ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I'm really a superstar - ตอนที่ 1419 : จับล็อตเตอรี่!
วันต่อมา
ที่บ้านพ่อแม่คุณอู๋
ในลานบ้าน แดดกำลังดี พอจางเย่กับอู๋เจ๋อชิงมาถึง หลี่ฉินฉินก็ดึงตัวบุตรสาวไปคุยด้วย แล้วให้อู๋ฉางเหอเล่นหมากล้อมกับจางเย่
ไม่เกินความคาดหมาย ผู้ชายทั้งสองคนถกเถียงกันอีกแล้ว
“พ่อ ทำไมชอบถอยหมากล่ะ?”
“ฉันพยายามให้แกเห็นความเป็นไปได้อื่นๆ บนกระดานไง!”
“ไอ้หยา พ่อไวๆ หน่อยสิ”
“แกจะบ่นทำไม? พูดยังกะฉันกำลังเล่นกับแกจริงๆ จังๆ งั้นล่ะ”
“ผมต่อให้สี่หมากแล้ว พ่อยังไม่เอาจริงอีกเหรอ?”
“แกพูดเหมือนถ้าฉันต่อให้แกสี่หมากแล้วฉันจะแพ้ยังงั้นล่ะ!”
“เหอะๆ พ่อก็ไม่ชนะจริงๆ นั่นแหละ”
“เฮ้ย แกกล้าท้าฉันเรอะ มาลองกัน!”
“ผมว่าผมต่อให้พ่อห้าหมากดีกว่า!”
“ไม่ต้อง! ฉันต่อให้แกสิบหมากเลย!”
“ผมต่อให้ยี่สิบ!”
“ฉันต่อให้สามสิบ!”
“ผมต่อให้ห้าสิบ!”
“ฉันต่อให้แกร้อยนึงเลย!”
สรุปว่าหมากไม่ได้เล่นแล้ว ทั้งสองคนต่างวางหมากมั่วๆ ปากก็โม้ใส่กันไปเรื่อย
หลี่ฉินฉินกับอู๋เจ๋อชิงเห็นจนไม่แปลกใจแล้ว จึงนั่งหัวเราะคุยกันด้านข้าง ทำเป็นมองไม่เห็น ไม่สนใจนายท่านทั้งสองคนนี้แล้ว
สุดท้ายเถียงกันจนเหนื่อย ทั้งสองถึงหยุดปาก
หลี่ฉินฉินยิ้ม “เย่น้อย เธอนี่ทรงพลังจริงๆ นะ?”
จางเย่ยินดี “แน่นอนครับ รูปร่างแบบผม หุ่นแบบนี้ แม่มองไม่ออกเหรอ?”
อู๋ฉางเหอหัวเราะเยาะ “เออ มองไม่ออกจริงๆ นั่นแหละ”
หลี่ฉินฉินถาม “แต่นั่นกระจกกันกระสุนนะ ต่อให้เอารถมาผิดคันก็ยังเป็นกระจกนิรภัย ทำให้ฟาดแค่ครั้งเดียวก็แตกแบบนั้นล่ะ?”
จางเย่หัวเราะ “แม่ดูถูกผมใช่ไหมครับ? ว่ากันตรงๆ คือแบบนี้ แผ่นเหล็กหนาหรือไม่หนา ผมก็ฟาดยุบได้ในฝ่ามือเดียวเหมือนกันหมด! ผมมีวรยุทธ์นะ คนธรรมดาสามสิบห้าสิบคนยังเอาผมไม่ลงด้วยซ้ำ ตอนนั้นที่มีเรื่องกันในยุทธภพ พวกพรรคใหญ่สิบกว่าพรรคหาเรื่องผม ผมเดินไปเคาะประตูทีละสำนัก จัดการเรียบ! ทำลายป้ายสำนัก จัดการจ้าวสำนักจนหนีหน้าผมไม่กล้าส่งเสียงกันหมด ตอนผมรู้ว่าป้ายสำนักหัวซานทำงานไม้เนื้อแข็ง ผมก็เลยทำเป็นกำไลประคำไม้ขาย พวกนั้นโมโหมากแต่ก็ทำอะไรผมไม่ได้ ดูสิว่าผมแข็งแกร่งแค่ไหน อย่าว่าแต่แค่ทุบกระจกรถเลยครับ”
ยุทธภพ?
พรรคใหญ่?
ทำลายป้ายสำนัก?
ทำเป็นกำไลข้อมือ?
แกนี่มันโม้เก่งนะ! ไม่บอกว่าเหาะขึ้นฟ้าไปเลยล่ะ!
อู๋ฉางเหอฟังแล้วก็เบ้ปาก ส่วนหลี่ฉินฉินปิดปากหัวเราะ
จางเย่พูดติดตลก ทุกคนก็ฟังเป็นเรื่องตลก
แต่ที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ สิ่งที่จางเย่พูดนั้น เป็นเรื่องจริง
ตอนเที่ยง
หลังมื้ออาหาร อู๋ฉางเหอออกไปเล่นหมากล้อม ส่วนหลี่ฉินฉินยืนยันให้อู๋เจ๋อชิงพักผ่อนสักครู่แล้วลากเธอเข้าไปนอนในห้อง เหลือแค่จางเย่นั่งว่างไม่มีอะไรทำ จึงเดินไปห้องฝั่งตะวันตกเพื่อเอนตัวนอนเล่น เปิดมือถือดูข่าวของตัวเองบนเน็ต
สถานการณ์ตอนนี้นับว่ากำลังคุมเชิงกันอยู่
จางเย่บุกตลาดเกาหลีญี่ปุ่นไม่ได้ เหล่าศิลปินของทางนั้นเองก็กังวล จางเย่ตีตั๋วกลับบ้านให้พวกเขามาสี่คนแล้ว ในเวลาแบบนี้ ไม่มีใครกล้าเป็นนกยื่นหน้าออกไปเป็นตัวแรกอีก ต่างก็ลังเลรอดูว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ขณะที่จางเย่ยังคงคึกคักเข้มแข็ง ถึงจะโดนด่าจนชื่อเสียงย่อยยับ แต่อันดับในทำเนียบของเขาก็ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง วันเวลาช่วงนี้ผ่านไปอย่างสวยงาม
ทว่าจางเย่ยังไม่พอใจกับสถานการณ์เช่นนี้ นี่ไม่ใช่แผนระยะยาว เขากำลังจะเป็นพ่อคน แรงกายแรงใจของเขาก็เพิ่มขึ้นเปี่ยมล้น เขาคิดจะทดลองชิงชัยในระดับ S ของทวีปเอเชียดูบ้าง เขาตั้งเป้าไว้แล้ว ก่อนที่ลูกของเขาจะเกิดมา เขาต้องได้เป็นอย่างน้อยสตาร์คิงของทวีปเอเชียและยืนอยู่จุดสูงสุดของทวีปนี้ก่อนไปยังระดับโลก ไม่อย่างนั้นทุกอย่างคงเสียแรงเปล่า
จะหลุดออกไปได้ยังไง?
จะหลุดจากการแบนของญี่ปุ่นและเกาหลีได้ยังไง?
จะเพิ่มชื่อเสียงในระดับเอเชียให้ทะยานต่อไปได้ยังไง?
เขานึกถึงจางหย่วนฉี ฉีเหม่ยหลัน และคนอื่นๆ ที่อยู่ ณ จุดสูงสุดในวงการของประเทศ พวกเขาและเธอต่างก็เป็นสตาร์คิงสตาร์ควีนของทวีปด้วย เว้นแต่จางเย่ แม้ว่าวงการบันเทิงเกาหลียังมีอิทธิพลที่สุดในทวีปเอเชีย เพราะรายการโชว์ ซีรี่ย์และภาพยนตร์ล้วนเจาะตลาดจีนได้อย่างง่ายดาย กอบโกยเงินทองและแฟนคลับไปได้มหาศาล แต่หนัง ละครและรายการโชว์ของจีนกลับยากจะเจาะตลาดญี่ปุ่นเกาหลี แต่เพราะประชากรของจีนจมีมาก ตลาดมีขนาดใหญ่ คนที่สามารถขึ้นสู่จุดสูงสุดของรายการในประเทศ ต่างก็ไปถึงจุดสูงสุดของทวีปนี้ด้วย อย่างน้อยๆ ก็ไม่มีปัญหาที่จะขึ้นสู่ระดับ S
ทำไมจางเย่ถึงเป็นข้อยกเว้น?
เป็นเพราะเขาเลือกเดินทางที่แตกต่างจากอีกหกคนที่เหลือ แต่ละคนต่างโด่งดังหน้าตาดี มีมาดไอดอล ถ่ายหนังทำละครร้องเพลง เป็นดาราในกระแส ขณะที่จางเย่ไม่เคยเข้าไปวุ่นวายกับกระแสหลักหรือเป็นดาราที่หน้าตาหล่อเหลา เรื่องนี้เป็นข้อสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นจางหย่วนฉีหรือฉีเหม่ยหลัน ทางของพวกเขานั้นไม่ใช่สิ่งที่จางเย่จะเดินตามได้
ถ้าอยากเป็นระดับสตาร์ของเอเชีย?
อย่างนั้นเขาก็ต้องหาทางของตนเอง!
หนทางที่แตกต่างจากคนอื่นๆ!
……
ครุ่นคิดอยู่ครึ่งชั่วโมง
ดื่มชาแก่ๆ ไปสามถ้วย
จางเย่ก็ยังไม่มีไอเดียอะไร เขาจึงตัดสินใจดูระบบล็อตเตอรี่ ค่าชื่อเสียงสะสมได้ขนาดนี้ ได้เวลาใช้อีกครั้งแล้ว ไม่อย่างนั้นทิ้งไว้ก็เปล่าประโยชน์
เปิดแหวนเกม
เปิดหน้าร้านค้า
เปิดใช้งานรัศมีแห่งโชค (อัปเกรด)
เปิดหน้าล็อตเตอรี่ เพิ่มเดิมพัน
เขาทำทุกอย่างด้วยความชำนิชำนาญ
คราวนี้เขายังคงเลือกเล่นล็อตเตอรี่ระดับสอง ของที่ได้จากหีบระดับกลางนั้นดีกว่าและมีระดับสูงกว่า แม้จะแพงกว่าในราคาถึงครั้งละสิบล้านแต้มก็ตามที ทุกเดิมพันที่เพิ่มคืออีกสิบล้านเช่นกัน ทว่าจางเย่ไม่ขาดแคลนค่าชื่อเสียงสักนิด ปีนี้ยังไม่ค่อยได้ใช้ค่าชื่อเสียงที่ได้มาแม้แต่น้อย ขณะที่ยังคงได้ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลายวันนี้มีค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้นนับไม่ถ้วนจนเรียกได้ว่าขอแค่เขายังอยู่ในวงการบันเทิง ค่าชื่อเสียงเขาไม่เคยจะหยุดเพิ่มขึ้น ดังนั้นจางเย่จึงใช้ไปอย่างง่ายดาย เพิ่มเดินพันไปอีกเก้าครั้ง รวมเป็นสิบเดิมพัน ค่าชื่อเสียงใช้ไปรวมหนึ่งร้อยล้าน ไม่รวมค่าชื่อเสียงที่ใช้ไปกับรัศมีแห่งโชค (อัปเกรด) มหาศาลด้วยซ้ำ
เริ่มการจับล็อตเตอรี่!
เปิดใช้งานสล็อตแมชชีน!
หนึ่งรอบ…
สามรอบ…
ห้ารอบ…
ติ๊ง ของรางวัลออกมาแล้ว
จางเย่มองด้วยความสงสัยใคร่รู้ หีบสมบัติระดับกลางที่คุ้นเคยวางอยู่ในช่องเก็บของของแหวน เขาเอาออกมาอย่างระมัดระวัง เปิดดูภายใน ก่อนถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่ไม่ใช่กล่องเปล่า ค่าชื่อเสียงเขาไม่ได้เสียเปล่าแล้ว
ภายในเป็นหนังสือทักษะ
เป็นหนังสือทักษะระดับสูง
‘หนังสือทักษะวาดภาพ’x10 : เพิ่มพูนความสามารถการวาดภาพ
ทักษะของหนังสือทักษะจากล็อตเตอรี่ระดับสองนั้น เทียบเท่าหนังสือทักษะระดับหนึ่งร้อยเล่ม ยิ่งไปกว่านั้นจางเย่ยังไม่พบเลยว่าระดับทักษะมีขีดจำกัด นี่คือเหตุผลที่เขาชอบเล่นล็อตเตอรี่ระดับสองมากกว่า ถ้าเล่นระดับหนึ่งมากไป ทักษะหรือค่าสถานะของเขาเต็มไปแล้ว สิ่งที่ได้มาก็สูญเปล่า แต่ในหนังสือทักษะระดับสูงนั้นไม่มีปัญหาเช่นนี้ ดังนั้นเมื่อจางเย่มีค่าสถานะและทักษะเต็มไปหลายอย่าง ทั้งค่าความแข็งแรง ความว่องไว เขียนพู่กัน คณิตศาสตร์ และหมากล้อม ก็ชัดเจนว่าล็อตเตอรี่ระดับสองเป็นตัวเลือกทีดีในการเพิ่มทักษะที่เต็มจนหนังสือทักษะระดับต้นเพิ่มต่อไปไม่ได้แล้ว
วาดภาพ?
ก็ได้ มีทักษะเพิ่มอีกแขนงก็ดี
จางเย่ไม่ได้สนใจ เล่นล็อตเตอรี่ต่อไป
สล็อตแมชชีนหมุนต่อ
หมุน…
หมุน…
เขาเบือนหน้าหนีไม่มอง เพราะเขาเองก็ทราบว่าจะมองหรือไม่ก็ไม่มีประโยชน์ สู้ไม่มองแล้วรอลุ้นเอาดีกว่า
เสียงติ๊งดังขึ้น ของรางวัลออกมาแล้ว
คราวนี้เป็นหีบสมบัติขนาดกลางสิบกล่อง
แต่เมื่อเห็นของภายใน จางเย่ก็ชะงักไป
‘หนังสือทักษะภาษาญี่ปุ่น’x10 : เพิ่มพูนความสามารถการใช้ภาษาญี่ปุ่น
ญี่ปุ่น?
วาดภาพ?
จางเย่ฉุกคิดขึ้นมา
หรือว่าสวรรค์กำลังบอกอะไรฉัน?