I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 376 อย่าแพ้ให้กับตัวเอง!
คำพูดของเสี่ยวซื่อทำให้คิ้วของหลิงหลานขมวดเล็กน้อย จริงด้วยสินะ ตอนที่ทำภารกิจหน่วยรบในโลกเสมือนจริง เธอก็สังเกตเห็นจุดอ่อนข้อนี้ของชีตาห์เหมือนกัน ดูเหมือนว่าสุขภาพร่างกายของชีตาห์จะสู้แม้กระทั่งคนทั่วไปไม่ได้เลย นี่มันเป็นมายังไงกันแน่?
ควรรู้เอาไว้ว่า สหพันธรัฐในตอนนี้ ต่อให้เป็นคนที่มีสภาพร่างกายธรรมดาได้รับยายีนระดับ C ขึ้นไปมาขับหุ่นรบมาตรฐานธรรมดาทำการต่อสู้อย่างดุเดือด แม้จะแย่อีกสักแค่ไหนก็สามารถฝืนประคับประคองได้ประมาณครึ่งชั่วโมง ทว่าตั้งแต่เริ่มต่อสู้มาจนถึงตอนนี้ รวมระยะเวลาทั้งหมดแล้วอย่างมากสุดชีตาห์ก็ต่อสู้ไปได้สิบกว่านาทีเท่านั้น…
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ชีตาห์ขับแค่หุ่นรบระดับสูง หุ่นรบมาตรฐานที่ต่ำกว่าระดับสูงลงไป (รวมถึงหุ่นรบระดับสูง) มีแรงสะท้อนต่อร่างกายคนควบคุมน้อยมาก มันไม่เหมือนกับหุ่นรบระดับพิเศษขึ้นไป เนื่องจากมีรูปแบบการต่อสู้ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง แรงสะท้อนกลับต่อร่างกายผู้ควบคุมจะผันผวนไปตามรูปแบบการต่อสู้…นี่ก็คือสาเหตุว่าทำไมผู้ควบคุมหุ่นรบยิ่งมีระดับสูง เงื่อนไขด้านสุขภาพร่างกายก็ยิ่งสูงขึ้นด้วย
ถ้าเกิดแก้ปัญหาข้อนี้ไม่ได้ ต่อให้ชีตาห์มีความสามารถด้านการควบคุมของผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชา เขาก็ไม่สามารถขับหุ่นรบไพ่ราชาได้อยู่ดี…หลิงหลานคิดถึงความเป็นไปได้ข้อนี้ คิ้วก็ขมวดแน่นมากขึ้น
…..
เวลานี้ หลี่หลานเฟิงที่อยู่ในห้องคนขับเหงื่อไหลโซมกายแล้ว ราวกับว่าเขาเพิ่งจะคลานออกมาจากในน้ำก็ไม่ปาน ทั่วทั้งร่างเปียกชื้น เนื่องจากในห้องคนขับมีฟังก์ชั่นปรับระดับความชื้นโดยอัตโนมัติ ในขณะที่เขาหลั่งเหงื่อออกมา ส่วนที่เป็นน้ำก็ระเหยไปเช่นกัน ทั่วทั้งห้องคนขับมีหมอกตลบอบอวล เขาหอบหายใจอย่างรุนแรง จิตใจเริ่มเหนื่อยล้าขึ้นมา ไม่เพียงแค่นั้น ร่างกายของเขาก็อ่อนเปลี้ยไร้เรี่ยวแรงขึ้นมา การควบคุมและการต่อสู้อย่างดุเดือดหลายนาทีที่ผ่านมาทำให้พลังกายของเขาหมดไปอย่างรวดเร็ว ถึงขนาดที่เกินกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้ในตอนแรก
“บ้าเอ๊ย!” หลี่หลานเฟิงอดเอ่ยปากสบถไม่ได้ ต่อสู้มาจนถึงขั้นนี้แล้ว เขาไม่อยากพ่ายแพ้เพราะปัญหาเรื่องกำลังของร่างกายจริงๆ ตอนนี้เขายิ่งชิงชังร่างกายที่ทรุดโทรมของตัวเองมากกว่าเดิม ถ้าเกิดเลือกได้ เขาไม่อยากกลายเป็นผีซวีแน่นอน เขาอยากมีร่างกายที่แข็งแรงมากกว่า กลายเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบที่โดดเด่น กลายเป็นนักรบที่มีอิสระเสรี ยืนอยู่เคียงข้างกระต่ายไปตลอดกาล ติดตามเขาและปกป้องเขา…
“ไม่ได้แล้วใช่ไหม?” หลี่หลานเฟิงรู้สึกว่าสองมือของตัวเองเริ่มสูญเสียการควบคุม มีการควบคุมหลายท่าที่เขาอยากทำ แต่นิ้วมือกลับประท้วงไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขาแล้ว เขามองไปที่ด้านล่างของหน้าจอตามจิตใต้สำนึก ตอนนี้หน้าต่างในนั้น กำลังมีหุ่นรบตัวหนึ่งดูการต่อสู้ของพวกเขาอย่างเงียบเชียบ
หลี่หลานเฟิงรู้ว่านั่นเป็นหุ่นรบที่กระต่ายขับ เขารู้จักรูปลักษณ์ภายนอกของหุ่นรบเป็นอย่างดีจนถึงขั้นสามารถท่องโครงสร้างด้านในทั้งหมดรวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่สามารถติดตั้งได้ เนื่องจากหุ่นรบตัวนั้นก็คือรูปแบบหุ่นรบที่เขาปรารถนาที่จะครอบครองมากที่สุดในหมู่หุ่นรบไพ่ราชา—ราชาแห่งการเดิมพันชีวิตรบประชิดตัว! ไม่นึกเลยว่ากระต่ายของเขาไปถึงระดับนี้แล้ว…
ในใจหลี่หลานเฟิงมีร่องรอยความปวดร้าวปลิวผ่านอย่างรวดเร็ว คิดดูแล้วก็ใช่ ช่วงเวลาเจ็ดปี ดูจากพรสวรรค์ในการควบคุมหุ่นรบที่สวรรค์ประทานพรของกระต่ายแล้ว เขาจะเป็นแค่ผู้ควบคุมหุ่นรบชั้นกลางระดับต่ำเหมือนในโลกเสมือนจริงได้อย่างไรกันเล่า
“ฉันออกห่างจากกระต่ายมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว…” หลี่หลานเฟิงท้อแท้ใจขึ้นมา เขามีคุณสมบัติยืนอยู่เคียงข้างกระต่ายจริงๆ เหรอ? บางทีนี่อาจะเป็นแค่ความเพ้อฝันของเขาเท่านั้น เป็นฝันกลางวันที่แสนสวยงามของเขา แต่ความจริงแล้ว เขาไม่คู่ควรเลย…
ขณะที่หลี่หลานเฟิงท้อแท้หมดกำลังใจจนคิดจะยอมแพ้ ทันใดนั้นเองเสียงเย็นชาของกระต่ายดังขึ้นในช่องสื่อสารของหุ่นรบ “อย่าแพ้ให้กับตัวเอง”
อย่าแพ้ให้กับตัวเอง…เสียงนี้ คำพูดประโยคนี้พลันระเบิดดังขึ้นที่ข้างหูหลี่หลานเฟิงราวกับฟ้าผ่าลั่นแผ่นฟ้า เขาเหมือนกับกลับไปตอนที่พวกเขาเพิ่งรู้จักกันอีกครั้ง เวลานั้นพวกเขาฝึกฝนการควบคุมพื้นฐานที่น่าเบื่อหน่ายทุกวัน คอยวิ่ง หลบหลีก บินทะยาน...ต่อให้เป็นคนที่อุตสาหะอีกสักแค่ไหนต่างก็มีช่วงเวลาที่ฝึกฝนจนเบื่อหน่าย ต่อให้เป็นคนที่สงบนิ่งใจเย็นอย่างกระต่าย บางครั้งก็ตกอยู่ในสภาพใจร้อนเหมือนกัน เวลานั้นกระต่ายมักจะคำรามอย่างโมโหว่า ‘แม่งเอ๊ย อย่าแพ้ให้กับตัวเองสิ แกมันไก่อ่อน!’
จากนั้นกระต่ายก็จะลงมือทำปฏิบัติการควบคุมขั้นพื้นฐานพวกนั้นอย่างบ้าคลั่งมากยิ่งขึ้น ส่วนเขาก็ได้การกระทำของกระต่ายทำให้เขาฝึกฝนตามกระต่ายต่ออย่างมั่นคงแน่วแน่เช่นกัน บางทีคำพูดประโยคนั้นอาจจะเป็นคำพูดให้กำลังใจตัวเองของกระต่าย แต่สำหรับหลี่หลานเฟิงแล้ว เขาเห็นคำพูดประโยคนี้เป็นเหมือนคำพูดที่กระต่ายเตือนใจเขา หลายปีมานี้ ทุกครั้งที่เขาจิตใจเหนื่อยล้าอยากจะยอมแพ้ ส่วนลึกของจิตใจก็ผุดคำพูดประโยคนี้ขึ้นมาโดยธรรมชาติ คำพูดประโยคนี้กระตุ้นให้เขามุ่งหน้าต่อไป ต่อให้อุปสรรคที่พบเจอใหญ่อีกสักแค่ไหน เขาก็ไม่กล้ามีความคิดยอมแพ้
เจ็ดปีให้หลัง เวลานี้ได้ยินคำพูดประโยคนี้จากในปากของกระต่ายอีกครั้ง หัวใจของหลี่หลานเฟิงสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ความอบอุ่นสายหนึ่งหลั่งไหลไปทั่วทั้งร่าง เขารู้สึกว่าความเหนื่อยล้าที่ครอบงำเขาเมื่อสักครู่นี้คล้ายกับถูกกระแสความอบอุ่นสายนี้ขับไล่ไป ทั่วร่างเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังขับเคลื่อน...
“ใช่แล้ว ฉันจะแพ้ให้กับตัวเองได้ยังไง ถ้าเกิดยอมแพ้เองแล้ว ฉันจะมีคุณสมบัติอะไรมาพูดว่าจะเปลี่ยนแปลงโชคชะตา อยากยืนอยู่ข้างกายกระต่ายอย่างผ่าเผย” หลี่หลานเฟิงดูถูกความอ่อนแอของตัวเองในใจ ดวงตาที่เดิมทีสับสนของเขาเปลี่ยนเป็นมั่นคงแน่วแน่ขึ้นมาโดยพลัน ความเร็วที่อืดอาดลงถูกเร่งให้สูงขึ้นอีกครั้ง ถึงขนาดที่เร็วมากขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายแทบจะมองเห็นนิ้วมือไม่ชัด เห็นเพียงแค่เงาซ้อนกันเป็นชั้นๆ ราวกับดอกไม้แห่งเงานั้นเบ่งบานออกอย่างช้าๆ
หุ่นรบสองตัวที่เดิมทีต่อสู้อย่างเสมอกัน ทว่านับตั้งแต่ที่หลี่หลานเฟิงคิดจะยอมแพ้ หุ่นรบของหลี่หลานเฟิงเลยดูเหมือนเป็นฝ่ายรับ ไม่ได้สูสีกันเหมือนอย่างในตอนแรกอีก หากแต่ค่อยๆ ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ จนถึงขนาดที่แป๊บเดียวก็ได้แต่ป้องกันทุกส่วน ไม่มีกำลังตอบโต้กลับแล้ว
แม้ว่าหลี่ซื่ออวี๋ หานจี้จวินกับหลินจงชิงสามคนไม่รู้ว่าทำไมหลี่หลานเฟิงถึงสูญสิ้นพลังลงทันที เปลี่ยนเป็นจนตรอกขึ้นมา แต่เห็นสถานการณ์แบบนี้ก็รู้แล้วว่าสถานการณ์ของหลี่หลานเฟิงน่าจะไม่ดีนัก หัวใจของพวกเขาหนักอึ้ง การยิงโจมตีที่เดิมทีใจเย็นเป็นระเบียบ เวลานี้ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเร่งรีบขึ้นมา
หุ่นรบระดับสูงที่สู้กับหลี่หลานเฟิงเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบที่มีประสบการณ์มากคนหนึ่ง เขาเห็นคู่ต่อสู้หยุดโจมตีกะทันหัน ก็อึ้งไปและเข้าใจอย่างรวดเร็วว่า อีกฝ่ายน่าจะไม่มีกำลังแล้ว ถึงแม้สถานการณ์นี้จะมาเร็วไปหน่อย ทำให้เขาเตรียมตัวไม่ทันอยู่บ้าง แต่เขาที่เชื่อมั่นในการตัดสินใจของตัวเองไม่พลาดโอกาสนี้ไป เขาเริ่มบุกโจมตีอย่างบ้าคลั่งขึ้นมา
ถึงแม้หุ่นรบของหลี่หลานเฟิงจะป้องกันอย่างเต็มรูปแบบแล้ว แต่เผชิญหน้ากับการจู่โจมอย่างคลุ้มคลั่งโดยที่แฝงการระเบิดพลังออกมาด้วยของผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษที่สูงกว่าเขาระดับหนึ่ง หลังจากที่ฝืนรับไปได้หลายสิบวินาที ในที่สุดก็ประคับประคองต่อไปไม่ได้แล้ว ทั่วทั้งร่างของหุ่นรบถูกฝ่ายตรงข้ามโจมตีจนจะล้มมิล้มแหล่ เมื่อเห็นว่าจะโดนโจมตีจนพ่ายแพ้แล้ว พวกหลี่ซื่ออวี๋สามคนก็ร้อนใจ ทว่าพวกเขาไม่มีวิธีการใดไปช่วยเหลือหลี่หลานเฟิงคลี่คลายสภาวะอับจนนี้เลย พวกเขาทำได้เพียงยิงโจมตีอย่างสุดชีวิต พยายามกอบกู้สถานการณ์ที่กำลังจะพ่ายแพ้ของหลี่หลานเฟิง…
“จบกันแค่นี้แหละ!” ภายใต้การโจมตีอย่างดุเดือด ในที่สุดหุ่นรบของหลี่หลานเฟิงก็เผยช่องโหว่ถึงแก่ชีวิตภายใต้แรงกดดันอันหนักหน่วง ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษรอคอยเวลานี้มานานแล้ว มุมปากเผยรอยยิ้มหยันที่อำมหิตออกมา เขายกดาบแสงขึ้นมาโดยไร้ความปรานี ก่อนจะฟันไปที่หุ่นรบของหลี่หลานเฟิงอย่างโหดเหี้ยม
“ระวังนะ!” บรรดาสมาชิกทีมรอบๆ เห็นฉากนี้ก็ได้แต่ตะโกนเตือนเท่านั้น ส่วนหลี่ซื่ออวี๋ก็หวาดหวั่นจนอดหลับตาลงไม่ได้ เขาไม่กล้ามองหลี่หลานเฟิงเพื่อนร่วมทีมของตน เพื่อนของตน ถึงขนาดที่ยังเป็นลูกหลานตระกูลหลี่ของพวกเขาถูกเด็ดปีกที่นี่…
“ปัง!” ดาบแสงสองเล่มปะทะเข้าหากันอย่างรุนแรง ประกายไฟฟ้านับไม่ถ้วนสาดกระเซ็นขึ้นมา หุ่นรบระดับสูงที่ เดิมทีตอบสนองชักช้ากลับตอบโต้อย่างรวดเร็วในช่วงเวลาวิกฤติที่สุดนี้ ความเร็วนั้นมากกว่าความเร็วสูงสุดสองเท่าของเขาอย่างแน่นอน และเพราะแบบนี้เอง หลี่หลานเฟิงเลยสามารถสกัดกระบวนท่าที่อันตรายนั้น ช่วยชีวิตตัวเองไว้ได้
“สุดยอดไปเลย รุ่นพี่หลานเฟิง!” พวกฉีหลงที่ชมการต่อสู้เห็นฉากนี้เข้าก็ตะโกนเชียร์หลี่หลานเฟิงอย่างตื่นเต้นทันที
หลี่ซื่ออวี๋ได้ยินเสียงโห่ร้องของทุกคนก็รีบลืมตาขึ้นมา พอเห็นหลี่หลานเฟิงยังสบายดีก็โล่งอกโดยพลัน ชั่วพริบตาเมื่อสักครู่นี้ หลี่ซื่ออวี๋รู้สึกสิ้นหวังแล้วจริงๆ
“ต่อให้เรี่ยวแรงหมด ไม่สามารถต่อสู้ต่อไปได้ ฉันก็ต้องเอาชนะคู่ต่อสู้ ใช้ความเป็นจริงบอกกระต่ายว่า ฉัน หลี่หลานเฟิงไม่ใช่คนอ่อนแอ” ข้างในแววตาของหลี่หลานเฟิงลุกโชนไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ความท้อแท้หมดอาลัยตายอยากในตอนแรกหายไปอย่างไร้ร่องรอยนานแล้ว เขาพลันตะโกนเสียงดังลั่น ดันเครื่องยนต์ไอพ่นไปจนถึงระดับสูงสุด ชนใส่อีกฝ่ายอย่างรุนแรง…
“บัดซบ” ฝ่ายตรงข้ามเห็นหลี่หลานเฟิงโจมตีด้วยวิธีการที่ไม่เสียดายชีวิตแบบนี้ ปากก็อดสบถไม่ได้ ในเวลาเดียวกันก็บังคับหุ่นรบให้หลบออก เขาไม่อยากตายไปพร้อมกับอีกฝ่ายในสภาพได้เปรียบเช่นนี้
ถ้าหากทำได้ เขาอยากหลบหนีไปอย่างรวดเร็วหลังจากที่สังหารฝ่ายตรงข้ามสำเร็จแล้ว…เขาย่อมไม่ลืมว่าด้านล่างยังมีหุ่นรบไพ่ราชาที่กำลังจ้องมองตาเป็นมันอยู่ หัวหน้าทีมของเขาตายในมือของอีกฝ่ายแล้ว เวลานี้เขาหวังว่าหุ่นรบไพ่ราชาต่อสู้ระยะประชิดตัวนั้นไม่มีพลังงานมากพอที่จะบินขึ้นไปบนฟ้า
หุ่นรบระดับพิเศษวางแผนไว้ดีมาก คิดว่าหลบการชนอย่างป่าเถื่อนไร้เหตุผลของหลี่หลานเฟิงแล้ว ก็จะทำการตอบโต้อีกครั้ง แต่เขาไม่นึกเลยว่า หลังจากที่เขาเลือกหลบแล้ว ความได้เปรียบในการบุกที่เขามีตอนแรกจะหายวับไปในพริบตา
หลี่หลานเฟิงเห็นอีกฝ่ายหลบ แววตาฉายรัศมีเย็นเยียบขึ้นมาแวบหนึ่ง เขาบังคับเครื่องยนต์ไอพ่นให้เปลี่ยนทิศทางฉับพลัน เข้าไปประกบติดราวกับเงาตามตัว ไม่มีความรู้สึกฝืนดื้อดึงกลับตาลปัตรก่อนหน้านี้เลย ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษเห็นฉากนี้ค่อยตระหนักได้ รู้ว่าตัวเองตกหลุมพรางแล้ว อันที่จริงแล้วการชนที่ดูป่าเถื่อนของอีกฝ่ายเป็นเพียงกระบวนท่าหลอกล่อ ความจริงแล้วเป้าหมายของอีกฝ่ายก็คืออยากยึดอำนาจในการบุกนับจากนี้อีกครั้ง
หลี่หลานเฟิงประกบติดหุ่นรบระดับพิเศษได้สำเร็จเช่นนี้เอง เขายกดาบแสงขึ้นมาโดนไม่เกรงใจเลยสักนิดเดียวก่อนจะโจมตีใส่อีกฝ่ายราวกับพายุฝนโหมกระหน่ำ บางทีอาจเป็นเพราะความเร็วมือของเขาทะลวงขีดจำกัดแล้ว อัตราการโจมตีของหุ่นรบเลยเหนือกว่าความเร็วสูงสุดก่อนหน้านี้ ครู่เดียวก็ทำให้หุ่นรบระดับพิเศษตัวนั้นมือไม้ลนลานไม่รู้จะทำอย่างไรดี ตอนนี้ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษรู้สึกแค่ว่าเบื้องหน้าเป็นเพียงเงาของดาบแสง เขาได้แต่สกัดกั้น ขัดขวาง ก่อนจะสกัดอีกขัดขวางอีกอย่างสุดความสามารถ
ถึงแม้หุ่นรบระดับพิเศษจะตกอยู่ในสภาพจนตรอกไปชั่วขณะ แต่ประสบการณ์ต่อสู้ของเขาโชกโชนมากจริงๆ เมื่อรู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในภาวะอันตรายมาก ขณะที่เขารับมือก็เปิดใช้พลังงานโล่แสงของหุ่นรบไปจนถึงขีดสุด เช่นนั้น ต่อให้เขาไม่ระวังโดนอีกฝ่ายฟันไปหนึ่งที เขายังต้านทานได้อย่างสบายๆ โดยอาศัยค่าป้องกันของโล่แสง
‘ปัง’ ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษรู้สึกได้เพียงพลังงานมหาศาลอัดใส่ห้องคนขับของตน แรงกระแทกอย่างรุนแรงทำให้หน้าอกของเขาเหมือนกับโดนหินก้อนใหญ่ซัดใส่ เบื้องหน้ามืดสนิทฉับพลัน ความหวานคาวสายหนึ่งพุ่งออกมาจากลำคอ…
‘อัก’ ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษกระอักเลือดพรวดออกมาหนึ่งคำ ย้อมแผงควบคุมตรงหน้าจนเป็นสีแดง