ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I'm really a superstar - ตอนที่ 1338
ที่ปักกิ่ง
ณ เขตพักอาศัยแห่งหนึ่ง
เสียงประทัดดังอย่างต่อเนื่อง บรรดาเด็กน้อยเล่นกันอย่างคึกคักอยู่ในเขตที่พักอาศัย ผู้ใหญ่บางคนก็จุดประทัดเป็นเพื่อนเด็กๆ บ้างก็ยืนอยู่สูบบุหรี่พลางพูดคุยกันอยู่ข้างๆ
บนตึก
ครอบครัวหนึ่งเปิดหน้าต่างออกจากนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนลงมาด้านล่าง
“เหล่าหลิว!”
“หา?”
“รีบพาเด็กๆ เข้าบ้านเร็วเข้า!”
“ทำไมล่ะ?”
“มาดูรายการคืนส่งปี!”
“ไม่สนุก ไม่ดูหรอก”
“ไอ้หยา กลับเข้ามาดูเดี๋ยวก็รู้เอง!”
“น่าดูขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ปีนี้น่าดูมากจริงๆ!”
……
ที่เซี่ยงไฮ้
บนถนน
โทรศัพท์ดังขึ้น
“ฮัลโหล ที่รัก เลิกงานแล้วเหรอ?”
“เพิ่งเลิกน่ะ อายุสามสิบแล้วยังต้องทำงานล่วงเวลา เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว”
“รีบกลับมาดูรายการคืนส่งปีเร็วเข้า”
“รายการคืนส่งปีเหรอ? แต่ทุกปีคุณก็ไม่เคยดูเลยนี่นา?”
“แต่ปีนี้ไม่เหมือนกัน!”
“จริงหรือหลอกเนี่ย?”
“จริงสิ!”
“ตกลง งั้นฉันจะรีบกลับไป”
……
ที่หนานจิง
ครอบครัวหนึ่ง
เพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามแวะมาหา
“เหล่าหลี่ มาอวยพรปีใหม่ให้พวกคุณ”
“ไอ้หยา ขอบคุณ ขอบคุณ”
“เอ๋ ทำไมพวกคุณยังไม่ดูรายการคืนส่งปีอีกล่ะ?”
“รายการคืนส่งปี? พวกเราไม่ดูหรอก พวกเราไม่ชอบละครตลกของทางเหนือ การเต้นหรือร้องเพลงก็ไม่น่าสนใจ ไม่มีอะไรใหม่เลย”
“เฮ้ งั้นพวกคุณรีบดูเลยเถอะ รายการคืนส่งปีของปีนี้ดีจริงๆ!”
“จริงเหรอ?”
“เหล่าหลี่ ฉันจะหลอกคุณทำไมกัน?”
“ตอนนี้แสดงอะไรอยู่?”
“กำลังร้องเพลงน่ะ พออวยพรปีใหม่พวกคุณเสร็จเราก็จะรีบกลับไปดูแล้ว!”
“จริงเหรอ? งั้นพวกเราเองก็จะดูด้วยแล้วกัน”
……
คำชมเชยจากสาธารณะร้อนแรง!
บอกกันปากต่อปาก!
หนึ่งบอกสิบ!
สิบบอกร้อย!
คนมากมายที่ไม่ได้ดูรายการคืนส่งปีล้วนแบกความรู้สึกกังขาไว้ ขณะเปิดโทรทัศน์ภายใต้การแนะนำอย่างแข็งขันของครอบครัว เพื่อนสนิทและเพื่อนบ้าน อยากดูว่ารายการคืนส่งปีที่ครึ่งเป็นครึ่งตายมาตั้งนานจะถูกจางเย่ชุบชีวิตได้อย่างไร เรื่องนี้คนจำนวนมากล้วนมองว่าเป็นความคิดเพ้อฝัน
หนึ่งแสนคน!
หนึ่งล้านคน!
สิบล้านคน!
คนที่เปิดโทรทัศน์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ!
มีบางคนประหลาดใจ มีบางคนถูกคนที่บ้านบังคับให้ดู ผลคือตอนเริ่มดูไม่ได้จริงจังนัก ทว่าผ่านไปครู่หนึ่งก็หยุดไม่ได้แล้ว ทุกคนล้วนเผยสีหน้าเหนือความคาดหมายออกมา!
บนโทรทัศน์
นักร้องอาวุโสสองสามคนกำลังร้องเพลงอยู่
‘กลับไปหาที่บ้านบ่อยๆ’
“หาช่วงว่างสักเล็กน้อย หาเวลาสักนิดหน่อย”
“พาเด็กๆ กลับไปหาที่บ้านบ่อยๆ”
“นำพารอยยิ้ม พาคำอวยพร”
“กลับไปหาที่บ้านบ่อยๆ ด้วยกันกับคนรัก”
“แม่เตรียมจะพูดคุยด้วยแล้ว”
“พ่อวุ่นวายกับการเตรียมอาหารอร่อยๆ เต็มโต๊ะ”
“คุยเรื่องความกังวลในชีวิตกับแม่”
“คุยเรื่องหน้าที่การงานกับพ่อ”
“กลับไปบ้าน กลับไปหาที่บ้านบ่อยๆ”
“ต่อให้ต้องช่วยแม่ล้างจานชามตะเกียบ”
“คนแก่เฒ่าไม่หวังให้ลูกชายลูกสาวสร้างคุณงามความดียิ่งใหญ่ให้ครอบครัว”
“เรื่องยากชั่วชีวิตนี้ คือหวังให้ทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตา”
……
ณ สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
แผนกวิจัยแห่งหนึ่ง
เหล่านักวิจัยกำลังดูรายการคืนส่งปี เมื่อได้ฟังเพลงนี้ทุกคนก็พากันเงียบงันไป
นักวิจัยหญิงคนหนึ่งยืนขึ้นเงียบๆ ก่อนเดินออกไปในสวนแล้วแอบหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาที่บ้าน มือของเธอสั่นเล็กน้อย หัวใจเองก็เต้นถี่รัว
โทรติดแล้ว
“เสี่ยวเหวิน นั่นเสี่ยวเหวินเหรอ?”
“แม่ หนูเอง”
“อา ลูกเป็นยังไงบ้าง? ทำงานอยู่ทางนั้นราบรื่นดีไหม? โครงการวิจัยสำเร็จหรือเปล่า? ร่างกายล่ะ? ปักกิ่งหนาวไหมลูก? ได้สวมเสื้อโค้ตไหม?”
“สวมแล้ว สวมตั้งนานแล้ว”
“งั้นก็ดี งั้นก็ดีแล้ว”
“แม่ ปีนี้หนูอาจจะ…”
“แม่รู้ งานของลูกสำคัญที่สุด แม่กับพ่อไม่มีปัญหา สบายดีมากๆ เลย เหอๆ พวกเราเข้าใจ ลูกมุ่งมั่นค้นคว้าวิจัยไปนะ จะต้องสร้างเกียรติยศให้ประเทศชาติได้แน่!”
นักวิจัยหญิงคนนั้นได้ยินชัดเจน ที่ปลายสายของโทรศัพท์มีเสียงเพลงเพลงนั้นดังลอดออกมา กลับไปหาที่บ้านบ่อยๆ นะ กลับไปหาที่บ่อยๆ แม้ว่าจะต้องช่วยพ่อกับแม่ล้างตะเกียบจานชาม
นาทีที่วางสายโทรศัพท์ เธอก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมา
……
ไม่มีการลิปซิงค์!
รายการคืนส่งปีปีนี้ไม่เหมือนกับปีก่อน ล้วนเป็นการร้องสดทั้งหมด!
นี่เป็นเงื่อนไขของจางเย่ ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการบีบบังคับด้วยว่าจำเป็นต้องร้องสด
เคยมีหัวหน้าทีมงานและคนจากทีมผลิตแสดงความกังขาอย่างรุนแรง แล้วก็มีคนไม่น้อยที่ออกเสียงคัดค้าน พวกเขาคิดว่าบนเวทีถ่ายทอดสดแบบนี้หากยังใช้การร้องสด เหล่านักร้องจะมีความกดดันมากเกินไป สถานการณ์พลิกผันได้ง่าย เพื่อทำให้ผลลัพธ์ของการแสดงออกมาดีที่สุดและมั่นคงที่สุด แน่นอนว่าต้องใช้การลิปซิงค์ ทว่าจางเย่กลับปฏิเสธทันที และไม่เปิดทางให้ถกเถียงใดๆ อีก!
คำพูดนั้นของจางเย่ คนของทีมงานผลิตรายการยังจำได้เป็นอย่างดี
ในตอนนั้นเขาพูดว่า “ถ้าหากนักร้องคนหนึ่งไม่มีแม้กระทั่งทักษะการร้องเพลงและความกล้าที่จะร้องเพลงบนเวที งั้นยังจะขึ้นแสดงรายการคืนส่งปีอะไรอีก! ผมไม่สนว่ารายการคืนส่งปีของคนอื่นจะเป็นยังไง แต่รายการคืนส่งปีของผมต้องไม่มีการลิปซิงค์! ถ้าคุณตกลงคุณก็ขึ้นไป คุณไม่เห็นด้วยก็ลงมานี่ เปลี่ยนเอาคนที่ร้องได้ขึ้นไปแสดง!”
ข้อตำหนิ?
อาจจะมี
ข้อผิดพลาด?
ก็อาจจะมีเหมือนกัน
แต่ว่าสิ่งเหล่านี้จางเย่ล้วนรับได้ เพราะไม่มีนักร้องคนไหนที่สามารถรับรองได้ว่าตนเองจะสามารถร้องเพลงได้โดยไร้ข้อผิดพลาดได้ในทุกเวที ทว่านี่เป็นเรื่องของความคิด คุณขึ้นมาร้องลิปซิงค์ คุณขยับปากร้อง “กลับบ้านไปหาที่บ้านบ่อยๆ นะ” แบบปลอมๆ? ที่ตัวคุณร้องมันปลอมทั้งหมด แบบนี้คุณจะไปสร้างความประทับใจให้ใครได้?
……
บนโทรทัศน์
เพลงที่สองร้องจบแล้ว
นอกจาก ‘เพราะความรัก’ ‘กลับบ้านมาหาบ่อยๆ’ แล้วก็ยังมีอีกเพลงหนึ่ง สามเพลงนี้เชื่อมต่อกันเป็นเพลงชุดหนึ่งที่เกี่ยวกับความรู้สึกของครอบครัวและความรัก
ทันใดนั้น เพลงที่สามก็เริ่มขึ้นแล้ว
……
ณ ห้องควบคุมหลัก
จางเย่คอยกำกับอยู่ตลอด
ไม่มีใครรู้ถึงความพิเศษของเพลงเพลงนี้ คาดว่าคนที่รู้จะมีแค่ตัวเขา
นี่ไม่ได้เป็นเพียงเพลงคู่ที่ธรรมดาเรียบง่ายขนาดนั้น เพราะบรรดาเพลงที่สามารถขึ้นแสดงในรายการคืนส่งปีในโลกเดิมของเขา และได้รับการยอมรับรวมถึงมีความนิยมที่สามารถก้าวข้ามการแสดงด้านภาษาและละครสั้น เซี่ยงเซิงเหล่านี้ไปได้ ย่อมไม่อาจเป็นเพียงเพลงธรรมดาๆ แน่นอน ซึ่งเพลงในลำดับถัดไปก็ถือเป็นหนึ่งในนั้น!
……
บนเวที
ครอบครัวชาวมองโกเลียสามคนขึ้นเวทีมาแล้ว
เสียงดนตรีและท่วงทำนองที่ไพเราะดังขึ้น
เด็กหญิงเอ่ยถามว่า “พ่อคะ ตอนที่พระอาทิตย์ปรากฏตัว พระจันทร์ก็กลับบ้านใช่ไหมคะ?”
พ่อตอบกลับ “ไม่ใช่จ้ะ”
เด็กหญิงถาม “ตอนที่ดวงดาวออกมา พระอาทิตย์ไปอยู่ที่ไหนคะ?”
พ่อตอบ “อยู่บนฟ้า”
เด็กหญิงถาม “ทำไมหนูหายังไงก็หาไม่เจอ?”
พ่อตอบ “ก็กลับบ้านไปแล้วไงล่ะ”
เด็กหญิงกับพ่อประสานเสียง “พระอาทิตย์ พระจันทร์และดวงดาวเป็นครอบครัวที่โชคดี”
เด็กหญิงเอ่ยถาม “แม่คะ ใบไม้เป็นสีเขียวแล้วเมื่อไหร่ดอกไม้จะบานคะ?”
แม่ตอบ “รอให้ใบไม้ร่วงโรยเสียก่อน”
เด็กหญิงถาม “ดอกไม้เบ่งบานแล้วจะไปเก็บผลไม้ได้หรือยังคะ?”
แม่ตอบ “รอดอกไม้เหี่ยวเฉาเสียก่อน”
เด็กหญิงถาม “ถ้าปลูกผลไม้ไว้ในดินมันจะแตกหน่ออ่อนไหมคะ?”
แม่ตอบ “รอให้ถึงใบไม้ผลิเสียก่อน”
พ่อแม่และเด็กหญิงประสานเสียง “ดอกไม้ ใบไม้ ผลไม้ก็คือครอบครัวที่โชคดี”
……
ความคิดของจางเย่ไม่ผิดเลย!
เขาใช้ข้อเท็จจริงพิสูจน์มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ผลงานที่โด่งดังไปทั่วสารทิศในโลกเดิมของเขาก็สามารถสะเทือนฟ้าพลิกแผ่นดินได้ในโลกนี้!
ในพริบตานั้น คนจีนมากมายทั่วโลกก็ถูกดึงดูดด้วยมนต์เสน่ห์อีกครั้ง!
“ว้าว!”
“เด็กหญิงคนนี้น่ารักจริงๆ!”
“เพลงนี้ก็น่ารักมากๆ เลย!”
“ชอบจะตายแล้ว!”
“เพราะมาก ไม่เลวเลย!”
“เพลงนี้พิเศษมาก ไม่ใช่วิธีการร้องที่พบเห็นได้บ่อยๆ นะ!”
“อบอุ่นมากเลย!”
“ฉันชอบเพลงนี้! ฉันชอบเพลงนี้!”
“เพลงดีขึ้นเรื่อยๆ เลย!”
“เพลงสามเพลงนี้ ฉันให้คะแนนเต็ม!”
“เพลงพวกนี้แต่งออกมาได้เยี่ยมมาก เนื้อร้องดี ทำนองเองก็ดี!”
“อ๊าๆๆ ฉันเป็นอะไรไปแล้วเนี่ย ทำไมเหมือนว่าฉันจะถูกรายการคืนส่งปีของปีนี้ทำให้ลุ่มหลงเข้าแล้วล่ะ! ฉันนั่งอยู่หน้าโทรทัศน์มาครึ่งชั่วโมงแบบไม่ขยับไปไหนเลยนะ! สวรรค์ ฉันบ้าไปแล้วเหรอ? เมื่อก่อนฉันไม่เคยดูรายการคืนส่งปีเลย! ต่อให้ดูก็จะต้องเหน็บแนมไปด้วยตลอด!”
“ฉันก็เหมือนกัน!”
“รายการคืนส่งปีปีนี้กลับตาลปัตรไปเลยจริงๆ!”
“ลำดับต่อไปล่ะ?”
“ลำดับต่อไปเป็นการแสดงอะไร?”
“เร็วเข้า!”
“ตั้งตารอมากๆ!”
“ฉันอยากรู้จังเลยว่ามายากลของปีนี้จะเป็นยังไง!”
“ฉันสนใจงานของจางเย่ เหยาเจี้ยนไฉแล้วก็ต่งซานซานมากกว่า!”
“การแสดงของเสี่ยวหูเตี๋ยได้อธิบายความรู้สึกที่ฉันมีต่อรายการคืนส่งปีปีนี้ไปหมดแล้ว หยุดไม่ได้แล้ว!”
“ใช่ ฉันน่ะ ขนาดอาหารคืนส่งท้ายปียังไม่ได้ไปกินเลย ดูรายการคืนส่งปีอยู่ตรงนี้ตลอด นี่เป็นเรื่องที่หลายปีก่อนหน้านี้ไม่เคยจินตนาการมาก่อนเลยล่ะ!”
“ว้าว เริ่มแจกการ์ดความสุขแล้ว!”
“การ์ดความสุขมาอีกรอบแล้ว รีบแย่งเร็ว!”
“รางวัลใหญ่สองร้อยล้านมาแล้ว!”
“ดาราก็ส่งอั่งเปาแล้ว”
“ฮ่าๆๆ ฉันแย่งอั่งเปาของจางหย่วนฉีมาได้ล่ะ!”
“ฉันแย่งมาได้เยอะมาก เจ็ดหยวนแปดเหมา!”
“เชี่ย ฉันแย่งของจางเย่ได้! ได้มาสองเฟินครึ่ง! น้องสาวแกสิ จางเย่ไอ้คนขี้เหนียว! ทำไมเขาให้น้อยกว่าใครเพื่อนเลย!”
“ฮ่าๆๆๆๆๆ!”
“ฉันกะจะแย่งการ์ดความสามัคคีล่ะ!”
“ความอุดมสมบูรณ์จ๋า!”
คนจำนวนมากนั่งอยู่หน้าโทรทัศน์ รายการคืนส่งปีปีนี้ดึงดูดพวกเขาได้อยู่หมัด ตอนนี้ต่อให้สั่งให้ทุกคนปิดโทรทัศน์ ทุกคนก็ไม่ยอมปิดแล้ว!