ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I'm really a superstar - บทที่ 1492 : ‘หน้าร้อนนิรันดร์กาล’ โดยจางเย่!
- Home
- ฉันนี่แหละคือซูเปอร์สตาร์ I'm really a superstar
- บทที่ 1492 : ‘หน้าร้อนนิรันดร์กาล’ โดยจางเย่!
บรรยากาศครึกครื้นอย่างยิ่ง!
เพลง ‘ปักกิ่งปักกิ่ง’ ทำให้ฝูงชนยิ่งคึกคักขึ้นมา!
นี่คือผลจากการวางแผนและเตรียมการตลอดสองเดือนของสตูดิโอจางเย่ อุปกรณ์แสงสีเสียงทุกอย่างล้วนแต่เช่ามา ยืมมา หรือซื้อมาเพื่อคอนเสิร์ตครั้งนี้ ทีมงานมืออาชีพถูกเชิญมาออกแบบจัดเวทีด้วยอุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประเทศ และอาจเป็นที่สุดของเอเชียด้วย นี่คือสิ่งเดียวที่พวกเขาทำมาตลอดสองเดือน เปลี่ยนเวทีที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียให้กลายเป็นพื้นที่จัดแสดงดนตรีที่น่าตื่นตะลึง!
แสงสี!
ดนตรี!
ดุจภาพฝันดั่งมายา!
นี่ก็คือเวทีสุดท้ายของจางเย่
เขาพึงพอใจอย่างยิ่ง
“จางเย่!”
“จางเย่!”
“จางเย่!”
“จางเย่!”
ฝูงชนเริ่มตะโกนลั่น!
จางเย่ยกไมค์ขึ้น มองไปยังพื้นที่ผู้ชม เหลียวซ้าย แลขวา มองไปด้านหน้า มองไปด้านหลัง สี่ทิศแปดทางล้วนเต็มไปด้วยฝูงชน “ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณที่มาร่วม ‘คอนเสิร์ตครั้งสุดท้าย’ ของผมในวันนี้!”
พอผู้ชมได้ยินก็หัวเราะออกมา!
“ฮ่าๆๆๆ”
“สุดท้ายอะไรกัน”
“ครั้งแรกชัดๆ”
“พูดเหมือนต่อไปจะไม่ปรากฏตัวอีกแล้วงั้นแหละ!”
“ถ้าไม่ปรากฏตัวอีกล่ะก็ วงการบันเทิงของเอเชียต้องจุดประทัดฉลองสามวันสามคืนแน่!”
“ฮ่าๆๆๆ!”
ทุกคนหัวเราะ
จางเย่เองก็หัวเราะ “ตามธรรมเนียมแล้ว ผมควรจะพูดเปิดคอนเสิร์ตครั้งนี้ก่อน ทุกคนก็รู้ว่าให้พูดน่ะผมทำได้ดี เป็นพิธีกรมาหลายรายการจนนับไม่ไหวแล้ว พูดในโอกาสสำคัญก็หลายครั้งจนลืมนับไปแล้วเหมือนกัน แต่ว่าก่อนขึ้นเวทีนี้ หัวสมองผมว่างเปล่าจริงๆ ไม่รู้จะพูดอะไร เพราะผมยิ่งรู้สึกว่าผมไม่มีคุณสมบัติมากพอขึ้นทุกที”
ผู้ชมนั่งฟังเงียบๆ
จางเย่กล่าว “ผมไม่ใช่ศิลปินที่ได้มาตรฐาน ทุกคนก็รู้ดี เรียกชื่อศิลปินคนไหนก็เก่งกว่าผมทั้งนั้น ที่ผมพูดและแสดงก็ไม่ใช่สิ่งดี ทำให้หลายคนทั้งไม่ชอบทั้งวิจารณ์การกระทำของผม ผมยอมรับทุกอย่าง เพราะผมไม่เคยทำสิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นแบบอย่างที่ดี บางครั้งคิดๆ แล้วผมก็รู้สึกผิดเหมือนกัน”
ฮาฉีฉีมองไปทางเวที
จางจั่วมองจางเย่
ทีมงานทุกคนต่างนิ่งงัน
จางเย่ “หลายปีมานี้ ผมคิดๆ ดูแล้ว ความอดทน การยอมรับ มารยาท ท่าที รวมถึงคุณธรรมสังคมที่ดีกว่านี้ คงดีถ้าผมเคยมีภาพลักษณ์แบบนี้ให้ผู้คน ไม่แน่ว่าความนิยมของผมคงดีกว่านี้ คงมีเพื่อนมากกว่านี้ คงไม่ทำให้ทางบ้านผิดหวังเช่นกัน เวลาครอบครัวเอ่ยชื่อผม คงทำได้อย่างภาคภูมิใจกว่านี้ เวลาพวกคุณเอ่ยชื่อผม คงทำได้อย่างเต็มใจมากกว่านี้ เวลาสื่อพูดถึง คงชมเชยผมได้มากกว่าที่เคย” เขายิ้มแล้วหลับตาลง คิดอยู่สามวินาทีก่อนเปิดตาอีกครั้งแล้วยิ้ม “นั่นคงเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมทีเดียว นั่นสินะ ต้องดีมากแน่ๆ”
ต่อจากนั้นจางเย่ก็อ้าปาก “แต่ว่า…”
แต่ว่า?
แต่ว่าอะไร?
แต่ว่าอะไรกันเล่า?
ทุกคนต่างจ้องมองเขา
ผู้ชมทุกคนที่กำลังชมการไลฟ์สดก็จ้องมองเขา พวกเขายังรู้สึกได้ว่าจางเย่ในวันนี้ดูไม่เหมือนเดิม!
แต่ในขณะนั้น เสียงดนตรีก็ดังขึ้นแล้ว
จางเย่ยิ้มอยู่ชั่วขณะ ชีวิตแบบนั้นต้องดีมากจริงๆ เขาจินตนาการได้ว่าตัวเองคงไม่ได้จัดคอนเสิร์ตสุดท้ายนี้ หรือคงไม่ต้องตัดสินใจละทิ้งทุกอย่าง คงมีชีวิตที่ดีร่วมกับคุณอู๋ ได้เห็นลูกของเขาเกิดมา อยู่ดูอีกฝ่ายเติบโต ฉลองวันเกิดครั้งแรก ครั้งที่สอง ครั้งที่สามด้วยกัน เมื่อครูของลูกพูดถึงจางเย่ ก็คงบอกว่าเขาเป็นศิลปินที่ยอดเยี่ยม เพื่อนๆ ก็คงอิจฉาที่มีพ่อที่ทั้งสุภาพมีมารยาทแบบนี้ ตัวลูกเองก็คงแนะนำตัวจางเย่ว่าเป็นพ่อตนเองด้วยความภาคภูมิใจในงานประชุมผู้ปกครอง ว่าเป็นพ่อที่ดีที่สุดในโลก ช่างเป็นภาพที่งดงามเหลือเกิน งดงามจนจางเย่ไม่มีทางลืมเลือนได้
แต่ว่า
แต่ว่าเขาไม่เสียใจ
เขาติดค้างครอบครัวของตน
เขาติดค้างบุตรของตน
ถ้ายังพูดคำว่าขอโทษได้ เขาก็อยากจะพูดกับคุณอู๋สักพันครั้ง อยากจะพูดกับลูกของตนอีกสักหมื่นครั้ง
แต่ว่า…เขาไม่สำนึกเสียใจจริงๆ!
กลุมแฮกเกอร์จากเกาหลี?
โรงแรมในญี่ปุ่น?
มาหนึ่งจัดการหนึ่ง!
มาสองจัดการสอง!
มาอีกสิบครั้ง เขาก็จะจัดการอีกสิบหน!
เรื่องนี้ ทั้งชาตินี้เขาไม่สำนึกเสียใจ!
เรื่องนี้ ตลอดชีวิตก็ไม่มีทางเจรจา!
จางเย่ยกไมค์ขึ้นอย่างนุ่มนวล
“ความภาคภูมิใจที่ฉันทำลาย”
“ความสามัญที่ฉันชิงชัง”
“เพิ่งคิดออก ว่าสิ่งเหล่านั้นคือสิ่งที่ฉันรักที่สุด”
“จงสนุกกับวันในฤดูร้อน”
“อนาคตนั้นยังอยู่ห่างไกลอีกปีแสง”
“แต่ตอนนี้…”
“ปล่อยวางกฏเกณฑ์ ยอมพ่ายให้ความรัก”
“ละทิ้งตัวตน ปล่อยวางอนาคต”
จางเย่มองทุกคน ไม่มีความลังเล ไม่มีความสำนึกเสียใจ
“ฉันไม่หันหลังกลับ”
“ฉันไม่หันหลังกลับ”
“ฉันไม่หันหลังกลับ”
“ฉันไม่หันหลังกลับ”
ทั่วทั้งงานตกตะลึงไป
คนที่ชมการไลฟ์สดอยู่ก็ต้องอึ้งงัน!
แค่พริบตา ทุกคนก็ต้องเลือดลมสูบฉีดจนร้อนผ่าว!
……
บ้านพ่อกับแม่
แม่ “เย่น้อยเขา…”
พ่อ “เกิดอะไรขึ้นกัน?”
……
บ้านคุณอู๋
อู๋ฉางเหอ “เย่น้อยเป็นอะไรไปแล้ว?”
หลี่ฉินฉิน “พูดแบบนี้ เขาหมายความว่ายังไงกัน?”
อู๋ฉางเหอ “มีเรื่องอะไรรึเปล่า? ไอ้เด็กนี้ระบายอะไรอีกแล้ว?”
อู๋เจ๋อชิงกลับยิ้ม ไม่พูดตอบคำถามของพ่อแม่ เพียงแต่พึมพำกับตัวเองว่า “นี่แหละสามีของฉัน”
……
ในคอนเสิร์ตเดือดขึ้นมาอีกครั้ง!
เสียงกรีดร้อง เสียงตะโกนต่างแทรกปะปนเข้ามาในเพลงนี้อีกครั้ง!
เสียงเพลงบนเวทีของจางเย่ยิ่งร้องยิ่งดังจนเหมือนจะพลิกพื้นที่จัดแสดงแห่งนี้ให้ตลบขึ้นมา!
“ฉันอยากจะบ้าฉันอยากจะรัก”
“แค่ฉันอยากจะบ้าฉันอยากจะรัก!”
“เอ็มพีสามหมื่นเพลง!”
“รักอย่างบ้าคลั่งหมื่นครั้ง!”
“กลับเผาความเดียวดายน้อยนิดนี้ไม่ได้!”
“ฉันอยากจะบ้าฉันอยากจะรัก”
“แค่ฉันอยากจะบ้าฉันอยากจะรัก!”
“ปาร์ตี้สุดเหวี่ยงในฤดูร้อน ละทิ้งไปชั่วปีแสง!”
“การเติบโตกลับเป็นความเสื่อมถอยที่เราต้องเผชิญ!”
“ปล่อยวางกฏเกณฑ์ ยอมพ่ายให้ความรัก”
“ละทิ้งตัวตน ปล่อยวางอนาคต”
ยืนอยู่หลางเวที
ยืนอยู่กลางสนามที่จุคนได้กว่าแสนคน!
จางเย่ยกไมค์ขึ้น มือขยุ้มเสื้อตรงอกของตนเอง เปล่งเสียงคำรามลั่น
“ฉันไม่หันหลังกลับ”
“ฉันไม่หันหลังกลับ”
“ฉันไม่หันหลังกลับ”
“ฉันไม่หันหลังกลับ”
ไม่หันหลังกลับที่ดี!
ฉันไม่หันหลังกลับที่ยอดเยี่ยม!
ชั่วขณะนั้น ผู้ชมทุกคนบ้าคลั่งไปแล้ว!
ชั่วขณะนั้น ผู้ชมทุกคนต้องลุกขึ้นมาแล้ว!
มีคนที่ร้องไห้!
มีคนที่บ้าคลั่งจนต้องลุกขึ้นชูมือเต้นตามไปด้วย!
มีคนร่วมร่ำร้องไปกับจางเย่!
คำว่า ‘แต่ว่า’ ที่จางเย่ยังพูดไม่จบนั้น ถูกกล่าวต่อแล้วในบทเพลงนี้ จางเย่ยังคงเป็นจางเย่ที่พวกเขารู้จักคนนั้น ยังคงทุ่มเททั้งชีวิตอ!
จางเย่พูดถูกต้อง เขาไม่ใช่ศิลปินที่ได้มาตรฐาน คำพูด การกระทำ ลักษณะนิสัย คุณวุฒิ ไม่ว่ามองจากด้านใดก็ไม่ใช่ศิลปินที่ดีเลย!
พวกเขารู้!
ทุกคนต่างรู้ดี!
แต่ว่า…
พวกเขาก็ยังชมชอบจางเย่!
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่ก็แค่ชอบเขาเท่านั้น!