ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I'm really a superstar - ตอนที่ 1431 : โรงแรมถูกทุบ!
เสียงก่นด่าดังลั่น
เสียงตะโกนดังจนโรงแรมฝั่งตรงข้ามยังได้ยิน
พอเสี่ยวหวังยื่นหน้าออกไปดู เธอก็หน้าซีด “แย่แล้ว! พวกนั้นมาอีกแล้ว! สวรรค์! ทำไมวันนี้มีคนมากมายขนาดนี้กัน!”
“อะไรนะ?”
“ไม่ดีแล้ว!”
“แบบนี้จะทำยังไงดี?”
“ผู้กำกับจางจะทำอะไรอีกน่ะ?”
“เอ๊ะ พวกเธอดูในเน็ตเร็ว! ผู้กำกับจางด่าดาราไปร้อยกว่าคนแล้ว!”
“ว่าไงนะ?”
“ร้อยกว่าเลยเหรอ?”
“เชี่ย!”
“ผู้กำกับจางจะทำอะไรน่ะ!”
ฮาฉีฉีหน้าเครียด แม้ผู้กำกับจางจะสั่งให้พวกเธอไม่ต้องกังวล แล้วตั้งใจทำงานไปโดยไม่ต้องไปหาเขาก็ตามที แต่ในฐานะผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของสตูดิโอ เธอยังจะนั่งเฉยๆ ไม่ทำอะไรได้ยังไง? ในเวลาแบบนี้อะไรอย่างอื่นๆ ล้วนเป็นเรื่องรองทั้งนั้น ที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของผู้กำกับจาง ใครจะรับรองได้ว่าเขาจะปลอดภัยดี?
ดังนั้นฮาฉีฉีรีบบอกกับหยางซูทันที “เสี่ยวหยาง รีบๆ ไปหาผู้กำกับจางเร็ว!”
แต่หยางซูว่า “ศิษย์พี่บอกให้ฉันดูแลพวกคุณทุกคน ไม่ให้ผละไปไหน”
เสี่ยวหวังร้อง “ไอ้หยา ดูสถานการณ์ตอนนี้ก่อนสิ ยังจะมาดูแลพวกเราอะไรกัน!”
เสี่ยวซุนเสริมอย่างเป็นกังวล “นั่นสิ ความปลอดภัยของผู้กำกับจางเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าพวกนั้นเข้าไปข้างในได้แล้ว ใครจะรับรองความปลอดภัยของผู้กำกับจางได้? พี่หยางรีบไปเถอะ!”
ความปลอดภัยของศิษย์พี่รึ?
หยางซูมองไปนอกหน้าต่าง เผยอยิ้มก่อนปฏิเสธ “คนพวกนี้น่ะ ไม่มีทางเข้าใกล้ศิษย์พี่ฉันได้หรอก”
ทุกคนกลอกตา ยังจะโม้แทนผู้กำกับจางอีก? มีคนอยู่หลายพันเชียวนะ พวกนั้นจะไม่มีทางเข้าใกล้ผู้กำกับจางได้ยังไง? คิดว่าเขาเป็นจอมเวทมีสกิลหมู่เรอะ?
ทว่ามีแต่หยางซูที่รู้ระดับฝีมือของจางเย่กับเหราอ้ายหมิ่น นี่ไม่ใช่เรื่องของคนมากกว่าแล้ว เพราะไม่ว่าจะมีคนแค่ไหน ศิษย์พี่ของเธอนั้นฟาดแค่ฝ่ามือเดียวก็จัดการคนธรรมได้สองสามคนแล้ว พอจัดการได้สักยี่สิบสามสิบคนก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปลุยกับเขาอีก ใช้จำนวนเข้ามาถมศิษย์พี่ของเธอนั้นเป็นแค่ทฤษฎี แต่ในความเป็นจริงแล้วเป็นแค่การโม้เหม็นเท่านั้น
……
ที่โรงแรมอาซาคุสะ
ชั้นบน
จางเย่เปิดหน้าต่าง นั่งลงริมหน้าต่างด้วยความสงบผ่อนคลาย
เขาเอามือถือออกมา
เริ่มอ่านการ์ตูนต่อ
พลางจิบชาไปด้วย
ขณะเดียวกัน ชั้นล่างยิ่งเดือดดาลขึ้นเรื่อยๆ!
“จางเย่!”
“ข้างบนนั่น!”
“หมอนั่นเอง!”
“เชี่ย ในที่สุดก็เจอมันแล้ว!”
“หมอนั่นยังไม่ออกไป!”
“ไอ้ลูกเต่านั่น!”
“ลงมาเลยนะ แกว่าใครบ้ากัน?”
“แกนั่นแหละบ้า! แกนั่นแหละงี่เง่า!”
“น่าโมโหจริงๆ! โมโหแทบตายแล้ว!”
“แกไสหัวออกจากญี่ปุ่นไปเลยนะ!”
ประสบการณ์ถูกคนนับพันด่าว่านี้ มีคนเคยได้รับแค่ไม่กี่คน ภาพนี้ยากจะอธิบายออกมาจริงๆ ทั้งหน้าทั้งหลังโรงแรม รวมถึงสามช่วงถนนที่ห่างไป ต่างก็มีผู้คนอยู่แน่นขนัด ตำรวจมาอย่างรวดเร็ว รถตำรวจห้าคันเข้ามาติดๆ แต่ว่านายตำรวจไม่กี่สิบคนนั่นพอเดินลงจากรถก็ต้องตะลึงกับสิ่งที่เห็น ทุกคนต่างสูดลมหายใจลึกเมื่อยืนท่ามกลางฝูงชนที่ก่อเหตุ ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงตะโกนของตนเองขณะที่ฝูงชนผู้เกรี้ยวกราดตะโกนกลบเสียงไปหมด อีกฝ่ายมีคนมากเกินไปแล้ว!
พวกเขาเรียกกำลังเสริมทันที!
แม้แต่ตำรวจยังตื่นตระหนก!
อย่าว่าแต่ในโรงแรม!
นักท่องเที่ยวทั้งสองกลุ่มที่เพิ่งมาถึงก็ต้องชะงักไปกับภาพที่เห็น รถทัวร์ของพวกเขาติดห่างออกไปสามช่วงถนน ไปยังปากทางเข้าโรงแรมยังไม่ได้ด้วยซ้ำ
ไกด์ทัวร์ฉี่แทบราดแล้ว
คนขับก็กลัวจนจะเป็นลม
“นี่มัน…”
“เกิดอะไรขึ้น?”
“มีการชุมนุมอะไรกัน?”
“จะให้เราพักที่นี่ได้ยังไง!”
“ยกเลิกการจอง!”
“ใช่ๆๆ พวกเราพักที่นี่ไม่ได้หรอกนะ!”
“พวกเรามาเที่ยวนะ ไม่ได้มาล้อเล่นกับชีวิต!”
รถบัสทั้งหลายเลี้ยวหัวกลับทันที!
ในโรงแรม
สายโทรศัพท์แทบแตกแล้ว!
“ท่านประธาน กรุ๊ปทัวร์ยกเลิกห้องพักเราครับ!”
“ท่านประธาน กรุ๊ปจากอังกฤษก็ยกเลิกมาครับ!”
“ท่านประธาน มีสายโทรเข้ามาร้องเรียนเราเยอะมากครับ!”
“ทำยังไงดีครับ? ทำยังไงดี?”
ประธานโรงแรมร้องตะโกนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “สงบลง ทุกคนสงบลงก่อน! ไม่ต้องกังวล ตำรวจมาแล้ว สถานการณ์ควบคุมได้แล้ว รีบๆ ไปปิดประตู พนักงานหนุ่มๆ แข็งแรงๆ ลงมากั้นประตูไว้ เราจะให้ใครเข้ามาไม่ได้ คนพวกนี้แค่มาโวยวายระบายความโกรธเท่านั้น ไม่กล้าทำอะไรวุ่นวายนักหรอก!”
สถานการณ์ชะงักไป
หนึ่งนาที
ห้านาที
แต่ฝูงชนยังคงมากันอย่างคับคั่ง!
บ้างมาด้วยตนเอง บ้างพาคนออกมาด่าจางเย่ทั้งบ้าน!
มีทั้งรถของสื่อและรถของสถานีโทรทัศน์จอดอยู่ทั่วไปทั้งหมด พอนักข่าวลงมาจากรถก็ต้องตะลึงไปเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ทำงานเป็นนักข่าวมาก็นาน มีชีวิตอยู่มายิ่งนาน นี่ยังเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เจอภาพแบบนี้ นักข่าวบางส่วนหันมองไปยังจางเย่แล้วก็ต้องเริ่มด่าออกมาเช่นกัน!
ในญี่ปุ่น จางเย่กลายเป็นเป้าการวิจารณ์ของทุกคน!
สื่อญี่ปุ่น
ดาราญี่ปุ่น
ประชาชนญี่ปุ่น
ทุกคนต่างกัดฟันอย่างขุ่นเคือง!
มาอยู่ประเทศเรายังกล้าด่าดาราของเราอีก? ไล่ด่าไปทุกคน? ด่าทั้งวันแล้วยังไม่ยอมจบ? ยังจะต่อวันที่สองอีก? ถึงขั้นด่าเมื่อวานแล้ววันนี้ยังกลับไปด่าซ้ำ?
รับไม่ได้!
ไม่มีใครรับได้!
แต่ว่าคนภายนอกเข้าโรงแรมไม่ได้ ตำรวจขวางอยู่ตรงประตูทางเข้า พนักงานโรงแรมเองก็ขวางเอาไว้ แม้จะมีคนมากทำให้ทุกอย่างวุ่นวาย แต่เรื่องก็ดูเหมือนว่าจะจบลงอย่างเมื่อวาน ทว่าในขณะนั้นเอง จางเย่ซึ่งนั่งที่ริมหน้าต่างก็วางมือถือลง แล้วหันมองพวกเขาเป็นครั้งแรก
จากนั้นก็พูดออกมาประโยคหนึ่ง
พูดด้วยภาษาญี่ปุ่น
“มีปัญหาก็มาลงที่ผม อย่าไปลงกับโรงแรมเขา!”
พอพูดจบ ประธานโรงแรมก็แทบหัวทิ่ม!
จางเย่!
ถล่มบรรพบุรุษเอ็งสิวะ!
คำพูดนี้ไม่มีที่ติ ทุกคนมาที่นี่ก็เพราะจางเย่ ไม่มีความต้องการจะทำลายโรงแรม แต่พอความตั้งใจดีนี้ออกมาจากปากจางเย่ ก็คล้ายจุดประกายให้กับฝูงชนที่อยู่หน้าโรงแรม ทุกคนร่ำร้องด้วยความขุ่นเคือง!
ปัง!
เสียงดังลั่น!
หินก้อนหนึ่งปาทะลุหน้าต่างโรงแรม เล็งไปที่หน้าต่างที่จางเย่อยู่ แต่เพราะหน้าต่างนั้นสูงเกินไปจนปาไม่ถึง สุดท้ายกลายเป็นหน้าต่างที่ชั้นสามที่แตกลงแทน ห้องนั้นมีคนอยู่ เกิดเสียงกรีดร้องของแขกที่ตกใจดังขึ้นทันที!
ตำรวจยืนงง “หยุด! หยุดนะ!”
เมื่อมีคนนำ คนที่สองที่สามก็ตามมา!
“ปามัน!”
“ปา!”
“ทุกคนจัดการมัน!”
ปัง!
เสียงแตกเป็นครั้งที่สอง!
ครั้งที่สาม!
ครั้งที่สี่!
ทุกคนต่างหยิบของรอบๆ ตัวปาขึ้นไป!
มีคนปาไข่!
มีคนปาอิฐ!
มีคนปาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป!
คำพูดของจางเย่ชั่วร้ายมาก เรียกได้ว่าชั่วร้ายเกินไป ทำให้หลายคนที่ไม่คิดจะทำอะไรโรงแรม พอได้ยินเข้าก็ต้องลงมือทันที!
ตูม!
ปัง!
เพล้ง!
โรงแรมกลายเป็นสมรภูมิ
คนนอกต่างร่ำร้องจะกรูกันเข้ามา
แขกในโรงแรมก็ยิ่งแตกตื่นเข้าไปอีก!
“เชี่ย!”
“ใครปารองเท้าเข้ามา!”
“ผายลม! ใครปาผ้าอนามัยมาที่นี่!”
“บัดซบ โยนมาใส่พวกเราทำอะไรน่ะ!”
วุ่นวายใหญ่แล้ว!
วุ่นวายกันไปหมดแล้ว!
พนักงานโรงแรมมีสีหน้าหมดเรี่ยวแรง!
ประธานโรงแรมส่งเสียงร้องก่อนร่วงทรุดลงกับพื้น สีหน้าพรั่นพรึง!
จบแล้ว!
จบเห่แล้ว!