I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 417 ผลประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก!
ไม่นานเฉียวถิงก็กลับมาถึงจุดที่ถูกพวกจ้าวจวินวางกับดักในตอนแรกอีกครั้ง เขาพบว่าหลี่หลานเฟิงเว้นระยะห่างกับลูกทีมสองคนของหลิงเทียนที่อยู่ด้านหลังแล้ว มุมปากของเขาก็อดแค่นยิ้มออกมาไม่ได้
สาเหตุที่เมื่อสักครู่เขาไม่ได้ฉวยโอกาสไล่โจมตีต่อ แต่ว่าเลือกหลบหนีอย่างรวดเร็วแทนเป็นเพราะไม่อยากตกอยู่ในวงล้อมของฝ่ายตรงข้ามอีก เขาหวังว่าจะอาศัยความเร็วของตัวเองทำลายรูปขบวนของหุ่นรบหลิงเทียนที่โอบล้อมเขาเหล่านี้ต้องพูดว่าดูจากสถานการณ์ปัจจุบัน เป้าหมายของเฉียวถิงสัมฤทธิ์ผลแล้ว
เฉียวถิงเปลี่ยนจากความลำพองใจก่อนศึกใหญ่เป็นเริ่มระมัดระวังตัวขึ้นมา กลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนยังคงมีสมาชิกทีมห้าคน ถ้าเกิดเขาถูกฝ่ายตรงข้ามวางกับดักตกอยู่ในวงล้อมระเบิดพลีชีพอีกครั้ง เขาก็ไม่อาจแน่ใจได้ว่า อาศัยหุ่นรบไพ่ราชาที่ชำรุดเสียหายของเขาตัวนี้จะสามารถต้านทานพฤติกรรมบ้าคลั่งของหุ่นรบห้าตัวไหวจริงๆ หรือเปล่า เฉียวถิงริเริ่มศึกชี้ชะตานี้ก็เพราะอยากได้รับเกียรติยศสูงส่งหาใดเทียม ไม่ได้อยากกลายเป็นหินปูทางให้กลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนสร้างชื่อในศึกเดียว เขาไม่มีทางยินยอมให้ผลลัพธ์แบบนี้เกิดขึ้นเป็นอันขาด
ความล้มเหลวก่อนหน้านี้ทำให้เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เฉียวถิงไม่มีทางให้ตัวเขาทำผิดพลาดซ้ำเดิมแน่นอน ดังนั้น เฉียวถิงถึงได้ตั้งใจทำแบบนี้ พยายามเปลี่ยนสถานการณ์การรบให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเขา
เมื่อเฉียวถิงเห็นว่าเขาทำลายรูปขบวนโอบล้อมของหลิงเทียนแล้ว เขาก็จงใจชะลอความเร็วหุ่นรบ ทำให้เหมือนพลังงานไม่เพียงพอ รอคอยหลี่หลานเฟิงเข้ามาใกล้
เมื่อเทียบหุ่นรบของหลิงเทียนสามตัวที่ตามหลังมาติดๆ การคุกคามของผู้ควบคุมระดับพิเศษหลี่หลานเฟิงย่อมมากที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย เขาจึงคิดจะกำจัดหลี่หลานเฟิงก่อน เช่นนั้นหุ่นรบระดับสูงของหลิงเทียนที่เหลือสองตัวก็ไม่มีพลังคุกคามอะไรแล้ว
เฉียวถิงรอคอยให้หลี่หลานเฟิงไล่ตามเขาทัน ทว่าความเป็นจริงกลับทำให้เขาลอบขมวดคิ้ว ที่แท้ยามที่เขาผ่อนความเร็วลง ฝ่ายตรงข้ามก็ลดความเร็วลงเช่นเดียวกัน เฉียวถิงถึงค่อยพบว่าหลี่หลานเฟิงคอยรักษาระยะห่างที่เขาสามารถโจมตีระยะไกลเอาไว้ตลอด
“เป็นคนเจ้าเล่ห์รับมือยากจริงๆ ด้วย” เฉียวถิงขัดเคืองใจมาก หลี่หลานเฟิงเผยโฉมหน้าที่มากอุบายเจ้าเล่ห์ในแวดวงหุ่นรบของพวกเขามาตลอด ทำให้คนมากมายมองข้ามการควบคุมหุ่นรบของเขาไป เฉียวถิงเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ทว่าการต่อสู้ในวันนี้ เฉียวถิงกลับสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า อีกฝ่ายยังรับมือยากกว่าจ้าวจวิ้นเสียอีก เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามรู้จักปกป้องตัวเองมาก เขาที่เชี่ยวชาญด้านการวางกลยุทธ์ก็ใช้กลอุบายหลอกล่ออีกฝ่ายให้ตกหลุมพรางได้ยากมากเช่นกัน ก็เหมือนดั่งเช่นตอนนี้ เฉียวถิงตั้งใจอยากล่ออีกฝ่ายให้บุ่มบ่ามเข้ามา แต่หลี่หลานเฟิงที่ระมัดระวังรอบคอบกลับสังเกตเห็นแผนการของเขาได้ทันที…
เมื่อรู้ว่าแผนการของตนเองล้มเหลว เฉียวถิงก็ได้แต่ทิ้งเป้าหมายเดิม เขาเทียบระยะห่างระหว่างหลี่หลานเฟิงกับคู่ต่อสู้ฝั่งตรงข้ามที่อยู่ด้านหลังสองคน หัวใจพลันกระตุก ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในสมอง
เขาแสดงทักษะระดับสุดยอดหยุดฉุกเฉินแล้วบินกลับเมื่อสักครู่นี้ออกมาอีกครั้งโดยไม่ลังเลเลยสักนิดเดียว หุ่นรบหันเหทิศทางฉับพลัน ก่อนจะพุ่งไปหาหลี่หลานเฟิงอย่างอำมหิต ดาบแสงในมือแทงตรงไปที่ห้องคนขับของฝ่ายตรงข้าม สื่อความหมายประมาณว่า ถ้านายไม่เข้ามา ฉันก็จะบุกจู่โจมเอง
ถึงแม้การกระทำของเฉียวถิงจะกะทันหันอยู่บ้าง แต่หลี่หลานเฟิงที่ระมัดระวังตัวอยู่ตลอดได้เตรียมตัวไว้นานแล้ว พอเห็นอีกฝ่ายพุ่งเข้ามาอย่างดุดัน หลี่หลานเฟิงก็เร่งเครื่องยนต์ไอพ่นหลักทั้งหมดโดยไม่ลังเล บังคับหุ่นรบตัวเองให้พุ่งขึ้นฟ้าหลายเมตร พุ่งผ่านดาบที่ฟันมาอย่างโหดเหี้ยมของเฉียวถิงพอดิบพอดี เวลาเดียวกัน ปืนลำแสงในมือเขาก็ปล่อยรัศมีแสงนับ ไม่ถ้วนออกมาอีกครั้ง ก่อนจะยิงใส่เฉียวถิงที่กำลังเฉียดผ่านด้านล่างตัวเขา
หลี่หลานเฟิงคิดว่าเฉียวถิงโจมตีพลาดเป้าแล้วจะต้องหันตัวกลับมาโจมตีต่อแน่นอน ทว่าฉากต่อมากลับทำให้หลี่หลานเฟิงตกตะลึง เห็นเพียงหุ่นรบของเฉียวถิงบิดตัวฉับพลัน ลำแสงที่เขายิงออกมาพลาดเป้าทั้งหมด วินาทีต่อมา เฉียวถิงอยู่ห่างจากด้านหลังของเขาไปหนึ่งร้อยเมตรแล้ว
“พุ่งหลบไร้หลักเกณฑ์!” หลี่หลานเฟิงที่เคยต่อสู้จริงกับกระต่ายของเขามาก่อนย่อมรู้ดีว่านี่คือทักษะหลบหลีกที่เป็นสัญลักษณ์ของผู้ควบคุมไพ่ราชา เดิมทีหลี่หลานเฟิงก็เตรียมใจเรื่องลำแสงที่ยิงพลาดเป้านี้ไว้แล้ว สิ่งที่ทำให้หลี่หลานเฟิงตกใจคือ เฉียวถิงข้ามผ่านเขาไปตรงๆ พุ่งเป้าไปหาเซี่ยอี๋กับหลินจงชิงอย่างชัดเจนสุดขีด…
“แย่ล่ะ ติดกับแล้ว!” หลี่หลานเฟิงตระหนักได้ทันทีว่า ความจริงแล้วเป้าหมายการโจมตีของเฉียวถิงในครั้งนี้ไม่ใช่เขา หากแต่เป็นพวกเซี่ยอี๋กับหลินจงชิงสองคนที่อยู่ด้านหลังเขา ถ้าเกิดพวกเซี่ยอี๋กับหลินจงชิงสองคนถูกเฉียวถิงสังหารทิ้งง่ายๆ ต่อหน้าเขา หลี่หลานเฟิงย่อมละอายใจต่อกระต่ายที่มอบความเชื่อใจอย่างยิ่งยวดให้แก่เขา
ที่แท้การจะทำให้พวกลูกทีมระเบิดตัวเองโจมตีเฉียวถิงอย่างหนักหน่วงได้หรือไม่ ส่วนใหญ่แล้วต้องดูการก่อกวนที่หลี่หลานเฟิงโจมตีระยะไกลใส่เฉียวถิงเป็นหลัก หลิงหลานที่เป็นคนวางกลยุทธ์รู้ดีว่าความสามารถของพวกสมาชิกทีมห่างชั้นกับเฉียวถิงมากเกินไป ถ้าหากไม่มียอดฝีมือที่แข็งแกร่งทำการก่อกวนควบคู่ไปด้วย อาศัยเพียงพวกสมาชิกทีมคิดจะเข้าไปใกล้เฉียวถิงแล้วระเบิดตัวเองแทบไม่มีความเป็นไปได้เลย
ดังนั้น ภารกิจก่อกวนเฉียวถิงที่สำคัญนี้จึงตกอยู่บนตัวหลี่หลานเฟิงที่ชำนาญการโจมตีระยะไกลมากที่สุด ขณะเดียวกันก็เลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษแล้ว นี่ก็คือสาเหตุที่หลี่หลานเฟิงระมัดระวังตัวมาก คอยรักษาระยะห่างกับเฉียวถิง ไม่เข้าไปใกล้อีกฝ่ายมาโดยตลอด
หลี่หลานเฟิงย่อมไม่อยากให้หลิงหลานผิดหวังที่เชื่อใจเขาอยู่แล้ว เขาตามไปทันทีโดยไม่ใคร่ครวญเลยสักนิดเดียว ปืนลำแสงในมือสาดลำแสงนับไม่ถ้วนอย่างบ้าคลั่ง อยากให้เฉียวถิงหวั่นเกรงในใจสักเล็กน้อย แล้วละทิ้งการโจมตีสกัดครั้งนี้
‘แกรกๆๆ!’ เวลานี้เอง จู่ๆ หลี่หลานเฟิงรู้สึกว่าปากกระบอกปืนไม่มีลำแสงแล้ว เขารู้ดีแก่ใจเอเนอร์จอนของปืนลำแสงจะต้องถูกใช้จนหมดเกลี้ยงแล้วแน่นอน
บ้านรั่วแล้วฝนยังตกกระหน่ำทั้งคืนอีก[footnoteRef:1] หลี่หลานเฟิงที่ขุ่นเคืองใจอย่างหาใดเปรียบรู้ว่าตอนนี้จำเป็นต้องช่วงชิงเวลาทุกวินาที เขากดปุ่มบนแผงควบคุมอย่างเฉียบขาด จากนั้นก็เห็นช่องสักอันตรงเอวของหุ่นรบหลี่หลานเฟิงพลันดีดวัตถุรูปทรงก้อนขึ้นมา ก่อนที่มันจะทะยานไปในอากาศ [1: หมายถึงสถานการณ์มันเเย่อยู่เเล้ว มันก็เเย่มากขึ้นไปอีก]
ชั่วพริบตาเดียวนั้น มือทั้งสองข้างของหุ่นรบที่เดิมทีควรจะแสดงท่าทีงุ่มง่าม ยามนี้กลับใช้แรงดึงด้ามจับด้านหลังของปืนลำแสงไว้ด้วยความปราดเปรียวสุดขีด วัตถุรูปทรงก้อนพลันร่วงลงมาจากบนด้ามจับด้านหลัง ในเวลาเดียวกัน มือซ้ายของหุ่นรบก็คว้าวัตถุรูปทรงก้อนที่บินมาถึงตรงหน้าอกนั้นได้พอดี ก่อนจะเห็นนิ้วมือของหุ่นรบโบกสะบัด วัตถุรูปทรงก้อนถูกยัดเข้าไปในด้ามจับท้ายปืนลำแสงในชั่วพริบตา
นี่ดูเหมือนเป็นการเคลื่อนไหวที่กลับไปกลับมาสุดขีด ทว่าความจริงแล้วเสร็จสิ้นภายในพริบตาเดียวเท่านั้น ปืนลำแสงที่ได้รับตลับพลังงานใหม่ก็เปล่งลำแสงนับไม่ถ้วนออกมาอีกครั้ง ก่อนจะยิงใส่เฉียวถิงอย่างคลุ้มคลั่ง
บางทีเขาอาจจะรีบเร่งมากเกินไป หรือบางทีเวลานี้หลี่หลานเฟิงไม่ได้คำนึงว่าจะพลาดโดนเพื่อนร่วมทีมหรือเปล่า ลำแสงที่มาอย่างท่วมท้นปกคลุมหุ่นรบของเฉียวถิงและเซี่ยอี๋กับหลินจงชิงทั้งหมดโดยพลัน ผู้ชมการประลองเห็นฉากนี้ หัวใจต่างกระตุกขึ้นมา พวกเขาตกตะลึงและสับสนไม่แน่ใจว่า หุ่นรบระดับพิเศษตัวนี้จะสละชีวิตเพื่อนร่วมทีมของตัวเองโดยไม่เสียดายเพื่อชัยชนะในตอนสุดท้ายหรือเปล่า?
“อย่างที่คิดไว้เลย หลี่หลานเฟิงเป็นคนที่เห็นผลประโยชน์ส่วนตนเป็นหลักจริงๆ ด้วย เพื่อชัยชนะแล้ว เขาไม่สนใจเลยว่าเพื่อนร่วมทีมจะเสียชีวิตโดยไร้ความผิดเพราะเหตุนี้หรือเปล่า….” หานอวี้ หัวหน้ากลุ่มหุ่นรบอู๋จี๋ที่สนใจการประลองครั้งนี้เช่นเดียวกันเห็นวิธีการโจมตีอย่างไร้ความปรานีของหลี่หลานเฟิงในยามนี้ ก็เอ่ยกับเว่ยจี้ที่อยู่ข้างกายโดยที่ใบหน้าอดเผยรอยยิ้มหยันออกมาไม่ได้
“เขาเป็นนักกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง ในใจเขา ทุกคนที่เข้าร่วมการประลองนี้ต่างมีหน้าที่ทำเพื่อเป้าหมายชัยชนะในตอนสุดท้าย ตราบใดที่รับประกันชัยชนะได้ เขาไม่สนใจว่าจะต้องเสียสละไปเท่าไหร่ ฉันคิดว่านายรู้เรื่องนี้มานานแล้วถึงได้เอาแต่ระวังเขามาตลอด” เว่ยจี้ได้ยินคำกล่าวก็ลอบเลิกคิ้ว ตั้งแต่ที่คบหาหลี่หลานเฟิงตอนปีหนึ่ง เขาก็รู้รูปแบบการทำงานของ หลี่หลานเฟิงได้รางๆ แล้ว ถึงแม้เขาดูไร้น้ำใจอยู่บ้าง แต่ในฐานะนักวางแผนแล้ว นิสัยแบบนี้ดีเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัย ดังนั้นเว่ยจี้เลยไม่ได้รังเกียจหลี่หลานเฟิงเหมือนหานอวี้ขนาดนั้น ถึงขนาดที่ยังชื่นชมเขาเล็กน้อยด้วย
“ใช่ไง ก็เพราะรู้ว่าเขาเป็นคนยังไงมานานแล้ว ฉันถึงไม่ไว้ใจที่จะวางอนาคตของอู๋จี๋ไว้ที่ตัวเขา ฉันกลัวจริงๆ ว่าสักวันเขาจะขายอู๋จี๋ออกไปหมดเพื่อเป้าหมายของตัวเอง” หานอวี้กล่าวถึงตรงนี้ แววตาก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมเย็นชาขึ้นมา เขาระแวดระวังต่อหลี่หลานเฟิงเป็นพิเศษ มักจะรู้สึกว่าคนผู้นี้เปี่ยมไปด้วยเล่ห์อุบายอย่างยิ่งยวด
“อย่าเพิ่งพูดว่าเขาเป็นคนแบบไหนเลย ดูเหมือนพวกเราทุกคนจะดูแคลนความสามารถในการควบคุมหุ่นรบของเขาแล้ว ไม่นึกเลยว่าเขาจะเก่งขนาดนี้ การเคลื่อนไหวชุดนั้นไม่ใช่ของที่ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษทั่วไปสามารถทำได้เลย” เว่ยจี้เอ่ยพลางทอดถอนใจ
ท่วงท่าการสับเปลี่ยนเอเนอร์จอนอย่างรวดเร็วกลางอากาศชุดนั้นดูเหมือนเรียบง่ายมาก แต่ความจริงแล้วไม่ง่ายดายเลย ต่อให้บังคับหุ่นรบให้เหมือนมือเท้าตัวเองได้สำเร็จ แต่ในการควบคุมที่ละเอียดแบบนี้ ยังคงมีผู้ควบคุมหุ่นรบมากมายที่ไม่สามารถทำได้ เป็นการทดสอบความสามารถของผู้ควบคุมอย่างยิ่งยวด แต่เห็นได้ว่าการควบคุมที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้ของหลี่หลานเฟิงไปถึงขั้นคนกับหุ่นรบประสานกันเป็นหนึ่งอย่างแท้จริงแล้ว ถึงสามารถทำการเคลื่อนไหวเช่นนี้ได้เป็นธรรมชาติขนาดนี้
“เขาถ่วงเวลาอยู่ในระดับนักรบหุ่นรบชั้นสูงมาเกือบสองปีเต็ม ดูท่าก็คงจะทำเพื่อเรื่องนี้” ยามนี้หานอวี้เองก็เข้าใจสาเหตุแล้วว่า ทำไมตอนแรกหลี่หลานเฟิงถึงไม่เลื่อนขั้นเป็นผู้ควบคุมระดับพิเศษนานขนาดนั้น
“คนที่มีเป้าหมายของตัวเองชัดเจนมากแบบนี้ เขาจะรับใช้กลุ่มหุ่นรบที่ตั้งขึ้นใหม่ เชื่อฟังนักเรียนปีสองอย่างสุดจิตสุดใจจริงๆ เหรอ?” เว่ยจี้เงียบไปหลายวินาที ทันใดนั้นก็เอ่ยปากถามหานอวี้ด้วยความจริงจัง
ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ต้องการหลี่หลานเฟิง หากแต่พวกเขาเสียเวลาสามปีเต็มๆ แต่ไม่สามารถทำให้หลี่หลานเฟิงรับใช้อู๋จี๋อย่างเต็มหัวใจ นี่ก็คือสาเหตุที่หานอวี้จำเป็นต้องใช้วิธีการบางอย่างมากดดันชื่อเสียงบารมีของหลี่หลานเฟิง ในเวลาเดียวกันก็ฝึกฝนอบรมเสนาธิการคนใหม่มาลดทอนความสำคัญของหลี่หลานเฟิงที่มีต่ออู๋จี๋
“เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด เขาเข้าร่วมกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนจะต้องมีเป้าหมายอะไรบางอย่างแน่ๆ เพียงแต่ตอนนี้เรายังไม่รู้เท่านั้น” หานอวี้ตอบกลับอย่างเฉียบขาด “ตอนนี้กลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนคงจะดีใจที่มีผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษเพิ่มมาสองคน เพิ่มความสามารถของหุ่นรบพวกเขามากๆ แต่ว่าต่อไปก็ต้องมีตอนที่พวกเขาอยากร้องไห้ หลี่หลานเฟิง หมอนั่น….ฮึ!” หานอวี้มีความรู้สึกเกลียดชังหลี่หลานเฟิงมาตลอด เขาไม่เชื่อว่าหลี่หลานเฟิงจะเข้าร่วมกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนด้วยเจตนาดีแบบนั้นจริงๆ
หลี่หลานเฟิงที่อยู่ท่ามกลางการต่อสู้ไม่รู้เลยว่า หานอวี้อดีตหัวหน้าของเขาจะเต็มไปด้วยการคาดเดาเรื่องเขาเข้าร่วมกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนในแง่ร้ายมาก แต่ว่าต่อให้หลี่หลานเฟิงรู้ เขาก็แค่ยิ้มๆ อย่างไม่ยี่หระเท่านั้น เพราะพรหมลิขิตและความรู้สึกระหว่างเขากับกระต่ายไม่ใช่สิ่งที่คนอย่างหานอวี้เข้าใจได้อยู่แล้ว
การกระทำอย่างไร้ความปรานีและคาดไม่ถึงของหลี่หลานเฟิงทำให้บรรดานักเรียนทหารที่ชมการต่อสู้ตื่นตะลึงมากเช่นกัน เวลาเดียวกันก็ทำให้เฉียวถิงตกสู่สภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถ้าเกิดเขาโจมตีพวกเซี่ยอี๋กับหลินจงชิงสองคนต่อไป ไม่ต้องสงสัยเลยสักนิดว่า เขาจะต้องทนรับพลังงานลำแสงที่หลี่หลานเฟิงโจมตีมาอย่างบ้าคลั่งเพียงลำพัง แม้ว่าเขาสามารถจัดการลูกทีมสองคนของฝ่ายตรงข้ามได้ แต่มันก็นำความเสียหายมาให้หุ่นรบของเขาในระดับหนึ่งเพราะเหตุนี้เหมือนกัน นี่คุ้มค่าจริงๆ เหรอ? เวลานี้เฉียวถิงอดลังเลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้