I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 428 โดฮากับเทียนจี!
วันเวลาผ่านไปสามเดือนท่ามกลางการทุ่มเทศึกษาหาความรู้ของทุกคน สามเดือนนี้ไม่ได้สงบสุขราบรื่นมาตลอดทาง กลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนที่ก่อตั้งใหม่และโค่นล้มจนกลายเป็นกลุ่มอำนาจอันดับหนึ่งของโรงเรียนทหารได้ เป็นจุดสนใจของนักเรียนทุกคนในโรงเรียนมาโดยตลอด กลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนได้รับการท้าประลองอีกสองครั้งจากกลุ่มอำนาจอื่นในโรงเรียนทหารโดยที่ไม่ได้เหนือความคาดหมาย แยกเป็นกลุ่มหุ่นรบโดฮาซึ่งเดิมเป็นกลุ่มอำนาจอันดับสี่และกลุ่มหุ่นรบเทียนจีซึ่งแต่เดิมเป็นอันดับสอง
กลุ่มหุ่นรบโดฮาเป็นกลุ่มแรกที่ออกมาท้าประลองหลังจากที่หลิงเทียนเอาชนะเหลยถิงได้ เมื่อการท้าประลองนี้เปิดฉากขึ้นก็ทำให้ภายในโดฮาเกิดการสั่นคลอนครั้งใหญ่ ควรรู้เอาไว้ว่า ในกลุ่มหุ่นรบโดฮามีนักเรียนส่วนหนึ่งที่มาจากสถาบันศูนย์กลางลูกเสือโดฮา และกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนก็เป็นกลุ่มหุ่นรบที่มีนักเรียนของสถาบันศูนย์กลางลูกเสือเป็นแกนหลัก หัวหน้ากลุ่มหลักทั้งสี่คนต่างเป็นคนที่มาจากสถาบันศูนย์กลางลูกเสือ เทียบกับโดฮาที่รวบรวมนักเรียนที่จากสถาบันลูกเสือทั้งหมดของโดฮาแล้ว กลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนที่บริสุทธิ์ยิ่งทำให้พวกนักเรียนที่มาจากสถาบันศูนย์กลางลูกเสือเกิดความรู้สึกยอมรับได้มากกว่า
ดังนั้น พอโดฮาส่งจดหมายท้าประลอง พวกนักเรียนที่จบจากสถาบันศูนย์กลางลูกเสือโดฮาเหล่านี้เลยโมโห พวกเขายื่นคำร้องด้วยความโกรธเกรี้ยว หวังว่าหัวหน้ากลุ่มโดฮาจะเลิกล้มการท้าประลองครั้งนี้เอง น่าเสียดายที่กู่จิ่นสิง หัวหน้ากลุ่มโดฮาคนปัจจุบันที่รับช่วงต่อจากจางจิงอันไม่ใช่ฝ่ายสถาบันศูนย์กลางลูกเสือ เขาตีกลับคำร้องขอนี้โดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย การกระทำนี้กระตุ้นโทสะของพวกสมาชิกกลุ่มที่จบจากสถาบันศูนย์กลางลูกเสืออย่างสิ้นเชิง ความขัดแย้งเริ่มรุนแรงขึ้น ภายในโดฮาเริ่มแตกแยก
ตอนที่การท้าประลองกับหลิงเทียนกำลังเริ่มต้นขึ้น บรรดานักเรียนที่จบจากศูนย์กลางโดฮาก็ได้ทำเรื่องที่พวกนักเรียนทหารทุกคนตกตะลึง นั่นก็คือร่วมกันถอนตัวออกจากกลุ่ม การกระทำนี้ทำให้สมาชิกของโดฮาลดลงไปเกือบหนึ่งในห้าทันที และก็ทำให้โดฮาร่วงจากกลุ่มอำนาจอันดับสี่ลงมาสู่ฝุ่นในพริบตา ไม่ว่าด้านจำนวนคนหรือความสามารถห่างจากกลุ่มอำนาจระดับกลางอื่นๆ นิดเดียว
ส่วนนักเรียนของศูนย์กลางลูกเสือที่ถอนตัวออกจากกลุ่มเหล่านั้นก็เข้าร่วมกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนอย่างไม่น่าแปลกใจเลยสักนิด นี่ทำให้ความแข็งแกร่งของกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนเพิ่มขึ้นมาก พวกกลุ่มอำนาจอื่นที่ตอนแรกยังคิดว่าหลิงเทียนบังเอิญโชคดี เวลานี้พวกเขาก็ไม่กล้าดูแคลนอีกฝ่ายอีกต่อไปแล้วเหมือนกัน
“กู่จิ่นสิง…จิ่นสิง ทำอย่างรอบคอบ กระทำอย่างรอบคอบ[1] เขาทำผิดต่อชื่อนี้ของเขามากเกินไปแล้วจริงๆ” จางจิงอันที่กำลังทุ่มความสนใจไปที่การสมัครสอบเข้ากองทัพ ได้ยินข่าวที่ส่งมาจากสมาชิกหน่วยรบนี้ เขาพลันเอ่ยด้วยรอยยิ้มหยัน “พวกหลิงหลานเป็นคนที่จัดการได้ง่ายขนาดนั้นที่ไหนกันล่ะ เขาก็โง่จริงๆ ที่ไม่สังเกตเห็นวิธีการของอีกฝ่ายเลย”
คำพูดของจางจิงอันทำให้ลูกทีมงุนงงเล็กน้อย จางจิงอันเห็นแบบนั้นก็อดส่ายหน้าไม่ได้ ก่อนจะถอนหายใจกล่าวว่า “โดฮาของเราขาดเสนาธิการเก่งๆ เดาว่าพวกอู๋จี๋ เทียนจีกับเหลยถิงมองแผนการของหลิงเทียนออกกันหมดแล้ว ยุให้แตกคอกันในเวลาที่เหมาะสม บวกกับลงทุนทางความสัมพันธ์ หลังจากนั้นก็บั่นทอนกำลัง คิดคำนวณเป็นลูกโซ่ นับว่าโดฮาล้มครืนแล้ว หลิงหลานนั่น ใช้วิธีการชั่วช้าเหมือนเคย ไม่ว่าจะไม่ทำ หรือว่าลงมือทำก็เป็นวิธีการที่เหมือนสายฟ้าฟาดทั้งนั้น คนแบบนี้มาเป็นคู่แข่ง น่ากลัวมาก...”
ลูกทีมไม่ยอมรับอยู่บ้าง “ต่อให้เป็นแบบนี้ ความสามารถโดยรวมของโดฮาเรายังเหนือกว่าหลิงเทียนนะ โดฮาเรามีสมาชิกกลุ่มสองพันกว่าคน ต่อให้หลิงเทียนรวมกับพวกคนที่ถอนตัวออกจากกลุ่มไปแล้ว จำนวนคนก็ยังไม่ครบหนึ่งพันคนเลย…โดฮาเรามีโอกาสชนะในการท้าประลองมากกว่า”
จางจิงอันยิ้มขื่น “จะง่ายแบบนี้ที่ไหนกันล่ะ ฉันพนันกับนายได้เลยว่า ผลสุดท้าย หลิงเทียนจะต้องเป็นฝ่ายชนะ” หลิงหลานคนนี้เป็นคนที่ไม่เคยพ่ายแพ้มาก่อน...นอกเสียจากเขาจงใจยอมแพ้เอง
ก็เป็นเหมือนกับที่จางจิงอันคาดการณ์ไว้ ผลสุดท้ายผู้ชนะคือกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียน ถึงแม้กู่จิ่นสิงหัวหน้ากลุ่มโดฮารับบทเรียนของเหลยถิง ทิ้งการประลองแบบทีมหัวกะทิ 12 คน และเลือกการประลองกลุ่มหุ่นรบ 50 คน แต่ผลลัพธ์ยังย่ำแย่กว่าเหลยถิงเสียอีก อย่างน้อยที่สุดเหลยถิงต่อสู้กับหลิงเทียนไปจนถึงหนึ่งคนสุดท้าย แต่ตอนที่โดฮาถูกกวาดล้างออกจากสนาม หลิงเทียนกลับยังเหลือเจ็ดคน
เจ็ดคนที่เหลืออยู่ประกอบด้วย หัวหน้ากลุ่มสี่คนไม่มีขาด จ้าวจวิ้นกับหลี่หลานเฟิงที่เป็นผู้ควบคุมระดับพิเศษของชั้นปีสูงสองคนก็รอดชีวิตมาได้เช่นกัน การที่หกคนนี้สามารถอยู่ได้จนถึงตอนสุดท้ายนั้นไม่ได้เหนือความคาดหมายของผู้คนมากนัก อย่างไรเสีย ความสามารถของหกคนนี้ก็ได้รับการยอมรับจากบรรดานักเรียนทหารแล้ว คนที่ทำให้ผู้คนที่รู้สึกประหลาดใจอย่างแท้จริงคือ คนที่เจ็ดของหลิงเทียน ไม่ใช่หนึ่งในหัวหน้าทีมของหน่วยรบต่างๆ ของกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียน และก็ไม่ใช่ขุนพลกำลังรบหลักของหน่วยรบต่างๆ หากแต่เป็นขุนพลรองคนหนึ่งของหน่วยรบหลิงเทียน ลั่วล่างที่หน้าตายั่วเย้างดงามร่างกายอ้อนแอ้นเปราะบางคนนั้น
ทว่าเมื่อใคร่ครวญผลงานในการต่อสู้ของลั่วล่างอย่างละเอียด ทุกคนคิดอีกครั้งว่าการที่เขารอดชีวิตได้ก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลแล้ว เนื่องจากพอลั่วล่างต่อสู้ขึ้นมา เขาเข้มแข็งเด็ดเดี่ยวมาก ขณะเดียวกันก็ใจเหี้ยม ไม่เพียงต่อคนอื่น เขายังทำต่อตัวเขาเองด้วย มีหลายครั้งที่เขาตกอยู่ในสถานการณ์อับจน ทุกคนต่างคิดว่าจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน แต่เขาต่อสู้โดยไม่คำนึงถึงการทำร้ายตัวเอง ระเบิดพลังที่น่าสะพรึงกลัว เข่นฆ่าสังหารออกมาจากวงล้อม รูปแบบการต่อสู้ที่ไม่มีทางยอมแพ้นั้นทำให้ทุกคนอุทานด้วยความชื่นชม
การแตกแยกก่อนการประลองของโดฮา และการพ่ายแพ้อย่างน่าอนาถในการต่อสู้ได้เรียกสติของกลุ่มหุ่นรบทั้งหมดที่อยากเอารัดเอาเปรียบ การที่หลิงหลานสามารถเอาชนะเหลยถิงได้ ถึงแม้จะมีปัจจัยเรื่องโชคในระดับหนึ่ง แต่ความจริงแล้ว ความสามารถของพวกเขาไม่ได้อ่อนแอเหมือนอย่างที่พวกเขาคิดไว้ขนาดนั้น กอปรกับขุดคนโดฮาไปหนึ่งในห้า พูดได้ว่า หลิงเทียนในตอนนี้มีคุณสมบัติยืนอยู่ในอันดับกลุ่มอำนาจแถวหน้าได้อย่างสมบูรณ์แล้ว
อู๋จี๋กลุ่มอำนาจอันดับสามจึงถอยภายใต้สถานการณ์เช่นนี้เอง หานอวี้กังวลเรื่องความแข็งแกร่งที่พุ่งทะยานของหลิงเทียน ขณะเดียวกันก็หวาดหวั่นในความเจ้าเล่ห์มากแผนการของหลี่หลานเฟิง เขาคิดว่า จุดจบที่น่าสังเวชของโดฮาย่อมต้องเป็นฝีมือของหลี่หลานเฟิง
หลังจากใคร่ครวญหลายตลบ หานอวี้จึงตัดสินใจทิ้งโอกาสในการเป็นตัวแทนของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งออกไปประลองในศึกประลองหุ่นรบครั้งยิ่งใหญ่นี้ แน่นอนว่าสาเหตุที่ทำให้หานอวี้ยอมแพ้ง่ายๆ แบบนี้ก็เพราะเขาได้ยินมานานแล้วว่า ต่อให้พวกเขาเอาชนะหลิงเทียนได้ แต่ระดับสูงของโรงเรียนจะจัดการประลองระหว่างพวกเขากับกลุ่มหุ่นรบเทียนจีรอบหนึ่งเพื่อให้แน่ใจเรื่องกำลังรบที่จะออกไปประลองในศึกหุ่นรบครั้งใหญ่ ผู้ชนะในตอนสุดท้ายจะถูกตัดสินว่าเป็นกลุ่มที่ได้ออกไปประลองในศึกหุ่นรบอย่างแท้จริง
ระดับสูงของโรงเรียนย่อมอยากเลือกกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดในโรงเรียนออกไปประลอง ถ้าหากไม่ใช่เพราะเหลยถิงพ่ายแพ้ให้หลิงเทียนต่อหน้าธารกำนัล จนระดับสูงของโรงเรียนไม่อาจลงมืออย่างลับๆ ได้ละก็ เกรงว่าพวกเขาคงไม่ไปหาเทียนจีที่เป็นอันดับสอง หานอวี้เป็นคนฉลาด เขาถึงไม่ยอมให้ตัวเองพยายามต่อสู้อย่างยากลำบาก แต่สุดท้ายผลประโยชน์กลับตกไปอยู่ที่เทียนจีเป็นอันขาด
อย่างที่คิดไว้เลย หลังจากที่แน่ใจว่าอู๋จี๋ยอมแพ้แล้ว เทียนจีก็ส่งจดหมายท้าประลอง วิธีการประลองที่พวกเขาเลือกเหมือนกับเหลยถิง เลือกประลองทีมหัวกะทิ 12 คน ทว่าพวกเขาแตกต่างจากความถือดีของเฉียวถิง สมาชิกทีมที่เทียนจีเลือกส่งไปประลองเป็นผู้ควบคุมระดับพิเศษทั้งหมด เป็นสิบสองคนที่มีความสามารถแข็งแกร่งที่สุดของเทียนจี
ก่อนการประลอง ทุกคนคิดว่าโชคของหลิงเทียนหมดลงตรงนี้แล้ว ครั้งนี้จะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน ถึงอย่างไร หลิงเทียนมีแค่หลิงหลาน หลี่หลานเฟิงกับจ้าวจวิ้นสามคนเท่านั้นที่เป็นผู้ควบคุมระดับพิเศษ คนอื่นๆ ต่อให้แข็งแกร่งอีกแค่ไหนก็เป็นเพียงนักรบหุ่นรบชั้นสูง สามต่อสิบสอง ดูอย่างไร กลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนไม่มีโอกาสชนะใดๆ เลย แต่ผลลัพธ์กลับทำให้ทุกคนตาถลน ท้ายที่สุดผู้ที่ได้รับชัยชนะยังคงเป็นหลิงเทียน นอกจากนี้สมาชิกที่รอดชีวิตอยู่บนสนามประลองในตอนสุดท้ายมีสองคน นั่นคือหลิงหลานกับจ้าวจวิ้น
ควรพูดว่า การประลองนี้ไม่ได้เป็นการได้เปรียบเพียงฝ่ายเดียวเหมือนอย่างที่ทุกคนคิดไว้ แม้ว่าเก้าคนของหลิงเทียนเป็นนักรบหุ่นรบชั้นสูงกันหมด ทว่าเก้าคนนั้นกลับร่วมมือกันได้อย่างรู้ใจมาก การต่อสู้เริ่มต้นได้ไม่นาน พวกเขาก็รวมกลุ่มเป็นขบวนสามคนได้แล้ว ตรงกันข้าม ลูกทีมของเทียนจีกลับอืดอาดกว่ามาก ไม่เพียงตั้งขบวนไม่สำเร็จ ยังทำให้ขบวนของหลิงเทียนล้อมสังหารหุ่นรบไปได้สามตัวในตอนที่เริ่มการประลองได้ไม่นาน ถ้าหากไม่ใช่เพราะหัวหน้ากลุ่มเทียนจีรู้สึกว่าสถานการณ์ท่าไม่ดีแล้ว ออกคำสั่งให้ทุกคนถอยหนีและตั้งกลุ่มละก็ เกรงว่าสมาชิกที่รอดชีวิตของหลิงเทียนจะมีมากกว่านี้
หลังจากที่เทียนจีตั้งขบวนได้แล้ว หลิงเทียนค่อยตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤติ หุ่นรบระดับสูงเก้าตัวถูกเทียนจีล้อมสังหาร แต่คนของกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนโหดเหี้ยมอย่างยิ่ง ต่อให้เผชิญหน้ากับความตายก็ไม่ลืมลากคนไปด้วย เทียนจีเลยสูญเสียหุ่นรบไปสองตัวในระหว่างที่ล้อมฆ่า
แต่ในตอนที่ล้อมสังหารหุ่นรบระดับสูงเก้าตัวของหลิงเทียนนั้น ขบวนหุ่นรบระดับพิเศษที่มีเพียงหนึ่งเดียวของหลิงเทียนก็ได้เผยโฉมหน้าที่โหดเหี้ยมของเขาออกมาเช่นกัน สังหารขบวนหุ่นรบที่มันเจอได้สำเร็จ
เวลานี้ ข้อได้เปรียบของเทียนจีอันตรธานหายไปแล้ว สี่ต่อสาม ถึงแม้เทียนจีมีมากกว่าหนึ่งคน แต่ภายใต้สถานการณ์ ที่ทุกคนเป็นผู้ควบคุมระดับพิเศษเหมือนกัน การมีมากกว่าหนึ่งคนไม่อาจตัดสินชัยชนะในตอนสุดท้ายได้ ท้ายที่สุดทั้งสองทีมก็ใช้กำลังตัดสินไปตรงๆ หุ่นรบเจ็ดตัวตะลุมบอนกัน และหลี่หลานเฟิงเอาชนะหุ่นรบไปหนึ่งตัวแล้ว เขาก็ใช้หุ่นรบที่พังเสียหายลากหุ่นรบอีกตัวให้ตายตกตามกันเพื่อปกป้องหลิงหลาน
จ้าวจวิ้นก็ตกอยู่ในการต่อสู้ที่ยากลำบากกับหัวหน้ากลุ่มเทียนจีซึ่งเป็นอันดับสองด้านหุ่นรบในโรงเรียน ตรงกันข้าม ในสายตาของผู้คน หลิงหลานที่อ่อนแอที่สุด แรงกดดันน้อยที่สุดในหมู่ผู้ควบคุมระดับพิเศษสามคนของหลิงเทียนได้ต่อสู้กับผู้ควบคุมระดับพิเศษที่มีความสามารถระดับเดียวกันทว่าไม่ได้แข็งแกร่งมากนักไปหลายร้อยกระบวนท่า
สุดท้ายจ้าวจวิ้นที่พังยับเยินไปครึ่งหนึ่งก็หาช่องโหว่ของคู่ต่อสู้พบ เอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้ กล่าวได้ว่าจ้าวจวิ้นกับหัวหน้ากลุ่มหุ่นรบเทียนจีมีความสามารถสูสีกัน ใครชนะใครแพ้ล้วนไม่น่าแปลกใจ ก็แค่ดูว่าใครโชคดีกว่านิดหน่อย และการต่อสู้ครั้งนี้ จ้าวจวิ้นโชคดีกว่าหัวหน้ากลุ่มหุ่นรบเทียนจีอย่างไม่ต้องสงสัย เขาเห็นจุดอ่อนของอีกฝ่ายเร็วกว่าหนึ่งก้าว
ขณะที่จ้าวจวิ้นเอาชนะหัวหน้ากลุ่มเทียนจีนั้น หลิงหลานก็สังหารคู่ต่อสู้ได้สำเร็จ ท้ายที่สุดก็ได้รับชัยชนะในการประลองครั้งนี้ เทียบกับหุ่นรบของจ้าวจวิ้นที่พังยับแล้ว หุ่นรบของหลิงหลานแทบจะไม่ได้รับความเสียหายอะไรเลย แค่เสียพลังงานไปนิดหน่อยเท่านั้น
คนที่ชมการประลองสงสัยสุดขีดว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ เนื่องจากในระหว่างการต่อสู้ คู่ต่อสู้ของหลิงหลานเคยโจมตีโดนหลิงหลานได้สำเร็จ เมื่อหุ่นรบระดับเดียวกันโจมตีโดน ต่อให้เกราะหุ้มด้านนอกของหุ่นรบทนทานอีกสักแค่ไหนก็ต้องทิ้งร่องรอยความเสียหายไว้ ทุกคนพากันค้นดูข้อมูลหุ่นรบของหลิงหลานโดยที่พกข้อสงสัยนี้ไว้ ก่อนจะพบว่าหุ่นรบของหลิงหลานเป็นหุ่นรบปรับแต่ง
แน่นอนว่า พวกเขาค้นเจอเรื่องหุ่นรบปรับแต่งเท่านั้น ส่วนข้อมูลรายละเอียดอื่นๆ ของหุ่นรบกลับตรวจสอบไม่เจอ ออปติคัลคอมพิวเตอร์หลักย่อมคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
ทว่าแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวก็ทำให้บรรดานักเรียนของโรงเรียนทหารเจอคำตอบที่พวกเขานึกไว้แล้ว คิดว่าหลิงเทียนโชคดีมากเกินไป รับฉางซินหยวนที่มีพรสวรรค์ด้านการปรับแต่งพัฒนาหุ่นรบ และก็มีหุ่นรบปรับแต่งระดับพิเศษที่ทรงอำนาจตัวนี้ และเพราะการต่อสู้นี้ ทำให้ชื่อเสียงของฉางซินหยวนพุ่งทะยานขึ้นในโรงเรียนทหารอย่างเหนือความคาดหมาย…
โรงเรียนทหารชายที่หนึ่งปรากฏช่างพัฒนาที่สามารถปรับแต่งหุ่นรบระดับพิเศษได้เป็นครั้งแรก ดังนั้น ฉางซินหยวนจึงกลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงพุ่งทะยานโด่งดังผู้คนต่างแย่งชิงมากที่สุด กลุ่มอำนาจมากมายพากันสอบถามฉางซินหยวนว่าเซ็นสัญญาอะไรกับกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียน พวกเขาหวังว่าสัญญาที่ฉางซินหยวนเซ็นเป็นเพียงสัญญาร่วมมือกันชั่วคราว เช่นนั้นพวกเขาก็มีโอกาสรับช่างพัฒนาที่มีอนาคตท่านนี้เข้ามาอยู่ใต้อาณัติได้แล้ว…
——————————-
[1] จิ่น แปลว่า ระมัดระวังรอบคอบ ส่วน สิง แปลว่า การกระทำ