ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I'm really a superstar - ตอนที่ 1342
บนเวยป๋อ
กระแสพูดคุยยังคงร้อนแรง
“รายการคืนส่งปีของปีนี้ต่างจากเดิมมากจริงๆ!”
“ทุกรายการล้วนสดใหม่!”
“ใช่ เห็นด้วย สดใหม่มาก!”
“หลายการแสดงไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนด้วย!”
“ใช่ เพิ่งเคยได้ยินการแสดงพระแต่งนางก็วันนี้เอง!”
“รายการคืนส่งปีของปีนี้สนุกมากจริงๆ!”
“ใช่ เมื่อก่อนมีแค่เซี่ยงเซิงกับละครตลกที่พอดูได้หน่อย บางครั้งถึงกับไม่สนุกด้วยซ้ำไป แต่ปีนี้ ทั้งเพลง ทั้งรายการเต้น ทั้งมายากล ต่างทำให้ผู้ชมต้องตะลึงทั้งนั้น!”
“จางเย่มีความสามารถจริงๆ”
“เห็นว่ายังมีรายการใหม่ๆ อีกหลายอันเลยนะ”
“หือ? มีอีกเหรอ?”
“ใช่ การเต้นโดยคณะเต้นคนหูหนวกไง”
“อ้อเห็นรายการนั้นแล้วล่ะ แต่คณะเต้นคนหูหนวกนี่มันยังไงกันน่ะ?”
“นั่นสิ คนหูหนวกจะเต้นได้ไง? ฉันก็ยังไม่เข้าใจเหมือนกัน”
“ใช่ เหมือนอย่าง ‘โบยบินสู่สรวงสวรรค์’ นั่นไง ฉันว่าก็เป็นการแสดงที่ดีนะ นักเต้นเก่งๆ ในประเทศเรามีตั้งมากมาย ทำไมไม่เชิญมาล่ะ? พวกเขาน่าจะเต้นดีกว่าไม่ใช่เหรอ?”
“เอ๊ะ มาแล้วล่ะๆ!”
“รายการต่อไปแล้วเหรอ?”
……
บนจอโทรทัศน์
การถ่ายทอดสดยังดำเนินต่อไป
เหยียนเหมย พิธีกรจาก CCTV ยืนบนเวทีพร้อมรอยยิ้มฝืดฝืนเล็กน้อย “ต่อไปขอแนะนำโค้ชผู้นี้ให้กับทุกท่านนะคะ นี่คือ ฉีเสี่ยวเม่ย คือผู้ฝึกสอนของคณะเต้นรำผู้พิการทางโสตประสาท จากคณะดนตรีและศิลปะการแสดงชนกลุ่มน้อยประจำชาติค่ะ”
กล้องสลับไปทางผู้ชม
ที่แถวหน้า ฉีเสี่ยวเม่ยยืนขึ้นอย่างกระวนกระวาย ใช้ภาษามือทักทายทุกคน
เหยียนเหมยแปลให้ “เธอบอกว่า ‘สวัสดีค่ะทุกคน’”
ผู้ชมตอบรับด้วยการปรบมือ
ฉีเสี่ยวเม่ยส่งภาษามืออีกครั้ง
เหยียนเหมย “อาจารย์ฉีกล่าวว่า ‘เด็กๆ เหล่านี้ เกิดมาบนโลกที่ไม่มีเสียง แต่ในสมองของพวกเขาและเธอต่างได้ยินสำเนียงเดียวกันกับเรา” เธอหยุดมองภาษามือของฉีเสี่ยวเหมยชั่วครู่ แล้วอธิบาย “นี่คือโลกที่ไม่มีเสียงพูดคุย แต่เธอจะใช้วิถีทางของตัวเองเพื่อสื่อสารและเชื่อมต่อกับทุกคน ขอบคุณค่ะ”
ฉีเสี่ยวเม่ยค้อมกายลงน้อยๆ
ผู้ชมปรบมือขึ้นอีกครั้ง
เหยียนเหมยมองกล้อง “ต่อไป ฉันขอแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกับรายการสุดพิเศษรายการนี้ ที่พิเศษนั้นเป็นเพราะนักแสดงทุกคนล้วนใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่ไร้เสียง ไม่ได้ยินเสียงของพ่อแม่ที่รักใคร่ และแน่นอน ไม่มีทางรับรู้ถึงเสียงดนตรีที่งดงาม แต่ถึงอย่างนั้น พวกเธอก็ยังสามารถส่งคำอวยพรสำหรับตรุษจีนนี้ด้วยการเต้นอันงดงาม ขอให้ทุกท่านสนุกไปกับรายการต่อไป ‘กวนอิมพันมือ’”
……
ที่บ้านคุณอู๋
อู๋ฉางเหอ “เริ่มแล้ว”
หลี่ฉินฉิน “รายการนี้เสี่ยงมากนะ”
“ใช่ มีข้อขัดแย้งมากมายแน่” อู๋ฉางเหอตอบ
……
ที่บ้านยายของจางเย่
น้องสาวคนโตของเขาประนมมือ “ขอให้รอดๆ!”
น้องอีกสองคนก็ภาวนา “ขอให้การแสดงนี้ราบรื่นด้วยเถอะนะคะ!”
ยายของจางเย่ถาม “พวกเธอทำอะไรน่ะ?”
น้องรอง “ย่าคะ ย่าไม่รู้หรอกว่าการแสดงนี้น่ะถูกคนวิจารณ์ตั้งแต่การคัดเลือกรอบสองแล้ว โดนวิจารณ์ยับเลย”
……
ในเน็ต
ทุกคนยังถกเถียงกันเรื่องการแสดงชิ้นนี้
“ฉันว่าดีมากนะ”
“ดีตรงไหน”
“ต้องเป็นเบื้องบนจัดลงมาให้แน่ๆ”
“นี่เป็นโอกาสดีให้คนพิการมีส่วนร่วมในรายการนะ”
“แต่งานจะออกมาไม่ดีน่ะสิ”
“ฉันสงสารคนพิการนะ แต่รายการคืนส่งปีไม่ใช่รายการการกุศล ยังไงก็ต้องให้คนที่แสดงได้ดีขึ้นแสดง”
“ไม่แน่นะ พวกเธออาจจะเต้นได้ดีก็ได้”
“พอเถอะน่า ฉันไม่เชื่อหรอกว่าคนหูหนวกจะเต้นได้ดีกว่าคนปกติน่ะ”
“ใช่ พวกเธอไม่ได้ยินแม้แต่เสียงดนตรีนะ!”
หลายคนนึกสงสัย การแสดงของคณะเต้นของคนหูหนวกเป็นสิ่งที่ถกเถียงกันตั้งแต่ลิสต์รายการแสดงของจางเย่ถูกเปิดเผยแล้ว บ้างสนับสนุนและชื่นชมรายการนี้ การให้คนพิการมาแสดงบนเวทีคืนส่งปีเองก็ดูมีมนุษยธรรม ส่วนที่ว่าการเต้นจะดีพอหรือไม่เป็นเรื่องรองลงไป ที่สำคัญคือคนพิการก็ได้สัมผัสถึงความอบอุ่นจากการแสดงในรายการคืนส่งปี แต่คนที่คัดค้านเห็นว่าคุณภาพของการแสดงไม่ควรต้องเสียไปเพียงเพื่อแสดงความเห็นใจคนพิการ ไม่สมควรเป็นเรื่องของคุณธรรมอะไรแบบนั้น เพราะว่าไม่ยุติธรรม
ต่างคนต่างความคิด
ความเห็นแย้งไม่ได้สิ้นสุด
จนกระทั่งในที่สุด การแสดงก็เริ่มต้นขึ้น
คำตอบของสิ่งที่ทุกคนสงสัยกำลังจะเผยออกมาแล้ว
……
บนหน้าจอโทรทัศน์
การออกแบบชุดยังคงน่าตื่นตา
แสงสีบนเวทีก็ชวนให้ตะลึง
นักแสดงยืนบนเวที กล้องจับภาพหน้าตรง เป็นเด็กสาวคนหนึ่งยืนอยู่ในชุดสีทองงดงาม
ไม่สิ!
ไม่ได้มีคนเดียว!
มีหลายคน!
ยืนเรียงแถว?
แต่กลับดูเหมือนมีแค่คนเดียว
เหล่าผู้ชมชะงักไปเล็กน้อย
ดนตรีเริ่มบรรเลงด้วยเสียงกู่ฉิน
ทันใดนั้นขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึง แขนคู่หนึ่งก็ปรากฏขึ้นหลังเด็กหญิงคนแรก แขนคู่ต่อๆ มาปรากฏขึ้นจากด้านหลังในเวลาแทบจะใกล้ๆ กัน เหมือนว่าแขนนั้น ‘งอก’ ออกมาจากด้านหลังเด็กสาว เหมือนจริงมากๆ!
สามคู่!
ห้าคู่!
สิบคู่!
ทันใด แขนสิบกว่าคู่นั้นก็หดกลับลงโดยพร้อมเพรียง ก่อนเริ่มสยายออกมาอีกครั้ง มือเหล่านั้นประดับเล็บยาวสีทอง ดูทั้งตื่นตาตื่นใจและน่าหลงใหล
ประชาชนจีนทั่วโลกต้องตะลึง!
“อะไรกัน?”
“เป็นไปได้ไง?”
“นี่ นี่ทำได้ยังไงกัน?”
“ทำไมถึงทำได้กัน?”
“ทำไมเคลื่อนไหวเป็นทำนองเดียวกันขนาดนี้?”
“เป็นไปไม่ได้!”
“หูหนวกไม่ใช่เหรอ?”
“คนปกติยังทำได้ไม่แม่นยำขนาดนี้! ทำได้ยังไงกัน?”
“เชี่ย!”
แต่ว่า พวกเขากลับตกตะลึงเร็วเกินไป!
เมื่อแขนนับสิบคู่นั้นดึงกลับไปอีกครั้ง พวกเธอก็โบกช้าๆ ก่อนสยายเรียงรายออกมาด้านหลังเด็กสาวคนแรกเหมือนใบพัดที่คลี่ออก ภาพของกวนอิมพันมือที่น่าตระหนกปรากฏขึ้นแล้ว!
ชั่วขณะนั้น!
ทุกๆ คนที่ได้เห็น!
ชาวจีนทุกคนทั่วโลกต่างต้องขวัญสะท้าน!
ภาพนี้สั่นสะเทือนจิตใจพวกเขา!
ผู้ชมในห้องส่งตาค้าง!
ผู้ชมตรงหน้าจอยิ่งตาค้าง!
“สวรรค์!”
“อ๊า!”
“สวรรค์!”
“เง็กเซียน!”
“สวยโคตร!”
“คนหูหนวกเหรอ? นี่พวกเธอหูหนวกจริงๆ เหรอ?”
“ทำไมถึงแสดงได้งดงามขนาดนี้!”
……
ที่บ้านยายของจางเย่
แม่ตาค้าง!
พ่อเองก็อ้าปากสูดลมหายใจเฮือก!
น้องสาวทั้งสามขนลุกอย่างตกตะลึง!
……
ทุกคนต้องปิดปากสนิทแล้ว!
คนที่เคยเคลือบแคลงสงสัยและวิจารณ์ล้วนไม่อ้าปากแล้ว
ชั่วขณะนี้ ทุกคนรู้สึกได้แต่ความตกตะลึง มองความงดงามจนแทบหยุดหายใจบนจอทีวีอย่างยากอธิบายออกมาเป็นคำพูด!
การระบำยังดำเนินต่อไป
ดึงกลับ
ยืดขยาย
แขนที่พลิ้วไหวอย่างมีชีวิตชีวาคล้ายติดอยู่กับแผ่นหลังของผู้แสดงคนแรก และถูกควบคุมโดยเธอเพียงคนเดียว พลิ้วไหว เป็นอิสระ เปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดยั้ง!
เสียงปรบมือดังไม่หยุด!
ในห้องส่งบางคนที่ตื่นเต้นจนต้องลุกขึ้นยืน!
มีคนที่ร้องไห้อย่างทนไม่ได้ แต่ยิ่งปาดน้ำตาก็ยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิม!
สุดยอด!
สุดยอดมาก!
พิธีกรอย่างเหยียนเหมยก็ตาแดงรื้น!
ที่นั่งแถวหน้านั้น ฉีเสี่ยวเม่ยส่งสัญญาณมือไม่หยุด กัดฟันเม้มริมฝีปากแน่น พยายามหยุดเสียงสะอื้นขณะควบคุมเด็กๆ บนเวที! นี่แหละ! ดีมาก! พวกเธอทำได้ดีมาก! อาจารย์ภูมิใจในตัวทุกคน! พวกเธอคือนักเรียนที่เก่งที่สุดเท่าที่ฉันเคยสอนมา! ดีมาก! ทุกคนเลย ดีมากจริงๆ!
นี่คือการแสดงที่ทุกคนต้องตะลึง!
เปรียบกับ ‘โบยบินสู่สรวงสวรรค์’ แล้วยังน่าตื่นตะลึงยิ่งกว่า!
คนหูหนวกเป็นใบ้!
เด็กสาวพวกนี้ไม่ได้ยินเสียงอะไรแม้แต่น้อย!
ผู้ชมหน้าจอทีวีก็น้ำตาไหลเช่นกัน!
กวนอิมพันมือ?
นี่หรือคือกวนอิมพันมือ?
การแสดงระดับนี้ ต่อให้ออกค้นหาจนสุดหล้าก็หาไม่มีที่สองอีกแล้ว!