I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 459 อาการบาดเจ็บที่แปลกประหลาด!
หลิงหลานเห็นด้วยอย่างมากกับการคาดการณ์ของจ้าวจวิ้น เธอผงกศีรษะกล่าวว่า “แผนการต่อสู้นี้ไม่เลวเลย รอบต่อไปพวกเราก็ควรเปลี่ยนได้แล้วเหมือนกัน” การจัดวางแนวรบอย่างกำหนดเป้าหมายชัดเจนของถงหลี่เตือนสติหลิงหลานว่า ลำดับที่กำหนดไว้ไม่เปลี่ยนแปลงจะโดนคนหาช่องโหว่ออกมาได้ง่ายมาก ถึงแม้พวกเขาจะแข็งแกร่ง แต่ก็ต้านรับแผนการที่โผล่มาอย่างไม่ขาดสายไม่อยู่เช่นกัน
คำพูดของจ้าวจวิ้นดึงความสนใจของเฉียวถิงกลับมา เขาใช้สายตาแปลกประหลาดมองไปยังนักเรียนของถงหลี่หลายคนตรงด้านหลังเวทีที่อยู่ไม่ไกลซึ่งกำลังเฝ้าชมการประลองในสนาม ไม่รู้ว่าควรชื่นชมความคิดแปลกพิสดารของพวกเขา หรือว่าต้องนิ่งเงียบไว้อาลัยดี
ถึงแม้การท้าประลองครั้งนั้น เฉียวถิงไม่คิดว่าตัวเองพ่ายแพ้ให้กับหลิงหลาน แต่เขาที่เคยประมือจริงกับหลิงหลานหนึ่งกระบวนท่ามาก่อน รู้ดีว่าทักษะการต่อสู้หุ่นรบของหลิงหลานไม่ธรรมดาเลย ไม่ว่าในแง่ความเร็ว เทคนิคหรือว่าการตัดสินใจล้วนไปถึงจุดสูงสุดของผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษ นี่ก็คือสาเหตุที่หลิงหลานสามารถสังหารเขาได้ในกระบวนท่าเดียว
สิ่งเหล่านี้เป็นผลจากการที่เฉียวถิงศึกษาวิจัยคลิปการต่อสู้ระหว่างพวกเขาสองคนซ้ำไปซ้ำมาหลังจากที่จบเหตุการณ์ ถึงค่อยวิเคราะห์ออกมาได้ เขาคิดว่าความสามารถด้านการควบคุมของหลิงหลานอาจจะยังเหนือกว่าจ้าวจวิ้นที่เป็นกำลังรบอันดับหนึ่งของหลิงหลานในฉากหน้าด้วยซ้ำ และสิ่งเหล่านี้เองทำให้เฉียวถิงลอบมองหลิงหลานเป็นคู่แข่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา ลองคิดดูสิตอนที่เขาอยู่ปีสอง เขาแข็งแกร่งขนาดอีกฝ่ายหรือเปล่า?
แน่นอนว่า หากไม่ได้เลื่อนขั้นเป็นไพ่ราชา ต่อให้เมื่อก่อนจะแข็งแกร่งจะเป็นอัจฉริยะอีกสักแค่ไหน ก็เป็นแค่เมฆลอย เฉียวถิงรู้ว่าตัวเองจะคอยจับตาดูหลิงหลานต่อไป ดูว่าปีศาจอัจฉริยะที่อายุ 17 ก็เลื่อนขั้นทักษะการต่อสู้มือเปล่าไปถึงระดับเขตแดนคนนี้จะเป็นอัจฉริยะด้านการควบคุมหุ่นรบเหมือนกันหรือเปล่า?
ทางด้านเฉียวถิงคิดว่าคนของถงหลี่หาเรื่องใส่ตัว ทางฝั่งหานอวี้ที่ไม่รู้ความสามารถที่แท้จริงของหลิงหลานกลับร้อนอกร้อนใจขึ้นมา เขาอดขุ่นเคืองหลิงหลานไม่ได้ ลอบด่าทอว่าอีกฝ่ายเอาตัวเข้ามาปะปนในหมู่คนมีความสามารถเพราะอยากจะคว้าเกียรติยศในการได้รับชัยชนะในการต่อสู้แบบกลุ่ม และดันจ้าวจวิ้นลงไป ไม่อย่างนั้นพวกเขาย่อมไม่ตกเป็นฝ่ายรับขนาดนี้…
นึกถึงว่าพวกเขาอาจจะต้องหยุดอยู่ที่หนึ่งร้อยอันดับแรก พลิกล็อกอย่างเหนือความคาดหมายที่สุดในศึกการประลองปีนี้ หานอวี้ก็อดครุ่นคิดอย่างคับแค้นใจไม่ได้ ไว้รอกลับไปถึงโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งแล้ว เขาจะดูว่าหลิงหลานจะอธิบายว่าอย่างไร เวลานี้หานอวี้ลืมไปแล้วว่า เพราะเขาประมาทเลยพ่ายแพ้การประลองรอบแรกที่ไม่ควรแพ้ไป ถึงได้ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนเป็นฝ่ายรับแบบนี้…
เฉียวถิงสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจในสายตาของหานอวี้ มุมปากของเขาก็เผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา เขาไม่มีทางใจดีแก้ความเข้าใจผิดให้กับศัตรูเก่าของเขาแน่นอน ให้อีกฝ่ายกังวลใจต่อไปอีกสักพักละกัน
หลิงหลานเลือกที่จะมองข้ามความไม่พอใจของหานอวี้และสายตาเย็นชาของเฉียวถิงที่ชมดูอยู่ด้านข้าง เวลานี้เธอกำลังอ่านข้อมูลแผ่นยาวๆ ในห้วงจิตใจของตัวเอง นี่เป็นข้อมูลรายละเอียดของสมาชิกทีมเข้าร่วมการประลองทุกคนของถงหลี่ที่เธอให้เสี่ยวซื่อรวบรวมมาเมื่อสักครู่นี้
“น่าจะเป็นหมอนี่แหละ…” หลิงหลานในห้วงจิตใจหาเป้าหมายของตัวเองเจอในที่สุด และเอ่ยพลางชี้ไปยังชื่อของหนึ่งในนั้น
เสี่ยวซื่อที่อยู่ด้านข้างสงสัยใคร่รู้อยู่บ้าง เขาพยายามเขย่งเท้าอยากดูว่าคนที่ลูกพี่ของเขาชี้คือใครกันแน่ น่าเสียดายที่ผ่านไปสิบเจ็ดปีแล้ว เขายังคงเป็นถั่วงอกน้อย ความสูงยังไม่ถึงช่วงเอวเล็กๆ ของหลิงหลานเลย ต่อให้เขย่งเท้าอีกแค่ไหนยังไงก็ไม่ถึง
เขาแหงนหน้ามองขึ้นสูงไปบนกระดาษขาวแผ่นนั้น เสี่ยวซื่อพลันลอบแค้นตัวเองว่าทำไมถึงเปลี่ยนข้อมูลเป็นรูปแบบเอกสารกระดาษขาวด้วย ใช้หน้าจอเสมือนจริงเหมือนกับข้างนอกก็เห็นแล้วไม่ใช่เหรอ? เวลานี้เสี่ยวซื่อนึกเสียใจภายหลังแล้ว แต่ก็ไม่กล้าปรับเปลี่ยนเองตามใจชอบอีก เขากลัวว่าจะถูกลูกพี่ของตัวเองขังไว้ในห้องมืดเล็กๆ อีกครั้ง
การกระทำของเสี่ยวซื่ออยู่ในสายตาของหลิงหลานมานานแล้ว ในใจรู้สึกขบขันมาก เธอไม่ปล่อยให้เสี่ยวซื่อลำบากอีกต่อไป ลดแผ่นกระดาษไปข้างล่าง ย้ายมาที่เบื้องหน้าเสี่ยวซื่อ ก่อนจะชี้ไปยังชื่อหนึ่งในนั้นและกล่าวว่า “เขานี่แหละ”
เสี่ยวซื่อเผลออ่านออกมาตามจิตใต้สำนึก “ตู้หยวนหล่าง ภาควิชากลยุทธ์ทหาร การประลองวางแผนกลยุทธ์ในศึกประลองครั้งนี้: อันดับที่เจ็ด…ผลคะแนนนี้ไม่นับว่าดี แพ้ให้กับหานจี้จวิน...” พูดถึงตรงนี้ เสี่ยวซื่อยังคงงุนงงสับสน ไม่เข้าใจว่าทำไมลูกพี่ตัวเองถึงอยากค้นหาหมอนี่ออกมาจากในหมู่คนนับร้อยนี้
ดวงตาเต็มไปด้วยความงงงวยของเสี่ยวซื่อทำให้หลิงหลานแย้มยิ้ม เธออธิบายว่า “แนวทัพของถงหลี่ในการประลองวันนี้น่าจะเป็นฝีมือของหมอนี่ ต้องพูดว่าแผนการนี้ยอดเยี่ยมมาก แทบจะทำให้อีกฝ่ายโค่นล้มได้สำเร็จเลยทีเดียว…”
เสี่ยวซื่อเข้าใจแล้ว เขานึกยินดีในใจ ดวงตายิ้มจนหรี่ลงเป็นเส้นเดียว เอ่ยอย่างภาคภูมิใจและดีใจความโชคร้ายของคนอื่นนิดหน่อยว่า “น่าเสียดายที่เขาเดิมพันผิดคนแล้ว”
หลิงหลานไม่ตอบ เพียงแต่ลูบศีรษะของเสี่ยวซื่อ จากนั้นก็สั่งการโดยที่มองข้ามการประท้วงของเสี่ยวซื่อว่า “สรุปแล้ว นายจะต้องส่งข้อมูลของหมอนี่ไปให้จี้จวินกับชีตาห์ ให้พวกเขาจับตามองไว้หน่อย ตอนที่ต่อสู้ประจัญบานแบบทีม หมอนี่อาจจะนำปัญหายุ่งยากมาให้พวกเรานิดหน่อยก็ได้”
จัดการทุกอย่างนี้เสร็จแล้ว หลิงหลานก็เพ่งความสนใจไปที่สนามประลองอีกครั้ง ตอนนี้สถานการณ์ของจางจิงอันดูย่ำแย่เล็กน้อย ถูกอีกฝ่ายโจมตีกดดัน คนผู้นี้เป็นไพ่ตายของถงหลี่จริงๆ ด้วย จางจิงอันที่เป็นผู้ควบคุมระดับพิเศษเหมือนกันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย
“รุ่นพี่จางจะแพ้แล้ว” หลิงหลานเอ่ยเรียบๆ เธอคาดว่าผลแพ้ชนะสุดท้ายจะตัดสินออกมาในอีกไม่กี่กระบวนท่า ดูจากสถานการณ์ของจางจิงอัน อย่างมากสุดก็ต้านรับไว้ได้เพียงสิบกระบวนท่าเท่านั้น
เฉียวถิงพยักหน้ากล่าวว่า “ใช่ แค่ไม่รู้ว่าเขายังต้านทานได้อีกสักกี่กระบวนท่าเท่านั้น อีกฝ่ายแข็งแกร่งมาก อันดับที่สิบเก้านี้น่าจะเป็นผลจากการแพ้ผู้ควบคุมไพ่ราชาหลังจากที่เจอเร็วเกินไป ความสามารถของเขาทัดเทียมกับจ้าวจวิ้นเลย เข้าไปอยู่ในแปดอันดับแรกได้แน่นอน จางจิงอันหลีกเลี่ยงการแพ้ไม่ได้แล้ว”
คำพูดของเฉียวถิงทำให้หลิงหลานอึ้งไป เธอนึกว่าเฉียวถิงที่เป็นผู้ควบคุมไพ่ราชาเหมือนกันจะสามารถประเมินจำนวนกระบวนท่าในการตัดสินผลแพ้ชนะออกมาได้เหมือนเธอเสียอีก ไม่คาดคิดเลยว่า ความเป็นจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น เฉียวถิงสามารถดูผลลัพธ์ในตอนสุดท้ายออก แต่ไม่สามารถคาดการณ์จำนวนกระบวนท่าที่ใช้ตัดสินในตอนสุดท้าย…
ขณะที่หลิงหลานกำลังมึนงงไม่เข้าใจอยู่นั้น หุ่นรบในสนามสองตัวประมือกันเจ็ดแปดกระบวนท่าแล้ว สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปฉับพลัน จางจิงอันที่เดิมทีแค่ยังตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบและยังไม่ได้แสดงแนวโน้มที่จะพ่ายแพ้ออกมา เขากลับหลบหลีกไม่ทัน ถูกอาวุธเย็นของอีกฝ่ายแทงตรงไปที่ช่วงอก พลังงานมหาศาลซัดจางจินอันจนลอยออกไป
จางจิงอันที่กำลังกระเด็นลอยออกไปยังไม่ทันได้ทรงตัวหุ่นรบ ฝ่ายตรงข้ามก็พุ่งเข้ามาอย่างโหดเหี้ยม โจมตีติดต่อกันสามที ซัดหุ่นรบของจางจิงอันร่วงจากกลางอากาศตกสู่พื้นดิน...
สิบท่า! จำนวนกระบวนท่าที่ใช้ตัดสินผลแพ้ชนะสุดท้ายเป็นเหมือนอย่างที่หลิงหลานคาดคิดไว้จริงๆ ใช้แค่สิบกระบวนท่าเท่านั้น! ทำไมเธอถึงคาดการณ์แม่นยำได้ขนาดนี้ แต่ว่าเฉียวถิงกลับทำไม่ได้? หลิงหลานครุ่นคิดปัญหาข้อนี้อย่างหนัก ทันใดนั้นความคิดหนึ่งก็แล่นวาบ เธอนึกถึงพรสวรรค์รู้แจ้งเห็นจริงของเธอ หรือว่าจะเป็นเพราะเจ้านี่?
พอครุ่นคิดอย่างละเอียด ก็มีเพียงความเป็นไปได้นี้เท่านั้น นี่ทำให้หลิงหลานเริ่มให้ความสำคัญต่อพรสวรรค์นี้ของตัวเองขึ้นมา เดิมทีคิดว่าการรู้แจ้งเห็นจริงจะมีเพียงความสามารถมองทะลุจุดอ่อนของคู่ต่อสู้เท่านั้น ตอนนี้ดูเหมือนว่า เมื่อก่อนเธอจะมองข้ามและดูถูกพรสวรรค์นี้มากเกินไป การรู้แจ้งเห็นจริงน่าจะยังซ่อนการใช้งานที่น่าทึ่งอื่นๆ เอาไว้…บางทีเธอน่าจะทุ่มเทจิตใจศึกษามันดูสักหน่อยแล้ว
……
ในมิติการเรียนรู้ อาจารย์หมายเลขหนึ่งที่นั่งสมาธิอยู่บนยอดเขาสัมผัสได้ถึงความคิดของหลิงหลาน เขาก็ลืมตาขึ้นมา ก่อนที่จะมีรัศมีเย็นเยียบพาดผ่าน จากนั้นก็แค่นเสียงเย็นทีหนึ่งแล้วค่อยหลับตานั่งสมาธิอีกครั้ง
อาจารย์หมายเลขหนึ่งไม่พอใจมากๆ ที่ตอนนี้หลิงหลานเพิ่งคิดอยากจะทำความเข้าใจพรสวรรค์รู้แจ้งเห็นจริง เขาเคยบอกหลิงหลานมานานแล้วว่า พรสวรรค์รู้แจ้งเห็นจริงเป็นหนึ่งในพรสวรรค์ระดับสุดยอดในหมู่พรสวรรค์ทั้งหมด ความสามารถของมันจะมีแค่มองเห็นจุดอ่อนที่เป็นความสามารถไม่สลักสำคัญอะไร เหมือนกับสัญชาตญาณสัตว์ป่าที่เป็นพรสวรรค์ระดับต่ำได้อย่างไร
ทว่าการที่หลิงหลานสังเกตถึงเรื่องนี้ได้เร็วขนาดนี้ อาจารย์หมายเลขหนึ่งก็พึงพอใจมากเช่นกัน ไว้หลังจากที่หลิงหลานเชี่ยวชาญพรสวรรค์รู้แจ้งเห็นจริงโดยสมบูรณ์แล้ว…อาจารย์หมายเลขหนึ่งไม่อยากครุ่นคิดต่อ นั่นย่อมเป็นตัวตนที่น่ากลัวอย่างแน่นอน
หลังจากโจมตีติดต่อกันสามครั้ง คะแนนของจางจิงอันก็ถูกหักจนเหลือศูนย์ กรรมการรีบโบกธงแดงทันที ห้ามไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามเข้ามาโจมตีอีก พวกหลิงหลานรอจางจิงอันบังคับหุ่นรบให้ลุกขึ้นมา หลังจากนั้นกรรมการก็จะประกาศผล
ผ่านไปหลายวินาที จางจิงอันยังคงไม่ขยับเขยื้อน สีหน้าของหลิงหลานกับเฉียวถิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย
กรรมการบนสนามก็สังเกตเห็นเรื่องนี้เช่นกัน เขาเชื่อมต่อช่องสื่อสารของจางจิงอันและร้องเรียกอย่างเคร่งเครียด ก่อนจะได้ยินเสียงครวญครางดังรางๆ มาจากปลายสาย เขารู้ทันทีว่าเรื่องราวท่าจะไม่ดีแล้ว ก็รีบแจ้งหน่วยแพทย์เข้ามาอย่างรวดเร็ว
หน่วยแพทย์รีบมายังสถานที่เกิดเหตุ และยังมีแฮคเกอร์ระดับสูงหลายคนมาด้วยเช่นกัน จางจิงอันคล้ายกับตกอยู่ในสภาพหมดสติ ไม่สามารถเปิดห้องคนขับได้ ดังนั้นพวกแฮคเกอร์จำเป็นต้องเจาะรหัสของห้องคนขับก่อน หลังจากที่เปิดประตูห้องคนขับแล้วถึงจะช่วยจางจิงอันออกมาได้
หลิงหลานสังเกตเห็นเรื่องนี้ก็บอกเสี่ยวซื่อ หลังจากที่แฮคเกอร์กำลังพยายามเจาะรหัส เสี่ยวซื่อก็เจาะรหัสห้องคนขับ เปิดประตูห้องออก
จางจิงอันถูกช่วยเหลือออกมา ทั่วทั้งร่างของเข่าอ่อนปวกเปียกราวกับโคลน เมื่อแพทย์ทหารที่ดูแลรับผิดชอบเข้าไป ตรวจสอบ สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างยิ่งยวด รีบวางจางจิงอันเข้าไปในแคปซูลรักษาที่เตรียมไว้นานแล้ว ก่อนจะติดต่อเครื่องลำเลียงที่คอยให้ความช่วยเหลืออยู่ด้านนอกสนามประลองมาตลอดให้เข้ามาขนแคปซูลรักษาออกไป
การประลองถูกประกาศหยุดลงชั่วคราวโดยไม่มีกำหนด การแจ้งเตือนนี้ทำให้พวกหลิงหลานรู้ว่าจะต้องเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแน่นอน ในช่องไลฟ์สดของหลังเวที ตอนที่จางจิงอันถูกช่วยเหลือออกมา อาการบาดเจ็บดูผิดปกติอยู่บ้าง ราวกับสาหัสกว่าที่พวกเขาจินตนาการไว้หลายเท่า
พวกเขาที่ตกใจระคนสงสัยย้อนกลับไปชมภาพที่ถูกโจมตี KO ติดต่อกันสามทีของเมื่อสักครู่นี้ การโจมตีของอีกฝ่ายสะอาดมาก ตำแหน่งที่โจมตีก็ไม่ได้ละเมิดกฎ หลีกเลี่ยงห้องคนขับเอาไว้…เช่นนั้นทำไมจางจิงอันถึงได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนั้นล่ะ? นี่มันแปลกประหลาดเกินไปแล้ว พวกเขาขบคิดไม่ออก
หลิงหลานสั่งให้เสี่ยวซื่อแทรกซึมเข้าไปในช่องสื่อสารที่ใช้ในการทหารอย่างลับๆ จะต้องรู้เรื่องนี้จนกระจ่างให้ได้
ทุกคนรอคอยผลสรุปอย่างอดทน ตอนที่คู่ต่อสู้ของจางจิงอัน ไพ่ตายของถงหลี่คนนั้นกลับไปยังด้านหลังเวทีก็ทำหน้าตะลึงงันเหมือนกัน เขาไม่เข้าใจที่จางจิงอันได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ หลังเวทีที่เดิมทียุ่งวุ่นวาย เวลานี้เปลี่ยนเป็นเงียบสงัด ทุกคนต่างรอข่าว อยากรู้ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“อ้า นายพลหลิงเซียวนี่นา!” ไม่รู้ว่าใครร้องอุทานขึ้นมาในด้านหลังเวทีที่เงียบสงบ เรียกสติของทุกคน ก่อนที่ทุกคนจะส่งเสียงฮือฮาเบียดกันอยู่ที่ด้านหน้าหน้าจอขนาดใหญ่เพื่อดูท่าทีสง่างามของนายพลหลิงเซียว บรรยากาศที่เดิมทีหนักอึ้งถูกกวาดหายไปจนหมด
หลิงเซียวไม่ได้มาที่สนามประลองคนเดียว ยังมีรองประธานาธิบดีของสหพันธรัฐมาด้วยเช่นกัน เพียงแต่ความสนใจของทุกคนไปอยู่ที่ตัวหลิงเซียวกันหมด รองประธานาธิบดีจึงกลายเป็นภาพประกอบฉากอย่างน่าเวทนามาก พวกเขามาที่หุ่นรบของจางจิงอันด้วยสีหน้าเคร่งขรึม หลิงเซียวกระโดดขึ้นไปที่ห้องคนขับโดยตรง เมื่อเขาออกมาจากด้านใน สีหน้าก็ดูย่ำแย่มาก…
เขาเอ่ยกับรองประธานาธิบดีอยู่หลายประโยค สีหน้าของรองประธานาธิบดีก็เปลี่ยนไปยกใหญ่ ทำหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อออกมา แป๊บเดียวทั้งคู่ก็เข้าไปในห้องคนขับด้วยกันอีกรอบ เมื่อออกมาอีกครั้ง สีหน้าของรองประธานาธิบดียังดูย่ำแย่กว่าหลิงเซียวเล็กน้อย
ไม่นาน โรงเรียนทหารทั้งหมดที่เข้าร่วมการประลองหุ่นรบแบบกลุ่มก็ได้รับข้อความแจ้งว่า ทางกองทัพจะส่งหุ่นรบจริงทั้งหมดไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบใหม่อีกครั้ง เมื่อยืนยันความปลอดภัยแล้วถึงจะอนุญาตให้ผู้ควบคุมหุ่นรบขึ้นหุ่นรบทำการประลองได้!
เมื่อข้อความแจ้งเตือนนี้ออกมา ก็มีเสียงเสียงเอะอะฮือฮา! ทุกคนรู้แล้วว่า ทำไมจางจิงอันถึงเกิดเรื่องขึ้น!
———————