ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I'm really a superstar - ตอนที่ 1367
เครื่องบินบินขึ้นฟ้าแล้ว
ทะยานขึ้นไปที่ความสูงหนึ่งหมื่นเมตร
หนิงหลันหลับตาพักผ่อน
ฉีเหม่ยหลันอ่านหนังสือ
เฉินกวงและจ้าวอู่ลิ่วพูดคุยเกี่ยวกับเทศกาลดนตรี
“เหล่าจ้าว คุณเตรียมเพลงอะไรไว้เหรอ?”
“เพลง ‘BOBO’ น่ะ”
“อ่า เพลงนี้เหรอ”
“ก็ยากอยู่ รอดูสถานการณ์ก่อน คุณล่ะ”
“เพลงเฮฟวีเมทัลผมก็ได้ไม่กี่เพลงเอง น่าจะเป็น ‘CHARIOT’ นั่นแหละ”
“เราสองคนไม่ใช่สไตล์เฮฟวี่เมทัล ที่จริงก็ไม่ค่อยอยากร้องเท่าไร”
“ประเทศเราไม่มีเพลงเฮฟวี่เมทัลเป็นของตนเองนี่นะ”
“ใช่ไง เฮ้อ สุดท้ายก็ต้องเลียนแบบคนอื่น”
“ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีเพลงเฮฟวี่เมทัลจีนออกมาสองสามเพลง แต่ก็ไม่ดังสักเพลง พวกเราเพิ่งเริ่มเดิน ค่อยเป็นค่อยไปเถอะ ยังไงก็ต้องมีผลงานที่ดีเข้าสักวัน”
“หวังว่าอย่างนั้นนะ”
จางเย่ที่กำลังสวมผ้าปิดตาหลับพักผ่อนก็ได้ยินการสนทนาของพวกเขา
เป็นไปไม่ได้มั้ง?
ประเทศจีนไม่มีแนวเพลงเฮฟวี่เมทัลของตนเองเหรอ?
ถ้าอย่างนั้นเพลงเฮฟวี่เมทัลของนานาชาติเป็นอย่างไรแล้วบ้าง?
เขาเองก็อยากรู้อยากเห็น ท้ายที่สุดเขาก็ไม่ใช่คนของโลกนี้ เรื่องราวมากมายในประเทศช่วงหลายปีมานี้จางเย่ก็เรียนรู้อย่างช้าๆ แต่เรื่องราวระดับนานาชาติจางเย่ยังไม่เข้าใจอยู่มาก เนื่องจากเขาตัดสินใจที่จะพัฒนาไปจนถึงระดับนานาชาติ แน่นอนว่าต้องรู้สถานการณ์ของประเทศอื่นก่อน เช่นสไตล์เพลง วัฒนธรรม นี่คืออีกเป้าหมายหนึ่งที่จางเย่มาเกาหลีในครั้งนี้ เขามาเพื่อหาลู่ทางนั่นเอง
หนึ่งชั่วโมง
สองชั่วโมง
ในที่สุดเครื่องบินก็ลงจอด มาถึงเกาหลีแล้ว
ณ กรุงโซล
ที่สนามบิน
ทันทีที่ทุกคนออกมา ตัวแทนเจ้าภาพคอนเสิร์ตการกุศลที่มารับพวกเขาก็เข้ามาต้อนรับ และไม่รู้ว่ามีข่าวรั่วหรืออย่างไร เพราะมีแฟนคลับชาวเกาหลีและนักเรียนแลกเปลี่ยนชาวจีนมารอรับด้วย
“กรี๊ด!”
“ฉีเหม่ยหลัน!”
“ฉีเหม่ยหลัน!”
“เจียงฮั่นเวย!”
“เสี่ยวตงนี่นา!”
หลายคนตะโกนเป็นภาษาเกาหลี
หลายคนชูป้ายต้อนรับ
จางเย่ฟังไม่ออกและอ่านภาษาเกาหลีไม่เข้าใจ แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าในนั้นไม่มีคนตะโกนชื่อของเขาเลย นี่ก็สามารถแสดงถึงความต่างชั้นของคะแนนนิยมในเอเชียได้แล้ว ในประเทศจางเย่มีชื่อเสียงอยู่ในระดับเดียวกับสตาร์ควีนฉีเหม่ยหลัน ไปที่ไหนก็มีแต่แฟนคลับล้อมรอบ ยกตัวอย่างเช่นในห้องรับรองของสนามบิน มีผู้โดยสารสองคนวิ่งเข้ามาขอลายเซ็นของจางเย่และฉีเหม่ยหลัน แต่หลังจากมาถึงเกาหลี ฉีเหม่ยหลันยังคงโด่งดัง แต่ชื่อเสียงของจางเย่กลับมองไม่เห็นแล้ว คะแนนนิยมไม่พอ ไม่ต้องพูดถึงฉีเหม่ยหลัน แค่เจียงฮั่นเวยกับเสี่ยวตงเอมี่พวกเขายังได้รับการต้อนรับมากกว่าจางเย่ ในจำนวนคนมากมายไม่มีใครรู้จักจางเย่สักคน สายตาไม่แม้แต่จะเหลือบมองมาทางเขา
บนรถบัส
จางเย่มองไปที่ทิวทัศน์แปลกตาด้านนอกหน้าต่าง เขากลับรู้สึกผ่อนคลายมาก
หนิงหลันถาม “อารมณ์ดีไม่เลวนี่นาย?”
จางเย่หัวเราะ “ใช่สิ ยากนะที่จะมีสถานที่ที่คนไม่รู้จักผม”
เสี่ยวตงกลอกตา “คุณเป็นถึงดาราเอเชียระดับเอเชียวนะ”
จางเย่ขำ “ระดับเอปลายแถวน่า ทั้งยังอยู่บรรทัดสุดท้ายของระดับเออีก”
“ที่นี่มีคนรู้จักคุณเยอะแยะ” เฉินกวงพูด “เพียงแต่แฟนคลับมีไม่มาก ใครใช้ให้คุณไม่มีผลงานฉายต่างประเทศกันล่ะ แล้วยังไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรมของแถบเอเชียเลยด้วย”
เอมี่ “แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม ผู้มีอิทธิพลและมีคะแนนนิยมมากที่สุดในเอเชีย ส่วนใหญ่ก็ยังเป็นดาราเกาหลี ในบรรดาสตาร์คิงสตาร์ควีนของเอเชีย เป็นดาราเกาหลีซะเกินครึ่ง อุตสาหกรรมบันเทิงของเกาหลีใต้เป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลก จากการฝึกฝน การคัดกรอง จนไปถึงการโฆษณา ล้วนแต่เป็นมืออาชีพ ตรงจุดนี้พวกเราเทียบกับพวกเขาไม่ได้เลย”
ในที่สุดเจียงฮั่นเวยก็พูดแล้ว “ดาราศิลปินเกาหลีเป็นที่นิยมจริงๆ แม้ว่าบนเวทีระดับโลกพวกเขาจะมีคนที่ประสบความสำเร็จน้อยมาก และไม่ใช่ดาราชั้นนำของนานาชาติ แต่ในเอเชียกลับโด่งดังอย่างมาก ไม่ต้องพูดถึงที่อื่น พูดถึงแค่ในจีน ดาราเกาหลีคนใดคนหนึ่งขอแค่มีผลงานที่โอเค รูปร่างหน้าตาหล่อเหลาก็เป็นที่นิยมในจีนแล้ว อย่างน้อยก็เติบโตได้ไม่เลว แต่ว่าศิลปินของประเทศเราถ้าต้องการจะมีชื่อเสียงโด่งดังในเกาหลีและญี่ปุ่น นั่นเป็นเรื่องที่ยากมาก”
รถบัสเคลื่อนตัวแล้ว
ทุกคนคุยกันตลอดทาง
พวกเขาเข้าพักที่โรงแรม
จัดเก็บสัมภาระ
กินข้าว
กว่าจะทำทุกอย่างเสร็จก็เป็นช่วงเย็นแล้ว
ตอนนี้เป็นเวลาส่วนตัว งานเลี้ยงการกุศลจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ทุกคนไม่มีอะไรทำจึงตัดสินใจไปกับเฉินกวงและจ้าวอู่ลิ่ว
“ไปกันไหม?”
“โอเค ไปดูเทศกาลดนตรีเฮฟวี่เมทัลนั่นกัน”
“เฮฟวี่เมทัล ฉันฟังมาน้อยมากจริงๆ”
“เหล่าเฉินเหล่าจ้าวก็จะขึ้นแสดงเหรอคะ?”
“ใช่สิ ขอแสดงความอ่อนด้อยแล้ว”
“ฮ่าๆ พวกเราจะอยู่ด้านล่างเชียร์คุณสองคนนะ”
หลังจากจัดการเรื่องรถ เรียกล่ามเรียบร้อย ทุกคนก็ออกไปพร้อมกัน
……
ตอนเย็น
ช่วงเวลาห้าโมงกว่า
ณ สถานที่แห่งหนึ่งในกรุงโซล มีเสียงเพลงอึกทึกดังไปทั่ว
พวกเขาได้ตั๋วเข้าผ่านประตูหลัง และนั่งบนที่นั่งวีไอพี
ทันทีที่เข้าไป หนิงหลันก็ต้องเอามือปิดหู “ยังไม่เริ่มอีกเหรอ? ทำไมเสียงดังแบบนี้?”
เอมี่หัวเราะฮาๆ “ที่ต้องการก็คือบรรยากาศแบบนี้แหละ เพลงเฮฟวี่เมทัลเพราะนะ ต้องใช้ใจฟัง น่าเสียดายที่ประเทศเราไม่มีผลงานอะไรเลย มีแต่ที่เลียนแบบต่างประเทศ อย่างมากก็ร้องเพลงที่แปลงมาจากภาษาต่างประเทศเท่านั้น”
ต้าฉีถาม “แล้วเกาหลีกับญี่ปุ่นล่ะ?”
เอมี่คือมืออาชีพด้านการทำเพลง เธอมีความเข้าใจอย่างกระจ่างแจ้ง “เกาหลี ญี่ปุ่นต่างก็มีสไตล์ดนตรีเฮฟวี่เมทัลเป็นของตัวเอง อย่างเช่นญี่ปุ่นนั้นมีแนวโน้มที่จะเป็นสไตล์แรกเริ่มของเฮฟวี่เมทัลได้เลย ส่วนเกาหลี ที่จริงฉันคิดว่าสไตล์ไม่ชัดเจนมากนัก เป็นการเปลี่ยนจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาเกาหลีในการร้องเท่านั้น แต่หากจะบอกว่านี่คือดนตรีร็อกเฮฟวี่เมทัลของเกาหลีเอง ก็ไม่ผิด”
เสี่ยวตง “มีแต่ประเทศจีนที่ไม่มีสไตล์เฮฟวี่เมทัลเป็นของตัวเองนี่นา”
เอมี่ “นี่ก็ทำอะไรไม่ได้ พวกเราเพิ่งเริ่มต้นเส้นทางด้านนี้ ต้องลองดูว่าจะเอาวิธีการร้องของภาษาจีนมาทำเพลงเฮฟวี่เมทัลในสไตล์ตัวเองได้ยังไง พูดเหมือนง่ายนะ แต่ที่จริงมันยากมาก”
ประเทศจีนไม่มีเฮฟวี่เมทัล?
ประโยคนี้อีกแล้ว?
จางเย่ได้ยินเป็นครั้งที่สองของวันแล้ว
เขายิ่งอยากรู้ว่าดนตรีเฮฟวี่เมทัลในโลกนี้เป็นอย่างไรกันแน่มากขึ้นไปอีก
ผู้ชมทยอยเข้ามา มีนักเรียนแลกเปลี่ยนจากจีน มีคนเกาหลี มีคนมาจากทั่วทุกสารทิศ บรรยากาศคึกคักมาก การแต่งกายของแต่ละคนก็มีความโดดเด่นอย่างมาก บางคนอินดี้มาก บางคนเป็นชุดหนังทั้งตัว และยังมีคนที่ทำผมหลากสีสัน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น ทุกคนต่างมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง
สามสิบนาทีให้หลัง
ทุกคนต่างเข้ามาหมดแล้ว
เทศกาลดนตรีเฮฟวี่เมทัลนานาชาติเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
วงดนตรีเกาหลีวงหนึ่งขึ้นแสดงแล้ว
เพียงแค่พวกเขาออกมา ด้านล่างก็มีเสียงตะโกนเชียร์ทันที!
“$%$#!”
“$%$#!”
“$%$#!”
ทุกคนต่างตะโกนหนึ่งประโยคเป็นภาษาเกาหลี
แน่นอนว่าพวกจางเย่ฟังไม่ออกสักนิด
ล่ามคนที่มาด้วยหัวเราะ “พวกเขาตะโกนชื่อวงอยู่ครับ สตรองวินด์”
จางเย่หยอก “พายุฝนไม่มาเหรอ?”
เอมี่กลอกตา “นี่เป็นหนึ่งในวงเฮฟวี่เมทัลที่ดังที่สุดในเกาหลีเชียวนะ”
เสี่ยวตง “มาแล้ว!”
ฉีเหม่ยหลันก็มองไปทางเวทีอย่างสนอกสนใจ เธอเองก็ไม่ค่อยได้ฟังเพลงเฮฟวี่เมทัลเช่นกัน
ทันใดนั้นแสงไฟก็สว่างเป็นประกายระยิบระยับ!
เสียงดนตรีอันหนักแน่นดังขึ้น!
กีตาร์!
เบส!
เสียงดังกระหึ่มทั่วงานทันที!
“&8((&…%!”
“&()(%$##@@!”
นักร้องร้องเป็นภาษาเกาหลี พวกเขาฟังไม่ออก ทำได้เพียงใช้ความรู้สึกรับฟัง
เอมี่คือผู้เดินสายทางด้านนี้ เธอพูดเสียงดังว่า “ไม่เลวเลยจริงๆ!”
เสี่ยวตงก็เข้าใจอยู่เล็กน้อย “เสียงดนตรี และเสียงนักร้องนำเยี่ยมมาก!”
ฉีเหม่ยหลันชื่นชมอย่างเงียบๆ
หนิงหลันนั่งไขว่ห้างเอามือปิดหู เสียงเพลงดังเกินไป
มีเพียงจางเย่คนเดียวที่แสดงออกไม่เหมือนคนอื่น เขาอึ้งไปแล้ว
วงที่สองขึ้นแสดงแล้ว!
วงเฮฟวี่เมทัลจากญี่ปุ่น!
จากนั้นวงดนตรีที่สามเป็นหนึ่งตัวแทนจากวงดนตรีเฮฟวี่เมทัลของอเมริกา!
วงที่สี่มาจากฟินแลนด์!
วงที่ห้าเป็นของอังกฤษ!
ด้านล่างมีนักเรียนแลกเปลี่ยนชาวจีนหลายคนกำลังดื่มเหล้าและโบกแขนโยกตัวอย่างเมามัน!
“สุดยอดเลย!”
“เพราะมาก!”
“ฉันชอบวงสตรองวินด์!”
“ยังไงดนตรีสดก็ยอดเยี่ยมที่สุด!”
“ใช่แล้วใช่แล้ว มาวันนี้คุ้มแล้วล่ะ!”
“เฉินกวงกับจ้าวอู่ลิ่วออกมาหรือยัง?”
“ใกล้แล้วใกล้แล้ว!”
“น่าเสียดายพวกเราไม่มีเฮฟวี่เมทัลเป็นของตัวเอง!”
ฉีเหม่ยหลันแสดงความคิดเห็นหนึ่งประโยค
เจียงฮั่นเวยและต้าฉีก็กำลังคุยกันเรื่องนี้
มีเพียงจางเย่เท่านั้นที่ฟังการร้องเพลงของวงดนตรีบนเวทีด้วยท่าทางที่งุนงง!
นี่เหรอ?
นี่น่ะเหรอ?
เชี่ย พวกนายกำลังพูดเรื่องอะไรกันอยู่ ฉันยังนึกว่าเพลงเฮฟวี่เมทัลของโลกนี้พิเศษมาก ฉันยังนึกว่าเพลงเฮฟวี่เมทัลของโลกนี้แตกต่างจากโลกเดิมของฉันเสียอีก มันก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ? นี่มันไม่ใช่เพลงเฮฟวี่เมทัล แต่เป็นเพลงร็อกธรรมดาที่มีอยู่เกลื่อนกลาดหรอกหรือ?
แต่ประเทศจีนกลับไม่มีเนี่ยนะ?
นายกำลังล้อฉันเล่นอยู่เรอะไง??
Comments for chapter "ตอนที่ 1367"
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
มะแวว
ขนลุกแล้ว555 เสร็จจ่งเย่แน่ๆ