ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I'm really a superstar - ตอนที่ 1455 : ขันทีอันดับหนึ่งในประวัติศาสตร์ถูกเปิดเผย!
- Home
- ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I'm really a superstar
- ตอนที่ 1455 : ขันทีอันดับหนึ่งในประวัติศาสตร์ถูกเปิดเผย!
‘ประชาชนคับข้องใจ!’
‘วงการอนิเมเกิดเรื่องใหญ่แล้ว!’
‘การ์ตูนแห่งชาติทั้งเจ็ดเรื่องวาดด้วยคนคนเดียว?’
‘ใครคือผู้อยู่เบื้องหลัง?’
‘ประชาชนตะโกน : หวังว่าจะยอมมอบตัวแต่โดยดี!’
‘การคาดเดาของวงการการ์ตูน : เป็นเทพเจ้ามาจากไหนกันแน่?’
ภาพยนตร์ออกใหม่ก็ดี ศิลปินออกเพลงใหม่ก็ดี หรือแม้แต่เรื่องอื้อฉาวซุบซิบนินทา หลังจาก ‘เรื่องไอ้ขันที’ ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการการ์ตูนถูกเปิดโปงออกมา ข่าวอื่นๆ ก็หมดความน่าสนใจทันที แม้แต่ข่าวเรื่องการกลับมาของจางเย่ในตอนเช้าก็ถูกปัดทิ้ง
หนังใหม่?
ช่างแม่งหนังใหม่สิ!
ข่าวซุบซิบ?
ซุบซิบเตี่ยเอ็งสิ!
เมื่อเทียบกับ ‘ขันทีผู้ยิ่งใหญ่’ ที่ร้ายกาจที่สุดในประวัติศาสตร์แล้วก็เป็นแค่การผายลมเท่านั้น!
ขณะนี้สายตาของทั้งเอเชียต่างจับจ้องไปที่วงการการ์ตูน พวกเขาจดจ่อไปที่บุคคลที่อยู่เบื้องหลังการ์ตูนแห่งชาติทั้งเจ็ดเรื่องคนนั้น!
ชื่อของคนในวงการถูกยกออกมาทีละคน!
……
“หรือจะเป็นยามาโมโตะ ทาเคจิ?”
“อา เป็นไปได้!”
“ใช่ ยามาโมโตะวาดเร็วมาก!”
“ใช่แล้ว!”
หลังจากนั้นโซเชียลมีเดียของยามาโมโตะ ทาเคจิผู้วางมือมาหลายปีก็ถูกฟลัดข้อความ!
หนึ่งหน้า!
สิบหน้า!
หนึ่งร้อยหน้า!
ตั้งแต่ความคิดเห็นแรกจนถึงความคิดเห็นที่หนึ่งหมื่นล้วนเป็นการด่าทอของประชาชนทั้งสิ้น!
ยามาโมโตะ ทาเคจิตะลึง และรีบโพสต์อธิบาย
แต่ประชาชนกลับไม่เชื่อ ยังคงจิกกัดเขาต่อ
สุดท้ายยามาโมโตะ ทาเคจิต้องสาบานออกมา ประชาชนถึงได้ยอมปล่อยเขาไป
……
“หรือจะเป็นคาสึกะ นิชิ?”
“จริงด้วย คาสึกะ!”
“อาจารย์คาสึกะมีหลายสไตล์ ขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลาย!”
“ใช่แล้ว เธอสามารถวาดผลงานทั้งเจ็ดเรื่องให้ออกมาไม่เหมือนกันได้!”
“เชี่ย คาสึกะ เธอออกมาเดี๋ยวนี้!”
“บอกมา คุณใช่ไหม?”
คาสึกะ นิชิถูกเสียงด่าทอของผู้คนกลบจนมิด!
คาสึกะ นิชิแทบจะเป็นลม วัดจากอะไร ทำไมถึงเป็นฉันล่ะ! เกี่ยวกับฉันตรงไหนกัน ถ้าฉันสามารถวาดได้ยี่สิบตอนต่อสัปดาห์ ฉันแม่งจะโดนบรรณาธิการถือมีดทำครัวมาทวงต้นฉบับหน้าประตูบ้านเป็นเจ้ากรรมนายเวรหได้ยังไง?
หม้อดำนี้ ฉันไม่แบกไว้หรอก!
เธอปฏิเสธอย่างรวดเร็ว!
……
“ฉันรู้แล้ว!”
“ใคร?”
“มุโตะ อิคาวะ!”
“เพราะอะไร?”
“เพราะภรรยาของเขาเคยชื่ออาโออิ แม่ของเขาก็ชื่อฮาตาโนะ!”
“เชี่ย บังเอิญไปป่าว?”
“เขานั่นแหละ! ไม่ผิดแน่!”
“มุโตะ อิคาวะ! นายออกมาเลย!”
และแล้วมุโตะ อิคาวะก็ถูกฝูงชนห้อมล้อมอีกครั้ง!
……
ประชาชนที่บ้าคลั่งไม่สนว่าจะด่าใครกัดใคร!
นักเขียนการ์ตูนถูกดึงเข้ามาทีละคน!
เหล่านักเขียนการ์ตูนทุกคนล้วนเจอกับ ‘มือมืดสุดอำมหิต’!
ใครที่สาบานก็สาบานไป ที่ปฏิเสธได้ก็ปฏิเสธไป บางคนถึงกับเอาเอกสารการผ่าตัดออกมาแสดงเป็นหลักฐานวันเวลาที่เขาเข้ารับการผ่าตัด และนอนโรงพยาบาลสิบกว่าวัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะอัปเดตการ์ตูนตอนใหม่ได้ มีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องนับไม่ถ้วน หม้อนี้ใหญ่เกินไป ไม่มีนักเขียนการ์ตูนคนไหนในวงการที่กล้าแบกไว้ และแม่งแบกไม่ได้ด้วย พวกเขาต้องหลีกหนีให้ไกลที่สุดเท่าที่จะไกลได้!
แต่ประชาชนกลับยังไม่พอใจ!
คนทั่วเอเชียร่วมมือกัน และสาบานว่าจะตามหามือมืดที่อยู่เบื้องหลังให้ได้!
วิเคราะห์
คาดเดา
ค้นคว้า
หาหลักฐาน
สุดท้ายนักเขียนการ์ตูนชาวญี่ปุ่นเกือบทั้งหมด ทั้งที่กำลังมีผลงานและที่วางมือไปแล้วต่างถูกสายตาสงสัยของประชาชนสอดส่องโดยไม่มีข้อยกเว้น แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีใครที่ตรงตามเงื่อนไข!
ประชาชนกรีดร้องอย่างโกรธแค้น!
“ใครเนี่ย!”
“เป็นใครกันแน่!”
“ทำไมถึงหาไม่เจอ!”
“ไม่รู้เหมือนกัน ทำไมถึงไม่มีคนน่าสงสัยที่สุดเลยสักคน?”
“สวรรค์ เขาคนนั้นโผล่ออกมาจากซอกหินหรือไง?”
“ต้องมีเบาะแสบ้างสิ ต้องมีแน่นอน!”
“หากันอีกรอบ!”
“แม่งเอ้ย ต่อให้ขุดดินลึกสามฟุตก็ต้องลากเขาออกมาให้ได้!”
“ไอ้ขันทีสมควรตาย!”
……
โลกภายนอกสับสนวุ่นวาย
ทั่วทั้งเอเชียล้วนได้รับผลกระทบ!
ตอนนี้ทุกคนในสตูดิโอของจางเย่กำลังอกสั่นขวัญแขวน!
เสี่ยวซุนส่งเสียงดัง “พวกคุณดูในเน็ตสิ!”
เสี่ยวหวังทำอะไรไม่ถูก “จบแล้ว!”
เสี่ยวโจวน้ำตาไหล “จบกัน! ครั้งนี้เล่นใหญ่เกินไปแล้ว!”
ฮาฉีฉีมองไปทางจางเย่ “ผู้กำกับจาง”
จางจั่วเหงื่อแตก “ครั้งนี้คุณแหย่รังแตนเข้าให้แล้ว!”
จางเย่เองก็กำลังดูข่าวและความคิดเห็นออนไลน์อยู่เช่นกัน พอเห็นความกระตือรือร้นและอารมณ์โมโหจนกระทืบเท้าของชาวเอเชีย เขาก็ตกใจเล็กน้อย จางเย่กระแอมก่อนพูดว่า “ไม่ขนาดนั้นสิ? มือมืดเบื่องหลัง? พูดถึงใครกัน? แล้วอะไรคือให้ยอมมอบตัวแต่โดยดี? พูดยังกับฉันเป็นอาชญากรอย่างนั้นแหละ ใช้คำอะไรกันเนี่ย”
อาชญากร?
ตอนนี้คนเกลียดคุณยิ่งกว่าอาชญากรเสียอีก!
ทุกคนต่างกลอกตามองบน
จากนั้นก็ได้ยินคำพูดน่าเชื่อถือของจางเย่ว่า “พวกคุณจะรู้อะไร การสร้างผลงานเป็นกระบวนการที่ยุ่งยากและซับซ้อนมาก ทำไมทุกคนถึงไม่เข้าใจกันเลยนะ? เฮ้อ ใครจะรับประกันได้ว่างานจะราบรื่น มีกำไร และสมบูรณ์แบบไปตลอด? ใครก็ทำไม่ได้ นักเขียนก็เป็นมนุษย์นะ ก็ต้องมีบางเวลาที่ติดขัด บางครั้งก็ป่วย หรือแม้แต่ช่วงที่เขียนไม่ออก ขันทีเนี่ยก็เป็นเรื่องปกติที่เกิดบ่อยๆ อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ จะมาด่ากันแบบนี้ก็ไม่ได้ ทุกคนต้องเข้าใจกันถึงจะถูก การสร้างสรรค์ผลงานไม่ง่ายหรอกนะ”
ทุกคนกลอกตาขาวอีกรอบ
คนอื่นลงการ์ตูนต่อเนื่องหนึ่งเรื่อง คุณลงเจ็ดเรื่อง!
คนอื่นอัปเดตตอนใหม่สัปดาห์ละตอน คุณอัปเดตยี่สิบกว่าตอน!
การสร้างสรรค์ไม่ง่าย?
ทำไมพวกเราถึงดูไม่ออกเลยว่าคุณลำบาก!
คุณจงใจชัดๆ!
ฮาฉีฉีถาม “งั้น งั้นตอนนี้จะทำยังไงดีคะ?”
“ต้องบอกคนอื่นเขาว่ายังไงครับ?” จางจั่วก็ถามเช่นกัน
จางเย่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดอย่างเด็ดเดี่ยวและองอาจ “ช่างเถอะ เฮ้อ ฉันจะอธิบายให้ทุกคนฟังเอง ทุกคนต่างเป็นคนมีเหตุมีผล จะต้องเข้าใจแน่นอน”
ฮาฉีฉี “…”
จางจั่ว “…”
ดังนั้นในช่วงเวลาสำคัญที่โลกภายนอกกำลังวุ่นวาย ขณะที่ทุกคนกำลังขุดดินลึกสามฟุตเพื่อความหามือมืดที่อยู่เบื้องหลัง จางเย่ก็โพสต์ข้อความบนเวยป๋อ
จางเย่ “พักผ่อนไปหลายเดือน ในที่สุดภรรยาก็แข็งแรงดีแล้ว ขอบคุณทุกความห่วงใยจากทุกคน วันนี้ผมจะกลับมาทำงานอย่างเป็นทางการเพื่อรับใช้ประชาชนต่อไป ขอให้ทุกคนสนับสนุนผมด้วยนะครับ”
มีการตอบกลับน้อยมาก และผู้คนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจเลย
มีบางคนยังคอมเมนต์บอก
“รู้ตั้งนานแล้ว!”
“เห็นข่าวตั้งแต่เช้าแล้วน่า”
“เฮ้อ ที่สนใจที่สุดตอนนี้ก็คือขันทีสมควรตายคนนั้นเป็นใคร!”
“ใช่ น่าโมโหมาก!”
“ไอ้ญี่ปุ่นตัวน้อยพวกนี้จะชั่วเกินไปแล้ว”
“ถูกต้อง ฉันเคยคิดว่าจางเย่เป็นผู้ชายที่ชั่วร้ายที่สุดในโลก ไม่คาดคิดว่าตอนนี้จะมีคนที่ทำลายล้างได้มากกว่าออกมา ไอ้ขันทีคนนี้! เป็นขันทีที่ร้ายกาจที่สุดในประวัติศาสตร์เลย!”
“อย่าให้ฉันรู้นะว่าเป็นใคร!”
“ต้องลากคอหมอนั่นออกมาให้ได้!”
ครู่ต่อมา
จางเย่โพสต์ข้อความในเวยป๋อเพิ่มอีกหนึ่งข้อความ
จางเย่ “อ้อ ใช่แล้ว พักผ่อนไปหลายเดือนผมอยู่ว่างมากๆ ก็เลยไปวาดการ์ตูน คิดไม่ถึงว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดีเกินคาด ขอบคุณทุกคนที่ให้การต้อนรับอย่างดี แต่เป็นเพราะมีข้อพิพาทกับทางญี่ปุ่นและเกาหลี และเพราะหน้าที่การงานของผม ผมจึงไม่ได้วาดตอนใหม่อีกต่อไป ขอโทษจริงๆ ผมเป็นขันทีซะแล้ว!”
ชาวเน็ตตอบกลับ
“หืม จางเย่ก็ไปวาดการ์ตูนเหรอ?”
“ฮ่าๆ นายจะเปลี่ยนอาชีพอีกแล้วเหรอ?”
“นายก็เป็นขันทีเหรอ?”
“ถึงนายจะเป็นขันที แต่นายก็เทียบกับขันทีผู้ยิ่งใหญ่คนนั้นไม่ได้หรอก คนอื่นเขาเป็นถึง…เอ๊ะ!?”
บรรยากาศเงียบกริบ!
เงียบแบบไม่มีอะไรมากั้น!
จากนั้นทุกคนต่างก็พลันเด้งตัวขึ้นมาและกรีดร้อง!