ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I'm really a superstar - ตอนที่ 1417 : การถกเถียงทั่วประเทศ!
ตอนบ่าย
ข่าวกระจายไปทั่วหมดแล้ว!
……
CCTV
“อะไรนะ?”
“จางเย่ทุบรถเหรอ?”
“ขนาดกระจกกันกระสุนยังแตก?”
“เชี่ย!”
“เร็วๆ รีบทำข่าวเลย!”
……
บริษัทสื่อบันเทิงแห่งหนึ่ง
“ว่าไงนะ?”
“จางเย่ก่อเรื่องเรอะ?”
“เป็นไปได้ยังไง!”
“จางจอมตอกหน้าลงมืออีกแล้ว?”
……
ทีมงานของลีอันซู
“เชี่ย!”
“จางเย่!”
“ไอ้นักเลงเหม็นเน่านั่น!”
“มันจงใจ! มันจงใจแน่!”
“บีบเราเข้าทางตันชัดๆ!”
“บัดซบ! เลวไร้คุณธรรมสิ้นดี!”
……
พริบตาเดียว ข่าวที่รถกันกระสุนซึ่งลีอันซูเป็นพรีเซนเตอร์ถูกฟาดจนกระจกแตก ก็เข้ายึดพื้นที่สื่อ!
บนเวยป๋อ เว็บบอร์ด หนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ ทุกที่ล้วนรายงานข่าวนี้ บางแห่งยังมีภาพและคลิปเหตุการณ์ด้วย!
ประชาชนต่างฮือฮา!
ชาวเน็ตขำจนแทบบ้า!
“ฉันว่าแล้ว! ฉันว่าแล้ว!”
“จางเย่ลงมืออีกแล้ว!”
“ฮ่าๆๆๆ ฉันควรจะรู้อยู่แล้วว่าหมอนี่ไม่มีทางทำตัวดีๆ ได้หรอก!”
“กระจกกันกระสุนเหรอ? หมอนั่นฟาดแตกได้ยังไงน่ะ?”
“จะไปรู้เรอะ? มีลูกไม้อยู่มั้ง!”
“ใช่ๆ ใช้แรงอย่างเดียวไม่มีทางแตกได้แน่!”
“ผู้หญิงสวยๆ นั่นเป็นใครน่ะ?”
“ผู้จัดการส่วนตัวเขา ชื่อเหราอ้ายหมิ่น!”
“โคตรเท่เลย! เทพธิดาจริงๆ!”
“แต่ละคนเป็นอสูรเรอะไง? มือเปล่าทุบกระจกกันกระสุนแตกเนี่ยนะ?”
“อาจารย์จางดังอีกแล้ว!”
“ใครว่าจางจอมตอกหน้าจะยั้งมือเพราะกำลังจะเป็นพ่อคนนะ? ใคร? ออกมาเลย ฉันสัญญาว่าจะไม่ตีจนตาย! หมอนั่นแม่งเหมือนเดิมไม่ผิดชัดๆ!”
“ฮ่าๆๆ หมอนั่นคงเป็นแบบนี้ไปชั่วชีวิตแล้วล่ะ!”
“ความไม่กลัวใครของเขาไม่เกี่ยวอะไรกับที่จะเป็นพ่อคนเลย บ้าลึกถึงกระดูก! มีลูกอีกสิบคนก็ไม่เปลี่ยน!”
“ตอกหน้าอีกแล้ว!”
“หน้าบวมกันหมดแล้ว! หน้าบวมช้ำกันไปหมดแล้ว!”
“รถยี่ห้อนั้นซวยโคตร เชิญใครไม่เชิญ ไปเชิญเอาลีอันซูมาทำไมกัน งี่เง่า!”
“รถนั่นไม่มีคุณภาพด้วยแหละ”
“จางจอมตอกหน้าตอกแรงขึ้นอีกขั้นแล้ว!”
“ชอบดูอาจารย์จางตอกหน้าคนจริงๆ!”
ความวุ่นวายยิ่งมายิ่งใหญ่โต เรื่องร้อนขนาดนี้ปกติไม่มีทางดับลงง่ายๆ ยิ่งกว่านั้นนี่ยังเป็นเรื่องที่ไม่เคยมีใครพบเจอมาก่อน สดใหม่มาก! ถ้าบอกว่าจางเย่ไปพังร้านคน ทุกคนยังพอคาดเดาได้ บอกว่าจางเย่ไปเจาะลมยางล้อคน คนก็ยังพอนึกออก แต่บอกว่าไปฟาดกระจกรถกันกระสุนตอนมีคนท้าให้ทุบด้วยอีเวนต์ฟาดหนึ่งฟรีหนึ่ง? คนธรรมดาจะไปทำได้ยังไง? คนทั่วๆ ไปจะไปคิดถึงได้หรือ!
มีก็แต่จางเย่นั่นแหละ!
มีแต่เขาที่ไม่เคยเล่นตามเกมเท่านั้นที่ทำอะไรแบบนี้ได้!
ทั้งประชาชน
คนในวงการ
สื่อบันเทิง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อนและครอบครัวของจางเย่
แต่ละคนพอเห็นข่าวก็ตกตะลึงกันถ้วนหน้า!
ทางบริษัทรถยนต์ออกแถลงการณ์ฉุกเฉินอย่างรวดเร็วเพื่อชี้แจงกรณีนี้ ใจความสำคัญก็คือ รถยนต์ของพวกเขาไม่มีปัญหาเรื่องคุณภาพ แต่ปัญหาก็คือพนักงานใช้รถผิดรุ่น รถที่นำไปนั้นไม่ใช่รุ่นกันกระสุน แต่เป็นรุ่นเทียบเท่าที่มีรูปทรงเดียวกัน ทำให้พวกเขาเข้าใจผิดไป
“ที่แท้ก็เพราะเอารถไปผิดคัน!”
“ฉันก็ว่าทำไมจางจอมตอกหน้าถึงมีพลังขนาดนั้น!”
“ก็ถือว่าร้ายกาจพอแล้วน่า แค่สองฝ่ามือก็ฟาดกระจกนิรภัยแตกเนี่ยนะ? คนธรรมดาทำได้ที่ไหน? ต้องทรงพลังพอตัวเลย!”
“เอามาผิดรุ่นจริงเหรอ?”
“ทำไมถึงไม่ค่อยอยากเชื่อเลยนะ?”
“นั่นสิ ไม่ใช่ว่าให้คนเอาไม้เบสบอลฟาดไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ถ้าเป็นกระจกปกติแค่ฟาดทีสองทีก็แตกแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“ใครจะไปรู้ว่าพวกเขาพูดจริงหรือโกหก”
“บริษัทนี่เคยมีคดีเรื่องหลอกลวงผู้บริโภคในจีนด้วย เดิมประวัติก็ไม่ดีอยู่แล้ว ฉันไม่เชื่อหรอก!”
ทุกคนต่างพูดคุยวิเคราะห์กันอยู่ทั้งวัน ก็ได้ข้อสรุปสองข้อ หนึ่งคือคุณภาพของกระจกรถยนต์ยี่ห้อนี้มีปัญหาแน่นอน ไม่อย่างนั้นแล้วจางเย่กับผู้จัดการของเขาไม่มีทางฟาดแตกได้เด็ดขาด สองคือจางเย่ต้องมีเคล็ดบางอย่างในการฟาดกระจกกันกระสุน แต่ไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไร แม้พยายามหาข้อมูลกันอยู่นานแต่ก็ยังหาคำตอบไม่ได้
……
ประเทศจีน
ปักกิ่ง
ที่ออฟฟิศรถยนต์เกาหลี
ทุกคนในบริษัทเป็นกังวล เป็นกังวลจนหน้าเขียว!
ขณะนั้นคนจากบริษัทแม่ก็มาถึงอย่างเร่งร้อน พอพบคนที่รับผิดชอบงานนี้ก็ด่าทันที
“เป็นบ้าอะไรของนาย?”
“ขอโทษครับประธานคิม!”
“รู้ไหมว่าเรื่องนี้ส่งผลกับภาพลักษณ์ของบริษัทแค่ไหน? รู้ไหมว่าบริษัทขาดทุนไปเท่าไหร่? เราแทบจะเสียตลาดจีนไปแล้ว!”
“แต่ว่าผม…”
“ผมอะไร? ยังจะแก้ตัวอะไรได้อีก! งานง่ายๆ แค่นี้ยังจัดการไม่ได้ เอารถรุ่นธรรมดาไปปนกับรุ่นกันกระสุนได้ยังไง! โง่เง่าสิ้นดี!”
ผู้จัดการนั้นน้ำตาไหลนองหน้า “แต่ผมไม่ได้เอาไปผิดนะครับ”
คนของบริษัทแม่ตะลึงไป “หมายความว่ายังไง?”
ผู้จัดการคนนั้นรีบพาพวกเขาไปที่โรงรถซึ่งเก็บรถที่ถูกฟาดแตกสองคันนั้นเอาไว้
คนจากสำนักงานใหญ่เข้าไปดู
ทั้งดีไซน์ภายใน
รูปทรงภายนอก
ความหนาของกระจก
รถรุ่นปกติกับรุ่นกันกระสุนนั้นแตกต่างกันแน่นอน
ทุกคนตะลึงไป “นี่มันรุ่นกันกระสุนนี่?”
ผู้จัดการนั้นว่า “ใช่ครับ เราเอาเรื่องที่เอารถไปผิดรุ่นเป็นข้ออ้างเท่านั้น!”
ประธานคิมตะลึง ขณะชี้ไปที่กระจกรถ “คุณบอกว่าสองคนนั้นฟาดกระจกกันกระสุนเราแตกจริงๆ?”
ผู้จัดการ “ใช่ครับ”
ประธานคิม “……%¥#%¥###@@!!!”
พวกมันทำไปได้ยังไง?
สรุปแม่งทำได้ยังไงกัน?
……
โลกภายนอกเองก็วุ่นวายไม่น้อย
ชั่วขณะนั้น มีแต่คนในยุทธภพเท่านั้นที่ยังคงสงบนิ่ง
เส้าหลิน
“อาจารย์อา ท่านเห็นคลิปนี้หรือยังครับ?”
“เห็นแล้ว”
“จางเย่นั่น…”
“อืม เขาใกล้สำเร็จวิชาพลังภายในแล้ว”
“อย่างนั้นก็ไม่ห่างจากระดับปรมาจารย์แล้ว…”
“เกรงว่าอีกไม่นานแล้ว”
“อีกไม่นานคือแค่ไหนครับ?”
“เรื่องนี้ไม่ใช่ขอบเขตที่ฉันจะประเมินได้ อย่างสั้นคือสองสามปี อย่างช้าคือแปดเก้าปี ใครจะไปทราบได้?”
คนในยุทธภพหลายคนก็เห็นคลิปนี้แล้วเช่นกัน
ค่ายเล็ก
พรรคใหญ่
ไร้สังกัด
ทุกคนต่างทราบแน่แก่ใจ
เห็นคนธรรมดาในอินเทอร์เน็ตพยายามคาดเดาว่าจางเย่ใช้วิธีการไหน คาดเดาว่ากระจกกันกระสุนมีปัญหาด้านคุณภาพอย่างไร พวกเขาก็ได้แต่ส่ายหน้าด้วยความไม่เห็นด้วย ดูจากแรงที่จางเย่ใช้ การสะเทือนของรถและองค์ประกอบอื่นๆ พวกเขาต่างทราบว่านั่นเป็นกระจกกันกระสุนแน่ๆ แม้อาจไม่ใช่เกรดการทหาร แต่แค่เกรดล่างสุดก็เหลือเฟือแล้ว ปัญหาไม่ใช่ที่กระจก แต่เป็นที่คน
บริษัทรถยนต์รายนี้โชคไม่ดีเอามากๆ!
ในโลกใบนี้ คนที่สามารถฟาดกระจกกันกระสุนแตกด้วยมือเปล่าได้ อย่างมากก็ไม่เกินแปดคนเท่านั้น แต่เผอิญว่าเหราอ้ายหมิ่นกับจางเย่กลับเป็นหนึ่งในนั้น!