I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 458 เป้าหมาย!
การประลองหุ่นรบเดี่ยวจบลงแล้วในที่สุด เฉียวถิงได้อันดับหนึ่ง ผลลัพธ์นี้อยู่ในความคาดหมายของผู้คนส่วนใหญ่ ใ ในเมื่อเฉียวถิงถูกเรียกขานว่าเป็นหลิงเซียวที่สอง เขาย่อมเป็นเหมือนหลิงเซียว กลายเป็นตัวตนที่ไร้เทียมทานใน นรุ่นเดียวกัน
ทว่าความตื่นเต้นคึกคักของผู้ชมการประลองไม่ได้ลดน้อยลงเท่าไหร่จากการที่การประลองหุ่นรบเดี่ยวสิ้นสุดลง เนื่องจ จากตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไปก็จะเริ่มต้นการประลองหุ่นรบแบบกลุ่มที่ทำให้ผู้คนฮึกเหิมแล้ว
เทียบกับการประลองหุ่นรบเดียวที่เป็นตัวแทนของเกียรติยศคนผู้เดียวแล้ว พวกระดับสูงของโรงเรียนทหารทั้งหมดให้ควา ามสำคัญกับการประลองหุ่นรบแบบกลุ่มมากกว่า เพราะว่าการประลองนี้ถึงจะเป็นการแสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของโรงเร รียน หลังจากศึกการประลองแต่ละปี โรงเรียนทหารที่ได้อันดับยิ่งสูงในการประลองหุ่นรบแบบกลุ่มจะได้รับทรัพยาการ จากสหพันธรัฐมากยิ่งขึ้น รวมถึงได้รับเอกสารการสมัครสอบจากบรรดานักเรียนลูกเสือชั้นยอดมากขึ้นด้วย ด้วยเหตุนี้ การ รประลองหุ่นรบแบบกลุ่มจึงเป็นหนึ่งในการประลองที่เข้มข้นที่สุดจากในรายการทั้งหมด ถึงแม้จะเทียบกับความดุเดือดใ ในยามต่อสู้ประจัญบานแบบกลุ่มไม่ได้ แต่มันก็ไม่ด้อยกว่าสักเท่าไหร่เลย…
การประลองกลุ่มเป็นระบบชนะสามรอบในห้ารอบ รายชื่อผู้สมัครเข้าร่วมการประลองมีทั้งหมดหกคน ห้าคนเป็นสมาชิกหลักแ และมีสมาชิกทีมตัวสำรองเพิ่มมาหนึ่งคน สมาชิกทีมตัวสำรองไม่เหมือนกับการประลองอื่นที่สามารถแทนที่เมื่อไหร่ก็ได้ สมาชิกทีมตัวสำรองของการประลองหุ่นรบแบบกลุ่มนั้นเป็นสมาชิกทีมตัวสำรองที่แท้จริง มีเพียงสมาชิกทีมหลักได้รับบา าดเจ็บในระหว่างการต่อสู้ และอาการบาดเจ็บสาหัสเกินกว่าจะประลองต่อได้เท่านั้น สมาชิกทีมตัวสำรองถึงสามารถเข้าร่วม การประลองแทนที่สมาชิกทีมคนนั้นได้ ไม่เช่นนั้นสมาชิกทีมตัวสำรองจะไม่มีโอกาสออกไปประลองเลย
ตามกฎทั่วไปแล้ว สมาชิกทีมหลักห้าคนที่เข้าร่วมการประลองแบบกลุ่มควรจะเป็นสมาชิกทีมห้าคนที่เข้าร่วมการประลอ องแบบเดี่ยว แต่ว่าธรรมเนียมปฏิบัตินี้ถูกทำลายลงในปีนี้เอง เดิมทีรายชื่อผู้เข้าประลองที่โรงเรียนทหารชายที่ห หนึ่งส่งมาควรจะเป็นจ้าวจวิ้นที่ได้อันดับสามของการประลองหุ่นรบเดี่ยว แต่เขากลับกลายเป็นตัวสำรองระดับสุดยอดที่ แทบจะไม่ได้ออกไปประลองคนนั้น และคนที่มาแทนที่เขากลับเป็นชื่อที่แปลกหน้าคนหนึ่ง…หลิงหลาน!
เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบการลงทะเบียนเคยคิดว่าโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งจะทำผิดพลาด เลยติดต่อไปหาอาจารย์ที่ดูแลพ พวกเขาเป็นพิเศษ หลังจากที่อาจารย์ทำความเข้าใจแล้วก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้มฝืดเฝื่อนว่า ทั้งหมดที่เขาเห็นล้วนเป็นเรื องจริง คำตอบนี้ทำให้เจ้าหน้าที่คนนั้นตะลึงงัน ขณะเดียวกันก็อยากรู้ว่าหลิงหลานที่สามารถมาแทนที่จ้าวจวิ้นคนน นี้จะเป็นเทพจากไหนกันแน่?
เนื่องจากหลักการรักษาความลับ เจ้าหน้าที่เลยไม่ได้เปิดเผยเรื่องนี้ออกไป ดังนั้นวันรุ่งขึ้น เมื่อสมาชิกเข้าร่วมกา ารประลองหุ่นรบแบบกลุ่มทุกคนขึ้นไปบนสนามประลอง ผู้ชมทางฝั่งโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งพลันส่งเสียงฮือฮาขึ้นมา…
หานอวี้กับมู่เส่าอวี่ที่เป็นสมาชิกหลักเหมือนกันก็ตกตะลึงกับเรื่องจริงนี้ด้วย โดยเฉพาะหานอวี้ เขาเหลือบมองจ จ้าวจวิ้นที่อยู่ด้านหลังสุดด้วยความเสียใจและเวทนา อยู่ในมือของหัวหน้ากลุ่มที่อิจฉาริษยาในความสามารถแบบนี้ จ้า าวจวิ้นจะมีชีวิตดีได้อย่างไร? คิดถึงตรงนี้ ความคิดที่อยากเชิญชวนจ้าวจวิ้นของหานอวี้ก็ผุดขึ้นมาอีกครั้ง
มีเพียงจางจิงอันที่ไม่รู้สึกอะไรเลยสักนิดเดียว เนื่องจากเขารู้ดีว่าหลิงหลานเป็นปีศาจอัจฉริยะมากมาโดยตลอด ตอน นที่อยู่สถาบันลูกเสือ หลิงหลานก็เอาชนะพวกเขารุ่นพี่ที่อยู่ปีเจ็ดได้อย่างราบคาบ ถ้าเกิดหลิงหลานเข้าโรงเรียน ทหารแล้วเปลี่ยนเป็นคนธรรมดา เช่นนั้นเขาถึงค่อยรู้สึกตกตะลึงแล้วจริงๆ…
ส่วนเฉียวถิง ไม่ว่าจะเป็นหลิงหลานก็ดี หรือว่าจ้าวจวิ้นก็ช่าง ทุกคนเป็นเพียงเพื่อนร่วมรบชั่วคราวในการประลอง งครั้งนี้ของเขาเท่านั้น ขอเพียงไม่ถ่วงขา เขาก็ไม่สนใจมากนัก แน่นอนว่าในส่วนลึกของจิตใจเขา เขาเชื่อมั่นหล ลิงหลานมากกว่าจ้าวจวิ้นเสียอีก แผ่นหลังที่สังหารในพริบตาครั้งนั้นยังคงสลักลึกอยู่ในใจเฉียวถิง และก็เป็นฉา ากที่เขาอยากล้างทิ้งมาโดยตลอด
ขณะเดียวกันบนที่นั่งวีไอพี หลานลั่วเฟิ่งที่อยู่ในที่พักมาตลอดนอกจากตอนเข้าพิธีเปิด ในที่สุดก็ปรากฏตัวขึ้นตรง งหน้าทุกคนอีกครั้ง เธอควงแขนของหลินเซียวอย่างมีชีวิตชีวา จ้องมองไปในสนาม อยากจะหาร่างของลูกสาวสุดที่รักของเธ ธอจากในหมู่ผู้คนเกือบสองพันคน
ถูกต้อง คนที่สามารถดึงดูดให้หลานลั่วเฟิ่งออกมามีเพียงหลิงหลาน ลูกสาวที่น่ารักน่าเอ็นดูของเธอเท่านั้น เธอรู้ แต่แรกแล้วว่าหลิงหลานจะเข้าร่วมการประลองแบบกลุ่มก็เลยรอการประลองนี้เริ่มต้นมาโดยตลอด และมีเพียงเวลานี้เท ท่านั้นที่เธอสามารถมองดูลูกสาวของเธอและให้กำลังใจลูกสาวของเธออย่างเปิดเผยได้
หลานลั่วเฟิ่งคิดถึงตรงนี้ก็อดโกรธเคืองหลิงเซียวที่อยู่ข้างกายอีกครั้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะ ะไอ้คนบัดซบนี่ทำตามใจชอบเองละก็ เธอจะแยกจากลูกสาวของเธออีกได้อย่างไร? กระทั่งเจอหน้ากันยังต้องแอบๆ เลย …คิดแล้วก็โมโห เธอยื่นมืออีกข้างออกมาโดยไม่ลังเลเลยสักนิดเดียว จากนั้นก็บิดเอวสามีตัวเองอย่างรุนแรง 360 อ องศา นี่ดูเหมือนกับยังไม่หายโกรธ หลานลั่วเฟิ่งเลยหยิกแรงๆ อีกหลายที
หลิงเซียวที่กำลังพูดคุยกับแขกกิตติมศักดิ์ข้างๆ ขอบตาพลันกระตุก จากนั้นก็ฝืนอดทนพลางรักษารอยยิ้มอ่อนโยนสนิท ทสนมไว้ หลังจากที่คุยกับอีกฝ่ายจบแล้วถึงค่อยหันหน้ามาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะกุมมือหยกที่กำลังต่อสู้กั บเนื้อนุ่มๆ ตรงเอวเขาอย่างแผ่วเบา เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มว่า “ลั่วเฟิ่ง? เป็นอะไรไปเหรอ?”
หลานลั่วเฟิ่งมองเขาตาขวางและขยับปาก หลิงเซียวอ่านคำว่า ‘ลูกสาว’ สองคำออกจากในรูปปากของหลานลั่วเฟิ่ง เขา ารู้ว่าภรรยาของเขาจะต้องคิดถึงเรื่องโง่เง่าที่เขาทำลงไปแน่เลย รอยยิ้มของเขาจึงเริ่มจืดเจื่อนขึ้นมาทันใด ข ขยี้จมูกตัวเองด้วยความจนปัญญา ไม่เอ่ยอะไรต่ออีก
เขายังจะพูดอะไรได้อีกล่ะ? หลานลั่วเฟิ่งกล่าวโทษก็ไม่ผิด คนที่ทำให้ลูกสาวปกปิดเรื่องเพศก็คือเขา และถึงแม้ คนที่ทำให้หลานลั่วเฟิ่งไม่สามารถเจอหน้าลูกสาวอย่างเปิดเผยได้…จะไม่ใช่เขา แต่ใครใช้คนๆ นั้นเป็นลูกสาวของเข ขาละ เขาเลยจำเป็นต้องแบกรับข้อกล่าวหานี้ไว้ นอกจากนี้ ว่ากันไปตามเรื่องแล้ว ยังคงเป็นเพราะเขาที่ทำให้หลิงห หลานเข้าโรงเรียนทหารชายที่หนึ่ง เขาต้องยอมรับโทสะของหลานลั่วเฟิ่งจริงๆ
การประลองวันแรก ตอนเช้าเป็นการประลองเข้าสู่ 200 อันดับแรก นอกจากการประลองที่น่าตื่นเต้นไม่กี่รอบแล้ว ที่เหลื อล้วนไม่มีอะไรน่าดู โรงเรียนทหารชายที่หนึ่งผ่านเข้ารอบไปได้อย่างสบายๆ แค่ส่งหานอวี้ จางจิงอัน มู่เส่าอวี่สาม มคนออกไปก็จัดการได้แล้ว ทำให้หลานลั่วเฟิ่งที่ตั้งตารอลูกสาวออกมาประลองรู้สึกผิดหวัง เวลาเดียวกันก็รู้สึกโล่ง งใจมาก อย่างไรเสีย เมื่อไม่ต้องออกไปประลอง ลูกสาวของเธอก็จะไม่ได้รับบาดเจ็บ เทียบกับการได้เห็นความองอาจห้าวห หาญของลูกสาวแล้ว ความคิดที่ไม่อยากเห็นลูกสาวได้รับบาดเจ็บย่อมมีมากกว่า ด้วยเหตุนี้หลานลั่วเฟิ่งเลยปรับอารมณ์อย ย่างรวดเร็ว และดูการประลองในช่วงบ่ายต่อ
การประลองช่วงบ่ายเป็นการประลองจาก 200 เข้าสู่ 100 อันดับแรก คู่ต่อสู้ของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งก็ไม่ได้เก่งก กาจมากเช่นกัน ถึงแม้ตอนการประลองรอบแรก หานอวี้จะเจอปัญหานิดหน่อย ต่อสู้อย่างยากลำบากกับฝ่ายตรงข้ามจนจบการป ประลอง และสุดท้ายอาศัยความได้เปรียบของคะแนนคว้าชัยชนะในรอบแรกไปได้ แต่ว่าสองรอบถัดมา จางจิงอันกับมู่เส่าอวี่ เอาชนะติดต่อกันสองรอบได้อย่างหมดจด ผ่านเข้ารอบได้สำเร็จอีกครั้ง หลิงหลานที่อยู่อันดับสี่เลยไม่มีโอกาสออกไปป ประลองเช่นเคย
อย่างไรก็ตาม การที่โรงเรียนทหารชายที่หนึ่งผ่านเข้าสู่หนึ่งร้อยอันดับแรกไปได้อย่างราบรื่นยังคงทำให้หลานลั่วเฟิ งอารมณ์ดีขึ้นมาก นี่เลยทำให้หลิงเซียวคว้าโอกาสแสดงความรักดีๆ กับภรรยาตัวเองสักรอบ นับตั้งแต่ที่มาถึงดาว ฉี่หมิง ก็ทำให้หลานลั่วเฟิ่งนึกถึง ‘ความแค้นเก่าความคับข้องใจใหม่’ อีกครั้ง ดังนั้น หลิงเซียวจึงได้แต่ระทมทุ กข์ นอนอยู่บนโซฟาติดต่อกันหลายคืน
วันต่อมา ใบหน้าของหลานลั่วเฟิ่งเต็มไปด้วยความเบิกบาน และมาถึงสนามประลองด้วยรัศมีเจิดจ้า หลิงหลานเหลือบมองแค่ แวบเดียวก็รู้ว่า แม่ของเธอที่ยังนับว่าเป็นดอกไม้ไม่แก่เฒ่าคนนี้คงถูกพ่อของเธอรักทะนุถนอมมาอย่างดีมาก ดัง งนั้นเลยแผ่กระจายความงดงามของเธอออกมาอีกครั้ง…
การประลองของวันนี้ยุ่งมากกว่าวันก่อน ตอนเช้า โรงเรียนทหารชายที่หนึ่งมีการประลองจาก 100 เข้าสู่ 50 อันดับแรกรอ อบเดียวเท่านั้น ครั้งนี้คู่ต่อสู้ของพวกเขาคือโรงเรียนทหารแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในดาวถงหลี่ซึ่งเป็นดาวระดับหนึ ง สามารถจัดอยู่ใน 30 อันดับแรกในหมู่โรงเรียนทหารทั้งหมดของสหพันธรัฐ ดังนั้นสมาชิกทีมของพวกเขาจึงไม่ใช่คนที โรงเรียนทหารอันดับต่ำๆ เหล่านั้นสามารถเทียบเคียงได้ สมาชิกทั้งห้าคนล้วนเป็นผู้ควบคุมระดับพิเศษกันหมด
อันดับการออกไปประลองของสมาชิกทีมโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งไม่เคยเปลี่ยนแปลงมาตลอด เมื่อหานอวี้ออกไปประลองกับคู ต่อสู้ ทุกคนล้วนรู้ว่า ยุ่งยากนิดหน่อยแล้ว อีกฝ่ายใช้วิธีการเถียนจี้แข่งม้า สมาชิกทีมที่ออกไปเป็นคนแรกมีคว วามสามารถแข็งแกร่งมาก หานอวี้จึงถูกกดดันไปชั่วขณะ
เฉียวถิงเห็นแบบนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย เอ่ยถามหลิงหลานที่อยู่ข้างกายว่า “นายว่า หมอนี่เป็นคนที่แข็งแกร่งที่ สุดในหมู่พวกเขาหรือเปล่า? หรือว่าแค่แข็งแกร่งเป็นอันดับสาม?”
การประลองสองรอบของเมื่อวานทำให้เฉียวถิงได้เห็นความน่ากลัวของหลิงหลานแล้ว หลิงหลานเป็นเหมือนกับสารานุกรม ต่อให้คู่ต่อสู้อ่อนแอไร้ชื่อเสียงอีกสักแค่ไหน เขาก็รู้ข้อมูลราวกับหลังมือตัวเอง นี่ทำให้พวกเฉียวถิงมีข้อสง งสัยก็จะสอบถามหลิงหลานด้วยความเคยชิน
หลิงหลานตอบกลับอย่างเรียบนิ่งมากว่า “หมอนี่อยู่ในการประลองหุ่นรบเดี่ยว เข้าสู่ห้าสิบอันดับแรก และยังมีอี กคนที่เข้าสู่ห้าสิบอันดับแรกด้วยเหมือนกัน แต่ว่าหยุดอยู่ที่อันดับสามสิบสอง ส่วนอีกสองคนไม่ได้อยู่ในหนึ่งร ร้อยอันดับแรก…”
เฉียวถิงได้ยินหลิงหลานพูดไม่จบ คิ้วของเขาก็ขมวดแน่นมากขึ้น ถ้าเกิดหานอวี้พ่ายแพ้รอบนี้ เกรงว่าพวกเขาจะย ยุ่งยากจริงๆ เสียแล้ว “คนสุดท้ายเข้าสู่สิบหกคนแรกเหรอ?” ถ้าเกิดเข้าสู่สิบหกคนแรก มู่เส่าอวี่อาจจะเสี่ยงอยู่ บ้าง
“ไม่ใช่ คนที่เก่งที่สุดอยู่ที่อันดับสิบเก้า” หลิงหลานตอบ คำตอบนี้ทำให้มู่เส่าอวี่ที่อยู่ข้างๆ ถอนหายใจด้วย ความโล่งอก มู่เส่าอวี่อยู่อันดับที่สิบสามในการประลองหุ่นรบเดี่ยว ยังกดอีกฝ่ายได้อย่างมั่นคง
วิธีการต่อสู้ของหานอวี้น่าจะถูกฝ่ายตรงข้ามศึกษาวิเคราะห์จนทะลุปรุโปร่งแล้ว ถึงแม้ความสามารถของทั้งสองคนจะต่าง งกันไม่มาก แต่สุดท้ายหานอวี้ที่พลาดโอกาสก็พ่ายแพ้การประลองรอบนี้ไป โรงเรียนทหารชายที่หนึ่งพ่านแพ้ในรอบแรก ก ทำให้ทุกคนที่ชมการประลองตกตะลึงไม่หยุด ในความคิดของพวกเขา โรงเรียนทหารชายที่หนึ่งควรเล่นเพลงแห่งชัยชนะไปต ตลอดทาง ต่อสู้เข้าสู่รอบตัดสินโดยที่ไม่แพ้สักรอบเดียว และสุดท้ายก็คว้าแชมป์ของการประลองแบบกลุ่มไว้ถึงจะไม่ผิ ดต่อชื่อเสียงของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งของพวกเขา
ความพ่ายแพ้ของหานอวี้ทำให้เขาหงุดหงิดใจมาก เขาเข้าสู่สามสิบสองอันดับแรก แต่กลับโดนคนที่อยู่อันดับต่ำกว่าเขา าเอาชนะไปได้ นี่ทำให้เขารู้สึกอัปยศอดสู แต่พวกหลิงหลานไม่ได้ไปปลอบโยนเขา คนที่สามารถกลายเป็นหัวหน้าของกลุ่ มหุ่นรบ ย่อมต้องมีความสามารถในการควบคุมตัวเอง
เนื่องจากความพ่ายแพ้ของหานอวี้ จางจิงอันที่ขึ้นไปประลองรอบที่สองก็ดูระมัดระวังขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด แต่ว่า ต่อให้เขาระมัดระวังอีกสักแค่ไหน เมื่อพอว่าคู่ต่อสู้คือใครแล้ว เขาก็อดหน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ไม่ได้ คู่แข่งของ งเขาไม่ใช่คนที่เข้าสู่ห้าสิบอันดับแรกคนนั้น หากแต่เป็นคนที่อยู่อันดับสิบเก้า
“ดูเหมือนพวกเขาจะทิ้งรอบที่สามแล้ว” การปรากฏตัวของคนผู้นี้ทำให้คนของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งต่างขมวดคิ้วขึ้ นมา อีกฝ่ายวางแผนอะไรกันแน่? ต่อให้เอาชนะรอบนี้ไปได้แล้ว ก็จะไม่มีคนเป็นคู่ต่อสู้ของมู่เส่าอวี่ในรอบที่สาม ม
จ้าวจวิ้นที่ยืนอยู่ข้างกายหลิงหลานเหมือนมองอะไรบางอย่างออกนิดหน่อย เขาอดเอ่ยด้วยรอยยิ้มไม่ได้ “ลูกพี่หลา าน ดูเหมือนพวกเขาจะตั้งเป้าหมายไว้ที่ตัวนายนะ อันดับสามสิบสองคนนั้นน่าจะถูกจัดไว้ในรอบที่สี่”