ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I'm really a superstar - ตอนที่ 1423 : เรื่องวารสารของโรงแรมในญี่ปุ่น!
- Home
- ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I'm really a superstar
- ตอนที่ 1423 : เรื่องวารสารของโรงแรมในญี่ปุ่น!
ตอนค่ำ
ที่ห้องวาดภาพในบ้านของเขา
จางเย่ฝังตัวเองไว้กับงาน วาดวันพีซตอนที่สามด้วยความตั้งใจ เขาอยากทำให้ได้อย่างน้อยสิบตอนก่อนไปที่ญี่ปุ่น
หนึ่งหน้า
สองหน้า
สามหน้า
ตัวละครทั้งหลายมีชีวิตชีวาอยู่บนแผ่นหน้าจอทีละใบๆ
เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นก็พบว่ามีคนอยู่ในสตูดิโออีกคน
จางเย่วางปากกาลง “อ้าว คุณเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ?”
อู๋เจ๋อชิงซึ่งยืนอยู่หลังเขายิ้ม “เข้ามาสักพักแล้ว เธอแต่งห้องวาดภาพห้องนี้เพราะอยากวาดมังงะเหรอ?”
จางเย่ “ใช่” เขาหันกลับไป “เอ้า อ่านดูสิ”
คุณอู๋ยิ้ม “ฉันอ่านแล้ว ไม่เลวเลย”
จางเย่พูดอย่างจนปัญญา “ผมทำอะไรคุณก็พูดเหมือนเดิมตลอดเลย”
คุณอู๋ “หึๆ ก็ดีจริงๆ นี่นา”
จางเย่ “อ้อใช่ สัปดาห์หน้าผมไปรับรางวัลที่ญี่ปุ่นนะ”
คุณอู๋ถาม “กี่วันคะ?”
จางเย่ “ผมว่าจะไปลองหยั่งตลาดที่นั่นดูอีกที คงหลายวันหน่อยนะ”
คุณอู๋ “อืม แต่คนที่นั่นไม่ต้อนรับเธอเท่าไหร่นี่ ระวังตัวด้วยนะ เข้าใจไหม?”
จางเย่ยิ้ม “แน่นอน งั้นผมวาดต่อก่อนนะ”
คุณอู๋พูดอย่างอ่อนโยน “ฉันจะไปชงกาแฟให้”
“ขอบคุณครับที่รัก!” จางเย่ตอบรับก่อนทำงานต่อ
หนึ่งชั่วโมง
สามชั่วโมง
ตอนที่สามเสร็จเรียบร้อย
เขาดูนาฬิกา เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว
จางเย่ไม่เข้านอน ยังคงวาดตอนที่สี่ต่อไป
ถ้ามีนักวาดมังงะอยู่ตอนนี้ พอเห็นความไวของจางเย่ ทุกคนก็คงต้องตะลึง จางเย่ไม่ต้องกะพริบตา แค่ถือปากกาก็เริ่มลงมือวาดได้ แกร๊กๆๆ มือเขาคล้ายจะเป็นภาพเงาด้วยความรวดเร็ว ไม่ได้หยุดสะดุดอะไรเลยสักนิด ไม่มีการลบ ไม่มีการแก้ไข ไม่มีข้อผิดพลาด เรื่องเหล่านี้ไม่เกี่ยวกับความเร็ว ทั้งปฏิกิริยา ความว่องไว ความแข็งแกร่ง ทั้งหมดนี้ล้วนมีส่วนทั้งสิ้น ไม่มีนักเขียนการ์ตูนคนไหนที่วาดได้เร็วเท่าเขาแล้ว มีแต่ปรมาจารย์กังฟูที่มีความรู้เรื่องการ์ตูนจากโลกใบก่อนอย่างจางเย่เท่านั้นถึงสามารถทำได้!
……
หนึ่งวัน
สองวัน
ต้นฉบับสร้างขึ้นทีละหน้าๆ
จนสุดท้ายก็เสร็จสิ้นลงทั้งสิบตอน
……
ในเช้าวันที่สาม
จางเย่กลับสตูดิโอ โชว์ต้นฉบับให้ทุกคนเห็น
ทีมงานต่างไม่รู้ว่าควรจะแสดงสีหน้าแบบไหนแล้ว
“สิบตอน?”
“แค่สองวันวาดไปแปดตอนเลยเหรอ?”
“พระเจ้า!”
“ไวไปแล้ว!”
“ผู้กำกับจาง คุณต้องดูแลตัวเองบ้างนะ!”
“ใช่ อย่าฝืนตัวเองมากไปนะ!”
ทว่าจางเย่ยังพูดสบายๆ “ฝืนตัวเองอะไรกัน? งานแค่นี้นับเป็นอะไรได้?” เขาไม่ได้โม้ เขาไม่เหนื่อยจริงๆ ตอนเช้าที่ออกจากบ้านพร้อมคุณอู๋ เขายังวิ่งจ๊อกกิ้งไปสามรอบก่อนขับรถมาทำงานโดยไม่มีเหงื่อสักหยด
ทุกคนพูดไม่ออก
บางครั้งพวกเขาก็สงสัยว่าผู้กำกับจางหลอมมาจากเหล็กหรือเปล่า?
บางครั้งพวกเขาก็นึกอยากจับจางเย่แก้ผ้าดูว่าด้านในมีชิ้นส่วนโลหะโผล่ออกมาไหม?
ฮาฉีฉีพูดขึ้น “อ้อ ผู้กำกับจาง แผนการเดินทางไปญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้วนะคะ”
จางเย่ยิ้ม “โอเค ผมดูหน่อยสิ”
“นี่ค่ะ” ฮาฉีฉีส่งให้ “จากทางองค์กรการกุศลแห่งเอเชียค่ะ”
หมายกำหนดการ
วันจันทร์หน้า
เครื่องบินลงจอดที่โตเกียว
เช็กอินที่โรงแรมอาซาคุสะ
และรายละเอียดอื่นๆ
จางเย่อ่านคร่าวๆ “เอาล่ะ งั้นก็ตามแผนนี้ล่ะ แต่ขากลับไม่ต้องรีบนะ อยู่ที่นั่นอีกสักหลายวันหน่อย”
ฮาฉีฉีพยักหน้า “ได้ค่ะ ฉันจะไปประสานงานกับพวกเขา”
จางจั่วถาม “ใครจะติดตามไปครับคราวนี้?”
จางเย่ยิ้ม “ใครอยากไปบ้างล่ะ?”
เสี่ยวหวังยกมือขึ้นสูงร้อง “ฉันค่ะๆๆๆ!”
เสี่ยวโจวเองก็ยกมือ “ฉันก็ไม่เคยไปญี่ปุ่นเหมือนกัน!”
ฮาฉีฉีหัวเราะ “ไม่ได้จะให้ไปเที่ยวกันนะ นี่ไปทำงานสำคัญ”
แต่จางเย่กลับไม่สนใจนัก “ฮ่าๆ ไม่เป็นไรหรอก ยังไงก็ทำงานไปเที่ยวไป เอาล่ะ เสี่ยวหวัง เสี่ยวโจวไปกับผม เสี่ยวซุนด้วย นายเองก็ต้องไปด้วยกัน”
เสี่ยวซุนยิ้ม “โอเคครับ!”
จางเย่มองฮาฉีฉี “เหล่าฮา ไม่ไปด้วยกันเหรอ?”
ฮาฉีฉี “ฉันต้องไปอยู่แล้วค่ะ”
จางเย่พยักหน้า “งั้นก็ตามนี้นะ?”
จางจั่วรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก“ผู้กำกับจาง ไม่พาเสี่ยวหยางไปด้วยล่ะครับ?”
ฮาฉีฉีรีบเสริม “ใช่ๆๆ ตอนไปเกาหลีรอบก่อนเราไม่ได้เตรียมตัว พอไปเจอพวกนั้นเลยเกือบได้เรื่อง ถ้าไม่มีบอดี้การ์ดเวลาไปต่างประเทศคงไม่โอเคแน่ แถมพวกญี่ปุ่นยังด่าคุณไม่หยุด ยังไงเราก็ต้องพาเสี่ยวหยางไปกับเราด้วยนะคะ ความปลอดภัยต้องมาก่อนนะ!”
อีกด้านของออฟฟิศ หยางซูยืนพิงหน้าต่าง จ้อง BMW X5 ที่จอดอยู่ด้านล่างเขม็ง พอได้ยินก็ค่อยๆ หันหน้ามาด้วยความงุนงง “อะไรกัน? ไปไหนคะ?”
จางเย่มองบนใส่
ฮาฉีฉี “ไปญี่ปุ่น พวกเราต้องให้เธอเป็นบอดี้การ์ดน่ะ”
หยางซูส่งเสียงอ้อคำหนึ่งแล้วพยักหน้า “ค่ะ”
จางเย่สั่งสอนเธอ “ไปแล้วอย่าก่อเรื่องวุ่นวายล่ะ”
หยางซู “ค่ะ”
จางเย่ “อย่าไปจ้องทุบรถคนอื่นอีกด้วยล่ะ!”
หยางซู “ค่ะ”
จางเย่ฮึ่มต่อ “ถ้าไปก่อเรื่องตอนอยู่ที่นั่น พวกเราจะทิ้งเธอไว้ญี่ปุ่น อย่าหวังว่าจะได้กลับมาอีก ได้ยินไหม?”
หยางซู “ค่ะ”
ทุกคนต่างไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี!
ผู้กำกับจาง!
คุณยังมีหน้าไปว่าเขาอีก?
ทุกครั้งน่ะ มันคุณชัดๆ ที่ไปก่อเรื่อง!
ทุกคำที่พูดนั่นมันตัวคุณเอง โอเค้?
แผนการเดินทางเรียบร้อยแล้ว ผู้ติดตามก็เรียบร้อยแล้ว เหลือแค่เรื่องเอกสารเท่านั้น
พาสปอร์ต
จองตั๋วเครื่องบิน
จองโรงแรม
ทางองค์กรฯ เชิญแค่จางเย่ แต่พวกเขาก็บอกว่าจะรับผิดชอบและจัดการให้ผู้ติดตามเช่นกัน ถึงยังไงพวกเขาก็รู้ว่าดาราระดับจางเย่ไม่มีทางเดินทางในทริปแบบนี้คนเดียวแน่ แต่ว่าจางเย่เองวางแผนจะพาคนไปกับตัวเองหลายคน ไม่ต้องการรบกวนทางองค์กร จางเย่เป็นคนยุติธรรมอยู่แล้ว จึงตัดสินใจจะออกเงินเอง
ยังเหลืออีกสามวัน
ทุกคนรอคอยทริปญี่ปุ่นครั้งนี้อย่างใจจดใจจ่อ
แต่ก่อนที่จะเดินทาง ก็มีเหตุให้เกิดกระแสถกเถียงกันทั่วเอเชีย!
……
เช้าวันนั้น
จู่ๆ ก็เกิดเรื่องขึ้นอย่างกะทันหัน!
นักข่าวเกาหลีคนหนึ่งเปิดโปงวารสารของโรงแรมในโตเกียวที่แจกให้แขกอ่าน หัวข้อนั้นรุนแรงอย่างยิ่ง ซักฟอกประวัติศาสตร์ บิดเบือน ปฏิเสธการกระทำทางทหารที่เกินเลย ถึงกับใช้ภาษาที่โจมตีทางจีนและเกาหลีอย่างเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าย่ำแย่เหลือจะกล่าว! ยิ่งไปกว่านั้นทางโรงแรมยังเป็นโรงแรมชื่อดัง โรงแรมอาซาคุสะ การรับรองผู้เข้าร่วมประชุมและนักกีฬาต่างชาติในการแข่งสำคัญล้วนเกิดขึ้นที่นี่ ทั้งยังเป็นคู่ค้ากับเอเจนซีทัวร์จำนวนมาก กรุ๊ปทัวร์จีนหลายเจ้าก็มักจัดให้แขกพักที่นี่ แต่เพราะวารสารเหล่านี้เป็นภาษาญี่ปุ่น เรื่องจึงได้เก็บเงียบมาถึงตอนนี้!
ประวัติศาสตร์ในโลกนี้คล้ายกับโลกใบเดิมของจางเย่อย่างยิ่ง แม้มีความแตกต่างกันบ้าง แต่ทิศทางการดำเนินไปของทั้งสองโลกนั้นไม่ได้ต่างกันมากนัก!
ดังนั้นในตอนนี้ หลายประเทศในเอเชียก็ไม่ทนแล้ว!
จีน
เกาหลี
สื่อ
ประชาชน
ขณะนั้นต่างพร้อมใจกันออกมาประณาม!