ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I'm really a superstar - ตอนที่ 1425 : ข่าวใหญ่!
วันต่อมา
เช้าวันออกเดินทาง
อู๋เจ๋อชิงทำอาหารเช้า ส่วนแม่ช่วยแพ็กกระเป๋า
“เอาแปรงสีฟันไปรึยัง?”
“ที่โน่นมีน่า ไม่ต้องเอาไปหรอก”
“เอาผ้าเช็ดตัวไปด้วยนะ ของโรงแรมไม่สะอาด”
“ไอ้หยา ไม่ต้องหรอก”
“ทำไมต้องไปหลายวันขนาดนั้น?”
“เฮ้อ แค่อยากไปเที่ยวเอง”
“ไปที่โน่นระวังๆ ด้วยล่ะ”
“รู้แล้วครับแม่ ไม่รู้เหรอว่าผมน่ะเป็นมวยนะ?”
“ใครพูดถึงแกกัน ฉันหมายถึงว่าให้แกคอยระวังให้คนอื่นด้วย อย่าก่อเรื่องอีกเลยนะ ไม่งั้นโดนตำรวจจับแล้วจะกลับมายังไง?”
“ไม่หรอกครับ วางใจเถอะแม่”
“ยังกับว่านิสัยแกมันน่าไว้ใจนักน่ะ!”
“ช่วยดูแลคุณอู๋แทนผมก็พอ”
“ต้องให้แกถามเรอะ? ไปทำเรื่องของแกเถอะ”
กระเป๋าเก็บแล้ว
อาหารเช้าก็ทานแล้ว
จากนั้นจางเย่ลากกระเป๋าออกจากบ้านไป
ตรงทางเข้าบ้าน หยางซูขับรถพาฮาฉีฉี เสี่ยวหวังและคนอื่นๆ มารอข้างนอกแล้ว เสี่ยวซุนกุลีกุจอลงจากรถมาช่วยเขายกกระเป๋า ก่อนจางเย่จะเปิดประตูขึ้นรถ
รถขยับ
ฮาฉีฉียิ้มเจื่อน “คุณไม่ได้บอกที่บ้านใช่ไหมคะว่าพักที่ไหน?”
จางเย่ยักไหล่ “ไม่บอกหรอก”
เสี่ยวหวัง “ทำไมคุณถึงยืนยันจะพักที่อาซาคุสะกันละคะ?”
เสี่ยวโจว “นั่นสิคะ ทุกคนกำลังรุมด่าที่นั่นอยู่ มีแต่คนหลบเลี่ยง”
จางเย่หัวเราะ “โรงแรมนั่นฉันว่าก็ดีอยู่นะ”
เสี่ยวหวัง “พรืด “ดีตรงไหนกันคะเนี่ย?”
ทว่าจางเย่กลับไม่อธิบายสักคำ
พวกเขาขับมาถึงสนามบิน ลงจากรถ เช็กอิน ผ่านระบบตรวจรักษาความปลอดภัย และขึ้นเครื่องบินไป
……
บนเครื่องบิน
ทุกคนคุยกันเรื่องมังงะ
จะส่งต้นฉบับอย่างไร
จะทำงานอย่างไร
จะปกปิดตัวตนอย่างไร
เพราะนี่คือจุดประสงค์ที่แท้จริงของทริปนี้
……
เครื่องบินลงจดแล้ว
ที่สนามบินโตเกียว
เสี่ยวหวังกับเสี่ยวโจวเพิ่งเคยมาประเทศนี้ครั้งแรก พวกเธอมองสนามบินด้วยความประหลาดใจ
ทันใดเสี่ยวหวังก็ชี้ “เขามารับพวกเราใช่ไหม?”
ทุกคนมองไป ใช่แล้ว เป็นป้ายต้อนรับที่มีชื่อพวกเขาอยู่บนนั้น
คนจากกาชาดเอเชียที่มารับจางเย่และทีมงานที่สนามบิน นกลับเป็นฉีหัวหัวที่จางเย่เคยได้พบแล้วครั้งหนึ่ง ฉีหัวหัวเป็นสตรีวัยเลขสาม รูปร่างท้วมเล็กน้อย หน้าตาดูเป็นมิตรอย่างยิ่ง ถ้าบอกว่าเธอไม่ได้ทำงานการกุศล ต้องไม่มีใครอยากเชื่อแน่นอน
ฉีหัวหัวยื่นมือออกมา “อาจารย์จาง เป็นยังไงบ้างคะ?”
จางเย่จับมือกับเธอ “เจ๊ฉี ไม่ต้องมารับผมด้วยตนเองแบบนี้ก็ได้มั้งครับ”
ฉีหัวหัวยิ้ม “มีคนรู้กำหนดการเดินทางของคุณหลายคน ฉันมารับคุณก็เพราะเป็นห่วงเรื่องนี้แหละค่ะ”
ฮาฉีฉีชะงักไป เธอไม่เข้าใจว่ามีอะไรน่าเป็นกังวลถ้ามีคนรู้เรื่องหมายกำหนดการของจางเย่ ทว่าชั่วขณะเองทุกคนก็เข้าใจแล้ว
ไม่ห่างไปนัก
มีชาวญี่ปุ่นหลายสิบคนตะโกนขึ้นกะทันหัน
“จางเย่!”
“ตรงนั้น!”
“หมอนั่นไง!”
“ไอ้นักเลงนั่น!”
“ออกจากญี่ปุ่นไปซะ!”
“ออกจากญี่ปุ่นไปซะ!”
“ที่นี่ไม่ต้อนรับแก!”
“ถุย ใครอนุญาตให้แกมาที่นี่!”
“ไสหัวกลับประเทศจีนไปซะ!”
ทั้งกลุ่มก่อความวุ่นวาย
บางคนถึงขั้นถือป้ายคำด่าเป็นภาษาจีน
เมื่อมีความวุ่นวายเช่นนี้ คนที่ผ่านไปผ่านมาไม่น้อยต่างหยุดยืนมอง
“นั่นจางเย่จริงรึ?”
“นั่นเขา?”
“แม่ง ยังกล้ามานี่อีก?”
“ไอ้ลูกเต่านั่น!”
สุดท้าย คนญี่ปุ่นคนอื่นๆ ที่ไม่ได้มาเพราะจางเย่ ต่างก็ร่วมขบวนออกมาด่าเขาไปด้วย
แตกต่างจากประเทศอื่นๆ ในเอเชีย คนญี่ปุ่นกลับไม่สนใจเรื่องโรงแรมอาซาคุสะมากนัก หลายคนไม่รู้เรื่องนี้ด้วยซ้ำเพราะทางนี้ไม่ได้มีกระแสอะไร ยังคงเล่นเรื่องบอยคอตจางเย่ ไม่ว่าจะเป็นการด่าของจางเย่ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง เหตุการณ์ ‘แดงทั่วธาร’ หรือเรื่องของคิมูระ คาสึยะถูกส่งกลับญี่ปุ่นทำให้ทุกคนเก็บความโกรธไว้เต็มอก เดือนนี้ทั้งเดือน มีวันไหนบ้างที่พวกเขาไม่ได้ด่าจางเย่? แต่ไอ้หมอนี่กลับมีชื่อเสียงในระดับทวีปเอเชียเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนยิ่งโมโหแทบตาย มาบัดนี้จางเย่มาญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นทั้งหลายจึงตรงเข้ามาด่าเขา!
ฮาฉีฉีกันคนอื่นๆ ระมัดระวังตัว
เสี่ยวหวังเสี่ยวโจวเข้าไปยืนใกล้หยางซู รู้สึกว่าปลอดภัยขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย
ฉีหัวหัวจนปัญญา “ดูเหมือนว่า ‘ชื่อเสียง’ ของคุณจะดังไม่น้อยนะคะ”
จางเย่หัวเราะ พูดอย่างเยือกเย็น “ตอนอยู่ที่จีนก็ไม่เคยมีคนมาต้อนรับขนาดนี้ ผมไม่คิดเลยว่ามาญี่ปุ่นจะมีคนมาคอยรอรับผมด้วย”
ทีมงานขององค์กรฯ ได้ยินดังนั้น ก็เหลือบมองจางเย่อีกแวบหนึ่ง นี่คือทูตสันถวไมตรีคนใหม่ของพวกเขา? หลายคนเพิ่งเคยพบหน้าจางเย่เป็นครั้งแรก
สมเป็นชื่อในตำนาน!
อาจารย์จางเย่คนนี้ใจกว้างจริงๆ!
โดนคนด่าขนาดนี้ยังมีอารมณ์ขันได้อีก?
ฉีหัวหัว “งั้นไปกันเลยไหมคะ”
จางเย่ “ได้ครับ”
ทางสนามบินเองก็จัดตำรวจมาคุ้มกันพวกเขา
ไม่ใช่เพราะทางตำรวจญี่ปุ่นยินดีกระทำ เพียงแต่นี่เป็นหน้าที่ของพวกเขาเท่านั้น
บนรถ
ฉีหัวหัวกล่าว “เปลี่ยนโรงแรมตอนนี้ยังไม่สายนะคะ”
จางเย่หัวเราะ “ไม่ต้องหรอกครับ”
ฉีหัวหัวผายมือ “เอาเถอะค่ะ แต่ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าคุณคิดอะไร”
ระหว่างทาง ทุกคนต่างได้ชมภาพวิวทิวทัศน์ที่เรียบง่ายของญี่ปุ่น
รถมาถึงโรงแรมก็บ่ายแล้ว หลังรถจอด ฉีหัวหัวก็ว่า “ฉันจะจอดให้พวกคุณลงที่นี่นะคะ ที่เหลือเสี่ยวเหยียนจะช่วยคุณจัดการเช็กอิน”
แต่จางเย่ว่า “ไม่ต้องครับ ผมจัดการเองได้”
ฉีหัวหัวครุ่นคิดครู่หนึ่ง “ได้ค่ะ แต่มีนักข่าวเยอะหน่อยนะคะ ความขัดแย้งก็ไม่น้อย ระวังเรื่องนี้ด้วยนะคะ ถ้ามีอะไรก็โทรหาฉันได้เลยค่ะ”
จางเย่ยิ้ม “ลำบากเจ๊ฉีหน่อยนะครับ”
ฉีหัวหัว “ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ”
จางเย่และพวกลงจากรถ มองพวกเขาขับจากไป
ฮาฉีฉีมองโรงแรมอาซาคุสะฝั่งตรงข้าม “ที่นี่เองเหรอ?”
เสี่ยวหวังแค่นเสียง “ดูใหญ่โตไม่น้อยนะ”
เสี่ยวซุน “ผู้กำกับจาง งั้นพวกเราล่ะครับ?”
จางเย่ยิ้ม “พวกนายเข้าไปเช็กอินก่อนได้เลย”
เสี่ยวโจว “อย่าสิคะ พวกเราจะไปกับคุณก่อน”
จางเย่ “ไม่ต้องหรอก ฉันจะพักที่นี่หลายวัน อยากไปทำอะไรก็ไปเถอะ ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องคอยมาดูแลฉันด้วย เราจะติดต่อกันทางมือถือเท่านั้น”
ฮาฉีฉี “หา?”
จางเย่ “เอาตามนี้ล่ะ”
เสี่ยวหวัง “แต่ว่า…”
จางเย่ “เสี่ยวหยาง ดูแลทุกคนด้วยนะ”
หยางซูพยักหน้า “วางใจเถอะค่ะศิษย์พี่!”
พูดจบ จางเย่ก็ลากกระเป๋าตนเองข้ามทางม้าลายไปคนเดียว
เสี่ยวโจวยังคงตะลึงไม่หาย “ผู้กำกับจางคนเดียวจะจัดการไหวเหรอคะ?”
ฮาฉีฉียิ้มขื่น “ยังไงก็เถอะ ไม่ต้องห่วงเขาหรอก ฉันแน่ใจว่าเขามีแผนอยู่แล้วล่ะ”
พวกเธอไม่ได้จองโรงแรมอาซาคุสะ แต่พักที่โรงแรมฝั่งตรงข้าม พอหมุนตัวก็เจอกับโรงแรมให้เข้าไปเช็กอินแล้ว ส่วนจางเย่วางแผนจะทำอะไร พวกเธอไม่ทราบ ทั้งยังเดาอะไรไม่ออกด้วย
……
ที่ล็อบบี้หลัก โรงแรมอาซาคุสะ
จางเย่เดินเข้ามาช้าๆ ก่อนจะพบว่าหน้าเคาน์เตอร์คิวยาวไม่น้อย ดูเหมือนการค้าของที่นี่จะคึกคัก ไม่ได้รับผลกระทบจากการก่นด่าของชาวจีนเลยสักนิด เขาเข้าไปต่อแถว สองสามนาทีให้หลังก็ถึงคิวตนเอง เขาวางเอกสารและพาสปอร์ตที่เคาน์เตอร์
รีเซปชันหญิงต้อนรับเขาด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดีค่ะ”
“ครับ”
“เช็กอินเข้าพักนะคะ?”
“ครับ”
“รอสักครู่นะคะ”
เมื่อรีเซปชันหญิงพูดจบ เธอก็มองเขาอีกหลายแวบ ก่อนพบว่าดูคุ้นตาไม่น้อย ทว่าเธอก็ไม่ได้คิดอะไร กระทั่งเปิดพาสปอร์ตของจางเย่ เธอก็ต้องตะลึง!
อะไรนะ?
จางเย่?
สตาร์คิงของจีนคนนั้น?
รีเซปชันหญิงคนนั้นเงยหน้าถึง ถามเป็นภาษาอังกฤษ “คุณจะเช็กอินจริงๆ เหรอคะ?”
จางเย่ยิ้มตอบ “เยส”
พนักงานหญิงตาค้าง “แน่ใจนะคะว่าไม่ได้มาผิดโรงแรม? ที่นี่คือโรงแรมอาซาคุสะนะคะ”
จางเย่ “ผมทราบครับ พักที่นี่นี่แหละ”
พนักงานคนนั้นเช็กรายชื่อที่จองไว้ ก่อนจะตะลึงยิ่งขึ้นกว่าเดิม ชื่อที่น่าสะพรึงของจางเย่จองไว้ที่นี่จริงๆ นี่หมายความว่าอย่างไร? ทำไมมาพักกับเราล่ะ? ไม่เห็นข่าวเหรอ? ทว่าเธอก็ไม่ได้หยุดมือ รีบดำเนินการเช็กอินให้จางเย่ ทั้งยังแจ้งประธานบริษัทในเวลาเดียวกัน
……
ชั้นบน
ในห้องทำงาน
เจ้าของโรงแรมได้รับข่าวแล้ว
“จางเย่เช็กอินที่โรงแรมเราเหรอ?”
“ครับท่านประธาน”
“เขามาที่นี่ทำไมกัน?”
“ทางองค์กรกาชาดแห่งเอเชียจองมาครับ”
“ยกเลิกไปแล้วไม่ใช่เหรอ?”
“ยกเลิกแล้วครับ แต่ยกเว้นจางเย่คนเดียว”
“มีแต่เขาที่เข้าพัก?”
“ครับ”
“กี่วัน?”
“จองไว้สิบวันครับ”
“หมอนั่นบ้ารึเปล่า?”
“ท่านประธาน ชื่อเสียงเขาในญี่ปุ่นเราย่ำแย่มาก ทุกคนกำลังก่นด่าเขา เราควรปฏิเสธการจองของเขารึเปล่าครับ?”
“ฮ่าๆ งั้นก็ปล่อยเขาพักไปเถอะ ฉันกังวลอยู่เลยว่าจะโฆษณาต่อไปได้ยังไง มีเรื่องนี้แล้วเขายังจะพักที่อาซาคุสะเราอีก? นั่นหมายความว่าเขามีความเชื่อมั่นต่อเราอย่างยิ่ง! เรื่องนี้ยิ่งแสดงให้คนจีนกับเกาหลีได้เห็น! จะบอยคอตไม่ใช่เหรอ? จะยกเลิกการเข้าพักงั้นรึ? ดูสิ! ขนาดตอนนี้ก็ยังมีคนมา! แถมยังเป็นคนใหญ่คนโตในทวีปเอเชียด้วย! นี่เป็นโฆษณาฟรีๆ เห็นๆ!”
“จริงด้วยครับ!”
……
การเข้าพักของจางเย่ถูกจัดการอย่างรวดเร็ว
แต่ความจริงแล้วตั้งแต่เขาเดินเข้ามาก็มีชาวต่างชาติไม่น้อยที่จำเขาได้
“หือ!”
“นั่น นั่นจางเย่นี่?”
“เขามาทำไมน่ะ?”
“งานประกาศรางวัลสื่อเพื่อสังคมรึเปล่า?”
“แต่ทำไมเขาเข้าพักที่นี่ล่ะ?”
“เร็ว รีบเขียนข่าวเถอะ!”
“ข่าวใหญ่แล้ว!”