I’M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 370 เหล่าลูกทีมมาแล้ว!
ว่าไปแล้ว หลังจากที่เกาจิ้นอวิ๋นรีบพาทีมไปยังตำแหน่งที่หลิงหลานบอกอย่างรวดเร็ว พวกเขาก็พบกับทีมของกลุ่มนักเรียนใหม่อีกทีมที่กำลังทำการปรับแก้ทีมครั้งสุดท้ายอยู่ตรงนั้น ทั้งสองทีมผนวกเข้าด้วยกัน เมื่อหัวหน้าของอีกทีมทราบว่าหลิงหลานให้พวกเขาออกไปจากเขตพื้นที่นี้โดยเร็วไว ก็ไม่กล้ารั้งอยู่ที่นี่อีกต่อไป ทั้งสองทีมรีบจัดเก็บของแล้วพาพวกลูกทีมมุ่งไปยังทิศทางตรงข้ามกับหลิงหลาน
หัวหน้าทีมทั้งสองคนรู้ดีแก่ใจว่า การต่อสู้ของหัวหน้ากลุ่มย่อมไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสามารถเข้าร่วมได้ พวกเขาออกห่างหน่อยจะดีกว่าเพื่อไม่ไปเพิ่มปัญหาให้กับหัวหน้ากลุ่มของตน แน่นอนว่า พวกเขาเองก็กลัวว่าหากอยู่ใกล้หัวหน้ากลุ่มของตนมากเกินไป ถ้าเกิดไม่ระวังไปพบเจอศัตรูที่แข็งแกร่งวิ่งมาผิดที่ละก็ พวกเขาก็คงน่าเวทนาโดยสิ้นเชิง
ทั้งสองทีมเร่งเดินทางอย่างรวดเร็วเช่นนี้เอง ในตอนที่เว้นระยะห่างจากหลิงหลานมากยิ่งขึ้น จนรู้สึกปลอดภัยนิดหน่อยแล้ว พวกเขาถึงค่อยหยุดฝีเท้า เตรียมตัวหยุดพักปรับปรุงกำลังเล็กน้อย เวลานี้เอง พวกเขาสังเกตเห็นว่ามีปฏิกิริยาตอบสนองของพลังงานหุ่นรบที่ไม่ทราบแน่ชัดขึ้นบนเรดาร์ ทั้งสองทีมเข้าสู่สถานะต่อสู้ทันที ขณะที่เตรียมตัวสู้ตายกับทีมหุ่นรบที่ไม่แน่ชัดนี้ กลับพบว่าพวกเขาตื่นตูมไปเอง
ที่แท้ทีมหุ่นรบที่ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหันนี้ก็คือกลุ่มของฉีหลงนี่เอง พวกเขาเพิ่งจะต่อสู้กับหุ่นรบระดับสูงที่อยู่ลำพังแค่สองตัวเสร็จ ยังไม่ได้เก็บกวาดสถานที่ก็พบว่าด้านหลังมีหุ่นรบโผล่ขึ้นมาสิบกว่าตัว พวกเขาตกใจกลัวจนหลั่งเหงื่อเย็นๆ ไปทั่วทั้งร่างเหมือนกัน นึกว่าถูกศัตรูล้อมไว้เสียอีก
เมื่อทั้งสองฝ่ายสังเกตเห็นว่าเป็นคนของตัวเองก็ค่อยโล่งอก เกาจิ้นอวิ๋นเห็นทีมของฉีหลงเป็นหุ่นรบระดับสูงทั้งหมด และเห็นว่าพวกเขาล้มหุ่นรบระดับสูงสองตัวได้อย่างรวดเร็วหมดจด หัวใจก็อดกระตุกขึ้นมาไม่ได้ เกาจิ้นอวิ๋นคิดว่า ทีมของพวกเขาระดับต่ำมากเกินไป ไม่สามารถช่วยเหลือลูกพี่หลานได้ แต่พวกฉีหลงไม่เหมือนกัน พวกเขาที่เป็นนักรบหุ่นรบชั้นสูงแล้วจะต้องช่วยเหลือลูกพี่หลานได้แน่นอน
ดังนั้นเกาจิ้นอวิ๋นเลยรีบเล่าสถานการณ์ของลูกพี่หลานให้พวกฉีหลงฟัง และชี้แจงว่าเป็นไปได้สูงที่ลูกพี่หลานจะมีอันตราย ถึงขนาดที่ตกอยู่ในวงล้อม
ข่าวนี้ทำให้พวกฉีหลงตกใจยกใหญ่ ทุกคนตัดสินใจเป็นเอกฉันท์ว่าจะรีบไปยังตำแหน่งของลูกพี่ตนเอง บรรดาลูกทีมต่างคิดว่า ในเมื่อพวกเขาเป็นสมาชิกทีมของหน่วยรบหลิงหลาน พวกเขาย่อมต้องเดินหน้าถอยหลังร่วมเป็นร่วมตายกับหัวหน้า
เช่นนี้เอง พวกฉีหลงเลยรีบบอกลาทีมของเกาจิ้นอวิ๋นทั้งสองทีม แล้วแล่นตะบึงไปยังจุดที่หลิงหลานอยู่…
…..
เวลานี้เอง กองรบหุ่นรบไพ่ราชาที่ได้รับคำสั่งให้รีบมาอย่างสุดชีวิต ในที่สุดก็มาถึงพิกัดที่ทีม M รายงานแล้ว
“น่าจะเป็นตำแหน่งนี้แหละ” หุ่นรบสามตัวลอยอยู่บนฟ้าเหนือพิกัดอย่างรวดเร็ว เมื่อเผชิญหน้ากับพื้นที่โล่งรูปทรงกลมด้านล่างที่ไม่มีการเคลื่อนไหวเลยสักนิดเดียว หุ่นรบระดับพิเศษหนึ่งในนั้นเลยเอ่ยว่า
“ดูท่าทีม M จะถูกกำจัดหมดแล้ว พวกเรามาช้าไป” หุ่นรบระดับพิเศษอีกตัวซูมภาพพื้นที่โล่งทรงกลมอย่างฉับไว สถานการณ์ด้านล่างถูกแสดงขึ้นในหน้าจอหุ่นรบอย่างชัดเจน หุ่นรบสีหม่นที่นอนอยู่บนพื้นหลายตัว รวมถึงรอยเลือดนั้นบ่งบอกว่าห้องคนขับประสบเคราะห์ร้ายแล้ว
กองรบของพวกเขาได้รับคำสั่งจากกองบัญชาการก็รีบเปลี่ยนเส้นทางทันที รีบเปลี่ยนทิศทางมาจากบนเส้นทางเขตที่พักก็ใช้เวลาแค่สองนาทีกว่าสั้นๆ เท่านั้น แต่ว่ายังคงสายไปก้าวหนึ่ง
“หรือว่าศัตรูหนีไปแล้ว?” หุ่นรบระดับพิเศษที่เอ่ยในตอนแรกเห็นว่าในเรดาร์ของตัวเองไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองของพลังงานหุ่นรบในหลายกิโลเมตร ก็เลยมีการคาดเดาเช่นนี้
“ไม่หรอก ศัตรูน่าจะอยู่ใกล้ๆ นี้” เวลานี้เองหุ่นรบไพ่ราชาด้านหน้าสุดที่เงียบมาโดยตลอดพลันเอ่ยปากขึ้นมา
“หัวหน้า คุณรู้ได้ยังไงครับ?” หุ่นรบระดับพิเศษที่คาดการณ์ว่าศัตรูหลบหนีไปแล้วได้ยินหัวหน้าตนพูดแบบนี้ก็อดเอ่ยถามด้วยความสงสัยไม่ได้
“เพราะว่าตลอดทางมานี้ ฉันเปิดเรดาร์ค้นหาของหุ่นรบไปจนถึงขอบเขตสูงสุด ในช่วงเวลานี้ไม่พบปฏิกิริยาตอบสนองว่ามีพลังงานถอนตัวออกไปเลย ความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวคือ อีกฝ่ายยังคงอยู่ที่นี่” ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาเอ่ยวิเคราะห์อย่างเยือกเย็น “การที่อีกฝ่ายกล้าอยู่ต่อแบบนี้ แสดงว่าจะต้องมีความมั่นใจอยู่บ้างแน่นอน พวกเราต้องระมัดระวังตัวไว้”
คำพูดของผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาทำให้ลูกทีมวิงแมนสองคนตื่นตกใจ รีบตอบกลับว่า “รับทราบครับ หัวหน้า!”
“สถานการณ์ตอนนี้ยืนยันได้ว่า อีกฝ่ายเชี่ยวชาญด้านการซ่อนตัวลอบโจมตี เกรงว่าเขาคิดจะแยกพวกเราแล้วสังหารทิ้งทีละคน…” ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาหยุดชะงัก ก่อนจะพูดต่อว่า “ในเมื่อเป็นแบบนี้ พวกนายอยู่บนฟ้า ทำการค้นหาตรวจตราทั่วทั้งพื้นที ฉันจะลงไปสำรวจเหตุการณ์คนเดียว”
“ครับ หัวหน้า!” ลูกทีมวิงแมนทั้งสองคนรู้ว่า พวกเขาสอดมือเข้าไปไม่ได้ในการต่อสู้ระหว่างผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาที่มีประสบการณ์โชกโชน แทนที่จะลงไปขวางมือขวางเท้า ไม่สู้อยู่บนฟ้าเฝ้าระวังด้านล่างดีกว่า หากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นยังรายงานให้หัวหน้าตนได้ทันเวลา
หลังจากที่ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาทำการวางแผนจัดการเหล่านี้แล้ว เขาก็บังคับหุ่นรบให้ร่อนลงไปบนพื้นที่โล่งทรงกลมอย่างช้าๆ เมื่อลงสู่พื้น ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมทีม M ถึงวอดวายภายในช่วงเวลาที่สั้นขนาดนั้น ภูมิประเทศนี้เหมาะแก่การซ่อนตัวซุ่มโจมตีมากเหลือเกิน รอบด้านล้อมรอบด้วยป่าไม้ที่หนาทึบสูงใหญ่ ทำให้หุ่นรบซ่อนตัวได้ง่ายมาก ขอเพียงดับเครื่องยนต์หุ่นรบ เรดาร์ของหุ่นรบก็จะไม่สามารถสแกนเจออีกฝ่ายได้เลย กอปรกับความสามารถของทีม M ด้อยกว่าศัตรูมาก ศัตรูที่คุ้นเคยกับภูมิประเทศใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้มาทำการซุ่มโจมตี การกำจัดทีม M ย่อมง่ายดายมากจริงๆ
เมื่อเห็นถึงตรงนี้ ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาก็อดถอนหายใจเสียงเบาขึ้นมาไม่ได้ ถ้าหากเขาเป็นหัวหน้าทีม M ละก็ เขาไม่มีทางร่อนลงบนพื้นที่แห่งนี้ทันทีแน่นอน หากแต่ลอยอยู่บนฟ้าก่อนแล้วยิงทำลายป่าทึบรอบด้าน ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องทำลายภูมิประเทศที่ไม่เอื้ออำนวยนี้ก่อนถึงจะถูก
ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชามองดูภูมิประเทศ เข้าใจคร่าวๆ แล้วว่าทีม M เสียชีวิตอย่างไร แต่เขายังคงไม่ได้ด่วนสรุปลงตรงนี้ หากแต่ตรวจสอบสภาพหุ่นรบทุกตัวของทีม M อย่างจริงจัง พอเห็นว่าหุ่นรบทั้งหมดได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงที่ห้องคนขับก็ลอบตื่นตกใจขึ้นมา
ดูเหมือนว่าศัตรูเป็นคนที่เยือกเย็นสุดขีด ลงมืออย่างอำมหิตเฉียบขาด หุ่นรบเกือบทุกตัวถูกฆ่าตายด้วยกระบวนท่าเดียว และอาวุธที่ใช้คืออาวุธเย็นขนาดใหญ่ อาวุธชนิดนี้ทรงพลังมาก ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาทั่วไปใช้อาวุธนี้ไม่คล่องมากนัก ทว่าคนผู้นี้กลับไม่ใช่ การโจมตีของอีกฝ่ายแม่นยำอย่างยิ่งยวด รวดเร็วหมดจด เขาย่อมเป็นคนที่เชี่ยวชาญอาวุธประเภทนี้อย่างแน่นอน...
ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาเริ่มค้นหารายชื่อผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาหัวเซี่ยที่อยู่บนดาวซินสิงทั้งหมดจากในข้อมูลที่ตัวเองได้รับในสมอง แต่เขากลับไม่พบผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาที่สอดคล้องอย่างแท้จริงเลย เมื่อคิดไปคิดมาก็มีเพียงถังอวี้ที่ถูกขนานนามว่าเป็นไพ่ราชาหัวกะทิที่เชี่ยวชาญเรื่องหุ่นรบไพ่ราชาเท่านั้นที่สามารถทำเรื่องนี้ได้ ดูท่าข้อมูลที่ทีม M ได้รับก่อนตายน่าจะถูกต้อง นอกจากถังอวี้แล้ว ที่นี่ก็ไม่มีใครสามารถใช้อาวุธเย็นประชิดตัวขนาดใหญ่ได้ดีแบบนี้แล้วจริงๆ
“หัวหน้า ห่างออกไปสิบกิโลเมตรมีปฏิกิริยาตอบสนองของพลังงานหุ่นรบ จำนวนคือ 1 2 3…7 หุ่นรบทั้งหมดเจ็ดตัวครับ” เวลานี้เองวิงแมนบนฟ้าตัวหนึ่งที่รับหน้าที่ตรวจสอบในรัศมีวงกว้างพลันรายงานเสียงดังในช่องสื่อสารทีม
“หุ่นรบศัตรู? หุ่นรบมิตร?” เวลานี้ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาย่อรัศมีเรดาร์ของหุ่นรบให้เล็กลงจนถึงรัศมีขอบเขตที่แม่นยำที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้หุ่นรบที่ซ่อนตัวอยู่ลอบโจมตี ด้วยเหตุนี้เอง เขาเลยไม่สังเกตเห็นสถานการณ์ที่ห่างสิบกิโลเมตร เมื่อเขาได้ยินคำกล่าวก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ หรือว่ากองบัญชาการจะส่งหน่วยรบมาอีก? นี่ทำให้ในใจเขาเกิดความไม่พอใจ กองบัญชาการคิดว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของถังอวี้หรือไง? ในฐานะที่เขาเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชา เขามีความหยิ่งทระนงของตน ไม่อยากให้คนอื่นสอดมือเข้ามาในการต่อสู้ของเขากับศัตรูที่สูสีกัน
“เป็นหุ่นรบศัตรูครับ มาจากภายในโรงเรียนทหาร” พอได้ยินคำถามของหัวหน้า วิงแมนก็รู้ว่าเขาไม่ได้อธิบายชัดเจน เลยรีบเอ่ยเสริมทันที พวกเขายังไม่ได้รับข่าวว่าเพื่อนร่วมรบของเขาได้เข้าลึกไปยังทิศทางนั้นแล้ว นอกจากนี้หุ่นรบปรากฏตัวขึ้นมากมายขนาดนั้นยิ่งไม่มีทางเป็นหุ่นรบพันธมิตรเด็ดขาด
“เตรียมตัวต่อสู้!” หุ่นรบไพ่ราชาได้ยินคำตอบนี้ก็อดหัวเราะหยันทีหนึ่งไม่ได้ก่อนจะสั่งการทันที
หุ่นรบเข้ามามากมายขนาดนี้แทบจะแน่ใจได้ว่า ผู้ที่มาล้วนเป็นลิ่วล้อตัวเล็กๆ ไม่ใช่กองรบของหุ่นรบไพ่ราชาเด็ดขาด เนื่องจากกองรบหุ่นรบไพ่ราชาจะจัดตั้งโดยมีหุ่นรบไพ่ราชาหนึ่งตัวเป็นหุ่นรบหลัก และหุ่นรบระดับพิเศษสองตัวเป็นวิงแมนแบบนี้ แน่นอนว่าทุกกองทัพล้วนมีไพ่ตายของตัวเอง ซึ่งเป็นหน่วยหุ่นรบไพ่ราชาที่แข็งแกร่งที่สุด หน่วยหุ่นรบแบบนี้ไม่ว่าจะเป็นหุ่นรบหลักหรือว่าวิงแมนต่างก็เป็นหุ่นรบไพ่ราชา เมื่อหน่วยรบประเภทนี้เคลื่อนไหวก็หมายความว่า สงครามมาถึงขั้นวิกฤติที่สุด เป็นช่วงเวลาที่ตัดสินแพ้ชนะแล้ว…
ยิ่งไปกว่านั้น จากในรายงานที่เขาได้รับมา บนดาวซินสิง ไม่ว่าจะเป็นกองกำลังภาคพื้นดินหรือว่าภายในโรงเรียนทหารไม่มีหน่วยรบไพ่ราชาแบบนี้เลย ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงว่าหุ่นรบที่มารวดเดียวมากมายขนาดนี้ต่างเป็นหุ่นรบระดับสูงทั้งนั้น หรือว่ามีผู้ควบคุมระดับพิเศษหลายคนปะปนอยู่ในหมู่หุ่นรบระดับสูงด้วย? เกรงว่านี่อาจจะเป็นสถานการณ์ที่ดีที่สุดแล้ว และศัตรูแบบนี้มาเยอะอีกแค่ไหน เขาก็ไม่หวาดกลัว หุ่นรบไพ่ราชาย่อมเป็นตัวตนระดับสุดยอดในสนามรบที่สามารถมองเย้ยหยันเหล่าวีรบุรุษที่เก่งกาจได้
…..
“ลูกพี่ พวกฉีหลงมาแล้ว” เสี่ยวซื่อเองก็พบเสียงของพวกฉีหลงเช่นกัน เลยอดตะโกนขึ้นมาในห้วงจิตใจอย่างตื่นเต้นไม่ได้ แต่เขาก็หน้าง้ำลงอย่างรวดเร็วอีกครั้ง ขมวดคิ้วเล็กๆ ของเขาขึ้นมา
ลูกน้องพวกนี้มาที่นี่โดยไม่เชื่อฟังคำสั่ง ไม่ใช่ว่าจะทำลายแผนการของเขากับลูกพี่เหรอ? ทำตัวโง่เง่าจริงๆ! เสี่ยวซื่อคิดพลางพองแก้มด้วยความโมโห
คำพูดของเสี่ยวซื่อทำให้หลิงหลานนวดหว่างคิ้วอย่างจนปัญญา ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรทั้งนั้น เธอก็เดาได้ว่าฉีหลงจะต้องเจอเกาจิ้นอวิ๋นแล้วแน่นอน พอรู้สถานการณ์ของเธอที่นี่ก็พาคนพุ่งเข้ามา ถึงแม้เธอคิดว่าพวกฉีหลงมาแล้ว ทำให้เธอไม่สามารถต่อสู้ได้ตามที่ต้องการ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเธอดีใจมากๆ นี่หมายความว่าพวกเพื่อนๆ ของเธอให้ความสำคัญต่อเธอมากจริงๆ ต่อให้อันตรายอีกสักแค่ไหนก็อยากต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเธอ สามารถมีเพื่อนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขร่วมเป็นร่วมตายแบบนี้ได้ เธอยังมีอะไรไม่พอใจอีกล่ะ?
“ลูกพี่ ตอนนี้จะทำยังไงดี? จะให้ฉันส่งข้อความไปหาพวกเขา บอกให้พวกเขากลับไปไหม?” ความจริงแล้วเสี่ยวซื่อเองก็ดีใจมากที่พวกฉีหลงมาเหมือนกัน แต่พอนึกถึงว่าพวกเขาทำลายแผนการของลูกพี่ตน ในใจอดกลัดกลุ้มอีกครั้งไม่ได้
“ไม่จำเป็น ให้พวกเขาเข้ามาดีแล้ว พวกเขาช่วยฉันจัดการหุ่นรบระดับพิเศษเจ้าปัญหาสองตัวบนฟ้าได้” หลิงหลานทำการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
บางทีนี่อาจจะเป็นโอกาสที่พวกฉีหลงจะได้เติบโต ควรรู้เอาไว้ว่าหลิงหลานต่อสู้กับหุ่นรบระดับพิเศษนั้นไม่ได้นำประสบการณ์มาให้เธอมากนัก แต่ว่าสำหรับพวกฉีหลงแล้ว นี่กลับเป็นประการณ์ต่อสู้จริงที่ยากจะเจอสักครั้ง ถึงแม้ว่าจะอันตรายอยู่บ้าง แต่อันตรายมักจะมาคู่กับโอกาสที่สามารถกระตุ้นศักยภาพที่ซ่อนเร้นของมนุษย์ออกมาได้ทั้งหมด และหลิงหลานมั่นใจมากว่าพวกฉีหลงสามารถคว้าโอกาสนี้ไว้ได้