ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I'm really a superstar - ตอนที่ 1420 : ไอเดียชั่วช้าของจางเย่!
- Home
- ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I'm really a superstar
- ตอนที่ 1420 : ไอเดียชั่วช้าของจางเย่!
บ่าย
จางเย่กลับสตูดิโอ
ทุกคนกำลังทำงานอยู่ พอเห็นเขาแล้วก็ประหลาดใจ
“ผู้กำกับจาง?”
“มาทำไมกันครับ?”
“ไหนว่าจะพักสักสองวันไม่ใช่เหรอ?”
“นั่นสิ เพิ่งครึ่งวันเองนะ”
“อ๊ะ หรือว่ามีเรื่องอีกแล้ว?”
“มีคนมาหาเรื่องอีกแล้วเหรอคะ?”
ถ้าเป็นที่สตูดิโอดาราอื่น แต่ละวันไหนเลยจะมีเรื่องมากแบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ยังไม่มีใครทนให้เกิดขึ้นแบบนั้นได้ ครึ่งปีมีเรื่องใหญ่ครั้งหนึ่งก็พอให้วุ่นวายมากแล้ว แต่ว่าสตูดิโอของจางเย่นั้นไม่เหมือนกัน ถ้าสัปดาห์หนึ่งไม่เกิดเรื่องสักครั้งสองครั้งก็ไม่ใช่จางเย่สตูดิโอแล้ว ที่นี่คือศูนย์กลางของปัญหาในวงการบันเทิงเอเชีย
จางเย่ยิ้ม “ไม่มีเรื่องอะไรหรอก”
ทุกคนจึงค่อยระบายลมหายใจอย่างโล่งอก “ทำพวกเราตกใจหมด”
จางเย่พูดขึ้นทันที “มา ประชุม”
ในห้องประชุม
ทุกคนนั่งลง
จางเย่ถาม “เหล่าจั่ว สถานการณ์พวกเราตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?”
จางจั่วหัวเราะเบาๆ “ถึงทางญี่ปุ่นเกาหลีจะออกข้อจำกัดมา เราก็ยังทำได้ดีครับ เมื่อวานชื่อเสียงในระดับเอเชียเราก็เพิ่มขึ้นอีกแล้ว”
ฮาฉีฉีหัวเราะ “ยิ่งโดนด่าเราก็ยิ่งดังค่ะ”
เสี่ยวหวังยกยอ “ผู้กำกับจางเกรียงไกร! ผู้กำกับจางไร้เทียมทาน!”
จางเย่ขำ “พอๆๆ ฟังยังไงก็ไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องดีเลยสักนิด”
จางจั่วว่า “ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ต่อให้ทางญี่ปุ่นเกาหลียังมีคำสั่งแบน เราก็ยังรักษาความยิ่งใหญ่ในทำเนียบได้ อาจจะขยับขึ้นได้ทีละเล็กละน้อย แต่ถ้าอยากขึ้นสู่จุดสูงสุดของทวีปนั่นยากมาก ยังต้องใช้เวลาอีกมากกว่าจะสำเร็จ”
จางเย่รับทราบ “เพราะงั้นตอนนี้ยังไม่พอ เราจะพอใจกับการหยุดนิ่งแบบนี้ไม่ได้”
ฮาฉีฉีมองเขา “คุณหมายความว่า?”
จางเย่ “ในเมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ ไม่มีวิธีจะจัดการ งั้นพวกเราก็ลุยกับมันไปตรงๆ แต่เราจะทำแบบนี้ไม่ได้ แบบนี้ไม่มีความหมาย ไม่แก้ปัญหาอะไรเลย แน่นอนว่าชื่อเสียงเราเพิ่มขึ้น แต่ถ้าต้องการขึ้นสู่จุดสูงสุดในระดับทวีป ชื่อเสียงแค่นี้ถือว่าไม่สนใจ เราต้องทำอะไรที่ใหญ่พอให้เราดังขึ้นในชั่วพริบตา ฉันว่าเราต้องเปลี่ยนวิธีการ จะนิ่งเฉยรอโดนตีอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องถือโอกาสบุกไปทางนั้นก่อน!”
จะนิ่งเฉยรอโดนตีไม่ได้?
ฟังดูแล้วก็มีเหตุผล แต่ว่า…
อู่อี้ตะลึง “เราจะโจมตีก่อน?”
ถงฟู่ก็ว่า “แต่จะสู้ยังไง?”
จางจั่ว “ทางโน้นแบนมาแล้วนี่ครับ?”
จางเย่ยิ้ม “หาทางเลี่ยงข้อจำกัดนั่นเถอะ พวกเขาแบนชื่อผม ถ้าผมเปลี่ยนชื่อล่ะ? ใครจะรู้ว่านั่นคือผม?”
ไม่มีใครเข้าใจความหมายของเขา
เปลี่ยนชื่อ?
จะเปลี่ยนยังไง?
ใช้นามปากกาเหรอ?
ฮาฉีฉี “งั้นจะไปที่จุดไหนคะ?”
จางเย่ยิ้ม “ตอนนี้มีสองทางเลือก หนึ่งคือญี่ปุ่น สองคือเกาหลี ทุกคนให้ความเห็นกันหน่อยว่าจะไปที่ไหนกันก่อน?”
อู่อี้ “ถ้าอยากทำจริงๆ ผมว่าเกาหลีดีกว่า”
ถงฟู่พยักหน้า “เราคุ้นเคยกับทางนั้นมากกว่า เพราะยังไงก็เคยตีกันมานานแล้ว”
จางจั่วก็ว่า “ใช่ครับ ทางเกาหลีพวกเราคุ้นเคยกว่าหน่อย”
จางเย่พูดขึ้น “เยี่ยม งั้นผมตัดสินใจแล้ว ญี่ปุ่นก่อน!”
ทุกคนแทบเป็นลม!
พรืด!
งั้นคุณจะถามพวกเราทำอะไร?
คุณไม่คิดจะฟังความเห็นเราอยู่แล้วนี่!
ฮาฉีฉีถาม “งั้นจะโจมตียังไงคะ?”
ก่อนนี้จางเย่ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปอย่างไร แต่ว่าการจับลอตเตอรี่เมื่อตอนเที่ยงทำให้เขามีแนวคิดใหม่ เปิดโลกกว้าง จุดไฟให้สายตาเบิกเนตร ในเมื่อเขาเองก็ทำอะไรไม่ตามแบบแผนอยู่แล้ว อย่างนั้นเขาก็ควรทำเช่นนั้นต่อไป หนทางของดาราคนอื่นๆ ไม่เหมาะกับเขา เขาก็แค่ต้องหาทางไปของตัวเอง!
ภาษาญี่ปุ่น?
วาดภาพ?
คำตอบน่ะชัดเจนอยู่แล้ว!
รอยยิ้มของจางเย่ชวนพิศวง “ถ้าจะเล่นก็ต้องเล่นใหญ่ เรื่องเล็กทางน้อยเราไม่เดิน ยังไงก็ไม่ได้ชื่อเสียงโด่งดังอะไรนัก พวกคุณคิดดูนะ ในญี่ปุ่นอะไรดังที่สุด มีคนสนใจมากที่สุดจนนำหน้าประเทศอื่นๆ ไปช่วงใหญ่ ทั้งยังส่งขายไปทั่วเอเชีย กลายเป็นสื่อที่ถูกรับชมมากที่สุด?”
จางจั่วตะลึง “คุณหมายความว่า?”
จางเย่ฉีกยิ้ม “ใช่”
ฮาฉีฉีตาค้าง “คุณจะเอาอย่างนั้น?”
จางเย่ยิ้มพลางพยักหน้า “ไม่ผิด”
เสี่ยวหวังตะลึง “คุณจะถ่ายเอวีเหรอคะ?”
อะเฮื้อ…!
จางเย่แทบทรุดลงไปกับเก้าอี้ คำราม “ฉัน? เอวี? น้องสาวเธอสิ!”
เสี่ยวหวัง “ก็คุณบอกว่าคืออุตสาหกรรมที่เรียกความสนใจจากผู้คนได้มากที่สุด?”
จางเย่แทบโมโหตาย “เธอคิดออกแต่เรื่องนี้เรอะ? ฉันสั่งเลยนะ! ต่อไปดูหนังแบบนี้ให้มันน้อยๆ ลงหน่อย!”
เสี่ยวหวังหน้าแดงก่ำ “ฉันไม่เคยดูนะคะ!”
“ฮ่าๆๆๆ!”
“ฮ่าๆๆๆๆๆ!”
ทุกคนในห้องประชุมต่างหัวเราะลั่น
เสี่ยวหวังรีบถาม “งั้นคุณหมายถึงอะไรกัน?”
จางเย่ตบโต๊ะแล้วว่า “ดูสิ! ดูเธอสิเหล่าฮา! ฉันหมายถึงการ์ตูนญี่ปุ่น! มังงะน่ะที่รัก! ฉันจะใช้มันเป็นจุดเริ่มต้นให้คนญี่ปุ่นรู้จักฉัน ฉันจะพลิกฟ้าที่โน่นเอง! ตัดสินใจแล้ว เราจะเริ่มที่การ์ตูน ตั้งแต่วันนี้เลย!”
จางจั่วเหงื่อตก “คุณไม่ได้พูดเล่นใช่ไหม?”
จางเย่ยิ้ม “เธอว่าฉันเหมือนพูดเล่นเรอะ?”
เสี่ยวหวัง “แต่ว่าคุณไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นนี่”
จางเย่อ้าปาก “#%$@%$¥¥#@。”
เสี่ยวโจวชะงัก “ภาษาญี่ปุ่น?”
ถงฟู่ร้องอุทาน “คุณไปเรียนมาตอนไหนน่ะ?”
จางเย่ยิ้ม “เพิ่งเรียน ความสามารถในการเรียนรู้ของฉันน่ะสูงนะ ภาษาญี่ปุ่นน่ะถือว่าง่าย เรียนไม่ยากหรอก”
เรียนไม่ยาก?
แต่ยังไงก็เรียนเร็วขนาดนี้ไม่ได้!
ทุกคนงุนงงไปหมด
เสี่ยวหวังปาดเหงื่อ “แต่ฉันก็ไม่เคยเห็นคุณวาดรูปนะคะ?”
จางเย่ “เธอน่ะยังไม่เคยเห็นอีกมาก ยังไงซะก็ถือว่ากำหนดแนวทางแล้ว ภายในปีนี้ เราต้องกลายเป็นดาราเอเชียระดับเอสให้ได้ ฉันรู้ว่าเราไม่เคยจับงานการ์ตูนมาก่อน แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา พอลองทำก็ทำดีเอง ทุกคน ฉันอยากให้ทุกคนเปิดทางติดต่อตามช่องทางที่ตัวเองมี เตรียมงานเอาไว้ให้ดี แต่ต้องเป็นความลับ อย่าให้ใครรู้เรื่องนี้ พอเราติดต่อทางญี่ปุ่น ทางนั้นต้องไม่รู้ตัวตนของเรา ไม่งั้นเราก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว”
เขายังพล่ามต่อไปอีกนาน
ทุกคนจึงเพิ่งจะสูดลมหายใจหนาวเหน็บ
เอาจริงสิ?
จะเอาแบบนี้จริงสิ?
แต่ว่าผู้กำกับจางวาดการ์ตูนเป็นได้ยังไง? ก็เรื่องนี้ยังไงทางญี่ปุ่นชำนาญที่สุดไม่ใช่เหรอ?
แต่พอเห็นจางเย่มั่นใจขนาดนี้ก็ไม่มีใครพูดอะไรต่อ ถ้าเขาอาศัยมังงะเจาะตลาดญี่ปุ่นสร้างชื่อมาได้จริงๆ ก็ถือว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่ง แบบนี้ชื่อเสียงของเขาก็จะก้าวกระโดดไปข้างหน้า! อย่างนั้นก็ทดลองดูเถอะ!
แต่ประโยคต่อมาของจางเย่ก็ทำให้ทุกคนต้องทรุด!
จางเย่กำลังจะเดินออกจากห้องประชุมก็หันกลับมา “เอ๊ะ จะวาดการ์ตูนนี่ เราต้องใช้เครื่องมือแบบไหนบ้างนะ?”
“หา?”
“นี่ว่าคุณไม่รู้หรอกเหรอ?”
“เป็นลมแล้ว!”