ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I'm really a superstar - ตอนที่ 1461 : เดินหน้าแผนการมุ่งสู่จุดสูงสุด!
- Home
- ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I'm really a superstar
- ตอนที่ 1461 : เดินหน้าแผนการมุ่งสู่จุดสูงสุด!
วันต่อมา
สุดสัปดาห์แล้ว
จางเย่ขับบีเอ็มของเขาไปที่ร้านล้างรถใกล้ๆ
“โอ้ อาจารย์จางมาแล้ว?”
“อื้อ”
“ล้างรถอีกแล้วเหรอ?”
“ล้างให้มากขึ้นสักสองสามรอบนะ”
“โอเค จะล้างสิ่งสกปรกออกให้หมดแน่นอน”
“ฝากด้วยนะครับ”
“คุณไม่ต้องเกรงใจ เฮ้อ เดี๋ยวนี้คนเลี้ยงสุนัขนี่ไม่ค่อยมีใจคิดถึงส่วนรวมกันเลยจริงๆ”
ทางนั้นก็ล้างไป จางเย่ก็เดินไปที่แผงขายหนังสือพิมพ์แล้วซื้อมาสองสามฉบับ เดี๋ยวนี้สื่อหนังสือพิมพ์อยู่ในสภาวะตกต่ำ แต่เขายังอ่านหนังสือพิมพ์ตามความเคยชินอยู่ หนังสือพิมพ์จะค่อนข้างเป็นทางการมากกว่า ตรงกันข้ามกับสื่ออินเทอร์เน็ต ข่าวเองก็มีมูลความจริง อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลว่ามีข่าวปลอมกับข่าวลือมากเกินไป
ฉบับของวันนี้ถูกเขายึดครองไว้หมดแล้ว
‘ความนิยมของจางเย่พุ่งระเบิด!’
‘ระเบิดความนิยมอย่างคาดไม่ถึง!’
‘เส้นทางสู่จุดสูงสุดเอเชียของจางเย่!’
‘จางเย่จะเป็นศิลปินชาวจีนที่จะได้ขึ้นสู่จุดสูงสุดของเอเชียคนต่อไปหรือไม่?’
‘จางเย่ขึ้นสู่จุดสูงสุดของระดับเอแห่งเอเชีย!’
‘ระยะห่างของสตาร์คิงแห่งเอเชีย หรือจางเย่จะอยู่ห่างแค่ก้าวเดียว!’
‘ภายในหนึ่งปี จางเย่จะสามารถขึ้นสู่จุดสูงสุดของเอเชียได้หรือไม่?’
จางเย่พลิกหน้าหนังสือพิมพ์พลางยิ้มน้อยๆ อย่างอารมณ์ดี การตบเท้าเข้าวงการการ์ตูนครั้งนี้ ประสบความสำเร็จเกินกว่าที่คาดไว้เยอะมากทีเดียว ทีแรกคิดว่าจะสามารถขึ้นสู่สิบอันดับแรกของระดับเอได้ ใครจะคิดว่าจะเปลี่ยนไปเป็นแถวหน้าสุดแทน ทั้งยังเป็นลำดับที่สี่ด้วย นี่คือผลลัพธ์ที่เหนือความคาดหมายจริงๆ สองสามเดือนนี้ที่พากเพียรแบบไม่เห็นเดือนเห็นตะวันไม่ได้สูญเปล่าเลย พอนึกถึงวันที่ต้องอยู่ถึงห้าทุ่มถึงตีหนึ่ง ไม่ก็ตีหนึ่งถึงตีสามทุกวันก็ไม่อยากจะนึกอีก โคตรเหนื่อยเกินไปแล้ว!
รถล้างเสร็จแล้ว
จางเย่ขับกลับสตูดิโอ
พอขึ้นมาบนตึกก็พบว่ามีเพื่อนมาเยี่ยมเยือนไม่น้อย
เหยาเจี้ยนไฉ
เอมี่กับหลี่เสี่ยวเสียน
ย่าจางเสียก็มา
หลี่เสี่ยวเสียนโบกมือ “อาจารย์จาง”
จางเย่ตอบยิ้มๆ “มาแล้วเหรอ? เสี่ยวตงไปไหนล่ะ?”
“พี่ตงมีนัดค่ะ พวกเราสองคนอยู่ก็ไม่มีธุระอะไรเลยมาหาคุณที่นี่” เอมี่ส่งเสียงเหอะๆ ดูเหมือนจะยังจำเรื่อง ‘สแลมดังก์ ได้
จางเสียกำลังมองไปรอบๆ “ที่นี่ดีมากเลย”
จางเย่หัวเราะ “คุณย่าจางมาครั้งแรกสินะครับ? คุณรีบมานั่งก่อนเร็ว” เขาหันไปเอ่ยว่า “เสี่ยวหวัง รีบมารินชาเถอะ”
“มาแล้วค่ะ” เสี่ยวหวังหัวเราะคิกๆ ขณะเดินมารินน้ำชา
เหยาเจี้ยนไฉยิ้ม “นายดังอีกแล้วนะ เอายังไง? ตอนเที่ยงจะเลี้ยงข้าวไหม?”
จางเย่พูด “งั้นพวกคุณทุกคนก็มาขอข้าวกินสินะ?”
เอมี่ตอบ “ใช่แล้วค่ะ มาขูดชามข้าวคุณนั่นแหละ”
จางเย่หัวเราะ “ได้ เลี้ยงๆ”
จางเสียยิ้มพลางตอบว่า “ครั้งนี้ความนิยมในเอเชียของเธอเพิ่มขึ้นเยอะมาก คนมากมายล้วนคาดไม่ถึง ต่อให้คาดไว้ว่าจะเพิ่มแต่ก็คิดไม่ถึงว่าจะเพิ่มมากขนาดนี้”
“ที่สำคัญคือดันเพิ่มเพราะโดนด่า” เอมี่เศร้าใจ “ทำเรื่องชั่วก็ยังสามารถเพิ่มความนิยมได้ ปู่จางของพวกเราเป็นดาราได้ง่ายเกินไปแล้ว”
เหยาเจี้ยนไฉหัวเราะฮ่าๆ “ใช่ ดูเหมือนฉันต้องมาเอาดีทางด้านนี้บ้างแล้ว หลังจากนี้ก็จะไม่ถ่ายละคร ไม่แสดงเซี่ยงเซิงแล้ว จะฝึกด่าคนทุกวัน ไม่หลับไม่นอนแล้ว จะด่าทุกคนสักรอบ ฉันเองก็เป็นซูเปอร์สตาร์ของเอเชียเหมือนกัน เรื่องดีๆ แบบนี้จะไปหาได้จากที่ไหน?”
ทุกคนยิ้ม
คนของสตูดิโอจางเย่เองก็หัวเราะออกมา
ความจริงทุกคนล้วนรู้ว่าประโยคนี้เป็นเรื่องตลกอย่างหนึ่ง อันที่จริงจางเย่อาศัยการด่าคนดันตัวขึ้นไป ทุกวันนี้เขาแทบจะด่าคนหนึ่งครั้งเพิ่มความนิยมหนึ่งหน ตีคนหนึ่งทีเพิ่มชื่อเสียงหนึ่งรอบ แม้พูดแล้วฟังเหมือนง่าย แต่การด่าคนแบบจางเย่ ตีคนแบบจางเย่–
มีสักกี่คนกัน?
ทั่วทั้งโลกมีเขาแค่คนเดียว!
วิธีการแบบนี้คนอื่นลอกเลียนไม่ได้ ใครก็ทำไม่ได้!
ทั่วทั้งเอเชียและอาจจะทั้งโลกก็มีจางเย่อยู่หนึ่งเดียว นี่เป็น ‘ทักษะ’ ระดับสูงของจางเย่แค่คนเดียว มีแค่เขาที่ทำได้ คนอื่นใช้คนนั้นสิ้น!
จางเย่หัวเราะเหอๆ “ครั้งนี้ผมบังเอิญน่ะ ใครจะไปคิดว่าผลกระทบของการ์ตูนจะมากขนาดนี้ การ์ตูนเจ็ดเรื่องนั้นของผมหลักๆ ก็แค่อยากให้เป็นที่รู้จักทางฝั่งญี่ปุ่นเท่านั้น เพราะผมไม่มีความนิยมที่นั่นเลย ความจริงทางเกาหลียังขาดอยู่ แม้พวกเขาจะร่วมด่าแต่ความจริงคนอ่านการ์ตูนก็ยังมีน้อย ครั้งนี้ที่ได้คะแนนนิยมมาหลักๆ ก็เมาจากฝั่งญี่ปุ่นนั่นล่ะ”
หลี่เสี่ยวเสียนเม้มปากยิ้ม “ประเทศอื่นในเอเชียก็ไม่น้อยนะคะ”
เอมี่ตอบ “ใช่ค่ะ ฉันเองก็อ่านสแลมดังก์นะ ใครจะไปคิดว่าคุณจะไม่วาดแล้ว การ์ตูนหยุดไป ตอนนี้อนิเมก็หยุดฉายด้วย อ๊าๆๆ ฉันว่าฉันต้องเศร้าตายแน่ๆ!”
จางเสียมองจางเย่ เอ่ยยิ้มๆ ว่า “เธอนี่นะ ไม่เอาใจใส่เอาเสียเลย”
จางเย่หัวเราะ “ไม่มีเวลาวาดจริงๆ ครับ”
จางเสียถาม “ดูจากพลังของเธอแล้ว เธอเตรียมจะเป็นสตาร์คิงแห่งเอเชียคนต่อไปจริงๆ ในปีนี้สินะ?”
จางเย่ยิ้ม “ถ้าหากขึ้นสู่จุดสูงสุดได้ ก็ย่อมดีที่สุด”
“ความนิยมของคุณเพิ่มขึ้นเร็วเกินไป อย่างกับนั่งจรวแน่ะ” เอมี่เอ่ย “ช้าๆ หน่อย ให้มั่นคงอีกสักนิด รีบร้อนไปทำไมกัน”
จางเย่กลับเอ่ยว่า “นั่นไม่ได้หรอก อีกไม่กี่เดือนลูกของผมก็ใกล้คลอดแล้ว ถึงตอนนั้นต้องสนใจครอบครัว จะผลักทุกอย่างไว้ที่ภรรยาไม่ได้ ผมเองก็ต้องใส่ใจ แล้วยังต้องอบรมลูกอีก ถึงตอนนั้นเวลาก็ไม่มากแล้ว ผมเตรียมพักสักสองสามปี ตั้งแต่ผมปรากฏตัวจนถึงตอนนี้ นอกจากหายไปพักผ่อนไม่กี่วันแล้วเดิมก็ไม่มีเวลาว่างเลย ควรหยุดพักได้แล้ว ดังนั้นผมจึงอยากขึ้นสู่จุดสูงสุดของเอเชียก่อนที่ลูกจะคลอด ถ้าทำได้หลังจากนี้ก็ไม่ต้องรีบร้อนแล้ว พักผ่อนสักสองสามปี จากนั้นค่อยไปท้าทายวงการบันเทิงระดับอินเตอร์!”
อินเตอร์?
ทุกคนฟังแล้วรู้สึกว่าช่างห่างไกลนัก
จางเสียสะอื้น “เวทีอินเตอร์ ชีวิตนี้พวกเราไม่มีโอกาสแล้ว”
เอมี่เองก็เอ่ยว่า “ใช่ พวกเราไม่ฝันแล้ว คุณเป็นคนที่สามารถทำให้สำเร็จได้”
“ยังเร็วไปที่จะพูดแบบนั้น ผมเองก็ยังไม่มั่นใจ” จางเย่ยิ้ม “ผมขึ้นสู่จุดสูงสุดของเอเชียได้แล้วค่อยว่ากัน เรื่องนี้ยังอีกไกล”
เหยาเจี้ยนไฉเอ่ย “ไม่ไกลหรอก”
จางเย่สั่นศีรษะ “ดูแล้วใกล้ ความจริงยากเย็นมาก”
ยังมีเวลาอีกสองสามเดือน
ยังขาดอีกสี่ตำแหน่ง
ทำเนียบระดับเอของเอเชีย ยิ่งขึ้นไปยิ่งลำบาก ยิ่งขึ้นไปการแข่งขันยิ่งสูง นึกถึงปีนั้นที่จางเย่ขึ้นจากระดับเอไประดับเอสในประเศ ดูแล้วยังขาดอีกหนึ่งตำแหน่ง แต่ความจริงจะขึ้นไปต้องใช้เวลานานเท่าไร?ใช้เวลากี่เดือน ทำทั้งวาไรตี้ทั้งกำกับรายการคืนส่งปีถึงปีนขึ้นไปได้ แต่การแข่งขันของทำเนียบเอเชียแน่นอนว่าต้องดุเดือดยิ่งกว่า ดังนั้นระยะห่างของหนึ่งก้าวนี้เป็นได้แค่ความคิดเท่านั้น เพียงหนึ่งก้าวแต่แท้จริงยังห่างอีกไกลนัก
ตอนนั้นเองเพื่อนสนิทก็โทรมาหา
เฉินกวง
จางหย่วนฉี
สวี่เหม่ยหลัน
จ้าวอู่ลิ่ว
และอีกมากมาย ทุกคนทยอยมาแสดงความยินดี
จางเย่นัดเพื่อนกลุ่มใหญ่อย่างตรงไปตรงมา ร้านอาหารก็จองไว้แล้ว เขาเป็นเจ้าภาพเชิญทุกคนมาทานข้าว เพื่อนๆ ไม่ได้รวมตัวกันนานมาแล้ว คึกคักกันเป็นอย่างมาก
บนโต๊ะอาหาร ทุกคนล้วนดื่มอวยพร
“ยินดีด้วยจางน้อย!”
“ชนแก้ว!”
“มาๆๆ วันนี้ไม่เมาไม่กลับ!”
“จางน้อย ขอให้คุณขึ้นสู่ระดับสูงสุดของเอเชียได้ในเร็ววันนะ!”