I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 453 เดิมพันหรือไม่เดิมพัน?
หลิงหลานพาคนของหลิงเทียนเดินออกจากสนามประลอง ขณะที่กำลังผ่านปากทางสู่ด้านหลังเวที ก็ได้ยินเสียงโห่ร้อง หลิงหลานได้ยินเสียงก็มองไปก่อนจะพบว่านักเรียนทหารกลุ่มหนึ่งเฝ้ารออยู่ตรงนั้น และตอนนี้เองหลินเซียวที่เอ อาชนะเจี่ยงเส่าอวี่เดินออกมาจากปากทาง น่าจะเป็นเขาที่เรียกเสียงโห่ร้องเหล่านี้ขึ้นมา
หลี่หลานเฟิงที่สังเกตหลิงหลานมาโดยตลอดเห็นสายตาของหลิงหลานถูกนักเรียนทหารกลุ่มนี้ดึงดูดไป เขาเอ่ยปากอธิ บายว่า “คนพวกนี้เป็นผู้เข้าแข่งขันจากโรงเรียนทหารสหศึกษาที่หนึ่ง น่าจะมาต้อนรับหลินเซียวหัวหน้ากลุ่มของพวกเข ขา”
หลิงหลานได้ยินก็พยักหน้าน้อยๆ เธอย่อมรู้ว่านี่เป็นคนของโรงเรียนทหารสหศึกษาที่หนึ่ง เพราะว่าเธอเห็นร่างท ที่คุ้นเคยสองคนอยู่ในกลุ่มคนด้วย เป็นลั่วเฉากับหานซู่หย่า ทว่าความสนใจของทั้งสองอยู่ที่หลินเซียว เลยไม่ส สังเกตเห็นการมาถึงของพวกหลิงหลาน
เมื่อหลินเซียวออกมาก็พูดกับพวกลั่วเฉาหนึ่งประโยค จากความสามารถของหลิงหลานย่อมได้ยินชัดเจน หลินเซียวบอกว ว่า ไม่มีใครหน้าไหนที่รังแกคนของโรงเรียนทหารสหศึกษาที่หนึ่งแล้วยังสามารถทำตัวอวดเบ่งได้…คำพูดประโยคนี้ท ทำให้บรรดานักเรียนจากโรงเรียนทหารสหศึกษาที่หนึ่งฮึกเหิมไม่หยุด แววตาเต็มเปี่ยมด้วยความเคารพนับถือที่มีต่อหลิน เซียว กระทั่งลั่วเฉาที่ขี้อายมาโดยตลอดก็มองหลินเซียวด้วยความซาบซึ้งใจแวบหนึ่งเช่นกัน
มุมปากของหลิงหลานโค้งขึ้น ไม่ได้ชะงักฝีเท้า เดินเฉียดผ่านคนของโรงเรียนทหารสหศึกษาที่หนึ่งเช่นนี้เอง ทว่า ภายในห้วงจิตใจ หลิงหลานกลับสั่งเสี่ยวซื่อให้ช่วยส่งข้อความไปให้ลั่วเฉา
ทันใดนั้นลั่วเฉารู้สึกว่าข้อมือสั่นไหว เธอยกมือขึ้นมาดูก่อนจะพบว่ามีแจ้งเตือนข้อความ เมื่อเธอเปิดอ่านดู ใบ บหน้าก็เปลี่ยนเป็นแดงระเรื่อ มุมปากเผยรอยยิ้มหวานที่เขินอายออกมา
“น้องลั่วเฉา เธอมีรุ่นพี่ที่ดีนะ!” บนข้อความเขียนแค่ประโยคสั้นๆ ง่ายๆ นี้ ทว่าคนส่งกลับเป็นหลิงหลาน
ไม่นึกเลยว่า ลูกพี่หลานที่เย็นชาเรียบนิ่งมาโดยตลอดจะห่วงใยเธอขนาดนี้! หัวใจของลั่วเฉาเริ่มเต้นกระหน่ำขึ้น มา อดครุ่นคิดอย่างขัดเขินไม่ได้ว่า ในที่สุดการแอบหลงรักมานานหลายปีของเธอจะมีการตอบรับแล้ว?
……
ตอนบ่าย การประลองดำเนินต่อไป ซึ่งการประลองที่ดำเนินก่อนคือการประลองระหว่างอันดับสามและอันดับสี่ จ้าวจวิ้นกับ บเจี่ยงเส่าอวี่ต่างขับหุ่นรบของตัวเองขึ้นไปบนสนามประลองหุ่นรบ
เจี่ยงเส่าอวี่ยังไม่ได้กลับมาเป็นปกติจากการพ่ายแพ้ในตอนเช้า เขาไม่มีสมาธิมากนัก ในสมองยังคงผุดภาพการต่อสู้ก กับหลินเซียวเมื่อเช้า พอนึกถึงเขาโดนหลินเซียวโจมตีต่อเนื่องกันหกครั้งจน KO ในใจก็หงุดหงิดอย่างยิ่งยวด ตอนพ พักกลางวัน พวกอาจารย์ได้วิเคราะห์สาเหตุการพ่ายแพ้ให้เขา เขาแพ้ด้านความอดทน ใจเย็นไม่มากพอ รีบร้อนไปหน่อยถึงไ ได้ติดกับของหลินเซียว ถ้าเกิดเขาใจเย็นขึ้นอีกนิด อดทนอีกสักหน่อย บางทีผลลัพธ์ในตอนสุดท้ายอาจจะแตกต่างออกไ ไป
จนถึงตอนนี้เจี่ยงเส่าอวี่ยังคงยอมรับความจริงที่เขาพ่ายแพ้หลินเซียวไม่ได้ ในใจเขามีเพียงเฉียวถิงจากโรงเรียนทห หารชายที่หนึ่งเท่านั้นถึงจะเป็นคู่แข่งของเขา
กรรมการโบกธงสีเขียวลงมาฉับพลัน ให้สัญญาณว่าการประลองของทั้งสองคนเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
หลังจากการโบกสะบัดธงนี้ จ้าวจวิ้นก็พุ่งตัวออกห่างจากคู่ต่อสู้หลายร้อยเมตรทันทีราวกับเสือที่ออกมาจากกรง เข ขาเร่งเครื่องยนต์ไอพ่นทั้งหมดไปที่ความเร็ว พุ่งเป็นลำแสงสีดำตรงไปที่เจี่ยงเส่าอวี่
ถึงแม้หุ่นรบระดับพิเศษจะมีรูปแบบแตกต่างกันออกไปด้วยเช่นกัน แต่มันไม่ได้ปรากฏเป็นรูปแบบหุ่นรบที่เปลี่ยนแปลง จนถึงขีดสุดเหมือนกับหุ่นรบไพ่ราชา แม้ว่าหุ่นรบระดับพิเศษจะมีการเอนเอียงไปทางด้านความสามารถแล้ว แต่โดยรวมยั งคงมีแนวโน้มไปทางความสมดุล ดังนั้น เมื่อจ้าวจวิ้นเร่งเครื่องเต็มกำลัง ความเร็วของเขาจึงไม่ได้ช้าไปกว่าหุ่นรบ ไพ่ต่อสู้ระยะประชิดเลย ถึงขนาดที่พูดได้ว่า ยังเร็วกว่านิดหน่อย
การเคลื่อนไหวของจ้าวจวิ้นทำให้ทั่วทั้งสนามร้องอุทาน เนื่องจากเพื่อให้ได้ความเร็วนี้ จ้าวจวิ้นไม่ได้เปิดแม้ก กระทั้งโล่แสงป้องกันที่มีความจำเป็น นี่หมายความว่า ถ้าเกิดเขาไม่ทันระวังโดนยิงขึ้นมาหนึ่งนัด หุ่นรบที่ไม่มี โล่แสงป้องกันย่อม KO ออกไปจากสนามทันที และเจี่ยงเส่าอวี่คู่แข่งของเขาก็พิสูจน์การโจมตีระยะไกลของเขาในการแ แข่งเมื่อเช้าแล้วว่า ไม่ได้ด้อยไปกว่าการโจมตีระยะประชิดเลย การกระทำของจ้าวจวิ้นบุ่มบ่ามมากเกินไปอย่างไม่ต้อง งสงสัย…
ขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าการประลองรอบนี้จะสร้างสถิติจบเร็วที่สุดในปีนี้ สิบวินาทีหรือว่าห้าวินาที? ถ้าเกิดจ้ าวจวิ้นโชคไม่ดี อาจจะสิ้นสุดลงในสามวินาทีก็ได้
ทว่าแป๊บเดียวทุกคนกลับพบว่าความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เจี่ยงเส่าอวี่คล้ายกับตะลึงงันไปภายใต้โอกาสดีมากขนาดนี ไม่นึกเลยว่าเขาจะไม่สามารถยกปืนขึ้นมาได้ทันเวลา ขณะที่เขายกปืนขึ้นมา จ้าวจวิ้นก็มาถึงตรงจุดที่ห่างจาก เขาไปไม่ถึงห้าสิบเมตรแล้ว จากความเร็วของหุ่นรบ ระยะห่างห้าสิบเมตรแค่สองก้าวก็สามารถจัดการได้แล้ว
จนกระทั่งตอนนี้เอง จ้าวจวิ้นที่พุ่งตรงขึ้นหน้าอย่างกล้าหาญราวกับรนหาที่ตายมาตลอดค่อยถอนหายใจด้วยความโล่งอก เป็นเหมือนกับที่ลูกพี่หลานคาดการณ์ไว้จริงๆ ด้วย เจี่ยงเส่าอวี่ไม่ตั้งใจสู้กับเขาเพราะความดูถูก นี่เลยมอบโอก กาสให้เขาเข้าใกล้อีกฝ่าย
จ้าวจวิ้นเป็นนักสู้ประชิดตัวเหมือนกัน ถึงแม้การต่อสู้ระยะประชิดจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจี่ยงเส่าอวี่ด้วยเหมือนกัน แต่เมื่อเทียบกับการโจมตีระยะไกลแล้ว อาศัยความสามารถการยิงโจมตีที่อ่อนหัดของเขาย่อมต้องถูกเจี่ยงเส่าอวี่ระ ะเบิดตูดอย่างแน่นอน
เจี่ยวเส่าอวี่ถูกเสียงแจ้งเตือนของหุ่นรบเรียกสติกลับมา เขามองดูแวบหนึ่งก็ตื่นตระหนกจนหลั่งเหงื่อเย็นๆ ออกม มาโดยพลัน โชคดีที่เขาได้สติเร็ว ถ้าเกิดช้าไปอีกครึ่งวินาที เกรงว่าเขาอาจจะโดนจ้าวจวิ้นลอบโจมตีสำเร็จแล้ว
แต่ละคนน่าชิงชังทั้งนั้นเลย! โทสะของเจี่ยงเส่าอวี่โหมกระพือ เขาชูปืนลำแสงขึ้นมาทันที แล้วเหนี่ยวไกไปหาจ้าวจว วิ้นที่กำลังพุ่งตรงมา ในเมื่ออยากตาย งั้นฉันจะสนองแกเอง
ปากกระบอกปืนปล่อยลำแสงสว่างเจิดจ้าออกมาตามการเหนี่ยวไกนี้ เมื่อลำแสงกำลังจะยิงออกมา เวลานี้เอง ดาบสีดำที่เ เรียวยาวเล่มหนึ่งพลันแทงเสยเข้ามา เสียบตรงไปที่ปากกระบอกปืนลำแสง
‘ตูม!’ เสียงระเบิดดังสนั่นตามด้วยควันดำกลุ่มหนึ่งที่ทะลักออก เวลานี้หุ่นรบสองตัวคุมเชิงกันขึ้นมาแล้ว ผู้ ชมบางคน ที่มองเห็นชัดเจนย่อมรู้ว่านี่เป็นเพราะอะไร แต่ก็มีบางคนที่มองเห็นไม่ชัด มึนงงสับสน ไม่รู้ว่าเกิดเ เรื่องอะไรขึ้น หรือว่าเจี่ยงเส่าอวี่โจมตีโดนจ้าวจวิ้นแล้ว?
ขณะที่ทุกคนกำลังสงสัยอยู่นั้น หุ่นรบสองตัวต่างกระโดดถอยหลังทันที เมื่อหุ่นรบสองตัวแสดงตัวขึ้นที่เบื้องหน น้าทุกคนโดยสิ้นเชิงแล้วถึงค่อยรู้ว่า เสียงระเบิดนั้นมาจากที่ใด
ที่แท้ เวลานี้แขนซ้ายของเจี่ยวเส่าอวี่เต็มไปด้วยร่องรอยความเสียหาย ฝ่ามือของหุ่นรบถูกตัดออกไปครึ่งหนึ่ง เหลือ เพียงนิ้วโป้ง หน้าตัดที่แตกหักเผยให้เห็นสายไฟบางส่วนที่ออกมาด้านนอก และยังมีประกายไฟอยู่รางๆ ด้วย
ผู้คนร้องด้วยความตกใจขึ้นมาอีกครั้ง ไม่คาดคิดว่าการกระทำที่ดูเหมือนหุนหันพลันแล่นของจ้าวจวิ้นจะลอบโจมตีเจี่ยง งเส่าอวี่ได้สำเร็จ ฝ่ามือข้างซ้ายของอีกฝ่ายเปลี่ยนเป็นเช่นนี้แล้ว แทบจะไม่สามารถถือสิ่งของได้ พูดอีกอย่างก็ คือ เท่ากับว่าเจี่ยงเส่าอวี่เสียมือข้างหนึ่งไปแล้ว อย่างน้อยที่สุดกำลังรบของเขาจะลดลงไปสามส่วนเพราะเหตุนี้
เจี่ยงเส่าอวี่มองมุมขวาบนในหน้าจอ คะแนน 100 ซึ่งเป็นระบุถึงคะแนนของเขาพลันหมุนกลับอย่างรวดเร็ว เจี่ยงเส่าอวี่ รู้ว่านี่เป็นการหักคะแนนแล้ว อีกฝ่ายแทงเข้าไปในปากกระบอกปืนลำแสง ทำให้พลังงานไม่สามารถสาดยิงออกมาได้ จึงเ เกิดการระเบิดขึ้นภายในกระบอกปืนลำแสง น่าเศร้าที่เอเนอร์จอนภายในปืนลำแสงมีพลังงานเต็มเปี่ยม การระเบิดนี้จึงระเ เบิดพลังงานของเอเนอร์จอนโดยตรง ซึ่งมีอานุภาพมหาศาล ทำให้เขาเสียฝ่ามือข้างซ้ายของหุ่นรบเขาไปทันที
ในที่สุดคะแนนก็ค่อยๆ หยุดลง คะแนนที่มีอยู่ 70 เสียดแทงดวงตาของเจี่ยงเส่าอวี่จนเจ็บปวดอย่างล้ำลึก ไม่นึกเลยว่ าแค่เขาเสียสมาธิไปก็โดนอีกฝ่ายคว้าโอกาสลอบโจมตีได้สำเร็จ หักคะแนนอย่างมหาศาลไปหนึ่งครั้ง แทบจะลดคะแนนไปห หนึ่งในสาม นี่ทำให้เขารู้สึกอัปยศอดสู เขาโดนผู้ควบคุมระดับพิเศษคนหนึ่งทำร้ายเนี่ยนะ เส้นสติสัมปชัญญะในสมอง ของเขาระเบิดออกโดยพลัน เขาอยากฆ่าอีกฝ่าย จะต้องฆ่าอีกฝ่ายทิ้งให้ได้…แววตาของเจี่ยงเส่าอวี่เริ่มแดงก่ำ จิต ตสังหารอย่างรุนแรงสายหนึ่งเอ่อล้นออกมา
จ้าวจวิ้นลงมือสำเร็จในครั้งเดียว ในใจก็ตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งนับถือลูกพี่หลานจนแทบจะกราบพื้น ที่แท้ การกระทำชุดนี้ของเขาล้วนเป็นการชี้แนะจากหลิงหลานทั้งหมด หลิงหลานคิดว่า ตอนแรกอีกฝ่ายอาจจะไม่สามารถตั้ง งสมาธิจดจ่อกับการประลองได้เพราะในใจดูแคลนรวมถึงการพ่ายแพ้ในรอบเช้า ถ้าเกิดตอนเริ่มต้นการประลองใช้ความเร็วสู งสุดจากในทฤษฎีของหุ่นรบเข้าไปใกล้และลอบโจมตีอีกฝ่าย ก็มีโอกาสสำเร็จ แน่นอนว่าความเร็วสูงสุดที่ว่านี้คือ อละทิ้งทุกอย่าง และทุ่มพลังงานทั้งหมดไปที่ความเร็ว…
ตอนแรกจ้าวจวิ้นไม่เห็นด้วยกับคำแนะนำของลูกพี่หลาน มักจะคิดเสมอว่านี่มันเสี่ยงมากเกินไป ถ้าเกิดคาดการณ์ผิด เขาก็จะถูกอีกฝ่าย KO ออกไปจากสนาม กลายเป็นคนที่ออกจากสนามในระยะเวลาสั้นที่สุดในประวัติศึกประลองครั้งนี้ เช่นนั้นก็จะน่าขายหน้ามากเกินไปแล้ว
เมื่อเห็นจ้าวจวิ้นพะว้าพะวงใจ หลิงหลานแค่เอ่ยอย่างเรียบนิ่งว่า “ไม่เดิมพันจะต้องแพ้แน่นอน เดิมพันแล้วกลั บมีโอกาสตีเสมอ” ใช่แล้ว อย่างมากสุดก็คือตีเสมอ ความห่างชั้นของระดับหุ่นรบได้ดับโอกาสชนะของจ้าวจวิ้นไปแ แล้ว ต่อให้วางกลอุบายมากแค่ไหนก็เป็นเพียงผลการแข่งที่เสมอกันเท่านั้น
คำพูดของหลิงหลานทำให้จ้าวจวิ้นตระหนักขึ้นมาได้ ใช่แล้ว ถ้าไม่เดิมพัน จากความสามรถของเขา ต่อให้ต้านรับอย่า างสุดชีวิตก็เป็นเพียงยืดเวลาพ่ายแพ้ออกไปนิดหน่อยเท่านั้น ไม่สู้เดิมพันกันสักตั้ง แย่ที่สุดก็คือคำว่าพ่ายแพ พ้ไม่ใช่หรือไง?
อันที่จริงแล้ว หลิงหลานวางแผนการนี้โดยที่คิดว่ามีอัตราความสำเร็จถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ จากความคิดของหลิงหลาน น ตราบใดที่ไปถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ก็สามารถเดิมพันได้แล้ว หลิงหลานยังให้จ้าวจวิ้นยืมชางฉยงที่ตัวเองซื้อมาใหม ม่เพื่อเพิ่มอัตราความสำเร็จด้วย โดยปกติแล้วดาบยักษ์ที่หุ่นรบใช้จะเป็นประเภทดาบใบกว้าง หนักและแข็งแรงมั่นคง งมาก ไม่เหมาะกับการโจมตีที่ปราดเปรียวอยู่บ้าง ทว่าชางฉยงกลับมีความพิเศษเป็นเอกลักษณ์มาก มันเป็นดาบอ่อน และ ะมีความยืดหยุ่นสูงสุดขีด มันสามารถทำเรื่องที่ดาบใบกว้างทั่วไปทำไม่ได้
เพื่อให้จ้าวจวิ้นหาโอกาสดีที่สุดในการขัดขวางการโจมตีเจอ หลังจากกินข้าวเที่ยงเสร็จ จ้าวจวิ้นเลยถูกหลิงหลาน ลากไปฝึกฝนอย่างเร่งด่วนในหอประลองหุ่นรบ สิ่งสำคัญคือต้องทำความคุ้นเคยกับชางฉยง วิธีการใช้งานชางฉยงไม่เหมือน นกับดาบยักษ์ทั่วไป การฝึกฝนอย่างเร่งด่วนจึงมีความจำเป็นเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด
ในที่สุดความพยายามของจ้าวจวิ้นก็ได้รับผลตอบแทน และสมบูรณ์แบบที่สุดด้วย ควรรู้เอาไว้ว่า หลิงหลานกับจ้าวจวิ นได้วิเคราะห์สถานการณ์ของเจี่ยงเส่าอวี่ที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างละเอียดเพื่อรับประกันความสำเร็จ พวกเขาวางแผนการรั บมือที่สอดคล้องกันออกมาหลายชุด ไม่นึกเลยว่าสุดท้ายจะไม่ได้ใช้สักอันเลย
เวลานี้หัวใจของจ้าวจวิ้นรุ่มร้อนดั่งไฟเผา บางทีเขาอาจจะสร้างประวัติศาสตร์ขึ้นมาได้ นั่นก็ไพ่ราชากับระดับพ พิเศษก็มีความเป็นไปได้ที่จะตีเสมอกัน
แต่จ้าวจวิ้นก็ไม่มีเวลาไปครุ่นคิดพร่ำเพรื่อแล้ว ตอนนี้เขาทุ่มสมาธิเพ่งมองไปที่เจี่ยงเส่าอวี่ ไม่กล้ามีความประมา าททำผิดพลาดใดๆ เนื่องจากลูกพี่หลานเคยพูดไว้ว่า เมื่อเจี่ยงเส่าอวี่ได้รับบาดเจ็บ อีกฝ่ายจะต้องคลุ้มคลั่งแน่นอน น คาดการณ์ล่วงหน้าได้เลยว่า การโจมตีถัดจากนี้จะต้องมาอย่างท่วมท้น และภารกิจของเขาคือไม่ว่าอย่างไรก็ต้องต้า านทานการโจมตีรอบนี้ไปให้ได้ เมื่อเจี่ยงเส่าอวี่โจมตีอยู่นานแต่เอาชนะไม่ได้ พลังของอีกฝ่ายก็จะตกลง และนั่น ก็คือโอกาสของเขาแล้ว
อย่างที่คิดไว้เลย จ้าวจวิ้นเผชิญหน้ากับการโจมตีประหนึ่งพายุโหมฝนกระหน่ำ เจี่ยงเส่าอวี่ที่เดือดดาลคิดแค่ว่ าอยากฆ่าอีกฝ่ายเท่านั้น บวกกับการกดดันของระดับ ทำให้เจี่ยงเส่าอวี่ไม่เลือกโจมตีด้วยสิ่งที่เรียกว่าทักษะ หาก กแต่อาศัยแรงดุดันของตัวหุ่นรบ ต่อยอย่างโจ่งแจ้งไปหมัดแล้วหมัดเล่า จ้าวจวิ้นป้องกันตรงตำแหน่งสำคัญที่สุดขอ องตัวเองอย่างสุดชีวิต ถูกอีกฝ่ายบีบให้ถอยหลังไปช้าๆ เขามองคะแนนที่ค่อยๆ ลดลงไปด้วยความขมขื่น หยาดเหงื่อบนห หน้าผากไหลออกมาอย่างควบคุมไม่อยู่…