่ยวกับหยาเต็มไปหมด เพราะว่าหยานั้นอาจจะเป็นคนจากรัฐบาลกลาง ทำให้สื่อกระแสหลักในรัฐบาลกลางนั้นต่างยกย่องเขาเป็นฮีโร่และได้รับความเคารพอย่างมาก คนจากรัฐบาลกลางเองก็เห็นด้วยและสนับสนุน และอยากจะรู้ตัวตนที่แท้จริงของหยากันทั้งนั้น
โจวเหวินพออ่านแล้วก็แอบยิ้ม “ถ้าหยาคนนั้นคือจงซือหยาจริงๆละก็ สำหรับรัฐบาลกลางแล้ว ถ้าความจริงถูกเปิดเผยออกมาบางทีเขาอาจจะเป็นทั้งฮีโร่ทั้งจอมมารในคนๆเดียวกันเลยก็ได้ ใครจะไปรู้”
การประลองนั้นทำให้โจวเหวินรู้สึกกระตือรือร้นมากขึ้นกว่าเดิม เขาเลือดร้อนอยากจะไปสู้บ้าง
แต่หลังจากนั้นเขาก็รวบรวมสติของตัวเอง แล้วรู้สึกว่าในเกมส์ของเขานั้นมันน่าเสียดายที่ไม่มีศัตรูอย่างหยาหรือมารสวรรค์
“ถ้าเกิดพวกมันสามารถแสกนเข้าไปในเกมส์ได้นะ”โจวเหวินคิดกับตัวเอง
หลังจากที่เฟิงชิวเยี่ยนทำเรื่องออกจากมหาลัยแล้ว ทั้ง3คน โจวเหวิน เฟิงชิวเยี่ยน และหยาเอ๋อก็กำลังจะออกเดินทาง แต่จู่ๆพอหลี่ซวนได้ยินว่าพวกเขากำลังจะเดินทางกัน เขาเลยขอไปด้วย ทำให้การเดินทางครั้งนี้มี4คน
“พอดูการประลองระหว่างหยากับมารสวรรค์แล้ว ฉันเองก็เริ่มอยากเอาผู้พิทักษ์มาใช้บ้างแล้วแหะ”ระหว่างทางหลี่ซวนพูดขึ้นมา
“ผู้พิทักษ์มันเป็นแค่ปัจจัยภายนอกหน่ะ มันไม่คุ้มกันหรอก”เฟิงชิวเยี่ยนบอกชัดเจนว่าตัวเขาไม่ยอมรับในผู้พิทักษ์เพราะเขาอยากจะแกร่งขึ้นด้วยตัวเอง
“โจวเหวิน แล้วนายละคิดยังไง”หลี่ซวนถาม
“ไม่รู้ซิ ฉันเคยแต่ฆ่าผู้พิทักษ์หน่ะ แต่ไม่เคยมีมันเลย”โจวเหวินพูด