I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 437 แทะโลม!
“ความยืดหยุ่น?” ลั่วล่างประหลาดใจมากยิ่งขึ้น เขาย่อมรู้ว่า ปู้หุ่ยของลูกพี่ตนก็มีความยืดหยุ่นในระดับหนึ่งเช่นกัน
“ใช่แล้วครับ ถ้าเกิดคุณลูกค้าสนใจ สามารถเปิดบาเรียป้องกันออก แล้วสัมผัสด้วยตาตัวเองดูได้นะครับ” พนักงานขายแนะนำ
ลั่วล่างพยักหน้า พนักงานขายปิดบาเรียป้องกัน ลั่วล่างกดตัวดาบแรงๆ ภายใต้การบอกของพนักงานขาย นึกแล้วเชียว ตัวดาบจมลงไปตามแรงนิ้วมือของเขา เขาเก็บแรงกลับมา ตัวดาบก็เด้งกลับมาคืนสู่รูปลักษณ์เดิมอีกครั้ง
“เป็นอาวุธที่ดี ชางฉยงเล่มนี้ราคาเท่าไหร่เหรอ?” ความรู้สึกแรกของลั่วล่างก็คือ เหมาะกับลูกพี่ของเขามากก็เลยสอบถามขึ้นมา
“เพราะว่าวัตถุดิบล้ำค่า ดังนั้นเลยแพงกว่าอาวุธเย็นทั่วไปหลายเท่าครับ” พนักงานขายแสดงราคาของชางฉยงให้ลั่วล่างดู ลั่วล่างหน้าเปลี่ยนสี ไม่ใช่แค่ปัญหาเรื่องหลายเท่าตัว ราคานั้น ต่อให้บวกทรัพย์สินทั้งหมดของเขาไปด้วยก็ยังซื้อด้ามดาบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
ลั่วล่างกล่าวอย่างจนปัญญาว่า “ช่วยเก็บดาบเล่มนี้ให้ฉันก่อนนะ เดี๋ยวฉันพาคนเข้ามาดู ถ้าเกิดพอใจก็จะซื้อเลย”
พนักงานขายตอบกลับอย่างแย้มยิ้มว่า “ได้ครับ” พนักงานขายเห็นสถานการณ์แบบนี้จนชินแล้ว ลูกค้ามากมายที่สนใจ แต่สุดท้ายต่างก็พ่ายแพ้ให้กับราคาที่สูงลิ่วนี้ ลูกค้าจำนวนมากล้วนทิ้งคำพูดประโยคนี้ไว้ น่าเสียดายที่สุดท้ายไม่มีใครกลับมาซื้ออีกเลย
“คนสวยอยากได้อะไร? บางทีฉันอาจช่วยได้นะ” ตอนนี้เอง จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นจากด้านหลังลั่วล่าง
ลั่วล่างพลันขมวดคิ้ว เขาหันหน้ากลับไปก็เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีสีหน้าเจ้าชู้เล็กน้อยกำลังมองเขาด้วยใบหน้ายิ้มละไม เขาก็คือเจี่ยงเส่าอวี่ หัวหน้าทีมของโรงเรียนทหารชายที่สองนี่เอง
ลั่วล่างคิ้วขมวด ไฟโทสะพาดผ่านแววตาอย่างรวดเร็ว ถ้าหากไม่ใช่เพราะลูกพี่หลานเคยเตือนเขาว่าอย่าก่อเรื่องละก็ เขาจะต้องอบรมสั่งสอนอีกฝ่ายดีๆ สักยก ลั่วล่างเข้าใจพฤติกรรมเช่นนี้ของอีกฝ่ายดีว่า ต้องเป็นอีกคนที่หลงใหลหน้าตาของเขาแน่นอน
ลั่วล่างถลึงตามองเจี่ยงเส่าอวี่อย่างดุดัน เตรียมตัวออกไปหาลูกพี่เพื่อมาซื้อชางฉยง ขณะที่เขากำลังเดินผ่านเจี่ยงเส่าอวี่นั้น เจี่ยงเส่าอวี่ก็ยื่นมือขวาออกมาหมายจะคว้าข้อมือข้างขวาของเขาไว้โดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว
ลั่วล่างก้าวไถลออกหลบมือปลาหมึกของอีกฝ่าย เอ่ยพลางจ้องมองอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “นายคิดจะทำอะไร?”
จ้าวจวิ้นเองก็ดูออกว่าอีกฝ่ายมีเจตนาไม่บริสุทธิ์ เขาก้าวเข้ามาอย่างองอาจ ยืนอยู่ข้างกายลั่วล่าง จ้องมองเจี่ยงเส่าอวี่ด้วยสายตาเย็นเยียบ การกระทำของจ้าวจวิ้นทำให้คนที่อยู่ด้านหลังเจี่ยงเส่าอวี่ล้อมเข้ามาเช่นกัน ล้อมรอบลั่วล่างกับจ้าวจวิ้นไว้รางๆ
“อะไร? อยากต่อยตีหรือไง?” จ้าวจวิ้นเดือดดาลอย่างยิ่งยวด ดูเหมือนเอะอะก็คิดจะเข้าไปเลย ซึ่งนี่สอดคล้องกับรูปลักษณ์ภายนอกที่แข็งแกร่งป่าเถื่อนของเขามาก
มุมปากของเจี่ยงเส่าอวี่เผยความดูแคลนออกมา คนที่โตแค่แขนขาทว่าสมองทื่อแบบนี้ไม่มีค่าพอให้กังวลใจ เขาปรายตามองไปที่ลูกทีมข้างตัวแวบหนึ่ง ลูกทีมคนนั้นเข้าใจทันที ก่อนจะพาห้าหกคนไปล้อมจ้าวจวิ้นไว้ พยายามบีบให้จ้าวจวิ้นออกห่างจากข้างกายลั่วล่าง
จ้าวจวิ้นเห็นแบบนั้นก็เข้าไปเผชิญหน้าโดยไม่ลังเลเลยสักนิดเดียว ขณะผลักดึงรั้งกันและกัน เขาถูกพาออกห่างจากข้างกายลั่วล่างโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ลั่วล่างประหลาดใจสุดขีดที่จ้าวจวิ้นถูกคนพาออกไปได้สำเร็จ ถึงแม้จ้าวจวิ้นเข้าร่วมหลิงเทียนได้ไม่ถึงครึ่งปี แต่ลั่วล่างที่ฝึกฝนกับเขาบ่อยๆ รู้ดีว่าหมอนี่ไม่ได้เรียบง่ายขนาดนั้น ถ้าเกิดคิดว่าเขาเป็นคนโง่เง่าบ้าดีเดือดจริงๆ ละก็ ย่อมต้องโดนอีกฝ่ายวางแผนร้ายใส่จนตายแน่ๆ หมอนั่นหน้าเนื้อใจเสือมาก
อย่างที่คิดไว้เลย เมื่อลั่วล่างมองไปทางจ้าวจวิ้นก็ได้รับสายตาที่จ้าวจวิ้นแอบทอดมองมา ลั่วล่างก็รู้ว่าหมอนี่กำลังวางกับดักอยู่แน่นอน ดังนั้นเลยไม่สนใจเขาอีก
เมื่อไม่มีคนที่ขวางมือขวางเท้าอยู่ข้างกายแล้ว เจี่ยงเส่าอวี่ก็อารมณ์ดีสุดขีด เขาเอ่ยปลอบโยนลั่วล่างด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า “คนสวยตัวน้อย อย่าโมโหเลย พี่ชายแค่อยากเป็นเพื่อนกับเธอเท่านั้น”
การที่เจี่ยงเส่าอวี่เปลี่ยนเป็นมีมารยาทขึ้นมาฉับพลัน ย่อมไม่ใช่เพราะจู่ๆ เขาเกิดจิตสำนึกคิดจะปล่อยลั่วล่างไป หากแต่เทียบกับท่าทีเปราะบางขัดเขินของลั่วเฉาแล้ว ลั่วล่างที่หน้าแดงก่ำเพราะความโกรธ ดวงตาสองข้างลุกโชนด้วยไฟโทสะทำให้เขาเปลี่ยนเป็นงดงามจับตา เขาเหมือนกับดอกกุหลาบแดงที่แย้มบานอย่างหยิ่งทระนง และนั่นทำให้เจี่ยงเส่าอวี่รู้สึกตกตะลึงพรึงเพริด
หัวใจของเขาเต้นโครมครามขึ้นมาจนยากจะควบคุม เสน่ห์เย้ายวนล่อลวงวิญญาณผู้คนของลั่วล่างทำให้เขาที่เป็นเสือผู้หญิงมือเก๋าต้านทานไม่ไหวเช่นกัน ลุ่มหลงอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เขาที่เดิมทีแค่คิดจะเล่นๆ ด้วยเท่านั้น เป็นครั้งแรกที่มีความปรารถนาอยากล็อกอีกฝ่ายไว้ในอ้อมกอดของตัวเองตลอดกาล หวังว่าผู้หญิงที่สะกดสายตาตรงหน้านี้จะผลิบานความงดงามของเธอเพื่อเขาเท่านั้น
“เป็นเพื่อน?” มุมปากของลั่วล่างเบ้ขึ้นเล็กน้อย ดวงตาที่หรี่ลงน้อยๆ เผยจิตสังหารออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่ ลั่วล่างเกลียดคนที่จิตใจบิดเบี้ยวขึ้นมาเพราะใบหน้าของเขามากที่สุด
“ใช่แล้ว ขอแค่ให้โอกาสพี่ชายสักครั้ง ฉันจะทำให้เธอพอใจแน่นอน” บางทีเจี่ยงเส่าอวี่อาจจะโดนหน้าตาของลั่วล่างดึงดูดจนไม่ได้สังเกตเห็นไฟโทสะที่กำลังจะปะทุขึ้นมาของลั่วล่าง รวมถึงจิตสังหารที่ควบคุมไว้ไม่อยู่ด้วย เขาเอ่ยปากหยอกเย้าอีกครั้ง น้ำเสียงยังดูหยาบคาย แฝงไปด้วยความลามก กล่าวจบ เขาก็เดินขึ้นหน้ามาหนึ่งก้าวอย่างรนหาที่ตาย ยื่นมือขวาออกมา พยายามสัมผัสดวงหน้างดงามของลั่วล่างลวนลามอีกฝ่าย
“รนหาที่ตาย!” ลั่วล่างที่เหลืออดเหลือทนก็ลงมือในที่สุด มือขวาของเขากำหมัด พุ่งเข้าไปซัดใบหน้าของเจี่ยงเส่าอวี่อย่างอำมหิตด้วยพละกำลังขั้นสูงสุดของระดับพลังปราณขั้นต้น
อย่างไรเสีย เจี่ยงเส่าอวี่คืออันดับหนึ่งของโรงเรียนทหารชายที่สอง พลังปราณที่ลั่วล่วงระเบิดออกมาอย่างฉับพลันทำให้เขาทำการตอบสนองในพริบตา มือขวาที่เดิมทีอยากแต๊ะอั๋งเข้าไปรับหมัดดุดันของลั่วล่างตรงกลางทาง
เสียง ‘ตูม’ ดังอื้ออึง! พลังแฝงที่แข็งแกร่งสองสายกำลังเผชิญหน้ากัน พลังแฝงมหาศาลที่เกิดขึ้นเนื่องจากปะทะกันอย่างดุเดือดทำให้ผู้คนรอบด้านยืนไม่อยู่ทันที พวกคนที่โอบล้อมจ้าวจวิ้นถอยหลังไปหลายก้าวอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ออกห่างจากลั่วล่างกับเจี่ยงเส่าอวี่ภายใต้การบีบคั้นของพลังแฝงเหล่านี้ ส่วนจ้าวจวิ้นพอสัมผัสได้ถึงพลังแฝงมหาศาลนี้ แววตาของเขาก็ส่องวาบ หลังจากนั้นก็ทำเป็นต้านทานพลังที่เกินมาพวกนี้ไว้ไม่ได้เช่นกัน ถอยหลังติดต่อกันหลายก้าวเหมือนกับคนของเจี่ยงเส่าอวี่
ลั่วล่างกับเจี่ยงเส่าอวี่ปะทะกันอย่างรุนแรงหนึ่งกระบวนท่า ร่างของทั้งสองโคลงเคลงเล็กน้อยพร้อมกัน ทว่าสองเท้ากลับยืนอย่างมั่นคงมาก ลั่วล่างขมวดคิ้ว ไม่นึกเลยว่าคนตรงหน้านี้จะมีความสามารถด้านการต่อสู้มือเปล่าแข็งแกร่งมากด้วย ไม่ได้ด้อยกว่าเขาเลย ถึงขนาดที่ยังสูงกว่าเขาเล็กน้อย ควรรู้เอาไว้ว่าเขาเป็นคนบุกโจมตี ส่วนอีกฝ่ายกลับรับมืออย่างฉุกละหุก ทว่าผลลัพธ์กลับสูสีกัน นี่ทำให้ลั่วล่างระแวดระวังขึ้นมา เขาไม่อาจเสียท่าง่ายๆ เพราะความประมาทอีก ปีที่แล้วเขาตกหลุมพรางของคนอื่น ทำให้ลั่วล่างได้รับบทเรียนมามากพอแล้ว
“ระดับพลังปราณ?!” เจี่ยงเส่าอวี่เก็บงำรอยยิ้มของตัวเองแล้วเช่นกัน เขาไม่คาดคิดว่า เด็กสาวที่เขาต้องตาต้องใจโดยไม่คาดคิดจะมีทักษะการต่อสู้มือเปล่าแข็งแกร่งขนาดนี้ ไม่เข้ากับรูปลักษณ์ภายนอกที่อ่อนแอเปราะบางของเธออย่างสิ้นเชิง
“นายก็ด้วยไม่ใช่หรือไง?” ลั่วล่างยิ้มหยัน ทว่าไม่ได้โจมตีต่อ หากแต่กวาดตามองร้านค้าหนึ่งรอบอย่างรวดเร็ว ดูว่าฝ่ายตรงข้ามยังมีลูกไม้อะไรอีกหรือเปล่า
เวลานี้ร้านค้ามีคนอยู่ไม่กี่คนแล้ว เมื่อสักครู่ลั่วล่างต่อกรกับเจี่ยงเส่าอวี่หนึ่งกระบวนท่า พลังแฝงอันทรงพลังทำให้คนดูออกทันทีว่า สองคนนี้เป็นยอดฝีมือระดับพลังปราณแน่นอน ลูกค้าในร้านจึงพากันวิ่งออกมาจากร้านอุปกรณ์เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนลูกหลง คนที่ยังกล้าอยู่ต่อ นอกจากคนที่เจี่ยงเส่าอวี่พามาแล้ว คนอื่นๆ ต่างเป็นยอดฝีมือที่มีความสามารถไม่อ่อนด้อย มั่นใจในตัวเอง ส่วนพนักงานในร้านก็หลบอยู่ด้านข้างนานแล้ว
สาเหตุที่ไม่มีคนออกมาไกล่เกลี่ยเป็นเพราะสินค้าของร้านต่างมีบาเรียป้องกันคุ้มครองไว้ทั้งหมด นอกเสียจากพวกเขาซัดใส่บาเรียโดยตรงแล้ว อาศัยเพียงคลื่นพลังที่เกินมาพวกนี้ย่อมไม่อาจทำลายได้
“ชักน่าสนใจแล้ว ไม่นึกเลยว่าผู้หญิงที่ฉันต้องตาจะเป็นยอดฝีมือระดับพลังปราณ” เจี่ยงเส่าอวี่เลียริมฝีปากตัวเองด้วยความตื่นเต้น สนใจลั่วล่างมากขึ้น จะว่าไปเขายังไม่เคยเล่นกับผู้หญิงระดับพลังปราณมาก่อนเลย เขายิ่งตื่นเต้นขึ้นไปทุกที
“ผู้หญิง?” ลั่วล่างตะลึงงัน แต่แป๊บเดียวดวงหน้าสวยงามก็แดงก่ำเพราะความโกรธขึ้งอีกครั้ง เดิมทีเขานึกว่าอีกฝ่ายเบี่ยงเบน แค่โดนใบหน้าของเขาดึงดูดเท่านั้น ไม่นึกเลยว่าเขาจะโดนอีกฝ่ายเข้าใจผิดว่าเป็นผู้หญิง นี่ไม่ได้บอกว่า เขา ลั่วล่างเหมือนผู้หญิงเหรอ? เป็นการสบประมาทเขาอย่างแน่นอน
ในที่สุดลั่วล่างที่ไฟโทสะพุ่งเสียดฟ้าระเบิดพลังระดับสูงสุดของพลังปราณขั้นต้นออกมาทั้งหมด เจี่ยงเส่าอวี่ที่อยู่ใกล้การโจมตีมากที่สุดก็อดหน้าเปลี่ยนสีไม่ได้เหมือนกัน เขานึกไม่ถึงว่า พลังบนตัวลั่วล่างจะแข็งแกร่งขนาดนี้…
แววตาของเจี่ยงเส่าอวี่ไหววูบ ทันใดนั้นเขาก็ตะโกนว่า “เข้าไปพร้อมฉัน!” เขาพุ่งไปหาลั่วล่างเป็นคนแรก การลงมือในครั้งนี้ เจี่ยงเส่าอวี่ไม่เพียงทุ่มสุดกำลัง ขณะเดียวกันก็ลงมืออย่างอำมหิตสุดขีด เขาต้องพาผู้หญิงคนนี้ไปก่อนที่กลุ่มเทศกิจของตลาดจะมาถึง ไม่เช่นนั้น เขาอยากได้ตัวอีกฝ่ายก็ต้องรอคอยโอกาสไปอีก และฝ่ายตรงข้ามโดนเอารัดเอาเปรียบในครั้งนี้ เกรงว่าคงจะไม่ออกจากเขตที่พักจนกว่าการประลองจะสิ้นสุดลงแล้ว ในเขตที่พักมีกล้องวงจรปิดนับไม่ถ้วน ไม่อาจเคลื่อนไหวได้
เขาย่อมไม่กลัวว่าเขาจะลงมือหนักเกินไปจนอีกฝ่ายเสียชีวิต ยอดฝีมือระดับพลังปราณมีความสามารถต้านทานการโจมตีที่แข็งแกร่งมาก เวลาเดียวกัน ความสามารถในการเยียวยาตัวเองก็เหนือชั้นด้วย และบวกกับเทคโนโลยีในปัจจุบัน ตราบใดที่อีกฝ่ายยังมีลมหายใจก็สามารถช่วยชีวิตกลับมาได้
บางทีลูกทีมของเจี่ยงเส่าอวี่อาจจะทำเรื่องแบบนี้มาตลอด สิ้นคำสั่งของเจี่ยงเส่าอวี่ ก็ไม่มีใครลังเลเลย รวมถึงคนที่เดิมทีคุมจ้าวจวิ้นไว้ก็พุ่งไปหาลั่วล่างพร้อมกัน เตรียมพร้อมล้มอีกฝ่ายแล้วพาตัวไป
‘ผัวะๆๆ!’ เหล่าคนที่พุ่งไปหาลั่วล่างต่างล้มไปกองกับพื้นทันใด หลายคนที่อยู่ใกล้ๆ มองไปด้วยความตกตะลึง ถึงค่อยพบว่า จ้าวจวิ้นที่โดนพวกเขามองข้ามพลันปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าคนที่เข้าไปโจมตีพวกนั้น ก่อนจะจัดการคนเหล่านั้นอย่างหมดจดในช่วงเวลาไม่กี่วินาที
เจี่ยงเส่าอวี่ปะทะกับลั่วล่างอีกครั้ง ทว่าคราวนี้ทั้งสองไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว พวกเขาถอยหลังไปหลายก้าวอย่างควบคุมไม่อยู่ ลั่วล่างยังต้องถอยหลังมากกว่าเจี่ยงเส่าอวี่ถึงสามก้าว นี่ก็พิสูจน์แล้วว่า ความสามารถของเจี่ยงเส่าอวี่สูงกว่าลั่วล่าง
“ระดับเริ่มต้นของพลังปราณขั้นสูง” ลั่วล่างกล้ำกลืนเลือดลมที่ตีขึ้นมา จ้องมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชาอำมหิต ฝ่ายตรงข้ามเหนือกว่าเขาหลายขั้น เขาโดนอีกฝ่ายข่มอย่างสิ้นเชิงแล้ว
เจียงเส่าอวี่ไม่ตอบ หากแต่มองไปยังจ้าวจวิ้นที่อยู่ไม่ไกลจากเขาด้วยใบหน้าทะมึน “ระดับพลังปราณ? ไม่นึกเลยว่าเพื่อนของเธอจะแข็งแกร่งขนาดนี้ ดูเหมือนยังแข็งแกร่งกว่าเธอนิดหน่อยด้วย” โดยพื้นฐานแล้ว ลูกทีมของเขาต่างอยู่ในขั้นสูงสุดของระดับขัดเกลา ขาดอีกแค่ก้าวเดียวก็สามารถเข้าสู่ระดับพลังปราณได้แล้ว การที่จะเอาชนะพวกเขาได้จำเป็นต้องอยู่ระดับพลังปราณ นอกจากนี้อีกฝ่ายยังจัดการได้สบายๆ ขนาดนี้ด้วย เจี่ยงเส่าอวี่เดาว่าอีกฝ่ายน่าจะไปถึงระดับพลังปราณช่วงกลางแล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าอยู่ในขอบเขตย่อยไหน
ลั่วล่างได้ยินคำกล่าวก็ตอบกลับอย่างภาคภูมิใจว่า “คนที่เป็นเพื่อนร่วมทีมของฉันจะต้องแข็งแกร่ง”
หัวใจของเจี่ยงเส่าอวี่หนักอึ้ง ท่าทีเช่นนี้ของอีกฝ่ายบ่งบอกชัดเจนว่า เธอไม่ได้พูดโกหก เขาไม่คาดคิดว่าชายร่างโตที่ติดตามข้างกายลั่วเฉาไม่ได้เป็นคนที่มาเป็นเพื่อน หากแต่เป็นเพื่อนร่วมทีมเดียวกัน คาดการณ์ล่วงหน้าได้เลยว่า เพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ ของเธอไม่มีทางอ่อนด้อยแน่นอน ถ้าเกิดปล่อยให้เพื่อนร่วมทีมของเธอมาทันเวลาละก็…
————————