ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I'm really a superstar - ตอนที่ 1391
ชั่วพริบตา
วันแถลงข่าวทูตสันถวไมตรีประจำองค์กรการกุศลของเอเชียมาถึงแล้ว
งานแถลงข่าวจัดขึ้นตอนเย็น ช่วงเช้าจางเย่นั่งอยู่กับคนจากองค์กรการกุศลและกาชาดแห่งเอเชียเพื่อพูดคุยเรื่องกระบวนการถ่ายทอดสดในตอนค่ำ
“อาจารย์จาง การถ่ายทอดสดเป็นแบบทั้งงานนะครับ”
“โอเค ไม่มีปัญหาครับ”
“พวกเรานัดหมายสถานีโทรทัศน์ของเอเชียแต่ละที่ไว้เรียบร้อยแล้ว”
“โอเค ต้องการให้ผมทำอะไรบ้าง?”
“เรื่องนี้ คุณสะดวกเขียนพู่กันอีกรอบไหม”
“หา? ยังต้องเขียนอีกเหรอ เขียนอะไรอีก?”
“แค่กๆ เขียนอะไรก็ได้ครับ”
“งั้นเขียนพวกกลอนอะไรแบบนั้น?”
“ใช่ๆๆ แบบนี้ก็ได้ คุณดูหน่อยว่ากลอนนี้ใช้ได้ไหม?”
จางเย่รับมาดู
เอ๋? ‘แดงทั่วธาร?’
เขาคุ้นเคยกับชื่อกลอนนี้มาก ทว่าตัวบทกลอนเขากลับไม่เคยเห็นมาก่อน
‘แดงทั่วธาร’เป็นชื่อกลอนที่มีในประวัติศาสตร์ทั้งโลกเดิมของจางเย่และในโลกนี้ รูปแบบเหมือนกัน คาดว่าเป็นบทที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในโลกใบนี้ เพียงกวาดตามองเนื้อหาคร่าวๆ จางเย่ก็จำได้แล้ว ความจริงแล้วเนื้อหาของกลอนที่เขียนถึงความรักอันยิ่งใหญ่นั้นเข้ากับสถานการณ์มาก ถ้าเขียนกลอนนี้ตอนถ่ายทอดสดก็ถือเป็นการแสดงฐานะของตนต่อองค์กรการกุศล และที่สำคัญที่สุดก็คือผลงานนี้สามารถทำเงินได้ ในเมื่อองค์กรการกุศลของเอเชียได้กำไรจากครั้งก่อนแล้ว ก็ต้องพิจารณาจัดการประมูลการกุศลอีกครั้งแน่นอน และสิ่งที่เป็นไฮไลต์ของงานครั้งนี้ย่อมเป็นงานเขียนอักษรของจางเย่ในค่ำนี้นั่นเอง
จางเย่ทรายเรื่องนี้ดี แต่ก็ไม่ได้มีข้อขัดแย้งอะไร
การกุศลเหรอ
คนจะทำการกุศลน่ะวางแผนอะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก
“คุณตกลงทำไหมครับ?”
“ได้ครับ ตกลง”
“เยี่ยมเลย ถ้าอย่างนั้นก็ลำบากคุณแล้ว”
“ทั้งหมดก็เพื่อการกุศล ไม่มีอะไรให้ลำบากเลย”
“อาจารย์จางช่างจิตใจดีมีคุณธรรมนัก เป็นแบบอย่างให้พวกเราได้จริงๆ!”
“ไอ้หยา ทำงานรับใช้ประชาชนน่ะ ทำงานเพื่อประชาชน”
ทุกสิ่งถูกจัดเตรียมขึ้นอย่างตั้งใจ
สื่อมากมายก็กำลังจับตาดูงานแถลงข่าวในค่ำวันนี้
โฆษณาถูกปล่อยออกไปแล้ว จางเย่เองก็เริ่มโพสต์บนเวยป๋อ
บนอินเทอร์เน็ต
“อะไรนะ?”
“จางเย่จะเขียนพู่กันอีกแล้วเหรอ?”
“ฮ่าๆ ต้องคอยดูแล้ว”
“ตัวอักษรบรรจงกึ่งหวัดของเขาสวยมากจริงๆ!”[1]
“พรืด ดูเวยป๋อเขาสิ เริ่มโพสต์ข่าวการกุศลอีกแล้ว!”
“เจ้าหมอนี่เอาอีกแล้วสินะ!”
“ช่วงนี้ฉันชินแล้วล่ะ”
“ฉันด้วย ให้เขาโพสต์ต่อไปเถอะ”
“จางเย่กลายเป็นคนใจบุญไปแล้ว!”
“จอมตอกหน้าจางตายแล้ว เชิญจุดธูปได้”
“เอ๋ หลังจากนี้จะไม่ได้เห็นจอมตอกหน้าจางไล่สังหารทั่วสารทิศอีกแล้วเหรอ!”
“ใช่ ตอนนี้เจ้าหมอนี่ทุ่มทั้งกายใจให้กับการกุศลแล้ว!”
ทว่าในตอนนั้นเองก็เกิดเรื่องขึ้น!
ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องอย่างกะทันหันเช่นนี้ หรือจริงๆ แล้วนี่ก็ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย แค่ทุกคนกลับคาดไม่ถึงว่าจะมาเร็วงขนาดนี้!
……
ที่ญี่ปุ่น
คลิปวิดีโอที่จางเย่นำนักศึกษาด่าคนในปีนั้นแพร่กระจายไปทั่ว
“เชี่ย!”
“เขาเคยด่าพวกเราด้วย?”
“ฉันเคยบอกไปแล้ว พวกคุณยังไม่รู้อีกเหรอ?”
“ไม่รู้!”
“ฉันเองก็เพิ่งรู้!”
“ไอ้เชี่ยนี่!”
“แม่ง คนประเภทนี้เป็นทูตสันถวไมตรีได้ด้วยเหรอ?”
“องค์กรการกุศลของเอเชียคิดอะไรอยู่!”
“ไสหัวออกไปจากญี่ปุ่น!”
“ใช่ ต่อต้านจางเย่!”
“ต่อต้านจางเย่!”
“ต่อต้านจางเย่!”
สื่อจำนวนมากเร่งประโคมข่าวกว่าเดิม!
บ้างก็เป็นเรื่องจริง แล้วก็มีข่าวปลอมที่บิดเบือนขึ้นมาเช่นกัน!
ทั้งเหตุการณ์และการกระทำของจางเย่ กระจายไปทั่วประเทศญี่ปุ่นในชั่วพริบตา!
……
ที่เกาหลี
เรื่องสกปรกของจางเย่ระเบิดออกมาอย่างต่อเนื่อง มีทั้งจริงทั้งปลอม วิธีการก็ชาญฉลาดมาก เรื่องจำนวนมากที่เดิมทีไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนก็ล้วนตกใส่หัวจางเย่!
สัมภาษณ์ของลีอันซู “ปีนั้นที่ประเทศจีน ไม่มีใครเชิญจางเย่ขึ้นรายการคืนส่งปี ดังนั้นผมจึงคิดว่าเขาน่าจะกล้ำกลืนความโกรธไว้เต็มท้อง ถึงมาลงมือกับผม! ผมกอดความคิดว่าสันติสุขนั้นมีค่ามากเอาไว้ สุดท้ายก็พยายามข่มกลั้นไว้สุดแรง คิดไม่ถึงเลยว่าจางเย่จะยังยั่วโมโห ทำให้ผมผิดหวังกับประเทศจีนอย่างถึงที่สุด!”
สัมภาษณ์ของปาร์คแจซัง “จางเย่คนนี้นิสัยแย่เกินไปแล้ว กรณีของลีอันซูไม่ใช่เรื่องแปลกเลย เพราะตอนอยู่ที่จีนจางเย่ก็เคยลงมือกับผม”
สัมภาษณ์ของคิมจีชาน “คนแบบนี้ไม่คู่ควรกับการเป็นศิลปิน!”
“อะไรนะ?”
“ลีอันซูก็เคยถูกเขาตีเหรอ?”
“กล้าตีพี่อันซูของฉันเหรอ?”
“ปาร์คแจซังก็เคยถูกเขาตีเหมือนกัน?”
“คิมจีชานเองก็เคยถูกเขาด่า?”
“คนสารเลว!”
“ทำไมถึงยังมีคนหน้าไม่อายแบบนี้อยู่อีก!”
“ไล่เขาออกไปเลย!”
“ไม่อนุญาตให้เขามาเกาหลีอีก!”
“ใช่ ต่อต้าน”
“ต่อต้านจางเย่!”
ประเทศเกาหลีเองก็เดือดดาลแล้ว!
ผู้คนค่อยๆ ออกมาถกเถียงกันอย่างดุเดือด!
……
ประเทศอื่นๆ ไม่มีปฏิกิริยาอะไร
แต่ว่าที่ประเทศเกาหลีและญี่ปุ่น เพียงพริบตาจางเย่ก็ตกอยู่ท่ามกลางมรสุม!
ประชาชนชาวญี่ปุ่นและเกาหลีพากันร่ำร้อง แต่ละคนตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาล คลื่นของการต่อต้านจางเย่ซัดมาเป็นระลอก แล้วก็ปั่นป่วนขึ้นมาในเวลาสั้นๆ!
ความจริงแล้วเรื่องพวกนี้แต่ไหนแต่ไรจางเย่ก็ไม่เคยปกปิด และไม่เคยหลีกเลี่ยง จะเรื่องด่าคนที่จิงต้าก็ดี หลังจบรายการคืนส่งปีที่เตะลีอันซูจนปลิวในปีนั้นก็ดี ใครถามเขาก็กล้าพูดอย่างโปร่งใส เพราะเขาตระหนักดีว่าในทุกๆ เรื่องล้วนมีสาเหตุ พวกคุณแขกต่างชาติชาวญี่ปุ่นมาที่จิงต้าของพวกเรา พูดจายั่วโมโหอวดดีกับนักเรียนของพวกเรา แล้วยังไม่ยอมให้ฉันพานักเรียนไปด่าพวกคุณอีก? โอ้ ดาราดังลีอันซูที่ยอดเยี่ยมคนนั้น ตอนอยู่ที่ประเทศเราก็ตีคนของเรา แล้วยังไม่ให้ฉันตีคุณอีกเหรอ? มีสิทธิ์อะไร!
จางเย่ไม่แก้ตัว!
เขาเดินอย่างสง่างามไปทุกที่!
แต่ปาร์คแจซังคือใคร?
คิมจีชานคือใคร?
ยังเรื่องพวกนั้นกับคนพวกนั้นอีก? ฉันแม่งไม่เคยแม้แต่จะได้ยิน!
ทำไมถึงกลายเป็นเรื่องของฉันไปเสียแล้ว? ทำไมกลายเป็นฉันตีทุกคนเลย?
หลังคนจากสตูดิโอของจางเย่รู้เรื่องก็โกรธจนไฟลุก!
ฮาฉีฉีเอ่ยอย่างเดือดดาล “อะไรกับอะไรนะ!”
เสี่ยวหวังรีบพูดว่า “ทำไมจู่ๆ ก็เกิดเรื่องล่ะ? ทำไมจู่ๆ ถึงมีข่าวเสียๆ ของอาจารย์จางเยอะแบบนี้?”
อู่อี้ชี้ไปที่รายงานของสื่อหลักทางฝั่งญี่ปุ่นและเกาหลีบนอินเทอร์เน็ต “พวกคุณดูนี่ เดิมทีเป็นแค่ข่าวปลอม เป็นเรื่องไม่จริง! ทำไมพูดโกหกกันขนาดนี้! แล้วคนพวกนี้แม่งเป็นใคร? ยังมีดาราเกาหลีที่พูดซ้ำไปซ้ำมาหาว่าผู้กำกับจางวางโตด่าคนอีก ยังบอกว่าเห็นกับตาอีก? ตั้งแต่ต้นผู้กำกับจางยังไม่เคยเจอหน้าเขาเลยด้วยเหอะ!”
จางจั่วเอ่ยด้วยสีหน้าดำทะมึนว่า “ความเห็นสาธารณะของทางฝั่งญี่ปุ่นและเกาหลีต่างเป็นไปในทางนี้หมด!”
ฮาฉีฉีเอ่ย “ถ้าจะบอกว่าเรื่องนี้ไม่มีคนชักใยอยู่เบื้องหลังล่ะก็ ตีให้ตายฉันก็ไม่เชื่อ!”
เสี่ยวหวังพูดว่า “หรือเพราะเห็นว่าความนิยมของผู้กำกับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บนทำเนียบของเอเชีย ยิ่งนานวันยิ่งดัง ก็เลยเริ่มลงมือ?”
ข่าวแพร่กระจายไปไวมาก!
ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการบีบคั้นจากสื่อส่วนใหญ่ของฝั่งเกาหลีและญี่ปุ่นด้วย!
เสริมด้วยการกระพือไฟจากดาราดังส่วนใหญ่ในวงการบันเทิงของญี่ปุ่นและเกาหลี!
สื่อทางการเสริมด้วยดาราระดมเข้าใส่มากมาย เรื่องราวก็ยิ่งเลวร้ายลงในชั่วพริบตา ไม่มีทางหยุดยั้งได้อีก!
มีเพียงสื่อในประเทศจีนเท่านั้นที่ช่วยพูดให้จางเย่
‘ญี่ปุ่นเกาหลีเริ่มกระแสต่อต้านจางเย่!’
‘จางเย่ตกเป็นเป้าการวิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณะ!’
‘ตกลงแล้วจางเย่ล่วงเกินใครกันแน่?’
‘จากการสืบหาความจริง ปาร์คแจซังกับจางเย่เดิมก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกันมาก่อน คนสองคนไม่เคยพบหน้ากัน ทำไมตอนปาร์คแจซังให้สัมภาษณ์กับสื่อเกาหลีถึงพูดว่าจางเย่เคยลงไม้ลงมือกับเขา?’
‘ข่าวปลอมมักปรากฏออกมาบ่อยๆ!’
‘จางเย่ไปแตะผลประโยชน์ของใครเข้า?’
‘จางเย่มีเหตุผลให้ต้องลงมือกับลีอันซู!’
‘ทำไมสื่อและดาราของประเทศเกาหลีและญี่ปุ่นถึงพยายามคุกคามอย่างกะทันหัน?’
‘การประพฤติผิดเพราะความโกรธเมื่อก่อนของจางเย่ สุดท้ายก็เกิดความปั่นป่วนแล้ว!’
……
ตอนเที่ยง
โทรศัพท์ของจางเย่ดังติดๆ กัน
หนิงหลันโทรมา
“นายเคยตีปาร์คแจซังเหรอ?”
“ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร!”
“คนพวกนี้คงอยากลากนายลงมาจากทำเนียบของเอเชีย”
“ฉันมองออกแล้ว”
อู๋เจ๋อชิงโทรมา
“จางน้อย ทางฝั่งเกาหลีและญี่ปุ่นมีปฏิกิริยาแล้ว”
“อืม เรื่องที่ต้องมาก็มาได้ไม่ดีเลย”
“เตรียมใจไว้แล้วหรือ?”
“เมื่อสองวันก่อนคุณยังเตือนผมอยู่เลย แต่จริงๆ ผมเตรียมไว้แล้ว หรือให้พูดก็คือตั้งแต่ผมด่าพวกเขาตอนนั้นก็เตรียมการไว้แล้ว”
“ดูว่าหลังจากนี้จะเรื่องจะเป็นยังไงต่อเถอะ”
“ผมยังยืนยันคำเดิม ทหารมาตั้งทัพสู้ น้ำหลากมาก่อทำนบกั้น!” [2]
“ดีแล้ว”
เรื่องนี้จางเย่ไม่ได้แปลกใจเลยจริงๆ เขาทราบอย่างกระจ่างชัดมาก ไม่ช้าเร็วก็ต้องมีวันนี้ แค่คิดไม่ถึงว่าคนพวกนี้จะช่วยกันจุดไฟสาดโคลนมาใส่เขา จางเย่ก็มองดูพลางคลี่ยิ้มเย็นชา!
——————
[1] ตัวอักษรบรรจงกึ่งหวัด หรือ ตัวอักษรสิงซู เป็นรูปแบบตัวอักษรอย่างหนึ่งของจีน มีต้นกำเนิดราวปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันออก
[2] เปรียบว่า ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์แบบไหนก็รับมือได้เสมอ