I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 521 ยอมจำนน! (2)
“ฉันเอาชนะพวกนายได้ ก็กำจัดพวกนายได้! ความอดทนของฉันมีขีดจำกัดนะ” สายตาเย็นเยียบของหลิงหลานมองไปยังบุคลิกเย็นชาสุดขีด ปลดปล่อยไอชั่วร้ายที่เก็บงำในร่างกายมาตลอดทันที ไ ไอชั่วร้ายเข้มข้นทำให้ดวงหน้าของบุคลิกเย็นชาสุดขีดซีดขาวยิ่งขึ้น เขาถึงขนาดรู้สึกได้ว่าจิตสังหารที่เต็มไปด้วยการนองเลือดนั้นสามารถกลืนกินบุคลิกอย่างเขาไปได้โดยสิ้นเชิง นี่ มันความสามารถอะไรกันแน่ ถึงทำให้บุคลิกเย็นชาสุดขีดทั้งประหลาดใจทั้งเกรงกลัว
“เข้าใจแล้ว” บุคลิกเย็นชาสุดขีดกัดฟันตอบ
“เรียกลูกพี่!” ดวงตาทั้งสองข้างของหลิงหลานส่องแสงเย็นเยียบ ไอพลังไต่ขึ้นสูงอีกครั้ง กดดันบุคลิกเย็นชาสุดขีดจนยืนไม่อยู่อีกแล้ว ก่อนที่เขาจะคุกเข่าลงอย่างควบคุมไม่อยู่
“ครับ ลูกพี่!” บุคลิกเย็นชาสุดขีดตอบด้วยสีหน้าขาวซีด
“รู้ว่าต้องทำยังไงใช่ไหม” หลิงหลานถามต่อพลางจับจ้องไปที่อีกฝ่าย
“รู้แล้ว ฉันจะปรึกษากับบุคลิกอื่นๆ ดู”
“ปรึกษา?” ดวงตาทั้งสองข้างของหลิงหลานหรี่ขึ้นมา จิตสังหารแล่นวาบ ในใจบุคลิกเย็นชาสุดขีดพลันเย็นเยียบ เขาพบว่าลูกพี่ของบุคลิกหลักตรงหน้านี้ต้องการกำจัดบุคลิกอย่างพวกเขาจ จริงๆ ไม่ใช่แค่พูดข่มขู่เท่านั้น
“ฉันจะแจ้งพวกเขา จะทำให้ได้แน่นอน” บุคลิกเย็นชาสุดขีดไม่สมกับเป็นบุคลิกเย็นชาสุดขีดเลย พริบตาเดียวก็ทำการตัดสินใจออกมาได้ และตัดสินใจว่าจะยอมจำนนต่อหลิงหลานโดยสิ้นเชิงแล้ว
แววตาของหลิงหลานไหววูบ จิตสังหารกับความลังเลใจปรากฏขึ้นสลับกัน พรสวรรค์ของลั่วล่างเป็นดาบสองคม ถึงแม้สามารถเพิ่มความสามารถของลั่วล่าง แต่บุคลิกหลักจะโดนบุคลิกเหล่านั้นคว วบคุมได้ง่ายมาก...บางทีสำหรับลั่วล่างแล้ว การกำจัดพรสวรรค์ของลั่วล่างอาจจะปลอดภัยมากกว่า
บุคลิกเย็นชาสุดขีดจะไม่รู้ความลังเลและจิตสังหารของหลิงหลานได้อย่างไร เขารีบเอ่ยว่า “ให้โอกาสพวกเราอีกสักครั้ง พวกเราจะยกบุคลิกหลักเป็นราชา”
หลิงหลานสยบบุคลิกต่างๆ ของลั่วล่างอย่างกะทันหันทำให้คนอื่นๆ ในที่แห่งนี้ตึงเครียดขึ้นมาทันที พวกเขารู้ว่าหลิงหลานทำแบบนี้จะต้องมีเจตนาแน่นอน ดังนั้นเลยเฝ้าดูอย่างใจเย็ น ไม่กล้าส่งเสียงสักแอะรบกวนหลิงหลานกับลั่วล่างสองคน
หลิงหลานจ้องมองบุคลิกเย็นชาสุดขีดอยู่หลายวินาที ในตอนที่บุคลิกเย็นชาสุดขีดใกล้ทนรับไม่ไหวแล้ว ในที่สุดหลิงหลานก็เอ่ยปากว่า “หวังว่าพวกนายพูดได้ก็ทำได้ นายกลับไปได้แ แล้ว”
เสียงนี้ของหลิงหลานก็เหมือนกับให้บุคลิกเย็นชาสุดขีดได้เกิดใหม่ เขาหายตัวไปในพริบตา ลั่วล่างเห็นตัวเองคุกเข่าอยู่ก็เกาหัว ทันใดนั้นเขาก็จดจำอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ สีหน้ าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“นายรู้แล้วสินะว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น?” หลิงหลานถามอย่างเรียบนิ่ง
สีหน้าขาวซีดของลั่วล่างเปลี่ยนไป ผ่านไปเนิ่นนานถึงค่อยเอ่ยว่า “ขอบคุณลูกพี่ ฉันเข้าใจแล้ว” เขามองอุปกรณ์ส่งสัญญาณในมือแล้วก็หัวเราะหยัน “ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะลูกพี่สังเกตเห็น ฉั นก็คงกลายเป็นไอ้โง่แล้วจริงๆ ไอ้พวกนั้น ไม่นึกเลยว่า….” ความโกรธเกรี้ยวฉายขึ้นมาบนดวงหน้าของลั่วล่างแวบหนึ่ง พวกเขาบุกรุกช่วงชิงสติปัญญาของเขาอย่างเงียบเชียบ และเขาด ดันไม่รู้เลยสักนิดเดียว
“เพราะว่านายยังแข็งแกร่งไม่พอ ขอเพียงนายแข็งแกร่งมากพอ นายก็จะเป็นราชา” หลิงหลานเอ่ยอย่างเย็นชา
ลั่วล่างพยักหน้าหนักๆ แล้วกล่าวว่า “ฉันจะแข็งแกร่งขึ้นให้ได้ ลูกพี่ ฉันจะทำให้ได้” เขากำมือขวาฉับพลัน อุปกรณ์ส่งสัญญาณในมือถูกบีบจนแหลกทันที ดวงหน้าสวยงดงามเผยรอยยิ้มโกรธ ธเกรี้ยวออกมา ดูชั่วร้ายจนทำให้คนไม่อาจมองตรงๆ ทำให้หลายคนที่ชมดูอยู่ด้านข้างอดเบนสายตาออกไปทางด้านข้างไม่ได้…
ถ้าเกิดเขาติดตั้งเครื่องส่งสัญญาณบนเครื่องรับสัญญาณจริงๆ ละก็ โรงเรียนทหารทั้งหมดของเขต Q กับเขต M จะต้องรู้ว่าฐานที่มั่นของโรงเรียนทหารเจี้ยนเฉียวถูกบุกยึด เมื่อสักครู่น นี้เขาเกือบจะทำเรื่องปัญญาอ่อนที่เปิดเผยตัวเองเช่นนี้แล้ว…ดวงตาทั้งสองข้างของลั่วล่างเย็นเยียบ บุคลิกพวกนี้ต้องโดนเอาคืนจริงๆ
……
ทางฝั่งโรงเรียนทหารชายที่สอง เจี่ยงเส่าอวี่รับรายงานล่าสุด หลังจากที่เขาอ่านแล้วก็อดขมวดคิ้วมุ่นขึ้นมาไม่ได้ “ไม่นึกเลยว่าโรงเรียนทหารชายที่หนึ่ง โรงเรียนทหารสหศึกษาที่หนึ่ง กับโรงเรียนทหารชายที่สามจะจับมือกัน ตอนนี้กำลังกวาดล้างฐานที่มั่นของโรงเรียนอื่นๆ ในเขต S กับเขต P”
หัวหน้าทีมที่อยู่ข้างๆ ได้ยินคำกล่าวของเจี่ยงเส่าอวี่ก็อดเอ่ยด้วยความกังวลใจไม่ได้ “ผู้บัญชาการ งั้นจะทำยังไงดี? หรือว่าเราจะทิ้งเขต P?”
“ทิ้ง? ไว้พวกเขาโจมตีเขต P ทั้งหมดแล้ว ต่อให้พวกเรากินรวบเขต M กับเขต Q ทั้งหมด คะแนนก็ยังเทียบพวกเขาสามโรงเรียนไม่ได้ โรงเรียนทหารชายที่สองของเราจะกลายเป็นที่สี่ได้ยังไง” ” เจี่ยงเส่าอวี่รีบเอ่ยปฏิเสธทันที
“แต่อาศัยแค่กำลังของพวกเรา อยากต้านทานการร่วมมือกันของสามโรงเรียนเกรงว่าคงยากมาก” หัวหน้าทีมอีกคนยิ้มฝืดเฝื่อน
“นอกจากนี้ฐานที่มั่นของพวกเขาอยู่ในเขต S กับเขต P ทั้งหมดเลยด้วย ต่อให้อยากลอบโจมตีก็ไม่มีโอกาสแล้ว” หัวหน้าทีมที่กำลังค้นดูรายงานเห็นข่าวนี้จากบนรายงาน ในใจก็กลัดกลุ้ มมาก ทำไมสามโรงเรียนนั้นโชคดีขนาดนี้ อยู่ในสองเขตที่เชื่อมกัน
“อยู่ในเขต S P กันหมดเลยเหรอ? ไม่ถูกสิ…” เจี่ยงเส่าอวี่คล้ายกับนึกอะไรบางอย่างได้ ก่อนจะเอ่ยถามผู้ช่วยข้างๆ ว่า “จูเก่อ แผนที่ที่พวกเราวาดตอนนั้นล่ะ”
จูเก่อยิ้มพลางกางแผนที่ตรงเบื้องหน้าทุกคน แล้วชี้ไปที่เขต G17 ซึ่งระบุไว้ว่าโรงเรียนทหารชายที่หนึ่ง
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” หัวหน้าทีมคนหนึ่งเห็นสัญลักษณ์บนแผนที่ และมองรายงานที่พวกเขาได้รับมาในมือ เขียนชัดๆ ว่าฐานที่มั่นของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งอยู่เขต S คนที่รักษากา ารณ์ก็คือเฉียวถิง
“เป็นแค่เกมเรื่องจริงเรื่องเท็จเท่านั้น โรงเรียนทหารชายที่หนึ่งทำฐานที่มั่นปลอมในเขต S มาหลอกทุกคน แต่ฐานที่มั่นจริงๆ ถูกพวกเขาปกปิดไว้ คนที่วางแผนการนี้คืออัจฉริยะจริงๆ ๆ ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะพวกเราจำตำแหน่งฐานที่มั่นที่แท้จริงของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งไว้ก่อน บางทีขนาดฉันอาจจะโดนหลอกไปด้วยก็ได้” แววตาของจูเก่อเผยความประหลาดใจ เขาอยากรู้มาก ๆ ว่าใครเป็นคนวางแผนการนี้ จะต้องเป็นอัจฉริยะแน่นอน กระทั่งเขาก็ยังนึกวิธีการนี้ไม่ถึงเลย
เจี่ยงเส่าอวี่มองเขต G17 ทันใดนั้นก็หัวเราะลั่นขึ้นมา “สวรรค์ช่วยฉันแล้ว ไม่นึกเลยว่าเฉียวถิงจะใจกล้าออกไปจากฐานที่มั่น”
จูเก่อไม่ได้แปลกใจเลยแม้แต่น้อย เขาเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มว่า “ผู้บัญชาการ เตรียมตัวบุกโจมตี G17 เหรอ?”
“คนที่รู้ใจฉันก็คือจูเก่อ ในเมื่อพวกเขาสร้างฐานที่มั่นปลอม เชื่อว่ากำลังป้องกันของฐานที่มั่นที่แท้จริงคงไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก นี่เป็นโอกาสของพวกเรา ขอเพียงล้มฐานที่ มั่นของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งได้ คะแนนทั้งหมดที่พวกเขาได้มาก็จะถูกพวกเรารับไป ฉันไม่มีทางให้ใครหน้าไหนเอาตำแหน่งอันดับหนึ่งไปแน่นอน” เจี่ยงเส่าอวี่กล่าวอย่างเย็นชา การปร ระลองก่อนหน้านี้ทำให้โรงเรียนทหารชายที่สองของพวกเขาขายหน้ามาก เขาอยากล้างความอัปยศในการต่อสู้ประจัญบานมาตั้งนานแล้ว
จูเก่อพยักหน้า และยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้เจี่ยงเส่าอวี่ เจี่ยงเส่าอวี่เปิดอ่าน แววตาก็เผยความยินดีอย่างบ้าคลั่ง “จูเก่อ ที่แท้นายก็จัดเตรียมไว้แล้ว”
“ใช่ ตอนที่ฉันรู้ว่าฐานที่มั่นของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งอยู่เขต S แถมเฉียวถิงยังนั่งรักษาการณ์ ฉันก็วางแผนนี้ไว้แล้ว หวังว่าจะมีประโยชน์กับผู้บัญชาการ”
“มีประโยชน์อยู่แล้ว น่าทึ่งมากจริงๆ กลยุทธ์ของนายคือให้กองกำลังส่วนใหญ่ของโรงเรียนทหารสามแห่งนั้นพัวพันอยู่ในเขต P…เหอะๆ โรงเรียนทหารชายที่หนึ่ง โรงเรียนทหารชายที่สาม ฉัน นจะให้พวกเขาร่วงลงมาจากเมฆ แต่น่าเสียดายที่ปล่อยโรงเรียนทหารสหศึกษาที่หนึ่งง่ายไป” เจี่ยงเส่าอวี่เอ่ยด้วยความเสียใจ
“ช่วยไม่ได้ ฐานที่มั่นของโรงเรียนทหารสหศึกษาที่หนึ่งอยู่ใจกลางของเขต P คนของเราไม่มีทางเข้าใกล้ที่นั่นได้เลย หวังว่าหน่วยรบพันธมิตรพวกนั้นจะเก่งสักหน่อย ล้มฐานที่มั่นของ โรงเรียนทหารสหศึกษาที่หนึ่งมาได้” ไม่ใช่ว่าจูเก่อไม่อยากกินทั้งสามโรงเรียน แต่ที่ตั้งของโรงเรียนทหารสหศึกษาที่หนึ่งได้เปรียบมากเกินไป เขาคิดยังไงก็ไม่มั่นใจว่าจะทำได้สำเร็จ ถึงขนาดที่ยังส่งผลกระทบต่อแผนการอีกสองอัน สุดท้ายเลยจำเป็นต้องยอมแพ้ แต่ถึงแม้เขาพูดแบบนี้ แต่เขาไม่เห็นอนาคตในแง่ดีของหน่วยรบพันธมิตรพวกนั้นเลยจริงๆ ว่าจะทำได้สำเร็จ
“ได้แต่ทำแบบนี้แล้วล่ะ แต่มีรางวัลสงครามอย่างโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งกับโรงเรียนทหารชายที่สามก็มากพอแล้วเหมือนกัน” เจี่ยงเส่าอวี่ไม่ได้โลภมากเกินไป
ลงมือกระทำดีกว่าครุ่นคิด เจี่ยงเส่าอวี่ไม่อาจอดทนได้อีกต่อไป เขารวบรวมหน่วยรบอย่างรวดเร็วแล้วแบ่งกำลังเป็นสองทาง ทางหนึ่งคือ ในฉากหน้า ตั้งหน่วยรบสิบกว่าหน่วยอย่างยิ่งใ ใหญ่ มุ่งหน้าไปที่เขต S เป้าหมายก็คือฐานที่มั่นของโรงเรียนทหารชายที่สาม
ส่วนอีกทางด้านหนึ่งก็คือเขาเป็นคนนำทีม ลอบเข้าในเขต S อย่างเงียบเชียบ เตรียมตัวอ้อมผ่านเขต P บริเวณพื้นที่ชายแดนมุ่งหน้าไปที่เขต G
……
“เป็นกลยุทธ์ที่ดีจริงๆ ฐานที่มั่นที่แท้จริงของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งถูกเปิดเผยแล้ว ตอนนี้ดูท่าโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งกับโรงเรียนทหารชายที่สามคงจะต้องเจอช่วงเวลายากลำบาก ที่สุดของพวกเขาแล้วละ” ภายในห้องสังเกตการณ์ คนที่สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของเจี่ยงเส่าอวี่เริ่มเป็นห่วงโรงเรียนทหารสองแห่งนี้ขึ้นมา
“ผมกลับเป็นห่วงโรงเรียนทหารชายที่สองมากกว่านะครับ” ทหารนายหนึ่งชี้ไปยังฐานที่มั่นของโรงเรียนทหารเจี้ยนเฉียว ถึงแม้ในฉากหน้ายังคงเป็นฐานที่มั่นของโรงเรียนทหารเจี้ยนเฉียว แต่ทุกคนในห้องสังเกตการณ์ต่างรู้ว่า ที่นี่ถูกทีมลึกลับเจ็ดคนนั้นยึดครองเอาไว้แล้ว