ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I'm really a superstar - ตอนที่ 1379
ทุกคนคล้ายยังไม่ได้สติกลับมา!
มิยาโมโตะเซ็นเซก็ตกตะลึง เขาไม่คาดคิดว่าจะมีคนกล้าท้าทายตัวเอง “นายเป็นใคร?”
ล่ามของทางนั้นช่วยแปล “คุณคือใครครับ?”
จางเย่หัวเราะ “ผู้น้อยแซ่จาง”
เอมี่ “…”
เฉินกวง “…”
เสี่ยวตงที่เพิ่งโกรธแทบตายเมื่อกี้ก็ถูกคำพูดนี้ทำให้ขำ
ล่ามญี่ปุ่นเหงื่อไหล แปลกลับไปหนึ่งประโยค
มิยาโมโตะเซ็นเซสีหน้าไร้คำพูด ผู้น้อย? ใครเขาสุภาพกับนายกัน! แต่หลังจากล่ามกระซิบชื่อเต็มของจางเย่กับเขา ดวงตาของมิยาโมโตะเซ็นเซก็หรี่ลง เห็นได้ชัดว่าเขารู้จักจางเย่ อดไม่ได้ที่จะมองสำรวจจางเย่อย่างละเอียด ปีนั้นที่มหาวิทยาลัยเป่ยต้า คนที่พานักศึกษามาด่าพวกเขาก็คือชายคนนี้? อันธพาลแบบนี้ได้เป็นถึงดาราระดับ A ของเอเชีย? เป็นไปได้ยังไง? ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่! คนแบบนี้ยังไม่ถูกประเทศพวกเขาสั่งแบนอีกเหรอ? ทำไมถึงเดินขึ้นมาบนเวทีระดับเอเชียได้? ทำไมถึงยิ่งเดินสูงขึ้นทุกที?
พิธีกรชาวเกาหลีถาม “คุณจางเย่ คุณจะเสนอของประมูลใหม่เหรอครับ?”
จางเย่ไม่แยแส “ถูกต้อง ผมก็อยากเข้าร่วมสนุกด้วย”
พิธีกรชาวเกาหลี “ผลงานอะไรเหรอครับ?”
จางเย่พูดด้วยท่าทางไม่เห็นต้องถาม “ก็ต้องเป็นการเขียนอักษรแน่นอนอยู่แล้ว น่ะสิ ได้ไหม?”
พิธีกรชาวเกาหลี “เอ่อ นี่ แน่นอนว่าได้ครับ”
……
ที่ประเทศจีน
บ้านคุณยาย
“กรี๊ดดด พี่ชายฉันเองค่า!”
“เชี่ย พี่ชายฉันทำไมถึงขึ้นไปได้ล่ะ?”
“เย่น้อยจะทำอะไรเนี่ย?”
“เขาเขียนอักษรได้เหรอ?”
“เขาเขียนได้ แต่ก็แค่เขียนเล่นๆ เฉยๆ นี่?”
……
ที่บ้านเหยาเจี้ยนไฉ
“พ่อคะ รีบมาเร็วเข้า!”
“ทำไมเหรอ?”
“งานเลี้ยงการกุศลเกิดเรื่องแล้ว! ลุงจางลงมือเองแล้ว!”
“เชี่ย ในที่สุดก็เกิดเรื่องจนได้เรอะ? ฉันก็กะไว้อยู่แล้วเชียว ไอ้เด็กนี่ไปต่างประเทศต้องไม่มีเรื่องดีแน่! เขาไปถึงไหนเป็นต้องมีเรื่องถึงนั่น!”
“ไอ้หยา พ่ออย่าซ้ำเติมลุงจางเลย รีบมาดูเถอะ!”
……
บนเวยป๋อ
“เชี่ย รีบไปดูถ่ายทอดสดงานเลี้ยงการกุศลเร็ว!”
“จอมตอกหน้าจางลงมือแล้ว!”
“จะทำอะไรฟะ?”
“มิยาโมโตะเซ็นเซเป็นถึงปรมาจารย์การเขียนอักษรระดับโลกเชียวนะ!”
“แบบนั้นแหละอาจารย์จาง! จัดการเขาเลย!”
“ตาแก่นั่นน่ารำคาญเป็นบ้า!”
“ใช่ ไม่เห็นต้องตำหนิเสี่ยวเสียนขนาดนั้นเลย เสี่ยวเสียนเป็นคนจิตใจดีนะ!”
“ความสามารถด้านการเขียนอักษรของจางเย่ เขาจะไหวไหม?”
“ถึงไม่ไหวก็ต้องขึ้นไป! เรื่องนี้มันยอมไม่ได้แล้ว!”
……
ที่วงการการเขียนอักษรแห่งประเทศจีน
มีผู้เชี่ยวชาญหลายคนกำลังพูดคุยกัน
“อาจารย์อู๋ นี่มัน…”
“ทำไมจางเย่ถึงขึ้นไปล่ะ?”
“นั่นเป็นถึงมิยาโมโตะเซ็นเซ ผู้ชื่อเสียงด้านการเขียนอักษรเทียบเท่ากับอาจารย์อู๋เชียวนะ!”
“จางเย่คิดอะไรอยู่กันแน่?”
“มีใครเคยเห็นตัวอักษรของจางเย่ไหม?”
“ผมไม่เคยเห็นครับ”
“ผมก็ไม่เคยสนใจมาก่อน”
……
ชาวเน็ตญี่ปุ่น
“ฮ่าๆๆๆๆ!”
“มีเรื่องตลกแน่นอน!”
“ไม่เจียมตัวจริงๆ!”
“เขาเป็นดารานักร้องจะมาเข้าใจอะไรกับการเขียนอักษรกัน?”
……
ชาวเน็ตเกาหลี
“จางเย่คนนี้คือคนที่ร้องเพลง ‘ฝันถึงราชวงศ์ถัง’ นั่นใช่ไหม?”
“เขาก็แค่คนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อนั่นแหละ!”
“ตอนนี้เขายังจะทำอะไรได้อีก?”
“กล้าท้าทายปรมาจารย์มิยาโมโตะเลยงั้นเหรอ?”
“เขาบ้าไปแล้วหรือไง?”
……
หนึ่งกระจายสิบ!
สิบกระจายร้อย!
จำนวนคนที่รู้ข่าวมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนต่างเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อดูการถ่ายทอดสด เวลานี้จำนวนผู้ชมที่ดูการถ่ายทอดสดในเอเชียเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแบบทวีคูณ จะทำอะไรได้ ไม่ว่าใครก็อยากมาดูเรื่องคึกคักทั้งนั้น ผู้คนทั่วโลกล้วนเป็นเหมือนกัน ก่อนหน้านี้มีคนจำนวนมากที่ไม่ได้สนใจงานเลี้ยงการกุศล แต่พอทางนี้เกิดเรื่อง ก็ต่างรีบร้อนเปิดการถ่ายทอดสดดู!
จางเสีย
ฟ่านเหวินลี่
เหยาเจี้ยนไฉ
วงการการเขียนอักษรของประเทศจีน
วงการการเขียนอักษรของประเทศญี่ปุ่น
สายตาของคนทั่วเอเชียต่างจับจ้องไปที่นั่น!
……
ภายในงาน
พู่กัน หมึก กระดาษและหินฝนหมึกชุดใหม่ถูกนำขึ้นบนเวที
นี่เป็นคำขอของจางเย่ เขาไม่ต้องการใช้พู่กันและหมึกที่ชาวต่างชาติเคยใช้ไปแล้ว
มิยาโมโตะเซ็นเซเดินไปด้านข้าง ยืนกอดอกยิ้มอย่างเย็นชามองอยู่ตรงนั้น
ด้านล่างเวที
เอมี่ดึงเขาไว้ “จางเอ้อร์ คุยกันไว้แล้วไม่ใช่เหรอว่าจะไม่ก่อเรื่องน่ะ?”
จางเย่หัวเราะ “ก็แค่แลกเปลี่ยนวิชาเขียนอักษรเอง นี่เรียกว่าก่อเรื่องเหรอ?”
เฉินกวงก็หัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ “เขาเป็นปรมาจารย์การเขียนอักษร นายจะไปแลกเปลี่ยนอะไร? นายเอาอะไรไปศึกษากับเขา? นี่มันไม่ใช่ขึ้นไปขายหน้าหรอกเหรอ?”
จางเย่ขำ “ผมเคยขายหน้าตั้งแต่เมื่อไรกัน?”
หลี่เสี่ยวเสียนก็พูด “อาจารย์จาง ฉันไม่เป็นไรนะคะ ไม่เป็นอะไรจริงๆ เขาเป็นปรมาจารย์ด้านการเขียนอักษร จะรับไม่ได้กับตัวอักษรของพวกเรา ก็ให้เขาพูดไปเถอะ คุณ…”
จางเย่กลับพูดว่า “ผมรู้อยู่แก่ใจดี”
จางหย่วนฉียิ้มเล็กน้อย “นายไหวไหม?”
จางเย่ฉีกยิ้ม “แน่นอน”
ฉีเหม่ยหลันก็เดินเข้ามา “การเขียนอักษรของคุณอยู่ระดับไหนกันแน่?”
จางเย่หัวเราะเหอะๆ “ผมพูดเองก็ไม่นับสิ”
เขามีความมั่นใจไหม? ถ้าเป็นสัปดาห์ก่อน เขายังไม่กล้าพูด เพราะในเวลานั้นแม้ว่าเขาจะเคย ‘กิน’ หนังสือทักษะการเขียนอักษรจำนวนมากจนเกือบเต็มแล้ว แต่ระดับกลับไม่นับว่าอยู่จุดสูงสุด แต่ว่าตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว การสุ่มลอตเตอรี่ครั้งก่อน สุ่มได้หนังสือทักษะการเขียนอักษรมาได้ไม่น้อย ระดับของการเขียนตัวอักษรจึงต่างไปจากเดิมแล้ว และที่สำคัญคือ ด้วยทักษะการเขียนตัวอักษรที่สมบูรณ์แบบของเขาในตอนนี้ ทำให้เขาที่เดิมทีไม่กล้าเขียนผลงานชิ้นนั้น และไม่สามารถเขียนได้ ในสุดตอนนี้ก็สามารถเขียนได้แล้ว!
หมึก พู่กัน ล้วนเตรียมไว้พร้อมสรรพแล้ว
กล้องจับภาพจางเย่อย่างเตรียมพร้อม ซูมเข้าไปที่เขา
จางเย่หัวเราะทีหนึ่ง จากนั้นก็ถลกแขนเสื้อ พร้อมกับเดินขึ้นเวทีไปอย่างช้าๆ
รอบด้านมีเสียงพูดคุยกันของชาวต่างชาติ
“เขาไม่รู้จริงๆ เหรอว่ามิยาโมโตะเซ็นเซเป็นใคร?”
“ใครจะไปรู้ว่าสตาร์คิงของจีนคนนี้คิดอะไรล่ะ”
“เหอะๆ อีกเดี๋ยวจะมีเรื่องตลกให้ดูกันแน่”
“ฉันจะรอดูว่าเขาจะ ‘แลกเปลี่ยน’ การเขียนอักษรกับปรมาจารย์มิยาโมโตะยังไง!”
แม้แต่นักธุรกิจชาวจีนหลายคนในกลุ่มผู้ชมก็หันมองหน้ากัน
ขณะเดินขึ้นเวที จางเย่ก้มหน้ามองผลงานที่มิยาโมโตะเซ็นเซเพิ่งเขียนเสร็จเมื่อครู่ พอเข้ามาใกล้ก็เห็นรายละเอียดได้ชัดเจนขึ้น การเขียนตัวอักษรญี่ปุ่นนั้นมาจากสายเดียวกับจีน แต่สไตล์ก็แตกต่างกัน ตาแก่นั่นพูดถูก บอกว่าตัวเองอยู่จุดสูงสุดก็ไม่เกินไปเลย
ทั้งศิลปะและลีลา
รูปแบบ
พลัง
ล้วนเป็นเอกลักษณ์ของการเขียนตัวบรรจงกึ่งหวัดของจีน น่าอัศจรรย์มาก!
ความถือดีของมิยาโมโตะเซ็นเซ ก็คือเขาถือดีในความสามารถของตนเอง!
ด้วยระดับและทักษะเช่นนี้ บางทีหากยังมีนักเขียนอักษรที่เก่งเรื่องการเขียน ‘บรรจงกึ่งหวัด’ อยู่บนโลกนี้ ก็คงไม่มีใครเป็นคู่แข่งของมิยาโมโตะเซ็นเซได้ ส่วนอาจารย์อู๋อาจารย์ซุนจากจีน หรืออาจารย์คิมซุงจีจากเกาหลี พวกเขาต่างไม่ได้มุ่งเน้นการเขียน ‘บรรจงกึ่งหวัด’ จึงย่อมไม่อาจนำมาเทียบกันได้ ในสนามตัวอักษรบรรจงกึ่งหวัดนี้ มิยาโมโตะเซ็นเซยืนอยู่บนจุดสูงสุด ไม่มีใครอยู่สูงไปกว่าเขาอีกแล้ว
‘บรรจงกึ่งหวัด’ เหรอ?
คุณคิดว่าคุณไร้คู่ต่อกรแล้วจริงๆ น่ะเหรอ?
จางเย่ยิ้มแล้ว ไม่ใช่รอยยิ้มธรรมดา แต่เป็นการยิ้มเยาะ!
เขากำลังยิ้มเยาะผู้คนบนโลกนี้ที่สายตาแคบสั้น!
เขายิ้มเยาะลิงที่ทำตัวเป็นเจ้าป่าเมื่อสิงโตไม่อยู่บนเขา!
ตำแหน่งสูงสุดของการเขียนอักษรบรรจงกึ่งหวัด ต้องให้คนญี่ปุ่นมาชี้เป็นชี้ตายตั้งแต่เมื่อไร?
จางเย่หยิบพู่กันขึ้นมา และหลับตาลง หลังจากนั้นก็ลืมตาขึ้นอย่างฉับพลัน บรรยากาศที่แผ่ออกมาจากร่างเขาก็เปลี่ยนไป ราวกับกลายเป็นคนละคน!
ทั้งสายตา!
ท่าทาง!
บรรยากาศทั้งหมดเปลี่ยนไปในพริบตา!
มิยาโมโตะเซ็นเซตกตะลึง!
เสี่ยวตงช็อก!
หลี่เสี่ยวเสียนจ้องมองจางเย่ด้วยความประหลาดใจ!
ทุกคนในงานเลี้ยงและผู้ชมที่ดูการถ่ายทอดสดต่างรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ได้อย่างชัดเจน!
อะไรกัน?
เกิดอะไรขึ้น?
พู่กันของจางเย่ตวัดลงกระดาษ คล้ายกับใบไม้ร่วงโรยพลิ้วตามลม!
วินาทีนั้นสายตาของผู้คนนับไม่ถ้วนในเอเชียล้วนจับจ้องอยู่ที่พู่กันของจางเย่ นายต้องการเขียนอะไร? ตัวบรรจง? ตัวหวัด? พวกเขาคิดว่าจางเย่ต้องเลี่ยงการเขียนแบบตัวบรรจงกึ่งหวัดแน่นอน เพราะนี่อยู่ต่อหน้าปรมาจารย์ตัวจริงอย่างมิยาโมโตะเซ็นเซ
แต่ทว่าเมื่อจางเย่จางเย่เขียนตัวอักษรแรก ทุกคนก็ต้องอึ้ง!
หย่ง 永 !
คือคำว่าหย่ง!
แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่ทำให้พวกเขาต้องตะลึง!
ที่พวกตะลึงก็คือจางเย่ใช้เทคนิคการเขียนแบบตัวบรรจงกึ่งหวัด!
ตัวบรรจงกึ่งหวัด!
ตัวบรรจงกึ่งหวัดอันไม่คาดฝัน!
หลี่เสี่ยวเสียนหัวเราะอย่างขื่นขม “จบแล้ว นี่ นี่มัน…”
เอมี่ไม่เข้าใจ “ทำไมเหรอ?”
จางหย่วนฉีหลี่ตาลง “คือตัวบรรจงกึ่งหวัด”
เสี่ยวตง “อะไรนะ?”
เฉินกวงเป็นลม “อาจารย์จางโมโหสุดๆ แล้ว!”
ฮั่วตงฟางก็เข้าใจจางเย่ดี “เขาจงใจแน่นอน!”
ต้าฉีก็ตบหน้าผากตนเอง “นิสัยแบบนี้ของอาจารย์จาง ไม่มีใครเหมือนแล้วจริงๆ!”
—————————-
[1] บทกวีหลานถิงซวี่ เป็นผลงานของหวางซีจือ ในสมัยราชวงศ์จิ้นตะวันออก เขาคือผู้ให้กำเนิดตัวอักษรบรรจงกึ่งหวัด บทกวีหลานถิงซวี่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผลงานอันดับหนึ่งในใต้หล้า เขียนด้วยอักษรหวัดแกมบรรจง ลักษณะอักษรอ่อนช้อย สวยงาม ดั่ง เมฆเคลื่อน น้ำไหล เป็นธรรมชาติ และงานเขียนชิ้นนี้ส่งผลให้เขาได้รับการยกย่องให้เป็น “ซูเซิ่ง”书圣 “ลิปิเทพ” กลายเป็นสุดยอดนักเขียนอักษรของจีนในยุคนั้น
Comments for chapter "ตอนที่ 1379"
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
Kts
น้ำเยอะมากแต่ละตอน55555แต่ชอบนะ
PISCES
รอตอนต่อไปนะค้าบบบบ เฮียจางเย่ทุบมันนนนน