I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 457 ยากจะปล่อยวาง!
ปืนไรเฟิลซุ่มยิงวิถีกระสุนไม่ใช่ปืนลำแสง มันไม่ได้ปรากฏเป็นลำแสงสายหนึ่ง หากแต่เป็นลูกปืนแข็งๆ ชนิดหนึ่ง ทว่าลูกกระสุนนี้ไม่ใช่กระสุนที่มีดินปืนอานุภาพระดับต่ำประเภทนั้น หากแต่เป็นพลังงานพายุแม่เหล็กที่น่าสะพรึงกลัวมาก มันถูกบีบอัดให้อยู่ในลูกกระสุนได้สำเร็จ เมื่อยิงโดนเป้าหมายผ่านการปะทะด้วยความเร็วสูง พลังงานพายุแม่เหล็กด้านในสั่นสะเทือนอย่างหนักหน่วงแล้ว มันก็จะเบียดฝ่าชั้นป้องกันด้านใน และระเบิดพลังงานที่รุนแรงออกมา
ถ้าเกิดอานุภาพการระเบิดเหนือกว่าพลังงานป้องกันของโล่แสง เช่นนั้นก็จะกลายเป็นโศกนาฎกรรมแล้ว ควรรู้เอาไว้ว่า พลังงานแม่เหล็กจะเพิ่มอานุภาพเมื่อต่อกรกับโลหะ ตราบใดที่พลังงานสัมผัสโดนเกราะด้านหน้านอกหุ่นรบ มันก็จะทำลายสายไฟด้านใน ทำให้ระบบหุ่นรบเกิดการขัดข้อง จนกระทั่งเอาชนะเป้าหมายได้
เฉียวถิงรู้อานุภาพของลูกกระสุนดี หลินเซียวก็รู้ดีเช่นกัน เขาย่อมไม่อาจปล่อยให้เฉียงถิงยิงใส่หุ่นรบของตัวเอง แต่เขากลับพบว่า อยากจะหลบเป็นเรื่องที่ยากมากจริงๆ เนื่องจากกระสุนสามนัดนี้ นอกจากลูกหนึ่งที่มีเป้าหมายคือเขาแล้ว อีกสองลูกต่างผนึกด้านซ้ายและด้านขวาของเขา ไม่หลบก็จะถูกยิง หากหลบไปที่สองฝั่งก็จะโดนยิงเช่นกัน พื้นที่ที่ให้เขาหลบได้มีเพียงด้านบนและด้านล่าง…
ด้านบนหรือว่าด้านล่างดี? หลินเซียวรู้ว่าโอกาสมีเพียงหนึ่ง ขีดจำกัดของเฉียวถิงน่าจะเป็นสี่นัด ถ้าเกิดเขามีความสามารถยิงลูกที่ห้ามาได้ในพริบตา ก็คงไม่ปรากฏสามนัดนี้ ขอเพียงยิงห้านัดมาทีเดียวพร้อมกัน เขาก็ได้แต่ยอมแพ้แล้ว
หลินเซียวรู้ว่า เมื่อเขาเลือกทิศทางผิดก็จะพ่ายแพ้ออกจากสนามไป เขาไม่นึกเลยว่า จุดตัดสินผลแพ้ชนะจะมาถึงไวขนาดนี้ เดิมทียังนึกว่า อย่างแย่ที่สุดก็ฝืนทนจนถึงตอนสุดท้าย เฉียวถิงคนนี้ เขายังคงดูถูกอีกฝ่ายมากไป
ในเมื่อเป็นการเดิมพัน เช่นนั้นก็ต้องดูโชคของตัวเองแล้ว มือของเฉียวถิงมั่นคงมาก ไม่มีทางดูออกเลยว่ายิงไปที่ด้านบนหรือว่าด้านล่าง และพวกเขาทั้งสองคนก็ไม่มีให้ลังเลใจแล้ว
ในที่สุดหลินเซียวก็เลือกทิศทางของเขา ชั่วพริบตาที่ร่างของเขาเพิ่งพุ่งขึ้นสูง ทางฝั่งเฉียวถิงก็ยิงกระสุนนัดที่สี่ของเขาออกมาดังเปรี้ยง
เวลานี้เอง ระฆังเตือนภัยดังโหมกระหน่ำในหัวของหลินเซียว นิ้วมือของเขากดไปที่ปุ่มปิดสวิชต์เครื่องยนต์ไอพ่นอย่างรวดเร็วโดยไม่ใคร่ครวญเลยสักนิดเดียว บางทีอาจเป็นเพราะแรงกดดัน นิ้วมือของเขาจะหายไประหว่างทาง และเมื่อมันปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง นิ้วมือก็กดลงไปที่ปุ่มแล้ว เครื่องยนต์ไอพ่นของหุ่นรบถูกดับลงโดยพลัน
หุ่นรบที่เดิมทีพุ่งขึ้นสูงไม่มีการสนับสนุนจากเครื่องยนต์ไอพ่นแล้วก็ดิ่งร่วงลงมาทันที จากนั้นเสียงเครื่องยนต์ไอพ่นก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง หลินเซียวถือโอกาสเร่งเครื่องยนต์ไอพ่นที่กลับคืนสู่เกียร์ 0 ใหม่อีกรอบให้พุ่งลงไป หุ่นรบที่เดิมทีร่วงลงมาก็ยิ่งเพิ่มความเร็วในการตกเนื่องจากมีกำลังจากเครื่องยนต์ไอพ่นเสริมเข้าไปด้วย
การดับเครื่องยนต์มีด้านดีและก็ด้านแย่ ด้านที่ดีคือ ไม่ต้องสับเปลี่ยนเกียร์ทำการขับเคลื่อนไปยังทิศทางตรงข้ามโดยตรง ไม่เพียงสามารถลดเวลาเปลี่ยนเกียร์ ขณะเดียวกันก็ไม่ทำให้เครื่องยนต์ไอพ่นเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงด้วย ถ้าเกิดไม่จำเป็น ผู้ควบคุมหุ่นรบจะไม่ทำการสับเปลี่ยนพลังขับเคลื่อนสองอย่างที่ตรงข้ามกันสุดขีด ด้านที่แย่ก็คือ เมื่อดับเครื่องยนต์ไอพ่น พลังงานเกียร์สูงแต่เดิมที่ส่งออกมาตรงเครื่องยนต์ไอพ่นก็จะกลับไปเป็นศูนย์ในพริบตา เมื่อเปิดใช้เครื่องยนต์ไอพ่นอีกครั้ง ก็จำเป็นต้องผ่านกระบวนการหากคิดจะกลับคืนสู่การส่งถ่ายทอดพลังงานเกียร์สูงดังเดิม
ทว่าเวลานี้การดับเครื่องยนต์ไอพ่นเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดพอดี เนื่องจากแรงโน้มถ่วงโลกทำให้หุ่นรบที่เดิมทีร่วงลงมาอย่างรวดเร็ว พอเปิดใช้เครื่องยนต์ไอพ่นอีกครั้ง ความเร็วในการตกลงมานี้ก็ลดขั้นตอนการทำให้เครื่องยนต์ไอพ่นกลับมาเป็นดังเดิมได้โดยตรง และเข้าสู่เกียร์สูงที่ส่งพลังสูงสุดของหุ่นรบออกมาทันที
แน่นอนว่าเป้าหมายสำคัญที่สุดในการการดับเครื่องยนต์คืออยากลดเวลาการสับเปลี่ยน ในสถานการณ์ความเป็นความตายที่ทุกวินาทีมีค่า สามารถลดเวลาได้ 0.01 วินาทีก็อาจจะพลิกสถานการณ์กลับมาได้แล้ว
“ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!”
กระสุนสี่นัดเฉียดผ่านข้างกายหุ่นรบของหลินเซียว ยิงใส่บาเรียป้องกันที่สุดปลายขอบเขต ก่อนจะส่งเสียงระเบิดขนาดใหญ่ออกมาสี่ครั้ง
ทุกคนมองเห็นรัศมีแสงขนาดใหญ่สี่อันปรากฏขึ้นบนบาเรียป้องกันเพราะแรงระเบิดมหาศาลนี้ ผู้ชมที่เผชิญหน้ากับรัศมีแสงขนาดใหญ่สี่อันโดยตรงรู้สึกหวาดหวั่นอย่างยิ่ง สีหน้าซีดเผือด ปาดเหงื่อเย็นๆ ที่ไหลออกมาจากหน้าผาก แล้วค่อยพบว่าขาของพวกเขาตกใจกลัวจนอ่อนยวบไปแล้ว
เมื่อเห็นกระสุนสี่ลูกยิงตรงมาที่พวกเขา พริบตานั้น พวกเขาเกิดความรู้สึกหวาดกลัวเหมือนตัวเองกำลังจะตาย หัวใจหยุดเต้นลงไปสามวินาที โชคดีที่บาเรียป้องกันที่กั้นเอาไว้ยอดเยี่ยมมาก สกัดกั้นอานุภาพระเบิดของลูกกระสุนลงได้หมด นี่ถึงค่อยทำให้หัวใจของพวกเขากลับมาเต้นใหม่ รู้สึกเหมือนกับว่าฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง
ความจริงแล้วผู้ชมแค่ตกใจกลัวเอาเองเท่านั้น อาวุธร้อนทั้งหมดที่ปรากฏขึ้นบนสนามประลองหุ่นรบจำเป็นต้องผ่านการตรวจสอบหกครั้งจากทางผู้จัด จึงมีความปลอดภัยหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ อานุภาพของพวกมันย่อมไม่เหนือไปกว่าพลังงานป้องกันของบาเรียจนทำร้ายผู้ชมได้
ถึงแม้ว่าหลินเซียวหลบวิกฤติการโดนยิงพ้น ทว่าวิกฤติของเขายังไม่สิ้นสุด หุ่นรบกำลังร่วงลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว ถ้าเกิดไม่สามารถดึงหุ่นรบขึ้นมาได้ทันก่อนที่มันจะตกถึงพื้นละก็ เขาจะต้องทนรับการชนกับพื้น ซึ่งต่อให้มีการป้องกันของห้องคนขับ พลังจากการกระแทกอย่างรุนแรงนี้ก็ทำให้เขาเกิดความรู้สึกวิงเวียนอย่างรุนแรงเหมือนกัน
ถ้าหากไม่ได้อยู่ในการประลอง นี่อาจจะไม่ใช่ปัญหาอะไร ทว่าตอนนี้ด้านข้างยังมีเฉียวถิงที่คอยจ้องลงมือตาเป็นมัน…เขาไม่อาจล้มเหลวได้เป็นอันขาด!
หลินเซียวดึงคันบังคับขึ้นมาอย่างสุดแรง สับเปลี่ยนจากการร่วงลงไปอย่างรวดเร็วมาเป็นดึงขึ้นไปด้วยแรงม้าสูงสุด วิธีการบังคับเช่นนี้จะสร้างความเสียหายให้กับเครื่องยนต์ไอพ่นของหุ่นรบมากมาย ถ้าเกิดโชคไม่ดี ถึงขนาดทำให้เครื่องยนต์ไอพ่นระเบิดได้ แต่ตอนนี้หลินเซียวไม่สามารถประมาณการได้นานแล้ว ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว ตะโกนอย่างบ้าคลั่งว่า “ขึ้นมาซะ!”
อยากดึงหุ่นรบที่ตกลงไปอย่างรวดเร็วขึ้นมาอีกครั้งเป็นเรื่องที่ยากลำบากที่สุดในการควบคุมหุ่นรบ นี่ก็เป็นสาเหตุที่ตอนแรกหลินเซียวเลือกขึ้นไปข้างบน การขึ้นไปข้างบนและดึงหุ่นรบขึ้นไปสับเปลี่ยนเป็นทิศทางอื่นทำได้ง่ายมาก ตรงกันข้ามกับการร่วงลงไปที่ยากจะสับเปลี่ยนทิศทางไปชั่วขณะเนื่องจากแรงโน้มถ่วงของโลก กำลังของเครื่องยนต์ไอพ่นจำเป็นต้องลดแรงโน้มถ่วงของโลกก่อน จากนั้นถึงค่อยเคลื่อนไหวตามความต้องการได้ และช่วงเวลาลดทอนแรงโน้มถ่วงของโลกนี้อาจจะทำให้เขาถูกเฉียวถิงซุ่มยิงอีกครั้ง…
เป็นอย่างที่คาดไว้จริงๆ การซุ่มยิงของเฉียวถิงมาถึงอีกครั้ง ทว่าคราวนี้มาสี่นัดพร้อมกัน ดูท่า เฉียวถิงเองก็รู้ว่า นี่เป๋นโอกาสดีที่สุดของเขาแล้ว ดังนั้นถึงได้ทุ่มสุดกำลัง ไม่ปกปิดความสามารถของตัวเองอีกต่อไป
ผู้ชมในสนามต่างรู้ว่าการประลองมาถึงจุดสำคัญแล้ว พวกเขาจ้องเขม็งเข้าไปในสนาม รอคอยฉากต่อไปว่า หลินเซียวจะหนีพ้นได้สำเร็จหรือว่ากระสุนสี่นัดของเฉียวถิงจะเห็นผลกันแน่?
‘เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!’ กระสุนสามนัดระเบิดบนรัศมีแสงของบาเรียป้องกัน หลินเซียวหลบสำเร็จ
จากนั้นก็มีเสียง ‘เปรี้ยง!’ ดังขึ้นอีกครั้ง ทว่ามันถูกระเบิดตรงด้านข้างขาขวาของหุ่นรบหลินเซียว ฉากนี้ทำให้ผู้ชมร้องอุทานขึ้นมา ขณะที่ดีใจแทนเฉียวถิง ก็เสียดายแทนหลินเซียวด้วยเช่นกัน ฉากนี้ทำให้สีหน้าของบรรดานักเรียนจากโรงเรียนทหารสหศึกษาที่หนึ่งเปลี่ยนไป พวกเขาต่างรู้ว่าหลินเซียวมีอันตรายแล้ว และฉากนี้กลับทำให้พวกนักเรียนจากโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งโห่ร้องโลดเต้นขึ้นมาเช่นเดียวกัน โจมตีโดนฝ่ายตรงข้ามได้สำเร็จ ก็หมายความว่า เฉียวถิงยึดครองความได้เปรียบแล้ว
ถึงแม้ว่าบรรดาสมาชิกทีมเข้าร่วมการประลองของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งจะมาจากกลุ่มหุ่นรบต่างๆ ในโรงเรียน ซึ่งเมื่อก่อนต่อสู้ขัดแย้งกัน ไม่มีใครยอมใคร ทว่าเวลานี้พวกเขาเป็นทีมเดียวกัน ตื่นเต้นกับความสำเร็จของเฉียวถิงจากใจจริง และสัมผัสได้ถึงเกียรติยศเช่นเดียวกัน
การโจมตีของเฉียวถิงยังไม่สิ้นสุดลง ถึงเขาจะได้รับความได้เปรียบแต่เขาก็ไม่ละเว้นใคร เหนี่ยวไกปืนอย่างเยือกเย็นอีกครั้ง เสียง เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง! ดังติดต่อกันสี่ครั้ง บ่งบอกว่าปืนไรเฟิลซุ่มยิงวิถีกระสุนยิงติดต่อกันออกไปสี่นัดอีกครั้ง…
ทางฝั่งหลินเซียว สถานการณ์เลวร้ายมากแล้ว ออปติคัลคอมพิวเตอร์ของหุ่นรบส่งเสียงเตือน กระสุนนัดสุดท้ายยิงโดนขาขวาของหุ่นรบ จากนั้นระบบควบคุมขาขวาของหุ่นรบก็ถูกทำลายทันทีขณะที่ระเบิด ถึงแม้ว่าระบบตรงส่วนอื่นไม่ได้รับผลกระทบ แต่ระบบทรงตัวเกิดปัญหาเพราะขาขวาแล้ว หากคิดจะแก้ไขปัญหาข้อนี้ หลินเซียวจำเป็นต้องตั้งค่าระบบทรงตัวใหม่ทันที…
แต่เฉียวถิงไม่ให้โอกาสเขาตั้งค่าใหม่เลย เขายิงกระสุนมาอีกสี่นัด ยามนี้หลินเซียวรู้ว่าเขาพ่ายแพ้แน่นอนแล้ว เขาที่อาศัยเพียงเครื่องยนต์ไอพ่นลอยอยู่กลางอากาศ ไม่มีเวลาให้เขาขับหุ่นรบหลบหนีแล้ว
หลินเซียวเป็นคนเฉียบขาด ในเมื่อรู้ว่าดิ้นรนต่อไปก็เสียแรงเปล่า เขาจึงชูมือสองข้างขึ้นมาบ่งบอกถึงการยอมแพ้ กรรมการที่คอยเฝ้าสังเกตทางฝั่งนี้มาตลอดรีบชูธงแดงขึ้นมาทันที และผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชาที่อยู่บนท้องฟ้าสูงและคอยเฝ้าระวังการประลองรอบนี้ก็ร่อนลงมาจากฟ้า ก่อนจะสกัดกั้นกระสุนที่ยิงติดต่อกันมาสี่นัดจนมันระเบิดออกก่อนที่จะยิงโดนหลินเซียว…
การยอมแพ้ของหลินเซียวก็หมายความว่าเฉียวถิงกลายเป็นราชาแห่งการประลองหุ่นรบเดี่ยวในศึกการประลองปีนี้แล้ว เมื่อเฉียวถิงได้รับถ้วยรางวัลผู้ชนะเลิศที่เป็นตัวแทนอันทรงเกียรตินี้ จู่ๆ เขาพบว่าเขาไม่ได้ดีใจเหมือนที่คาดคิดไว้…เมื่อเขาเดินลงจากเวทีรับรางวัลไปหาพวกลูกทีมของเขา ก็เห็นหลิงหลานที่ยืนอยู่ด้านข้างพาคนจากไป ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจแล้ว
การต่อสู้กับหลิงเทียนครั้งนั้น ถึงแม้หุ่นรบไพ่ราชาของเขาจะชำรุดเสียหายเพราะการระเบิดฆ่าตัวตายครั้งแล้วครั้งเล่าของพวกสมาชิกทีมหลิงหลาน จนเดิมทีก็เป็นลูกธนูสุดแรงบินอยู่แล้ว แต่ผลลัพธ์จากการถูกหลิงหลานสังหารทิ้งในกระบวนท่าเดียว กลับทำให้เขายากจะปล่อยวางจวบจนถึงทุกวันนี้ มีเพียงต่อสู้กับหลิงหลานอีกครั้ง เอาชนะอีกฝ่ายอย่างหมดจดเท่านั้น เขาถึงจะกลับมาเป็นเฉียวถิงคนเดิมได้อีกครั้ง…
เขาจ้องมองถ้วยรางวัลที่เป็นตัวแทนของอันดับหนึ่งของการประลองหุ่นรบในมืออีกครั้ง จากนั้นเฉียวถิงก็โยนมันให้ลูกทีมข้างๆ เขาที่กำลังอิจฉาไม่หยุดอย่างไม่แยแส ก่อนจะเดินออกจากสนามประลองโดยไม่หันหน้ากลับมา
“ลูกพี่เฉียว ถ้วยรางวัลของนาย…” จู่ๆ ถ้วยรางวัลก็ถูกโยนเข้ามา ลูกทีมรีบประคองไว้อย่างลนลาน ตะโกนเรียกเฉียวถิงที่อยู่ด้านหน้าด้วยสีหน้าทำอะไรไม่ถูก
เฉียวถิงหันหน้ากลับมาเอ่ยเรียบๆ ว่า “ถ้านายชอบ ก็ยกให้นาย”
“หา…” ไม่เพียงลูกทีมคนนี้เท่านั้นที่อึ้ง ลูกทีมคนอื่นๆ ก็ตะลึงงันไม่หยุดเช่นกัน นี่เป็นหลักฐานยืนยันอันดับหนึ่งของการประลองหุ่นรบในโรงเรียนทหารนะ จะยกให้คนอื่นมั่วๆ ได้ที่ไหนกัน?
เมื่อสัมผัสได้ถึงการยากที่จะเชื่อของพวกลูกทีม เฉียวถิงที่วางอำนาจบาตรใหญ่มาตลอดและไม่ชอบอธิบายก็รู้สึกใจอ่อนกับพวกลูกทีมที่ไม่ทิ้งเขาไปในตอนที่เขาตกต่ำมากที่สุด ดังนั้นเลยเอ่ยเสริมอีกประโยคว่า “เป็นอันดับหนึ่งในโรงเรียนตัวเองไม่ได้ งั้นการได้อันดับหนึ่งนับไม่ถ้วนจากภายนอกจะไปมีประโยชน์อะไร”
คำพูดของเฉียวถิงทำให้พวกลูกทีมนึกถึงความพ่ายแพ้อย่างหมดรูปของพวกเขา พวกเขาหันหน้ามองไปทางกลุ่มหลิงเทียนที่อยู่ไกลๆ จนใกล้จะมองไม่เห็นเงาตามจิตใต้สำนึก ก็เหมือนกับที่ลูกพี่เฉียวพูดไว้ เอาชนะพวกเขาไม่ได้ ต่อให้ได้เกียรติยศมาอีกสักแค่ไหน ก็ไม่สามารถปกปิดความจริงที่ว่าพวกเขาพ่ายแพ้ให้กับคนอื่น เมื่อคิดแบบนี้ อารมณ์ที่เดิมทีตื่นเต้นลิงโลดพลันหายไป ถ้วยรางวัลทำให้ผู้คนอิจฉาอย่างไร้ที่สิ้นสุดนั้นก็สูญเสียแรงดึงดูดในตอนแรกไปแล้วเช่นกัน
กลุ่มของเฉียวถิงก็ออกไปจากสนามประลองเช่นนี้เอง ทว่าในใจลูกทีมแต่ละคนต่างมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว นั่นก็คือจะต้องเอาชนะกลุ่มหุ่นรบหลิงเทียนอย่างเที่ยงตรงเปิดเผย หลังจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นเอาชนะหน่วยรบหลิงเทียน หน่วยรบทั้งสองจึงเดินไปบนเส้นทางที่เป็นปฏิปักษ์กันนับตั้งแต่นี้มา…
————————–