ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I'm really a superstar - ตอนที่ 1415 : จางเย่ทุบรถ! (ท้าย)
หนึ่งวินาที
สองวินาที
สามวินาที
ในที่สุดกลุ่มคนก็ระเบิดแล้ว!
“พระเจ้า!”
“แตกแล้ว!”
“แม่งแตกแล้วจริงๆ!”
“เชี่ย ฉันเพิ่งเห็นอะไรไปเนี่ย?”
“นี่มันพลังอะไรกัน? มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“เป็นไปไม่ได้! เมื่อกี้คนยี่สิบกว่าคนทุบด้วยไม้เบสบอล กระจกกันกระสุนยังไม่มีรอยร้าวเลยแม้แต่นิด! ทำไมจางเย่ทุบแค่สองครั้งก็แตกแล้วล่ะ?”
“ที่สำคัญคือใช้แค่ฝ่ามือฟาดลงไป!”
“ใช่แล้ว สวรรค์! ใช้มือทุบกระจก!”
“อย่างเทพเลย! สุดยอดมาก!”
“จางเย่ไร้เทียมทาน!”
“อาจารย์จางของฉันร้ายกาจมากค่ะ!”
“สองฝ่ามือนี้หล่อเกินห้ามใจ!”
ทุกคนในงานต่างร้องออกมาด้วยความตกใจ!
เฉินเฉินตะโกน “จางเย่! ทุบได้ดี! จางเย่! ทำได้ดีมาก!”
ฮาฉีฉีอ้าปากตาค้าง!
จางจั่วตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก!
พวกเสี่ยวหวังเสี่ยวโจวก็อึ้งไปแล้ว!
เป็นไปได้ไง!
นี่มันเป็นไปได้ยังไง!
พวกเราเองก็พอรู้ว่าผู้กำกับจางต่อสู้เป็น อย่างน้อยเมื่อจางเย่ลงมือเองเขาก็ไม่เคยพ่ายแพ้มาก่อน แต่หากจะบอกว่าจางเย่ร้ายกาจขั้นไหน พวกเขาเองก็ไม่รู้อย่างแน่ชัด อีกอย่างตอนนี้แม่งไม่ใช่เรื่องที่จะมาวัดว่าร้ายกาจหรือไม่ร้ายกาจแล้วมั้ง? นี่มันกระจกกันกระสุนเชียวนะ! คนจะสามารถทุบแตกได้เหรอ? แล้วยังใช้แค่ฝ่ามืออีก? สำหรับพวกเขา นี่ไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ทำได้!
น่าตกใจเกินไปแล้ว!
นี่มันน่ากลัวเกินไป!
ที่สำคัญคือหลังจากที่ทุบรกเสร็จจางเย่ก็หันไปมองผู้จัดการและพนักงาน แล้วพูดกับพวกเขาว่า “พวกคุณให้ผมลองทุบเองนะ”
ผู้จัดการ “…”
จางเย่พูดอย่างไร้เดียงสา “คุณดูสิ ผมก็บอกอยู่ว่ารถของพวกคุณมันไม่มีคุณภาพ”
ผู้จัดการ “…”
จางเย่ชี้ไม้ชี้มือ “นี่ถือว่าทุบแตกใช่ไหม?”
ผู้จัดการ “…”
จางเย่ “ทุบหนึ่งคันได้หนึ่งคัน ผมก็ขับออกไปได้คันหนึ่งเลยใช่ไหม?”
ผู้จัดการ “…”
พวกเขากลัวจนฉี่จะราดแล้ว!
กลัวจนฉี่จะราดแล้วจริงๆ!
ตอนนี้เหล่าพนักงานทั้งหลายเกือบจะยืนไม่อยู่แล้ว แข้งขาอ่อนแรงไปหมด พวกเขาร่ำไห้อยู่ในใจว่า : เชี่ย! นายยังเป็นมนุษย์อยู่ไหม!
พนักงานชายคนหนึ่ง “เป็นไปได้ยังไง!”
พนักงานหญิงคนหนึ่ง “นี่มันกระจกกันกระสุนนะ!”
ตอนนี้ผู้จัดการเสียใจจนอยากตายเสียให้ได้ เขาพูดในใจว่า ฉันอยู่ว่างไม่มีอะไรทำจนคิดอยากจะสร้างกระแสทำไมกัน กระแสร้อนยังไม่มา แบรนด์กลับกำลังจะพังแล้ว ในใจของเขารู้ดี นี่ไม่ใช่ปัญหาแค่แจกหรือไม่แจกรถแล้ว แต่นี่คือปัญหาใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับภาพลักษณ์ และคุณภาพของแบรนด์รถยนต์ของพวกเขา รถระดับไฮเอนด์ที่เน้นเรื่องกันกระสุน กลับถูกเด็กผู้หญิงวัยเก้าขวบคนหนึ่งทุบประตูรถจนเสียหาย ถูกดาราคนหนึ่งตบกระจกจนแตกละเอียด นี่จะไม่เป็นเรื่องขายหน้าครั้งใหญ่หรือ? หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป พวกเขาจะกลายเป็นตัวตลกไปชั่วชีวิต! เรื่องตลกนี้เพียงพอให้คนในแวดวงอุตสาหกรรมหัวเราะพวกเขาไปอีกร้อยปี!
ประชาชนตะโกนโห่
“แจกรถ!”
“แจกรถ!”
“แจกรถ!”
“แจกรถ!”
เดิมทีพวกเขาไม่ได้เตรียมการสำหรับสถานการณ์แบบนี้!
พวกเขาไม่มีแผนที่จะแจกรถออกไปด้วยซ้ำ!
ผู้จัดการรู้ดีว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก เขาเห็นผู้คนรอบตัวที่กำลังบันทึกวีดิโอและถ่ายภาพ เห็นคนมุงดูมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกือบเต็มลาน เขากัดฟันตัดสินใจอย่างเด็ดขาด เขาควานอยู่นานมากกว่าจะหากุญแจรถออกมาได้ จากนั้นก็มอบให้จางเย่ทั้งหัวใจที่เลือดไหลซิบ
จางเย่หัวเราะก่อนจะรับกุญแจมาและโยนให้เสี่ยวหวัง “อีกเดี๋ยวขับรถไปนะ”
เสี่ยวหวังตื่นเต้นและมีความสุขมาก “ได้เลยค่ะ!”
ผู้จัดการเริ่มแก้ไขสถานการณ์ทันที เขาแสร้งทำเป็นเดินไปตรวจสอบเศษกระจกที่ตกอยู่ จากนั้นก็ทำหน้าคล้ายนึกอะไรขึ้นมาได้ เขาหันไปหยิบไมโครโฟนขึ้นมาพูด “เพื่อนที่รักทุกท่าน เมื่อกี้เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย ไม่ใช่คุณภาพรถของเราที่มีปัญหา ทุกคนสามารถมั่นใจได้ มันเป็นเพราะก่อนหน้านี้มีการใช้งานมากเกินไป นอกจากนี้เรายังจะทดสอบความแข็งแรงของกระจกก่อนออกจากโรงงานทุกครั้ง เมื่อนำมันมาไว้ที่ร้าน พนักงานของเราก็ทดสอบและทดลองทุบมันหลายครั้ง และคันที่อยู่ในงานนี้ก็ถูกผู้ชมยี่สิบกว่าคนทุบมันอย่างแรงหลายต่อหลายครั้ง แม้จะเป็นกระจกกันกระสุนแต่มีข้อจำกัด ตัวอย่างเช่นเมื่อทุบในจุดเดียวกันมากเกินไปก็จะทำให้กระจกสึกหรอ นี่ถือเป็นเรื่องปกติครับ”
ผู้ชมกระซิบกระซาบกัน
“กระจกปลอมหรือเปล่า?”
“กันกระสุนอะไรกันล่ะ!”
“ตอกหน้าไปเต็มๆ! ฉันล่ะเจ็บแทนพวกนายเลย!”
“คำอธิบายนี้มันไม่ใกล้เคียงเลยว่าไหม?”
“อาจารย์จางตัวผอมบางเหมือนลิงยังทุบกระจกแตกได้ คุณภาพของรถคันนี้คงผิดปกติแล้วล่ะ! แล้วยังเป็นรถกันกระสุนอีก? แบบนี้ก้อนอิฐลอยมายังต้องหลบเลย!”
“แต่คำอธิบายนี้ก็สมเหตุสมผลเหมือนกันนะ อาจเป็นเพราะกระจกถูกใช้งานมากเกินไป ฉันว่าจางเย่ทุบมันด้วยมือเปล่าไม่ได้หรอก นั่นมันต้องใช้พลังขนาดไหนกัน?”
“ก็จริง”
มีคนที่เหน็บแนม
มีคนที่เชื่อและคนที่สงสัย
ผู้จัดการรีบอธิบาย “เมื่อกี้แค่บังเอิญน่ะครับ กระจกกันกระสุนไม่ใช่ของใหม่ มันถูกเคาะมาแล้วหลายร้อยครั้ง ที่จริงมันมีรอยแตกอยู่แล้ว เพียงแต่มันไม่ปรากฏขึ้นมาบนพื้นผิวกระจก ดังนั้นอาจารย์จางเย่จึงใช้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้ บังเอิญตบลงบนพื้นผิวกระจกที่มีรอยแตกพอดีจึงทำให้แตก ไม่ใช่ปัญหาเรื่องคุณภาพรถเลยครับ แต่ว่าไม่เป็นไร เราสัญญาว่าทุบหนึ่งได้หนึ่ง ยังไงพวกเราก็ทำให้ได้ หากทุกคนยังมีข้อสงสัย? งั้นพวกเราเอารถออกมาอีกหนึ่งคัน รถใหม่เอี่ยมที่ยังไม่เคยโดนทุบมาก่อน ให้ทุกคนดูว่ากระจกกันกระสุนมีลักษณะอย่างไรเมื่อไม่มีร่องรอยสึกหรอ เป็นไปไม่ได้เลยที่มนุษย์จะสามารถทุบจนแตกได้!”
พนักงานขับรถคันใหม่เข้ามาแล้ว
ผู้จัดการหัวเราะ “ดูสิครับ นั่นคือคันใหม่ ทุกคนสามารถมาทุบดูได้ เมื่อกี้เป็นแค่เรื่องบังเอิญพอดี ที่จริงไม่ว่าใครมาทุบกระจกคันที่แล้วก็ต้องแตกอยู่แล้วครับ แบรนด์ของเรารับประกัน โปรดไว้วางใจแบรนด์เรา ไว้วางใจอาจารย์ลีอันซูที่เป็นพรีเซนเตอร์ของเรา รถกันกระสุนรุ่นใหม่นี้จะไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน มีใครอยากลองไหมครับ?”
ในเวลานี้เองก็มีคนเดินไปข้างหน้า
เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง
เธอชื่อเหราอ้ายหมิ่น
ใครบางคนในฝูงชนจำเธอได้
“เฮ้ย”
“นั่นมันนางงามน้ำแข็งนี่!”
“เธอเป็นผู้จัดการของจางเย่”
“ฉันรู้จักเธอ เคยเห็นในทีวี!”
ฮาฉีฉีตกตะลึง
จางจั่วก็ตะลึงเช่นกัน
ไม่มีใครคาดคิดว่าเจ้าของบ้านและผู้จัดการของจางเย่จะขึ้นไป!
ถงฟู่อึกอัก “ผู้กำกับจาง เจ๊เหราเธอ?”
จางเย่กลับหัวเราะ “เจ๊คนนี้โลภกับของราคาถูกอีกแล้ว”
ถงฟู่ฟังไม่เข้าใจ “หา? โลภกับของราคาถูกอะไรนะครับ?”
เมื่อผู้จัดการเห็นดังนั้นก็ยิ้มออกมา “โอเค มีอาสาสมัครปรากฏตัวแล้ว สาวสวยคนนี้อยากลองดูใช่ไหมครับ? เยี่ยมเลย คุณสามารถทดลองได้ ด้านนั้นมีอุปกรณ์ มีค้อน มีไม้เบสบอล คุณสามารถเลือกอะไรก็ได้ตามต้องการ คุณจะทุบกี่ครั้งก็ได้ แต่คุณไม่ต้องคาดหวังว่าจะโชคดีนะครับ เพราะนี่เป็นรถกันกระสุนคันใหม่เอี่ยม ไม่เหมือนคันเมื่อกี้แล้วนะ งั้นก็ขอให้คุณเพลิดเพลินไปกับความทนทานของกระจกกันกระสุนรุ่นล่าสุดของเรา อ้อ ระวังมือด้วยนะครับ อย่าให้โดนตัวเอง ถ้าบาดเจ็บขึ้นมาพวกเราไม่…” เขายังพูดไม่จบ
ทันใดนั้นเหราอ้ายหมิ่นก็เดินไปที่รถด้วยสีหน้าเย็นชา
หลายคนสับสนมึนงง
หมายความว่ายังไง?
อุปกรณ์เสริมล่ะ?
คุณไม่หยิบไม้เบสบอลมาสักหน่อยเหรอ?
จากนั้นพวกเขาก็เห็นเหราอ้ายหมิ่นยกมือขึ้นเบาๆ จากนั้นก็ตบฝ่ามือลงบนกระจกด้านที่นั่งข้างคนขับ มีเสียงดังปังหนึ่งครั้ง เสียงนั้นสามารถเรียกได้ว่าสะท้านสะเทือนพื้นดิน รถทั้งคันเกือบจะพลิกคว่ำด้วยแรงมหาศาล เหมือนว่าล้อรถฝั่งหนึ่งลอยขึ้นจากพื้นไปแล้ว!
หนึ่งฝ่ามือ!
หนึ่งครั้ง!
แค่หนึ่งครั้งเท่านั้น!
กระจกกันกระสุนแตกกระจายไปทั่ว!
“เช็ดเข้!”
“เชี่ย!”
“สวรรค์!”
ผู้ชมต่างตกตะลึง!
พนักงานในสตูดิโอจางเย่ช็อกไปแล้ว!
ไม่มีใครอยากเชื่อสายตาตัวเอง!
ท่วงท่าเดียวกับจางเย่!
เคลื่อนไหวเช่นเดียวกับจางเย่!
ความแตกต่างมีเพียงหนึ่งฝ่ามือ และสองฝ่ามือ!
ที่เหมือนกันคือกระจกกันกระสุนแตกละเอียด!
พนักงานของแบรนด์ยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น!
ผู้จัดการที่ถือไมโครโฟนคุยโวเรื่องรถกันกระสุน ไมโครโฟนพลันร่วงลงบนพื้น เกิดเสียงดังเสียดหู ทันใดนั้นเขาก็คล้ายสูญเสียจิตวิญญาณ และทรุดลงนั่งที่พื้นคล้ายคนเป็นอัมพาต เขามองกระจกรถที่ถูกผู้จัดการจางเย่ตบแตกอย่างอึ้งๆ จากนั้นก็หันไปมองกระจกรถคันแรกที่ถูกจางเย่ตบแตก ในใจอุทานหนึ่งประโยค ‘เชี่ยแม่งเอ็งสิ!’
เขาพลันหลั่งน้ำตาออกมาเต็มใบหน้า!
แม่งเอ๊ย! คนพวกนี้เป็นสัตว์อสูรประเภทไหนกันแน่!