I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 448 การประลองหุ่นรบเดี่ยว!
เมื่อเวลาไหลผ่านไป ผลการแข่งขันรายการต่างๆ ก็ออกมาแล้ว
นอกจากอันดับหนึ่งของปฐมพยาบาลแพทย์ทหารที่คว้ามาได้นานแล้ว ถัดจากนั้นก็เป็นเส้นทางยานบินที่หานจี้จวินเข้าร่วม ถึงแม้ผลคะแนนในตอนท้ายสุดของหานจี้จวินก็ได้แค่อันดับที่ยี่สิบเจ็ด แต่ก็ก้าวหน้าขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับอันดับที่สี่สิบสามตอนที่อยู่รอบตัดสินสุดท้าย
ในฐานะที่เป็นนักเรียนปีสองเพียงสองคนที่เข้าร่วมการประลองเส้นทางยานบิน ผลคะแนนของหานจี้จวินมีค่าพอให้ยกย่องและภาคภูมิใจอย่างไม่ต้องสงสัย ทว่าการประลองเส้นทางยานบินคราวนี้มีลั่วเฉาปรากฏตัวขึ้นมา ทุกคนเลยมอบความชื่นชมให้กับสาวน้อยคนนี้ ลั่วเฉาที่อยู่ชั้นปีสองเช่นเดียวกันแสดงผลงานได้ยอดเยี่ยมสุดขีดในรอบตัดสิน ท้ายที่สุดถ้าไม่ใช่เพราะเธอหละหลวมในช่วงเวลาสำคัญ จนทำให้ผู้เข้าแข่งขันที่ตามหลังมาติดๆ บังคับยานบินแซงหน้ายานบินของเธอไปได้ในวินาทีสุดท้ายละก็ บางทีเธออาจสร้างประวัติศาสตร์ที่นักเรียนปีสองเข้าร่วมการประลองก็คว้าแชมป์มาได้ สุดท้ายเธอได้แต่กลายเป็นที่สองอย่างน่าเสียใจเท่านั้น
แต่ลั่วเฉาไม่ได้ผิดหวังเลย เดิมทีเธอมาเข้าร่วมการประลองก็เพราะอยากให้ลูกพี่หลานเห็นการเติบโตของเธอ แน่นอนว่าเธอยังไม่ได้เติบโตจนถึงขั้นสมบูรณ์แบบที่สุด แต่เธอเชื่อว่าขอเพียงพยายามต่อไป ต้องมีสักวันที่เธอจะกลายเป็นกัปตันที่ยอดเยี่ยมที่สุดของสหพันธรัฐ คอยปกป้องคุ้มครองลูกพี่หลานกับพวกพี่ชาย
รายการอื่นๆ ก็ทยอยกันแข่งขันเสร็จแล้ว การประลองทักษะต่อสู้มือเปล่า ฉีหลงหยุดอยู่ที่อันดับแปด แต่ว่าได้รับผลประโยชน์มามากมาย ที่แท้จุดคอขวดที่เดิมทีติดแน่นไม่ขยับเขยื้อนมาโดยตลอดก็คลายลงในที่สุด ขอเพียงกลับไปพยายามฝึกฝนสักหน่อยก็สามารถทะลวงขอบเขตตอนนี้ เข้าสู่ขั้นต้นของระดับสูงได้
ส่วนสี่คนที่เหลือ คนหนึ่งหยุดอยู่ที่หนึ่งร้อยอันดับแรก อีกคนเข้าสู่ห้าสิบอันดับแรก ขณะที่อีกคนเข้าสู่สิบหกคนแรก และยังมีอีกคนเข้าสู่สี่อันดับแรก น่าเสียดายที่ตอนรอบรองชนะเลิศเจอกับยอดฝีมือระดับท็อปของชั้นปีหกที่ทักษะการต่อสู้มือเปล่าอยู่ระดับสุดยอดขั้นสูงสุดแล้ว จึงจำเป็นต้องพ่ายแพ้ไปอย่างกล้ำกลืนฝืนทน และยอดฝีมือระดับท็อปคนนั้นก็คว้าอันดับหนึ่งไปตามที่คาดไว้
ทว่าคะแนนรวมของทั้งห้าคนมีไม่น้อยเลย เมื่อรวมกันขึ้นมาก็จัดอยู่ในคะแนนอันดับสามของทักษะการต่อสู้มือเปล่าจากทุกโรงเรียน หลิงหลานไม่ได้รู้สึกผิดหวังเลย
ฉางซินหยวนผ่านการประลองหลายรอบ ในที่สุดก็หลุดพ้นปัญหาทางจิตใจ ผ่านไปแต่ละรอบ อันดับก็เขยิบขึ้นหน้าไปทีละนิดเสมอ จนกระทั่งรอบชิงชนะเลิศในตอนสุดท้าย เขาปรับแต่งหุ่นรบระดับสูงตัวหนึ่งออกมาได้สำเร็จ รูปลักษณ์ภายนอกงดงามและหลักการการออกแบบก็สมเหตุสมผลมาก หลังจากคณะกรรมการปรึกษากันแล้ว ท้ายที่สุดก็ประกาศว่าฉางซินหยวนเป็นผู้ชนะในการประลองครั้งนี้ ทำให้ฉางซินหยวนดีใจจนน้ำตาไหล
การประลองวางแผนกลยุทธ์ที่ตามมาติดๆ นั้น หานจี้จวินพลิกสถานการณ์กลับมา เข้าสู่สามอันดับแรกของผลคะแนนสุดท้าย โดยที่ได้อันดับสาม ส่วนอันดับหนึ่งกับอันดับสองตกเป็นของโรงเรียนทหารชายที่สองกับโรงเรียนทหารสหศึกษาที่หนึ่ง หานจี้จวินไม่ได้รู้สึกอับอายขายหน้าที่พ่ายแพ้ให้กับผู้เข้าแข่งขันจากทั้งสองโรงเรียนนี้เลย
ขณะเดียวกันผลคะแนนสุดท้ายของหลี่หลานเฟิงอยู่ที่อันดับสิบสาม อันดับนี้สามารถได้รับคะแนนที่ไม่เลว ขณะเดียวกันก็ทำให้ผู้เข้าแข่งขันจากโรงเรียนอื่นๆ มองข้ามเขาไปด้วย เขาได้รับสิ่งที่เขาต้องการแล้ว และก็พอใจมาก
ในระหว่างนี้ หลิงหลานแอบไปเจอหลานลั่วเฟิ่งภายใต้การนำของหลิงเซียว สัมผัสได้ถึงความรักของมารดาที่ใกล้จะเอ่อล้นออกมาของหลานลั่วเฟิ่ง ท่ามกลางการพูดจู้จี้จุกจิกด้วยความเป็นห่วงของหลานลั่วเฟิ่ง หลิงหลานตื้นตันใจพลางลอบขอความช่วยเหลือจากพ่อของตัวเอง…ฮือๆๆ ไม่ได้เจอแม่มาหนึ่งปี แม่เปลี่ยนเป็นขี้บ่นขึ้นแล้ว…
ในที่สุดหลิงหลานก็สัมผัสได้ถึงความรู้สึกอยากต่อต้าน ถึงแม้วัยต่อต้านของเธอจะมาช้าขนาดนี้ อายุสองชาติบวกกันก็ใกล้จะสี่สิบแล้ว หลิงหลานคิดถึงเรื่องนี้ก็อับอายขายหน้ามาก เธอทำผิดต่ออายุทางจิตใจของตัวเองเหลือเกิน
เมื่อรู้ว่าหลิงเซียวจะจากไปหลังจากที่การต่อสู้ประจัญบานสิ้นสุดลง หลิงหลานก็ยืนยันกับหลานลั่วเฟิ่งย้ำๆ ว่า เธอจะต้องหาเวลามาพบอีกฝ่ายในระหว่างศึกประลองหุ่นรบนี้แน่นอน ถึงทำให้หลานลั่วเฟิ่งยอมปล่อยตัวเธอไปได้ ขณะที่หลิงหลานจากไปนั้น เธอก็บอกใบ้พ่อของเธออย่างไร้เสียงว่า พยายามทำงานเข้า ให้แม่ของเธอท้องไวๆ เธอจะได้หลุดพ้นเสียที…
พอโยนคำพูดเป็นนัยๆ เหล่านี้ออกไป หลิงหลานก็ตบก้นหนีไปอย่างไม่รับผิดชอบ ทิ้งหลิงเซียวที่อึ้งงันระคนเซ่อซ่าไว้ ปลายหูและแก้มของเขาเปลี่ยนเป็นแดงระเรื่ออย่างรวดเร็ว นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกอับอายต่อหน้าลูกสาวตัวเอง
น่าเสียดาย…หลิงเซียวถอนหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่ง ทว่าแป๊บเดียวก็แย้มยิ้มออกมา ชั่วชีวิตนี้เขาไม่เสียใจแล้วที่ได้มีลูกสาวอย่างหลิงหลาน
เมื่อถึงวันที่เจ็ดของศึกการประลอง การแข่งขันเฉพาะทางใหญ่น้อยอื่นๆ ทยอยกันสิ้นสุดลง โดยส่วนใหญ่แล้วโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งอยู่ในอันดับต้นๆ หลังจากคำนวณดูแล้ว คะแนนโดยรวมของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งจัดอยู่ที่อันดับแรก แต่โรงเรียนทหารชายที่สอง โรงเรียนทหารชายที่สาม รวมถึงโรงเรียนทหารสหศึกษาที่หนึ่งก็ตามหลังมาติดๆ คะแนนระหว่างโรงเรียนทั้งสี่ใกล้กันมาก แทบจะห่างกันไม่กี่คะแนนเท่านั้น…
สายตาของทุกคนล้วนจับจ้องไปยังการประลองหุ่นรบที่เปิดม่านขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ควรรู้เอาไว้ว่า หากมีโรงเรียนไหนสักแห่งจากในหมู่อีกสามโรงเรียนเป็นผู้ชนะการประลองหุ่นรบในตอนสุดท้ายได้ พวกเขาก็จะทำลายสถานการณ์ในปัจจุบัน กลายเป็นคนที่วิ่งนำในรวดเดียว
พูดถึงตรงนี้ก็ต้องอธิบายการแบ่งคะแนนการแข่งขันรายการต่างๆ ในศึกประลองหุ่นรบสักหน่อย ก่อนอื่น การต่อสู้ประจัญบานที่สำคัญที่สุดซึ่งเป็นการแข่งขันในวันสุดท้ายจะมีคะแนนโดยรวมครึ่งหนึ่ง หรือก็คือ ต่อให้คะแนนสะสมก่อนหน้านี้อยู่รั้งท้าย ทว่าตราบใดที่สามารถเอาชนะการต่อสู้ประจัญบานในตอนสุดท้าย พวกเขาก็ยังพลิกสถานการณ์กลับมาได้ เช่นเดียวกันกับที่ว่า ต่อให้คะแนนสะสมก่อนหน้านี้อยู่อันดับสูงสุด ถ้าเกิดอันดับของการต่อสู้ประจัญบานในตอนสุดท้ายไม่ดี ก็จะร่วงหล่นจากก้อนเมฆลงมายังโคลนตมด้วยเหมือนกัน
ส่วนคะแนนรวมครึ่งหนึ่งที่เหลือนั้น การประลองหุ่นรบก็ยึดครองครึ่งหนึ่งของคะแนนนี้แล้ว นี่ก็คือสาเหตุว่าเพราะอะไรทุกคนถึงเพ่งความสนใจที่การประลองหุ่นรบ และคะแนนมหาศาลนี้ก็ถูกแบ่งเป็นสองส่วน ซึ่งแบ่งออกเป็นการประลองหุ่นรบเดี่ยวกับการประลองหุ่นรบกลุ่ม (ทีมห้าคน)
การประลองที่จัดขึ้นก่อนก็คือการประลองหุ่นรบเดี่ยว ไม่ว่าจะเป็นการประลองหุ่นรบเดี่ยวหรือว่ากลุ่มล้วนใช้หุ่นรบของจริง ซึ่งมีความเสี่ยงเหมือนกัน และการประลองหุ่นรบกับการต่อสู้ประจัญบานในตอนสุดท้ายล้วนมีการหลั่งเลือดทุกรอบ ถึงขนาดเคยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่เลือดไหลรินเป็นแม่น้ำ อัจฉริยะที่โดดเด่นถูกเด็ดปีกอยู่ที่นี่ไม่น้อย
เคยมีคนแนะนำให้เปลี่ยนเป็นการต่อสู้หุ่นรบเสมือนจริงแทน แต่สุดท้ายยังคงถูกกองทัพปฏิเสธ ทางกองทัพคิดว่า ขนาดการประลองที่มีลักษณะแลกเปลี่ยนความรู้กันแบบนี้ยังปกป้องตัวเองไม่ได้ เช่นนั้นก็ยิ่งไม่สามารถอยู่รอดในสนามรบที่โหดร้ายได้ ไม่สู้ออกไปจากกองทัพเสียตั้งแต่ตอนนี้เลยดีกว่า (โดยทั่วไปแล้วศึกประลองหุ่นรบจะเกิดการพิการบาดเจ็บสาหัสแน่นอนว่ามีการล้มตายด้วยเช่นกัน เพียงแต่ไม่เยอะมาก อย่างไรเสีย ทุกคนล้วนมีการบันยะบันยังในตอนที่ประลอง กอปรกับหน่วยแพทย์ที่เก่งที่สุดของสหพันธรัฐเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือตลอดการประลอง ต่อให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นก็สามารถช่วยเหลือผู้บาดเจ็บโดยเร็วที่สุดได้)
ในที่สุดเฉียวถิง ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาที่ได้รับความสนใจจากผู้คนมากมายก็ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนแล้ว เขาไม่เพียงเข้าร่วมการประลองหุ่นรบเดี่ยว แต่ว่าเข้าร่วมการประลองหุ่นรบกลุ่มด้วย โดยปกติแล้ว ผู้เข้าประลองหุ่นรบเดี่ยวห้าคนที่โรงเรียนส่งมามักจะเป็นสมาชิกกลุ่มห้าคนของการประลองแบบกลุ่มด้วย ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นห้าคนที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขา ทว่าก็มีสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น โรงเรียนทหารชายที่หนึ่งในปีนี้ ตอนที่พวกเขาส่งใบสมัคร เจ้าหน้าที่ที่รับนึกว่าตัวเองตาลายไปชั่วขณะ
ในการประลองครั้งนี้เฉียวถิงมีคู่แข่งสำคัญอยู่สองคน แบ่งออกเป็นหลินเซียวที่สงสัยว่าจะเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาจากโรงเรียนทหารสหศึกษาที่หนึ่ง และเจี่ยงเส่าอวี่ที่ยืนยันแล้วว่าเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาจากโรงเรียนทหารชายที่สอง
ควรพูดว่า ทางผู้จัดได้เตรียมการไว้เหมาะสมมาก ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาทั้งสามคนไม่ได้เจอกันตั้งแต่ต้น การประลองหุ่นรบแบ่งออกเป็นสี่โซน ซึ่งผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาแต่ละคนต่างยึดครองกันคนละโซน มีเพียงไปถึงรอบสี่คนสุดท้าย พวกเขาถึงจะสามารถต่อสู้กันได้ แน่นอนว่าก่อนหน้านั้นไม่อาจแพ้ตกรอบโดยไม่คาดฝันได้
การประลองหุ่นรบเดี่ยวมีทั้งหมดสามวัน สองวันแรกเป็นการต่อสู้ห้ำหั่นของทั้งสี่โซน ผู้ชนะคนสุดท้ายของแต่ละโซนจะเข้าสู่รอบสี่คนสุดท้าย และทำการประลองกันในวันที่สาม หลังจากการประลองหุ่นรบเดี่ยวสิ้นสุดลงก็จะทำการประลองหุ่นรบกลุ่ม ซึ่งขั้นตอนการแข่งขันทั้งหมดก็เป็นสามวันเช่นเดียวกัน
จ้าวจวิ้นที่โดนหลิงหลานผลักออกไปเข้าร่วมการประลองเดี่ยวโชคดีกว่าผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ ที่มาจากโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งมาก ตอนที่จับฉลาก เขาไม่ได้จับโดนโซนที่มีผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาสามคนประจำการ หากแต่เป็นโซนเพียงหนึ่งเดียวที่มีเพียงหุ่นรบระดับพิเศษ และก็ถูกผู้ชมทั้งหมดคิดว่าเป็นโซนที่ห้ำหั่นกันอย่างรุนแรงมากที่สุดด้วย
และความจริงก็เป็นเช่นนั้น เนื่องจากโซนนี้ไม่มีไพ่ราชารั้งอยู่ ทุกคนเลยคิดว่าตัวเองมีโอกาสชนะขึ้นไปสู่จุดสูงสุด นี่เลยทำให้ไม่มีใครยอมถอย ทุกคนสู้กันจนถึงตอนสุดท้าย หุ่นรบทุกตัวต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง และโซนนี้เป็นหนึ่งในโซนที่ผู้ควบคุมหุ่นรบได้รับบาดเจ็บมากที่สุดและก็สาหัสมากที่สุดด้วย นี่เลยทำให้หน่วยแพทย์ที่เตรียมให้การช่วยเหลือฉุกเฉินอยู่ด้านข้างยุ่งกันเป็นระวิง ถึงค่อยช่วยเหลืออัจฉริยะที่โดดเด่นเหล่านี้กลับมาได้
จ้าวจวิ้นก็อยู่ท่ามกลางการห้ำหั่นนี้ เขาบุกซ้ายฝ่าทะลวงขวา ในที่สุดก็เข้าสู้รอบตัดสินของโซนนี้ได้ และได้เป็นสี่อันดับแรกเพียงหนึ่งเดียวที่ไม่ได้เป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชา ผลลัพธ์นี้ทำให้สามคนที่เหลือจากโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งอิจฉาริษยาแค้นเคือง พวกเขาโชคไม่ดีจับได้สามโซนที่อื่น และไม่ต้องสงสัยเลยว่า พวกเขาพ่ายแพ้ไปตามที่คาดไว้หลังจากที่ได้เจอกับผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาสามคนนั้น
หลังจากผ่านการต่อสู้ติดต่อกัน หลินเซียวจากโรงเรียนทหารสหศึกษาที่หนึ่งซึ่งแต่เดิมเก็บซ่อนความสามารถที่แท้จริงไว้ก็ได้พิสูจน์ว่าเขาเลื่อนขั้นเป็นไพ่ราชาแล้วจริงๆ และเข้าสู่รอบสี่คนสุดท้ายตามที่คาดการณ์ไว้ ส่วนเฉียวถิงกับเจี่ยงเส่าอวี่ก็ตามมาติดๆ คว้าโควตาเข้าสู่รอบสี่คนสุดท้ายของโซนพวกเขาได้
วันสุดท้ายของการประลองหุ่นรบเดี่ยว ผู้เข้าประลองสี่อันดับแรกมาถึงสนามประลองอย่างตรงเวลา เมื่อเดินไปถึงในสนาม ตอนนี้ยังไม่รู้แน่ชัดว่าคู่แข่งของพวกเขาแต่ละคนคือใคร เริ่มแรกกรรมการบนสนามประลองให้พวกเขาเลือกลูกบอลกันคนละลูกจากในหมู่ลูกบอลสี่ลูกที่กำลังกลิ้งอย่างรวดเร็วในอุปกรณ์ คนที่มีหมายเลขเหมือนกันก็คือคู่แข่งของพวกเขาในรอบแรก ผู้ชนะจะเข้าสู่รอบตัดสินสุดท้ายและชิงแชมป์กัน ส่วนผู้แพ้ก็จะชิงอันดับสามและอันดับสี่
คนที่ขึ้นไปบนเวทีเลือกลูกบอลเป็นคนแรกคือเจี่ยงเส่าอวี่ เฉียวถิงได้ยินจ้าวจวิ้นที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาสูดลมหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ถึงแม้กลุ่มหุ่นรบของพวกเขาสองคนจะเป็นศัตรูกัน ทว่าตอนนี้พวกเขาคือเพื่อนร่วมรบ เฉียวถิงคิดว่าเขาควรห่วงใยสักหน่อย ดังนั้นเขาเลยเอ่ยถามเสียงกระซิบว่า “เป็นอะไร นายเครียดเหรอ?”
จ้าวจวิ้นเลียริมฝีปาก เอ่ยพลางฝืนข่มกลั้นความตื่นเต้นว่า “ไม่ใช่ ฉันแค่กำลังคิดว่า คู่แข่งคนต่อไปของฉันคือใคร?”
“นายมีคู่แข่งที่อยากต่อสู้ด้วยหรือไง?” เฉียวถิงมองออกถึงความตื่นเต้นที่ซ่อนลึกอยู่ในแววตาของจ้าวจวิ้น เวลานี้เขาเองก็นึกถึงตอนที่จ้าวจวิ้นต่อสู้กับเขา ซึ่งเขามองไม่เห็นความหวาดกลัวใดๆ ของอีกฝ่ายเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่นหรอก เขาอดชื่นชมในใจไม่ได้ ลอบเอ่ยว่า ‘จ้าวจวิ้น หมอนี่ไม่เลวเลยจริงๆ’
“อื้อ ก็คนที่อยู่บนเวทีไง” จ้าวจวิ้นกล่าวพลางชี้ไปยังเจี่ยงเส่าอวี่โดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย
“ทำไมเป็นเขา?” เฉียวถิงอึ้งไป เทียบกับเจี่ยงเส่าอวี่แล้ว หลินเซียวดูเหมือนจะรับมือง่ายกว่านิดหน่อย
“เพราะว่าเขาเคยลงมือกับลั่วล่าง” จ้าวจวิ้นตอบเรียบๆ ดวงตาของเขาหรี่ลง ผุดจิตสังหารขึ้นมาเล็กน้อย ในเมื่ออีกฝ่ายกล้าลงมือกับเพื่อนร่วมทีมของเขา ต่อให้รู้อยู่แก่ใจว่าสู้ไม่ได้ แต่เขาก็ต้องทิ้งอะไรให้อีกฝ่ายไว้บ้าง…