I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 455 พรสวรรค์ของเฉียวถิง!
ในขณะที่ดาบแสงของเจี่ยงเส่าอวี่ตวัดไปที่ห้องคนขับของจ้าวจวิ้นอีกครั้ง แขนของเขาพลันกระตุกขึ้นไปด้านบน ภายใน นห้องคนขับ จ้าวจวิ้นแผดเสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว ชางฉยงวาดออกไปเป็นครึ่งวงกลมส่องประกายแสงสีดำออกมาแวบหนึ่ง ง ตัวดาบตวัดขึ้นจากส่วนขาของอีกฝ่ายไปยังห้องคนขับ…
“อ้า…” จ้าวจวิ้นไม่ได้หลบหลีก หากแต่เลือกวิธีการบาดเจ็บด้วยกันทั้งสองฝ่ายทำให้ทุกคนในสนามร้องตกใจขึ้นมา ผ ผู้ชมผู้หญิงบางคนที่ขี้กลัวถึงขนาดกลัวจนใช้มือปิดหน้าทันที ปิดดวงตาสองข้างของตัวเองไว้ ไม่กล้ามองโศกนาฎกรร รมที่จะเกิดขึ้น
หลิงหลานที่เดิมทีกังวลใจมากเห็นฉากนี้เข้า สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างยิ่งยวด เธอลุกขึ้นมาฉับพลัน เวลานี้เธอทั้ง งโมโหทั้งตกใจอย่างมาก คิดมาตลอดว่าจ้าวจวิ้นเป็นคนใจเย็นและรู้เวล่ำเวลา บวกกับประสบการณ์ประลองหุ่นรบมาสี ปี เขาไม่มีทางเกิดการตัดสินใจผิดพลาดอะไร ไม่นึกเลยว่าเขาก็มีช่วงเวลาที่ไร้เหตุผลเช่นกัน ถึงกับไม่สนใจความปลอ อดภัยของชีวิตตัวเอง…
ในช่วงเวลาความเป็นความตายนี้เอง จู่ๆ ก็มีหุ่นรบตัวหนึ่งร่อนลงมาจากฟากฟ้า มันปรากฏตัวขึ้นเหนือศีรษะของหุ่นร รบทั้งสองตัวในชั่วพริบตา และกดพวกเขาที่กำลังจะบาดเจ็บด้วยกันทั้งคู่ลงไปที่พื้นทันที
เสียง ‘ตูม’ ดังสนั่น พื้นทั่วทั้งสนามประลองสั่นไหวอย่างควบคุมไม่อยู่เพราะแรงมหาศาลนี้ ภายในสนามตลบอบอวลไปด ด้วยฝุ่นดินที่ปลิวว่อนขึ้นมาทันที แต่ระหว่างสนามประลองกับที่นั่งคนดูมีเกราะป้องกันอยู่ พวกผู้ชมเลยไม่ได้รั บผลกระทบจากฝุ่นดินเหล่านี้
เมื่อฝุ่นขี้เถ้าในสนามกระจายหายไปจนหมด ผู้คนถึงค่อยมองเห็นได้ชัดเจน หุ่นรบที่มีสีสันพราวพร่างตัวหนึ่งกำ ำลังคุกเข่าลงข้างหนึ่งในสนามประลอง หุ่นรบตัวนั้นโน้มร่างท่อนบนเล็กน้อย สองมือห้อยลง กดหุ่นรบของเจี่ยงเ เส่าอวี่กับจ้าวจวิ้นลงกับพื้นอย่างเด็ดขาด
ส่วนเจี่ยงเส่าอวี่กับจ้าวจวิ้นก็เหมือนกับเต่าสองตัวก็ไม่ปาน ถูกกดให้นอนคว่ำบนพื้นอย่างน่าอเนจอนาถ พวกเขา ดูเหมือนยังคงดิ้นรนอยู่ อยากจะลุกขึ้นมา แต่น่าเสียดายที่ความสามารถของฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งมากเกินไป ไม่ว่าพวกเขา าจะต่อต้านอีกแค่ไหนก็ไร้ประโยชน์ การต่อต้านนี้กลับทำให้พวกเขายิ่งดูเหมือนเต่าอ้วนๆ
หุ่นรบแสนสะดุดตาที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันได้หยุดยั้งการประลองที่อาจจะเกิดการนองเลือดนี้ในที่สุด ทำให้ผู ชมทั่วทั้งสนามพลันถอนหายใจด้วยความโล่งอก และหลิงหลานที่เดิมทียืนตัวตรงรู้สึกตกใจและเดือดดาลอย่างยิ่ง เห ห็นฉากนี้เข้าก็ผ่อนคลายสีหน้า และกลับไปนั่งลงบนที่นั่งอีกครั้ง
หลิงหลานขมวดคิ้วแน่น และไม่โล่งใจเพราะจ้าวจวิ้นรอดพ้นจากวิกฤติ ดวงตาสองข้างของเธอหรี่ลงเล็กน้อย ความโกรธ แล่นวาบขึ้นมา เธอตัดสินใจแล้วหลังจากนี้จะหาโอกาสไปที่หอประลองกับจ้าวจวิ้นสักครั้ง และทำให้เขารับรู้ผลลัพธ์ อันน่าเจ็บปวดจากการที่หัวร้อนจนขาดสติด้วยตัวเอง
เวลานี้ทุกคนจำได้แล้วว่าหุ่นรบที่แสนสะดุดตาตัวนั้นคือหนึ่งในหุ่นรบระดับราชันทั้งห้าที่สหพันธรัฐเคยประก กาศออกมา เช่นนั้นก็ไม่ต้องสงสัยเลยสักนิดว่า ผู้ควบคุมหุ่นรบจะต้องเป็นผู้ควบคุมระดับราชันอย่างแน่นอน พวกเขาตก กตะลึงที่ผู้ควบคุมระดับราชันปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ในขณะเดียวกันก็ดีอกดีใจเช่นกัน อย่างไรเสีย ผู้ควบคุมหุ่นรบชั้นย ยอดที่อยู่เหนือกว่าไพ่ราชาขึ้นไปแทบจะไม่ปรากฏตัวในกิจกรรมที่ขนาดใหญ่แบบนี้เลย
จากการพูดคุยกระซิบกระซาบกันในตอนแรกค่อยๆ รวมกันเป็นเสียงโห่ร้องเรียกขานระดับราชันเป็นเสียงเดียวกัน ยืนยันว่ าทุกคนในโลกชื่นชมและรักเคารพยอดฝีมือชั้นยอดเหล่านี้ ถึงขนาดที่ยังเหนือกว่าดาราบันเทิงบางคนด้วย
เมื่อความคึกคักลดลง ผู้ชมที่ใจเย็นลงก็คาดเดาสาเหตุที่ผู้ควบคุมระดับราชันท่านนี้ปรากฏตัวขึ้นที่นี่ ถึงอย่างไ ไรศึกประลองหุ่นรบได้รวบรวมนักเรียนทหารที่โดดเด่นที่สุดจากทั่วทั้งสหพันธรัฐ เพื่อป้องกันความปลอดภัยของพวกเขา า ไม่ให้ถูกคนใจคดจ้องทำร้าย และไม่ให้เกิดโศกนาฎกรรมจากการพลั้งมือในการประลอง ทางกองทัพเลยส่งยอดฝีมือระด ดับราชันหลายท่านมาควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดไว้เป็นพิเศษ ถึงขนาดที่เพิ่มจำนวนของผู้ควบคุมระดับราชันจากพื้นฐานเดิมอ อีกหลายท่านเนื่องจากปีนี้มีผู้ควบคุมไพ่ราชาเพิ่มขึ้นมาสามคน
ความจริงแล้ว ทางกองทัพก็หวาดกลัวมากเหมือนกัน กลัวว่าไม่ระวังสูญเสียบรรดาอัจฉริยะของสหพันธรัฐไปอย่างไม่คาดฝัน ควรรู้เอาไว้ว่าอัจฉริยะแต่ละคนล้วนเป็นสมบัติล้ำค่าของพวกเขา
หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าทั้งสองคนจะไม่โจมตีใส่กันและกันอีก หุ่นรบระดับราชันตัวนั้นค่อยปล่อยสองมือของเขาออก และลุกขึ้นมา
เมื่อเจี่ยงเส่าอวี่กับจ้าวจวิ้นได้รับอิสระก็คลานขึ้นมาจากพื้น ทั้งสองคนจ้องมองกันและกัน ใช้สายตาอำมหิตที่ไม ม่มีใครล่วงรู้ถลึงตาใส่อีกฝ่ายอย่างดุดัน ถึงค่อยยืนตรงหน้าผู้ควบคุมระดับราชันอย่างว่าง่าย รอคอยคำตัดสินของอีก กฝ่าย
หลังจากที่พวกเขาสองคนละเมิดกฎของศึกการประลอง ส่วนลึกในใจพวกเขาก็เตรียมพร้อมรับการอบรมสั่งสอนแล้ว
“เจี่ยงเส่าอวี่ จ้าวจวิ้น เนื่องจากละเมิดกฎข้อบังคับของการประลองหุ่นรบ อีกทั้งสถานการณ์ยังร้ายแรงมาก ทางคณะก กรรมการตรวจสอบปรึกษาหารือกันแล้วว่าจะลงโทษพวกเธอสองคนดังนี้ หักคะแนนการประลองรอบนี้ 100 คะแนนทันที! เมื่อกา ารประลองแบบกลุ่มเริ่มต้นขึ้น เจี่ยงเส่าอวี่ห้ามเข้าประลองห้ารอบ จ้าวจวิ้นห้ามเข้าประลองสามรอบ” ผู้ควบคุมระดั บราชันได้รับคำตัดสินสุดท้ายจากคณะกรรมการตรวจสอบในหลังบ้านแล้ว ก็เริ่มอ่านคำประกาศวิธีที่คณะกรรมการการประลอง งจัดการกับพวกเขาสองคนอย่างเย็นชา
เจี่ยงเส่าอวี่ได้ยินบทลงโทษนี้ สีหน้าพลันเปลี่ยนไป เขาเป็นกำลังหลักอย่างแท้จริงของการประลองหุ่นรบแบบกลุ่ม ส สำหรับโรงเรียนของพวกเขาแล้ว การถูกห้ามแข่งขันห้ารอบย่อมเป็นการโจมตีอย่างร้ายแรงแน่นอน พูดก็คือ ก่อนที่ทีม จะเข้าสู่สิบอันดับแรก เขาไม่มีโอกาสออกไปประลองเลย หากต้องการคว้าชัยชนะก็ต้องอาศัยพวกเพื่อนร่วมทีมของเขาพ พยายามฟันฝ่าอย่างสุดชีวิต ถ้าเกิดพ่ายแพ้ไปก่อนหน้านั้นก็หมายความว่าตารางการประลองหุ่นรบในปีนี้ของเขาจบสิ้น ลงทั้งหมดแล้ว ได้แต่รอการต่อสู้ประจัญบานในวันสุดท้ายถึงจะสามารถเข้าสู่สนามรบได้อีกครั้ง
เจี่ยงเส่าอวี่ไม่อยากให้เป็นเช่นนี้ เขานำพาทีมมาก็อยากคว้าตำแหน่งแชมป์ของการประลองหุ่นรบเดียวและการประลอง แบบทีม ไม่ได้อยากมาเยือนเฉยๆ เท่านั้น ถึงแม้ผู้ชนะการประลองแบบเดี่ยวในตอนนี้จะตกไปอยู่ในมือคนอื่นแล้ว แต่ เขาไม่อยากทิ้งตำแหน่งผู้ชนะแบบกลุ่มไป
ในที่สุดสมองของเจี่ยงเส่าอวี่ก็ได้สติแจ่มชัดขึ้นมาภายใต้การโจมตีอย่างหนักหน่วงนี้ เขานึกถึงการต่อสู้ของตัวเอ องกับผู้ควบคุมระดับพิเศษ ก่อนจะหงุดหงิดใจ ลอบแค้นตัวเองที่ทำผลงานในการประลองรอบนี้ได้ย่ำแย่เช่นกัน สูญเสีย ยระดับมาตรฐานไปอย่างมาก ติดกับฝ่ายตรงข้ามซ้ำแล้วซ้ำเล่า กลายเป็นที่น่าหัวเราะ…
ทางฝั่งเจี่ยงเส่าอวี่ฉุนเฉียวมาก ทางด้านจ้างจวิ้นกลับไม่สนใจ เพราะว่าการประลองหุ่นรบถัดจากนี้ก็เป็นการประลอง งหุ่นรบแบบกลุ่มแล้ว เดิมทีเขาก็ไม่ใช่สมาชิกกำลังหลัก เป็นแค่ลูกทีมตัวสำรองคนที่หก จะได้ขึ้นสนามหรือเปล่าก ก็ยังต้องว่ากันอีกที
เนื่องจากทั้งสองคนถูกหักหนึ่งร้อยคะแนนพร้อมกันเช่นนี้เอง ก็หมายความว่าจ้าวจวิ้นกับเจี่ยงเส่าอวี่ออกจากสนามพร ร้อมกัน หลังจากที่กรรมการตรวจสอบหลายท่านของการประลองหุ่นรบปรึกษากันแล้ว ผลสุดท้ายคือ เจี่ยงเส่าอวี่กับจ้าวจว วิ้นอยู่อันดับที่สามเสมอกัน โดยที่เว้นว่างอันดับสี่ไว้…
พอรู้บทสรุปนี้ จ้าวจวิ้นก็แสยะยิ้มแหงนหน้ากู่ร้องยาวๆ เดิมทีเขาแค่อยากสร้างรอยแผลไว้บนเกราะด้านนอกหุ่น รบของอีกฝ่ายสักหลายๆ แผลเพื่อระบายความแค้น ช่วยแก้แค้นให้ลั่วล่างเท่านั้นตอนนี้ไม่เพียงทำลายแขนของอีกฝ่า ายได้ข้างหนึ่ง ยังทำลายดาบยักษ์เล่มหนึ่งด้วย ทำภารกิจสำเร็จเกินกว่าที่กำหนดไว้จริงๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือ เ เขาอยู่อันดับเดียวกับอีกฝ่าย นี่ย่อมเป็นที่รังเกียจของอีกฝ่ายแน่นอน คนที่อยู่เสมอกับเขาเป็นเพียงผู้ควบคุม มระดับพิเศษ…นี่หมายความว่า ความจริงแล้วเขาที่เป็นไพ่ราชาไม่มีความแตกต่างอะไรจากผู้ควบคุมระดับพิเศษเลย นี่ เป็นการตบหน้าจนแดงก่ำ สาดเกลือใส่หัวใจของอีกฝ่ายอย่างแท้จริง
เวลานี้ในใจจ้าวจวิ้นยิ่งนับถือหลิงหลานอย่างเหลือล้น แผนการที่ลูกพี่หลานวางไว้นี้ คำนวณการตอบโต้ที่เป็นไปไ ได้ทั้งหมดของคู่ต่อสู้ไว้ด้านใน ไม่ได้ด้อยไปกว่าหลี่หลานเฟิงสักนิดเลย และเนื่องจากลูกพี่หลานเป็นยอดฝีมือด้า านการควบคุมเหมือนกัน แผนการที่วางออกมาก็ยิ่งเหมาะกับผู้ควบคุมหุ่นรบ เรียบง่าย ตรงไปตรงมาและมีประสิทธิภาพอันน่ าทึ่ง เทียบกับแผนการของหลี่หลานเฟิงที่วกวนหลายตลบแล้ว จ้าวจวิ้นชอบแผนการของลูกพี่หลานมากกว่า
ทั้งสองคนออกจากสนามอย่างรวดเร็ว เมื่อมาถึงด้านหลังเวที พวกเขาสองคนก็ออกจากหุ่นรบลงมาที่พื้น เฉียวถิงผงกศีร รษะให้จ้าวจวิ้นทำการทักทาย บ่งบอกถึงการชื่นชม การที่ตีเสมอกับเจี่ยงเส่าอวี่ได้ ผลงานของจ้าวจวิ้นทำให้เขาปร ระหลาดใจมากและก็ดีใจมากด้วย อย่างไรเสียคะแนนของอันดับสามกับอันดับสี่ก็ยังห่างกันมาก เฉียวถิงย่อมอยากให้คะ ะแนนของโรงเรียนเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ อยู่แล้ว ถึงจะได้ยิ่งเป็นผลดีต่ออันดับในตอนสุดท้าย
หลินเซียวก็เดินมาที่เบื้องหน้าจ้าวจวิ้นและแสดงความยินดีให้เขา อย่างไรเสีย การที่เขาสามารถตีเสมอกับผู้ควบคุ มไพ่ราชาได้ จ้าวจวิ้นสามารถภาคภูมิใจในตัวเองได้แล้ว เจี่ยงเส่าอวี่เห็นหลินเซียวกับเฉียวถิงไม่สนใจเขาเลยสั กนิด ความรู้สึกอัปยศในใจก็ยิ่งหนักมากขึ้น เขาแค่นเสียงเย็น พุ่งตรงออกไปจากด้านหลังเวที ส่วนการประลองของหล ลินเซียวกับเฉียวถิงถัดจากนี้ เขาไม่มีอารมณ์จะดูต่อแล้ว
แป๊บเดียว เจ้าหน้าที่ก็แจ้งหลินเซียวกับเฉียวถิงว่าให้ทำการเตรียมตัว ไม่นานก็จะถึงตาพวกเขาขึ้นสนามประลองแล้ว หลินเซียวบอกลาจ้าวจวิ้นอย่างเอื่อยเฉื่อยและเดินจากไป จ้าวจวิ้นมองหลินเซียว จากนั้นก็หันหน้าไปมองเฉียวถิ งและกล่าวว่า “เฉียวถิง ความสามารถด้านการต่อสู้ระยะประชิดของหมอนั่นแข็งแกร่งมาก ถ้าเข้าใกล้ตัวจะไม่เป็นผลดีต่อ นายมากๆ นายต้องระวังไว้นะ”
“อื้อ ฉันรู้แล้ว!” เฉียวถิงตอบ ขณะที่หมุนกายจากไปก็เอ่ยเสียงเบาว่า “ขอบใจ!” เฉียวถิงเคยพ่ายแพ้ โดนหักหลัง ถูกขับไล่มาก่อน หลังจากเจออุปสรรคเหล่านี้ เขาก็เปลี่ยนเป็นถ่อมตนขึ้นมา นี่ทำให้จ้าวจวิ้นรังเกียจเขาน้อยลงอ อยู่บ้าง ถึงได้ยินดีเอ่ยเตือนเพิ่มสักประโยค ถ้าเกิดเป็นเฉียวถิงเมื่อก่อน…ตีให้ตาย จ้าวจวิ้นก็ไม่มีทางพูด ด
ในที่สุดทั้งสองคนก็ขับหุ่นรบขึ้นไปบนสนามประลองของพวกเขา เฉียวถิงเห็นหลินเซียวที่ค่อยๆ เข้ามาใกล้ตรงหน้า เขาก็ขับหุ่นรบเข้าไปต้อนรับเช่นเดียวกัน เขาเหลือบมองโซนที่นั่งของผู้เข้าร่วมการประลองโดยไม่ได้ตั้งใจ เขารู ว่าหลิงหลานจะต้องนั่งชมการประลองรอบนี้อยู่ที่ด้านล่างอย่างแน่นอน...
เฉียวถิงกำหมัด สูดลมหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่ง โยนความคิดฟุ้งซ่านในใจทิ้งไป ตอนนี้คู่ต่อสู้ของเขาคือหลินเซียว ถึ งแม้ความสามารถของหลินเซียวจะเก่งกาจมาก มีความสามารถรอบด้าน ซึ่งข่มเขาในระดับหนึ่งด้วย แต่เขายังคงไม่เกรงกลัว เขาต้องใช้ชัยชนะในรอบนี้มาบอกทุกคนว่า เขา เฉียวถิงไม่กลัวการท้าประลองจากผู้ใดในเรื่องการควบคุมหุ่นรบ เข ขายังคงเป็นอันดับหนึ่งจากโรงเรียนทหารทั้งหมด
เฉียวถิงรู้ดีว่า มีเพียงหลิงหลานที่แตกต่างออกไป อีกฝ่ายเป็นมารในใจบนเส้นทางสู่ความแข็งแกร่งของเขา มีเพียง งโค่นล้มกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนที่อีกฝ่ายเป็นผู้นำเท่านั้น เขาถึงจะปล่อยวางปมในใจ แล้วทุ่มความสนใจไปที่เส้นทา างสู่ความแข็งแกร่งได้ ไม่อย่างนั้น เขาที่ไม่สามารถตั้งสมาธิจดจ่อได้ก็ไม่อาจเดินไปบนเส้นทางสายนี้ได้ไกล และ นี่เป็นเรื่องที่เขาไม่ยอมเป็นอันขาด
กรรมการสอบถามทั้งสองคน เมื่อรู้ว่าเตรียมพร้อมเสร็จแล้วถึงค่อยโบกธงสีเขียวในมือลง
ชั่ววินาทีที่กรรมการโบกธง หุ่นรบของเฉียวถิงก็ถอยหลังออกไปหลายร้อยเมตรในพริบตา เว้นระยะห่างกับหลินเซียวไว ว้ หลินเซียวเก่งทั้งด้านระยะใกล้และระยะไกลก็จริง แต่ในด้านระยะไกลย่อมสู้เฉียวถิงที่เชี่ยวชาญการโจมตีระยะไก กลไม่ได้อยู่แล้ว ถังอวี้ ผู้ควบคุมไพ่ราชาชั้นยอดที่เป็นอาจารย์ของเฉียวถิงเคยบอกไว้ว่า เฉียวถิงเป็นราชาแห่ง การซุ่มยิงโดยกำเนิด พรสวรรค์ของเขาทำให้เขาไม่จำเป็นต้องใช้เวลาจำนวนหนึ่งในการล็อกเป้าและปรับตำแหน่งขณะที่ซุ มยิงเหมือนกับผู้ควบคุมหุ่นรบระยะไกลคนอื่นๆ เขาแทบจะสามารถล็อกเป้าได้ในชั่ววินาที หรือก็คือแวบเดียวก็สามาร รถล็อกเป้ายิงโจมตีฝ่ายตรงข้ามได้แล้ว
อันที่จริง ความสามารถด้านการต่อสู้ระยะประชิดของเฉียวถิงก็ไม่เลวเหมือนกัน ทว่านับตั้งแต่ที่เขาปลุกพรสวรรค์ล็อก กเป้าชั่ววินาทีนี้แล้ว เขาก็ทิ้งการต่อสู้ระยะประชิดไปภายใต้คำแนะนำของอาจารย์ และทุ่มความสนใจกับระยะไกล การต ตัดสินใจของเฉียวถิงถูกต้องอย่างไม่ต้องสงสัย การทุ่มเทความสนใจไปที่เรื่องเดียวทำให้เขาเข้าสู่ระดับไพ่ราชาเร็วก กว่าคนอื่นๆ หนึ่งก้าว ถึงขนาดที่ทำให้เขาเข้าใจความลับและแก่นแท้ของระยะไกลได้มากยิ่งขึ้นเพราะการจดจ่อกับเพียง งสิ่งเดียว ในด้านระยะไกล เขาเดินไปไกลและไปได้ลึกซึ้งกว่าคนรอบข้างแล้ว…