ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I'm really a superstar - ตอนที่ 1410 : นี่สิถึงจะเป็นยอดคน!
รุ่งเช้า
ในบ้าน
จางเย่ยังหลับอยู่ ประตูห้องนอนก็ถูกเปิดเข้ามา
“เย่น้อย!”
“แม่ มีอะไรน่ะ”
“ตื่นได้แล้ว”
“เพิ่งจะกี่โมงเอง แล้วอู๋ล่ะ?”
“เมียแกไปทำงานตั้งแต่เช้าแล้ว รีบลุกขึ้นมา ในทีวีมีแต่ข่าวของแกเต็มไปหมด!”
“เฮ้อ วันไหนไม่มีข่าวของผมบ้างล่ะ ดูจนเบื่อแล้ว”
“อันดับทำเนียบเอเชียของแกขยับขึ้นอีกแล้ว!”
“หา? ไม่ใช่มั้ง? ญี่ปุ่นกับเกาหลีแบนผมไม่ใช่เหรอ?”
“แกไปดูเอง!”
“โอเค ผมไปดูผมไปดู”
จางเย่ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกสดชื่น เขาหาวแล้วลุกขึ้นนั่งบนเตียง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาค้นดูทำเนียบดาราของเอเชีย เมื่อเห็นก็มีความสุขขึ้นมาทันที ขยับขึ้นจริงๆ?ในอินเทอร์เน็ตทุกคนพูดถึงเรื่องนี้อยู่
บนเวยป๋อ
“ฝั่งญี่ปุ่นเกาหลีตอนนี้คงเซ่อกันไปเลยล่ะสิ!”
“ฮ่าๆๆๆ สมควรจะเซ่อ!”
“ฉันเรียนภาษาเกาหลี เมื่อกี้เข้าไปดูแวบหนึ่ง ทั้งประชาชนและพวกสื่อในญี่ปุ่นและเกาหลีต่างด่าจางเย่กันใหญ่!”
“แน่นอน มีดาราแปลกประหลาดแบบนี้ในประเทศเขาที่ไหน!”
“ใช่แล้ว มีแต่ประเทศของเราที่ตัวประหลาดแบบนี้ออกมาน่ะ!”
“ใครก็ปิดผนึกจอมตอกหน้าจางไม่ได้?”
“คำสั่งแบนไม่มีความหมายโดยสิ้นเชิง!”
“เขาจะก้าวไปสู่จุดสูงสุดของเอเชียด้วยการทะเลาะวิวาทจริงอ่ะ?”
“พรูด น่าสนุกมาก!”
อ่านเสร็จจางเย่ก็ยิ้มออกมา ดูท่าคงต้องเป็นเส้นทางนี้แหละนะ ในประเทศเขาก็ก้าวขึ้นมาด้วยการทะเลาะวิวาทไม่ใช่เหรอ? ไปตีกับวงการนั้นทีวงการนี้ที ไปด่ากับวงการนั้นทีวงการนี้ที ฝนดาบตลอดทางยิ่งโหดเหี้ยมยิ่งแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ เช่นนี้จึงไปอยู่จุดสูงสุดของวงการบันเทิงภายในประเทศได้ ในระดับเอเชียก็สามารถทำแบบนี้ได้เหมือนกัน!
ถ้าการทะเลาะเป็นการตอกตะปู อารมณ์ร้ายของจางเย่จัดการฟาดลงไปนานแล้ว
ทะเลาะหนึ่งครั้งคะแนนขึ้นหนึ่งครั้ง โอ้ ทะเลาะอีกหนึ่งครั้งคะแนนก็ขึ้นอีกหนึ่งครั้ง!
ทั้งโด่งดัง!
ทั้งได้ระบายอารมณ์!
ทั้งสาแก่ใจ!
อืม แล้วทำไมเขาถึงจะไม่ทำล่ะ!
อันธพาลแท้จริงจะเป็นยังไงน่ะเหรอ?
ก็คือแบบนี้ไงล่ะ!
ไม่นานเพื่อนของเขาก็โทรมา
เป็นสายจากสตาร์ควีนฉีเหม่ยหลัน
“อาจารย์จาง”
“พี่สาวหลัน”
“ยินดีด้วยนะ ตอนนี้ก็ระดับเอกลางแถวแล้วสิ”
“ฮ่า คุณอยู่จุดสูงสุดของเอเชียแล้ว เทียบกับคุณผมนับเป็นอะไร?”
“ฉันอยู่จุดสูงสุดก็ไม่มีประโยชน์ ไม่มีแม้แต่ชื่อบนทำเนียบดาราระดับโลกด้วยซ้ำ ก็ดังแค่ในประเทศ และแถวเอเชียเท่านั้น”
“คุณมองไปถึงระดับโลกแล้ว ผมยังต้องมองที่เอเชียก่อน”
“ยังไงก็ยินดีด้วยนะ คนที่วิวาทได้สวยงามและยอดเยี่ยมมาตลอดทาง ก็มีแต่คุณแล้วล่ะ”
“ฮ่าๆ พี่ชายคนนี้ไม่มีความสามารถอย่างอื่น จะมีก็แต่ประสบการณ์ทะเลาะวิวาทและปะทะฝีปาก นั่นล้วนเป็นเพราะเพื่อนร่วมงานบีบบังคับตลอดหลายปีนั่นแหละ”
“ใช่แล้ว”
“มีอะไรเหรอ?”
“อืม…”
“หา?”
“ช่างเถอะ ไม่มีอะไร”
มีเรื่อง?
มีเรื่องอะไรคุณก็พูดสิ!
เห็นเธอไม่บอก จางเย่เองก็ไม่ได้ถาม
เวลาเดียวกัน แม่ที่อยู่ห้องนั่งเล่นก็ได้รับโทรศัพท์
จางเย่เสร็จธุระด้านนี้แล้ว แม่ก็พูดว่า “เย่น้อย เมียแกโทรมาบอกว่าลืมเอกสารไว้ที่บ้าน แกไปหาแล้วเอาไปส่งให้เธอหน่อย”
จางเย่ถาม “อยู่ไหนเหรอ?”
แม่ “เจ๋อชิงบอกว่าอยู่บนโต๊ะข้างเตียง”
จางเย่เข้าไปหาในห้อง “โอเค หาเจอแล้ว”
พ่อเร่ง “รีบไปเถอะ ดูท่าเจ๋อชิงจะรีบใช้”
จางเย่หัวเราะ “แปลกมาก เมื่อก่อนมีแต่ผมที่ลืมนั่นลืมนี่ คุณอู๋ไม่เคยลืมอะไรมาก่อนเลย โอเค ผมจะเอาไปให้เธอ”
หลังจากนั้นเขาก็ขับรถไปที่ SARFT
……
ช่วงสาย
ด้านนอกอาคาร SARFT
จางเย่ไม่ได้ขับรถเข้าไปจอดด้านใน มันดูผยองเกินไป ทุกครั้งที่เขามาเขามักจะจอดรถไว้ด้านนอกแล้วค่อยเดินเข้าไป แต่วันนี้เขาเพิ่งเดินไปที่ประตูก็เห็นผู้หญิงที่คุ้นหน้าคนหนึ่ง ดูเหมือนจะเป็นคนที่ไปไหนมาไหนกับฉีเหม่ยหลันเสมอ เขาเห็นในหน้าจอโทรทัศน์บ่อยๆ อ้อ ใช่ นึกออกแล้ว เธอเป็นผู้จัดการของบริษัทฉีเหม่ยหลันคนหนึ่งนั่นเอง น่าจะเป็นคนที่รับผิดชอบเรื่องภายนอกประเทศของบริษัทสตาร์ควีน
หยางเสวี่ย “หัวหน้าเฉิน เรื่องนี้มันเร่งด่วนมากเลยนะคะ”
หัวหน้าเฉิน “ผมเองก็ตัดสินใจไม่ได้เหมือนกัน”
หยางเสวี่ย “ฉันขอพบกับหัวหน้าฉีได้ไหม?”
หัวหน้าเฉิน “หัวหน้าฉียุ่งมากเลย วันนี้ไม่ว่างทั้งวัน”
หยางเสวี่ย “แต่ตอนนี้หนังของพวกเรา…”
หัวหน้าเฉิน “การอนุมัติไม่เร็วนัก ต้องรันไปตามระบบ ผมบอกไม่ได้ว่าจะเสร็จภายในกี่วัน ผมรับประกันไม่ได้จริงๆ”
หยางเสวี่ย “พี่เฉิน คุณให้ฉันเข้าไปเถอะค่ะ”
หัวหน้าเฉิน “ที่นี่คือสำนักงานใหญ่ของสมาคมสื่อฯ ไม่รับจัดการเรื่องธุรกิจ คุณเองก็ไม่ได้นัดหมายไว้ คนนอกเข้าไปไม่ได้ คุณกลับไปรอฟังข่าวเถอะครับ”
หยางเสวี่ย “แต่ว่า…”
เวลานั้นจางเย่ก็เดินเข้ามาอย่างองอาจ
หัวหน้าเฉินเห็นเขา ก็เปลี่ยนเป็นอารมณ์อย่างรวดเร็ว “เถ้าแก่จางคุณมาแล้วเหรอครับ?”
หยางเสวี่ยมองเห็นจางเย่ก็ตะลึงไป
จางเย่ยิ้ม “ใช่แล้ว ผมเอาของมาส่งให้คุณอู๋”
หัวหน้าเฉิน “รองบังคับการอู๋น่าจะกำลังประชุมอยู่ครับ”
จางเย่หัวเราะ “โอเค งั้นผมไปรอที่ห้องทำงานของเธอก่อนแล้วกัน” ทันใดนั้นก็ชี้ไปที่หยางเสวี่ยโดยไม่บอกไม่กล่าว ก่อนพูดว่า “พาคนนี้เข้าไปด้วยแล้วกันนะ”
หัวหน้าเฉินเหงื่อไหล “นี่…”
จางเย่พูดกับหยางเสวี่ยโดยตรง “ไปกันเถอะ”
หยางเสวี่ยดีใจอย่างมาก เธอมองหัวหน้าเฉินอย่างระมัดระวัง “พี่เฉิน?”
หัวหน้าเฉินหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ จางเย่ต้องการเอาคนเข้าไป ใครจะกล้าขวางกัน?
ดังนั้นหยางเสวี่ยจึงติดตามจางเย่เข้าไปในบริเวณ SARFT พูดตามตรง อาคารหลังนี้เธอเห็นมานับไม่ถ้วนแล้ว แต่ได้เข้ามาจริงๆ ก็คือครั้งนี้แหละ
หยางเสวี่ยซาบซึ้ง “อาจารย์จาง ขอบคุณมากค่ะ!”
จางเย่หัวเราะ “คนของพี่สาวหลันใช่ไหม?”
หยางเสวี่ยรีบตอบ “ใช่ค่ะ”
จางเย่ก็ไม่ได้ถามอย่างอื่นเพิ่มเติม “เข้าไปหาใครเหรอ?”
หยางเสวี่ยตอบทันที “หัวหน้าฉีค่ะ”
“โอเค เข้าใจแล้ว” จางเย่พยักหน้า
หัวหน้าฉี? เขารับผิดชอบด้านภาพยนตร์
เรื่องที่ฉีเหม่ยหลันโทรมาแล้วอึกอักไม่ยอมพูดนั้น ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้ว
ด้านหน้ามีคนหนึ่งกำลังเดินมา
“โอ้ ผู้กำกับจาง!”
“เหล่าเหอ”
“กินข้าวเที่ยงด้วยกันไหม?”
“ไม่เป็นไรครับ ผมมาส่งของให้คุณอู๋ กลับไปยังต้องจัดการธุระอย่างอื่นอีก”
“หลังจากคืนส่งปีก็ไม่ได้เจอคุณเลย รวมตัวกันสักหน่อยสิ เรียกพวกทีมงานเก่าทั้งหลายของคืนส่งปีมาด้วย”
“ได้เลย งั้นไม่มีปัญหาครับ”
อีกด้านก็มีคนหนึ่งมองเห็นเขาแล้ว
“หัวหน้าจาง สวัสดีครับ”
“อืม หัวหน้าหลิว ทำไมอ้วนขึ้นล่ะเนี่ย?”
“ฮ่าๆ กินๆๆ แล้วก็กิน ว่าแต่ได้ยินมาว่าคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นอีกแล้วเหรอครับ?”
“ก็ตามนั้นแหละครับ ใช่แล้ว ห้องทำงานของเหล่าฉีอยู่ตรงไหนเหรอ?”
“ขึ้นไปชั้นสอง เลี้ยวซ้ายห้องที่สอง”
“โอเค”
ระหว่างทางทุกคนที่เจอจางเย่ต่างก็ทักทายเขา
เมื่อขึ้นไปชั้นบนจางเย่เดินเลี้ยวซ้าย จากนั้นก็เคาะประตูห้องทำงานห้องหนึ่ง
หัวหน้าฉีเงยหน้าขึ้น “อ้าว เถ้าแก่จาง?”
จางเย่หัวเราะ “เพิ่งกินข้าวเช้าเหรอครับ?”
หัวหน้าฉีวางตะเกียบที่ใช้อยู่ลง “เฮ้อ ตอนนี้มันสายแล้วนี่นะ”
จางเย่ยิ้ม ก่อนจะชี้ไปทางหยางเสวี่ยที่อยู่ด้านหลัง “มีคนอยากคุยธุระกับคุณน่ะ ผมเห็นเธอยืนอยู่ด้านนอกก็เลยพาเธอเข้ามา เรื่องใหญ่มากเลยล่ะ คุณรีบจัดการให้เธอนะ”
หัวหน้าฉีหัวเราะ “หัวหน้าจางบอกเองทั้งที ผมต้องทำให้แน่นอนครับ”
จางเย่ “ได้เลย งั้นผมไม่กวนแล้ว”
จากนั้นจางเย่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาทิ้งหยางเสวี่ยไว้แล้วเดินขึ้นไปชั้นบนคนเดียว
ตั้งแต่ต้นจนจบ หยางเสวี่ยไม่ได้พูดอะไรสักคำ หรือจะบอกว่าตั้งแต่วินาทีที่เดินเข้าประตูใหญ่ของ SARFT เธอก็ไม่กล้าส่งเสียง ระหว่างทางก็ได้แต่แอบมองจางเย่พูดคุยทักทายกับคนอื่นอย่างเงียบๆ หากไม่เห็นด้วยตาตัวเอง เธอคงไม่รู้สึกรุนแรงขนาดนี้ น่าอิจฉาเกินไปแล้ว!
ที่นี่คือ SARFT เชียวนะ!
SARFT ที่รับผิดชอบความเป็นไปทุกอย่างของวงการบันเทิง!
ในใจของหยางเสวี่ยมีความรู้สึกมากมายที่ไม่อาจอธิบาย ตอนนี้ที่เธอรู้สึกได้ก็คือ
สุดยอดมาก!
เจ๋งสุดๆ ไปเลย!
ทั่วทั้งวงการบันเทิง ในแวดวงคนดังทั้งหมด ใครจะเป็นเหมือนจางเย่ได้? ใครจะทำเหมือนอย่างจางเย่ได้? เดินไปเดินมาอย่างสง่าผ่าเผยใน SARFT เขามาที่นี่เหมือนมาบ้านของตัวเองอย่างไรอย่างนั้น ดาราจากทั่วประเทศที่สามารถทำเช่นนี้ได้ มีแต่จางเย่คนเดียว ไม่มีคนที่สองอีกแล้ว!
นี่สิถึงจะเป็นยอดคน!