ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I'm really a superstar - ตอนที่ 1448 : ไม่มีตัวประหลาดคนที่สี่อีกแล้ว!
- Home
- ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I'm really a superstar
- ตอนที่ 1448 : ไม่มีตัวประหลาดคนที่สี่อีกแล้ว!
โลกการ์ตูนตกอยู่ในความโกลาหล
ความปั่นป่วนลุกลามไปทั่วทั้งวงการ
บริษัทนิตยสารการ์ตูนขนาดเล็กแห่งหนึ่ง มีการสัมภาษณ์นักเขียนน้องใหม่
“บก.ครับ คุณลองดู”
“โอเค ไหนดูสิ”
“อ่า เป็นยังไงบ้างครับ?”
“ไม่เลวเลย”
“งั้น งั้นผมลงต่อเนื่องเลยได้ไหมครับ?”
“คุณเขียนสัปดาห์นึงได้กี่ตอน?”
“หา?”
“สามตอนต่อสัปดาห์ได้ไหม?”
“หน่านี๊!?”
“ถ้าสามตอนไม่ไหว แค่สองตอนก็ได้”
ในที่สุดน้องใหม่ก็เดินออกมาจากบริษัททั้งน้ำตาเต็มใบหน้า สามตอน? สองตอน? หนึ่งตอนต่อสัปดาห์ฉันก็แทบถวายชีวิตแล้วนะ! ใครแม่งจะไปวาดสามตอนต่อสัปดาห์ได้กันฟะ!
อ้อ ยกเว้นพวกตัวประหลาดทั้งสามคนนั้น!
นักเขียนการ์ตูนทั้งสามคนนั้นแทบจะไม่ใช่มนุษย์แล้ว!
อาโออิ
โซระ
ฮาตาโนะ
อัตราการอัปเดตรายสัปดาห์ที่โคตรน่าเหลือเชื่อของพวกเขากระตุ้นความอยากของผู้อ่าน ทั้งยังตีรวนนิตยสารการ์ตูน และทำให้ระบบของวงการการ์ตูนญี่ปุ่นปั่นป่วนไปหมด ตอนนี้บริษัทนิตยสารการ์ตูนหลายแห่งมีเงื่อนไขใหม่ในการรับต้นฉบับ วาดช้าไปก็ไม่ได้ ถ้าจะให้ดีที่สุดต้องวาดให้ได้สองตอนถึงสามตอนต่อสัปดาห์ถึงจะรับ แต่พูดน่ะมันง่าย อย่าว่าแต่สามตอนเลย แค่สองตอน ทั้งวงการการ์ตูนแม่งมีคนทำได้สักกี่คนกัน!
เหล่านักอ่านล้วนโวยวาย
“รีบออกตอนใหม่เร็วเข้าสิ!”
“ช้าเกินไปแล้ว!”
“ ‘ราชันย์เทพประยุทธ์’ นายไหวไหมเนี่ย?”
“วาดแค่สัปดาห์ละตอน นายแม่งเอาแต่นอนอู้รึไง?”
“ผู้เขียน ‘หอพักของยูกิจัง’ นายอายเขาไหม? นายจะเลิกขี้เกียจได้หรือยัง?”
แน่นอนว่ามักจะมีคนที่ไม่ยอมจำนน
ยกตัวอย่างเช่นนักเขียนรายสัปดาห์คนหนึ่งของ POO สตูดิโอ เขากัดฟันเร่งจนเขียนสองตอนต่อสัปดาห์ได้ สัปดาห์แรกสถานการณ์ยังปกติ แต่เมื่อเริ่มสัปดาห์ที่สอง นักเขียนการ์ตูนคนนั้นก็ต้องเข้าโรงพยาบาล ตอนนี้ยังไม่ได้ออกมาเลย นอกจากนี้ยังมีนักเขียนรายสัปดาห์คนหนึ่งของสำนักพิมพ์โชเน็นที่พยายามติดตามจังหวะ ‘ยุคสมัย’ เขาอิจฉาความสำเร็จของ ‘วันพีช’ ‘นารูโตะ’ และ ‘โคนัน’ จึงคิดเดินบนเส้นทางสองตอนต่อสัปดาห์เช่นกัน สุดท้ายในสัปดาห์ที่สองพล็อตการ์ตูนของเขาก็พังทลายลง น่าเวทนาจนทนดูไม่ได้ พังทลายชนิดสะท้านฟ้าสะเทือนดิน ตัวเอกแม่งถูกเขาเขียนให้ตายห่าไปเลย!
เละ!
ทั่วทั้งวงการแม่งเละเป็นโจ๊ก!
นักเขียนการ์ตูนหลายคนลุกมาประนาม
“พวกนั้นมันเริ่ม!”
“ตอนนี้นักเขียนเป็นบ้าไปแล้ว!”
“เราจะปล่อยให้พวกนั้นมาก่อกวนแบบนี้ไม่ได้!”
“ทุกคนร่วมกันต่อต้านมัน!”
“ใช่ จะวาดมังงะเร็วขนาดนั้นได้ยังไง!”
“สามคนนั้นมันเป็นกรณีพิเศษ คนอื่นๆ ไม่มีใครทำได้อีกแล้ว!”
“ถูกต้อง ไม่มีทางเกิดตัวประหลาดสัปดาห์ละสามตอนคนที่สี่ขึ้นมาแล้ว!”
“ขอให้มังงะกลับมาเป็นปกติทีเถอะ!”
นักเขียนนับไม่ถ้วนต่างเข้าร่วมการประท้วง
ทั้งยังมีนักเขียนหน้าเก่าและหน้าใหม่ยืนชูป้ายอยู่หน้าประตูบริษัทนิตยสารการ์ตูนด้วย
วันนี้ผู้อ่านและนักเขียนกำลังทำสงครามกัน
คนทั้งสองกลุ่มปะทะคารม และต่างยืนยันคำพูดของฝั่งตนเอง
การเพิ่มจำนวนตอนมังงะต่อสัปดาห์มันสมควรไหมและทำได้หรือไม่ ทุกคนต่างมาโต้เถียงกัน ตอนท้ายคนในวงการและเหล่าบรรณาธิการที่ใจเย็นลงก็ยังมาร่วมวงด้วย พวกเขาแจกแจงหลายอย่าง เช่น ขั้นตอนการผลิตมังงะเรื่องหนึ่งต้องใช้เวลาแค่ไหน ต้องใช้ผู้ช่วยเท่าไร รวมทั้งต้องใช้ความคิด แบบร่าง และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อให้เหล่าผู้อ่านเข้าใจมังงะไม่ใช่งานที่จะใช้ความเร็วได้ นี่เป็นงานที่ต้องใช้เวลา ไม่สามารถทำลวกๆ ส่วนนักเขียนการ์ตูนตัวประหลาดสามคนนั้นเป็นกรณีพิเศษ เมื่อก่อนไม่เคยมี ต่อไปก็คงไม่มีอีก เป็นแค่ความบังเอิญเท่านั้น ตอนนี้ไม่มีใครวาดได้เร็วเท่าพวกเขาแล้ว
มาตอนนี้เหล่าผู้อ่านจึงค่อยยอมรับอย่างไม่เต็มใจนัก
ในที่สุดนักเขียนการ์ตูนญี่ปุ่นก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาได้
บรรยากาศที่อึมครึมมากว่าสัปดาห์ค่อยๆ คลี่คลายลง
……
แต่ก็แค่ในช่วงเวลานี้เท่านั้น
ประเทศจีน
แถวบ้านจางเย่
จางเย่ที่กลับมาจากซื้อของได้ยินเพื่อนบ้านพูดคุยกัน
เป็นแม่บ้านสองคน
“ช่วงนี้ในบ้านไม่มีงานอะไร ฉันดูแต่การ์ตูนเลยล่ะ”
“ฉันก็เหมือนกัน ฉันดู ‘โคนัน’”
“สนุกใช้ได้เลยนะ ฉันรอลูกหลับก่อนถึงจะไปดู”
“อืม เหมือนกัน ลูกชายฉันก็เพิ่งจะหกเจ็ดขวบ ไม่กล้าให้เขาดูการ์ตูนที่มีแต่คนตาย รู้สึกว่าไม่ดีกับเด็กเท่าไร”
“เหมือนกัน”
จางเย่เลยเก็บมาคิด ใช่แล้ว เขาต้องพิจารณาเด็กเล็กด้วย ใครบอกว่าเด็กไม่สามารถเพิ่มคะแนนนิยมได้? อย่าดูถูกเด็กเล็กเชียว ในเอเชียเด็กถูกจัดอยู่ในสถานะสูงสุดของครอบครัว พ่อแม่ทุกคนต่างตามใจลูกหลานทั้งนั้น เด็กชอบดูสิ่งนั้น พ่อแม่จะไม่ดูด้วยได้เหรอ? ทั้งสามารถมัดใจเด็ก ขณะเดียวกันก็มัดใจผู้ปกครองของเด็กได้ด้วย ยิงปืนครั้งเดียวตกนกได้รอบวง!
พอกลับถึงบ้าน
ในห้องวาดภาพก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น
“ออกมาเลย!”
“โดราเอมอน!”
……
ในคืนนั้น
พ่อแม่ของคุณอู๋มาหา
ขณะกำลังพูดคุยกันอยู่ หลี่ฉินฉินก็ยิ้มออกมา “ตอนนี้การ์ตูนกำลังมาแรง ฉันเห็นคนรอบข้างดูกันหมดเลย”
อู๋เจ๋อชิงยิ้มและเหลือบมองจางเย่ จากนั้นก็พูดกับพ่อแม่ว่า “พ่อกับแม่ก็ดูด้วยเหรอคะ?”
อู๋ฉางเหอส่งเสียงเหอะคำหนึ่ง “ของไอ้พวกญี่ปุ่นทั้งนั้น ใครจะไปดูกัน”
หลี่ฉินฉินก็พูดว่า “ใช่ ยังไงพวกเราก็ชอบอะไรที่เป็นจีนมากกว่า”
ใช่แล้ว!
ความเป็นชาติจีน!
จางเย่ลุกขึ้นและเดินออกไป
พ่อแม่คุณอู๋ต่างตกใจ
ต่อมาก็มีเสียงตะโกนของจางเย่ดังมาจากห้องวาดภาพชั้นบน!
“ออกมาเลย!”
“‘ดราก้อนบอล’!”
หลี่ฉินฉินกะพริบตา “เขาทำอะไรน่ะ?”
อู๋ฉางเหอประหลาดใจ “ไอ้หนูนั่นเป็นโรคประสาทไปแล้วเรอะ?”
อู๋เจ๋อชิงได้แต่หัวเราะ
……
วันต่อมา
ช่วงเช้า
จางเย่ถูกปลุกด้วยเสียงจากข้างนอก
“ให้ฉัน ส่งให้ฉัน!”
“รับไป!”
“ชู๊ต!”
“ฮ่าๆๆ”
เด็กหลายคนกำลังเล่นบาสเก็ตบอลกันอยู่
จางเย่หายง่วงในทันใด ดวงตาเขาเปล่งประกาย ใช่แล้ว ลืมการ์ตูนกีฬาไปได้ยังไง คิดจะสร้างคลื่นลมต้องสร้างให้รอบด้าน อะไรก็ไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้!
ในห้องวาดภาพ
เสียงตะโกนของจางเย่ดังขึ้น!
“ออกมาเลย!”
“สแลมดังก์!”
ในห้องนอน
เสียงเล่นบาสเก็ตบอลไม่ได้ปลุกอู๋เจ๋อชิง เสียงตอนจางเย่ลุกจากเตียงก็ไม่ได้ปลุกอู๋เจ๋อชิง แต่เสียงตะโกนของเขากลับทำให้อู๋เจ๋อชิงสะดุ้งตื่น!
……
ช่วงเที่ยง
ขณะกำลังกินมือกลางวันกันอยู่
จางเย่และอู๋เจ๋อชิงพูดคุยกันไปด้วยดูโทรทัศน์ไปด้วย บนจอกำลังพูดถึงอนิเมในช่วงนี้ของญี่ปุ่น
พิธีกร “อนิเมของญี่ปุ่นกำลังอยู่ในวิกฤต ในช่วงสองเดือนนี้มีผลงานที่ยอดเยี่ยมมากมายเกิดขึ้น หากนับผลงานการ์ตูนญี่ปุ่นของปีก่อนๆ นอกจากอนิเมแนววิทยาศาสตร์แล้ว อนิเมประเภทอื่นต่างก็มีเรื่องที่โดดเด่นปักธงอยู่ทั้งนั้น นี่ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางในเอเชีย และก่อให้เกิดการถกเถียงกันอย่างดุเดือด”
หืม?
จางเย่เงยหน้าขึ้นอย่างงุนงง
นอกจากอนิเมะแนววิทยาศาสตร์?
ในโลกนี้ไม่มีการ์ตูนแนววิทยาศาสตร์ที่เป็นผลงานระดับประเทศเลยเหรอ?
เฮ้อ พวกนายนี่ไม่ไหวเลย!
แต่ลูกพี่มีอยู่นะ!
อยากได้เท่าไรก็มีให้หมด!
ยังกินข้าวไม่เสร็จ จางเย่ก็วางตะเกียบลงแล้วเดินขึ้นบันไดเสียงตึงตัง ก่อนจะพุ่งเข้าไปในห้องวาดภาพ
อู๋เจ๋อชิงรู้ว่าเขามีเรื่องเร่งด่วนจึงไม่ได้รั้งไว้
หลังจากนั้นไม่นานเสียงของจางเย่ก็ดังมาจากชั้นบน!
“ออกมาเลย!”
“‘กังดั้ม’!”
“เอ้ย ‘กันดั้ม’!”
Comments for chapter "ตอนที่ 1448 : ไม่มีตัวประหลาดคนที่สี่อีกแล้ว!"
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
พิราภรณ์
ชอบมากจางเย่
นิรนาม
ขำแมร่ง 55555
มะแวว
ถูกใจเด็กยุค90อย่างมะแววยิ่งนักเจ้าค่ะ จางแหยไม่พลาดสักเรื่อง
Tawee
มึง.คุนเรียกมาเหมือฉันเลือกนานปีกาจู้
Tana
เยอะไปแล้วโว้ยยย