I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 460 ความรักของพ่อดุจดังขุนเขา! (1)
เมื่อได้รับคำประกาศ เฉียวถิงก็ขมวดคิ้วแน่น เขาตรึกตรองอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันหน้าไปหาหลิงหลานก่อนพูดว่า “หัวหน้ากลุ่มหลิง ดูจากคำประกาศนี้ หรือว่าหุ่นรบของจางจิงอันน่าจะ เกิดปัญหาด้านฟังก์ชั่นความปลอดภัย ระบบจอภาพเกิดปัญหา? ระบบควบคุม? หรือว่า…” เฉียวถิงสีหน้าทะมึน เอ่ยด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “หุ่นรบมีปัญหาแต่แรกแล้ว?”
เวลานี้หลิงหลานได้รับคำวินิจฉัยที่หลิงเซียวกับรองประธานาธิบดีตรวจสอบผ่านทางการเชื่อมต่อของเสี่ยวซื่อแล้ว เธอสะกดกลั้นโทสะที่มีอยู่เต็มหัวใจ ตอบกลับอย่างเย็นเยียบว่า “ก็อาจจะ มันมีความเป็นไปได้หมด!”
คำพูดของหลิงหลานทำให้สีหน้าของเฉียวถิงเคร่งขรึม เขากำลังคิดจะสอบถามหลิงหลานต่อ เวลานี้เอง บรรดาคนที่กำลังดูถ่ายทอดสดตรงด้านหลังเวทีก็เริ่มร้องอุทานขึ้นมา พากันตะโ โกนว่า “นายพลหลิงเซียว นายพลหลิงเซียวมาแล้ว…”
พวกหลิงหลานมองไปก็เห็นว่าในหน้าจอนั้น หลิงเซียวกับรองประธานาธิบดีเดินเคียงข้างกันเข้ามา โดยมีเจ้าหน้าที่ตามหลังมาไม่น้อย หลิงหลานยังเห็นดวงหน้าที่คุ้นเคยอีกดวงอยู่ ด้านใน นั่นก็คือเหอซวี่หยาง เลขานุการลับที่เคยมาคฤหาสน์ของเธอ ซึ่งตอนนี้กลายเป็นเสนาธิการอันดับหนึ่งของกองทัพที่ยี่สิบสามของหลิงเซียว
เหอซวี่หยางผู้นี้น่าจะผ่านการทดสอบของหลิงเซียวแล้ว กลายเป็นหนึ่งในคนสนิทของหลิงเซียว ไม่เช่นนั้นหลิงเซียวคงไม่มีทางพาเขามาที่ดาวฉี่หมิงด้วย แต่ไม่เห็นผู้ช่วยผู้บัญ ญชาการเฉียวที่หลิงเซียวเคยพาไปโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งในการเดินทางครั้งนี้ ดูท่าผู้ช่วยผู้บัญชาการเฉียวจะมีปัญหาอยู่นิดหน่อย เพียงแต่ไม่รู้ว่าพ่อของเธอเมินเฉยอีกฝ่าย หร รือว่าจัดการเขาไปแล้วกันแน่
เวลานี้คนกลุ่มนั้นมาถึงตรงปากทางสายหนึ่งแล้ว คนที่อยู่ตรงนี้คุ้นเคยกับปากทางสายนี้เป็นอย่างดี มันเป็นทางมายังด้านหลังเวทีของพวกเขา
หลิงหลานใจกระตุก ลอบคาดเดากับตัวเองถึงสาเหตุที่พ่อของเธอมาด้านหลังเวที เป็นเพราะเธออยู่ที่นี่หรือเปล่า? หลิงหลานรู้สึกว่ามีความเป็นไปได้อยู่จริงๆ
เมื่อกลุ่มของหลิงเซียวเข้ามาที่ด้านหลังเวที ทุกคนในด้านหลังเวทีล้วนไม่กล้าเคลื่อนไหวบุ่มบ่าม กลัวว่าจะล่วงเกินนายพลหลิงเซียว ต่อให้กล้าทำ คนคุ้มกันที่เข้ามาก่อนหลิง เซียวย่อมสกัดเอาไว้แน่นอน ทุกคนจ้องมองหลิงเซียวด้วยสายตาเคารพนับถือไปตามฝีเท้าที่ก้าวเดินของเขา
จุดประสงค์ในการมาครั้งนี้ของหลิงเซียวชัดเจนมาก นั่นก็คือโรงเรียนทหารชายที่หนึ่ง เขาตรงไปทางฝั่งโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งโดยไม่มีความลังเลใดๆ เลย ไม่มีใครรู้สึกว่าการกระท ทำนี้ของหลิงเซียวอยู่เหนือความคาดหมาย ฝ่ายที่เกิดเรื่องคือโรงเรียนทหารชายที่หนึ่ง เขาเข้าไปปลอบโยนก็เป็นเรื่องปกติมาก นอกจากนี้ นายพลหลิงเซียวเรียนจบจากโรงเรียนทหารชา ายที่หนึ่ง ดังนั้นการที่เขาเข้ามาห่วงใยบรรดารุ่นน้องของเขาก็เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลแล้ว
รองประธานาธิบดีเห็นแบบนี้ก็แย้มยิ้ม ก้าวเท้าตามหลิงเซียวไปติดๆ มาที่ทางฝั่งของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งด้วยกัน เดิมทีจุดประสงค์ในการเดินทางมาครั้งนี้ของรองประธานาธิบดีก็ค คือโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งเหมือนกัน เขาจึงต้องเป็นตัวแทนรัฐบาลห่วงใยปลอบโยนสักหน่อย
เมื่อเห็นหลิงเซียวเข้ามาใกล้ช้าๆ พวกเฉียวถิงก็ตื่นเต้นมาก พอหลิงเซียวเดินมาถึงเบื้องหน้า ทั้งห้าคนพลันยกมือวันทยาหัตถ์พร้อมกันเสียงดังพรึบ ตะโกนเป็นเสียงเดี ยวกันว่า “สวัสดีครับ ท่านนายพล!”
หลิงเซียววันทยหัตถ์ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมกลับ เมื่อเขาลดมือขวาลง สีหน้าก็อ่อนโยนลงมาทันทีแล้วเอ่ยอย่างนุ่มนวลว่า “ถึงแม้นักเรียนคนเมื่อกี้จะได้รับบาดเจ็บหนักมาก แต่ความสาม มารถด้านการรักษาของสหพันธรัฐย่อมรักษาได้แน่นอน พวกเธอวางใจได้”
“ขอบคุณครับ ท่านนายพล!” พวกเฉียวถิงห้าคนได้ยินคำกล่าวก็ใจสงบลง หลังจากนั้นค่อยตอบกลับเป็นเสียงเดียวกันอีกครั้ง
คำพูดประโยคแรกของหลิงเซียวก็บอกสภาพการณ์ของจางจินอันให้กับพวกเฉียวถิง ทำให้พวกเฉียวถิงซาบซึ้งใจต่อความเอาใจใส่ของนายพลหลิงเซียวเงียบๆ รู้ว่าความกังวลใจมากที่สุดของ พวกเขาคืออะไร ดังนั้นเลยรีบให้คำตอบทันที
นายพลหลิงเซียวกวาดตามองห้าคนด้วยสายตาอบอุ่น ก่อนจะหยุดชะงักที่ตัวของหลิงหลาน ทว่าแป๊บเดียวก็กวาดมองไปที่คนถัดไปอีก สุดท้ายสายตาของหลิงเซียวก็ทอดลงมาที่ตัวของเ เฉียวถิง เอ่ยว่า “เธอ น่าจะเป็นเฉียวถิงสินะ”
“ครับ ท่านนายพล!” เฉียวถิงดีใจอย่างเหลือล้น ไม่นึกไม่ฝันว่านายพลหลิงเซียวก็รู้ชื่อของเขาด้วย เฉียวถิงฝืนสะกดกลั้นความรู้สึกตื่นเต้นที่ใกล้จะเอ่อล้นแล้วบังคับตัวเองให้ ยืดอกตอบกลับอย่างสงบนิ่ง
“ฉันเคยดูการประลองหุ่นรบเดี่ยวของเธอแล้ว ไม่เลวเลย พยายามต่อไปละ!” นายพลหลิงเซียวเอ่ยชม
เฉียวถิง
เฉียงถิงรีบตอบกลับทันทีว่า “ครับ ท่านนายพล!” ไม่คาดคิดว่านายพลหลิงเซียวไม่เพียงรู้ชื่อของเขา แถมยังชมเขาด้วย ความเป็นจริงนี้ทำให้เฉียวถิงตื่นเต้นจนแทบจะสูญเสียการควบคุม ม เขาบังคับตัวเองอย่างสุดความสามารถถึงค่อยรักษาอารมณ์ให้คงที่ได้
สายตาของหลิงเซียวทอดมองมาที่ตัวพวกหลิงหลานอีกครั้ง แล้วถามด้วยรอยยิ้มว่า “ต่อไปใครเป็นคนออกไปประลอง?”
มู่เส่าอวี่ยกมือขึ้นอย่างตื่นเต้นพลางตะโกนว่า “รายงานท่านนายพล เป็นผมเองครับ”
หลิงเซียวมองไปทางมู่เส่าอวี่ เหอซวี่หยางเสนาธิการอันดับหนึ่งที่อยู่ข้างกายหลิงเซียวรีบเข้าไปใกล้หลิงเซียว แล้วเอ่ยเตือนเสียงเบา เมื่อถอยหลังกลับไป เขาก็เพ่งมองหลิ งหลานที่ยืนอยู่ข้างมู่เส่าอวี่แวบหนึ่ง แววตาแฝงไปด้วยรอยยิ้ม
‘พ่อเป็นพยัคฆ์ลูกย่อมไม่ใช่สุนัข!’ เหอซวี่หยางลอบเอ่ยในใจ เขายังคงจดจำได้ว่าตอนนี้คุณชายหลานยังเป็นนักเรียนทหารปีสอง การที่สามารถเข้าร่วมศึกประลองหุ่นรบได้ด้วยสถาน นะนักเรียนปีสอง เกรงว่าพรสวรรค์ในการควบคุมหุ่นรบของคุณชายหลานคงจะไม่ด้อยไปกว่านายพลหลิงเซียวเท่าไหร่นัก
นายพลหลิงเซียวยิ้มพลางพยักหน้ากล่าวว่า “มู่เส่าอวี่ ใช่ไหม? ตอนนี้พวกเธอแพ้สองรอบแล้ว ถ้าเกิดแพ้อีกรอบ สองคนที่อยู่ต่อจากเธอก็จะออกไปประลองไม่ได้ เธอต้องพยายามเข้า นะ จะได้ไม่โดนพวกเขาต่อว่าละ”
คำพูดติดตลกของหลิงเซียวทำให้ความรู้สึกเครียดของมู่เส่าอวี่ผ่อนคลายลงไปไม่น้อยทันที เขาตอบกลับเสียงดังว่า “ท่านนายพล ผมรับรองว่าจะทำภารกิจให้สำเร็จครับ” เขาหันหน้ามองไ ไปทางหลิงหลานกับเฉียวถิง เชิดคางขึ้นมาแล้วกล่าวอย่างทระนงตนว่า “ผมจะทำให้พวกเขาออกไปประลองให้ได้”
หลิงเซียวมองไปทางหลิงหลาน แววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มรักเอ็นดู แววตานี้ทำให้หลิงหลานเกือบคิดว่าหลิงเซียวจะร้องเรียกคำว่า ‘ลูก’ ออกมา ไม่คาดคิดว่าหลิงเซียวเพียงเ เอ่ยแค่คำพูดประโยคเดียวเท่านั้น “ทำให้ดีละ!”
หลิงหลานเป็นคนที่ใจเย็นที่สุดในหมู่ทั้งห้าคน เธอได้ยินคำกล่าวก็ตอบกลับอย่างเยือกเย็นว่า “ครับ ท่านนายพล!”
ดวงหน้าเย็นชาเคร่งขรึมโดยที่ไม่มีความรู้สึกหลุดรอดออกมาเลยแม้แต่น้อยทำให้หลิงเซียวที่เฝ้าสังเกตหลิงหลานมาตลอดห่อเหี่ยวใจนิดหน่อย ทำไมลูกสาวของเขาถึงเยือกเย็นขนาดนี้ ถึง งแม้ว่าคนอื่น ๆ จะควบคุมตัวเองอย่างสุดกำลัง แต่เห็นแวบเดียวก็มองความรู้สึกที่แท้จริงของพวกเขาออก มีเพียงหลิงหลานเท่านั้นที่ไม่แสดงความรู้สึกออกมาให้เห็นเลยสักนิดเดียว ท ทำให้หลิงเซียวขบคิดไม่ออก หรือว่าการมาของเขาไม่ได้ทำให้ลูกสาวของเขาตื่นเต้นดีใจเลยสักนิดเดียว? หลิงเซียวคับอกคับใจอยู่เต็มเปี่ยม
เมื่อเห็นหลิงเซียวปลอบขวัญเสร็จแล้ว ท่านรองประธานาธิบดีก็ปลอบขวัญตามเช่นกัน ทำให้กลุ่มโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งสัมผัสได้ถึงความห่วงใยจากกองทัพและรัฐบาลทั้งสองฝั่ง
เวลานี้เอง ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมความปลอดภัยของหุ่นรบที่ถูกส่งตัวมาอย่างเร่งด่วนสองคนมาถึงด้านหลังเวทีแล้ว และทำการตรวจสอบหุ่นรบของผู้ควบคุมหุ่นรบทั้งสองที่กำลังจะอ ออกไปประลอง เมื่อเห็นนายพลหลิงเซียวกับรองประธานาธิบดีอยู่ที่นี่ก็รีบเข้ามารายงานตัวทันที หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไปตรวจสอบหุ่นรบของมู่เส่าอวี่รวมถึงหุ่นรบที่ออกไปประลอง งลำดับที่สามของโรงเรียนทหารถงหลี่ด้วย
เมื่อเห็นด้านหลังเวทีเริ่มยุ่งวุ่นวาย รองประธานาธิบดีกำลังคิดจะแนะนำให้พวกเขาออกไปกันก่อนดีไหม ทันใดนั้นเองหลิงเซียวพลันหันหน้าไปหาคนของโรงเรียนทหารชายที่หนึ่งทั้งห ห้าคนแล้วเอ่ยถามว่า “ใครออกไปประลองถัดจากมู่เส่าอวี่?”
หลิงหลานได้ยินคำกล่าวก็มีขีดดำบนหน้าผากหลายเส้น แม่งเอ๊ย เธอไม่เชื่อว่าพ่อของเธอจะไม่ได้รับรายชื่อการออกไปแข่งขันของพวกเธอ แต่เธอรู้ว่านี่อาจเป็นเพราะพ่อของเธอคิ ดหาวิธีทุกวิถีทางอยากพูดคุยกับเธอ ดังนั้นเลยยกมือตอบกลับว่า “รายงานท่านนายพล เป็นผมเองครับ”
เมื่อได้รับคำตอบที่เขาต้องการ หลิงเซียวก็หันหน้าไปพูดกับรองประธานาธิบดีว่า “ท่านรองประธานาธิบดี ผมอยากดูสภาพห้องคนขับของหุ่นรบผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ ด้วย ไม่สู้เราฉวยโ โอกาสนี้ตรวจสอบหุ่นรบของนักเรียนคนนี้อีกคนกันไหม?”
รองประธานาธิบดีได้ยินคำกล่าว สีหน้าก็เคร่งขรึม ก่อนจะตอบกลับว่า “ตรงใจฉันพอดี”
บทสนทนาของหลิงเซียวกับรองประธานาธิดีทำให้หลิงหลานอึ้งไป จากนั้นก็มีกระแสความอบอุ่นสายหนึ่งเอ่อล้นออกมาภายในใจ หลิงเซียวมาที่ด้านหลังเวที ไม่เพียงเพื่อมาดูเธอ แต่เป ป้าหมายสำคัญที่สุดคืออยากตรวจสอบห้องคนขับของเธอ หลิงหลานรู้ว่า หลิงเซียวกังวลใจ ไม่ไว้วางใจที่จะมอบความปลอดภัยของลูกสาวตัวเองให้กับคนอื่นๆ เขาอยากจะตรวจสอบดูด้วยตัวเอ อง ดังนั้นเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้แล้ว เขาถึงได้ครุ่นคิดอย่างสุดความสามารถ อดทนรอคอยจังหวะที่ดีที่สุด
หลิงหลานสะกดกลั้นความอบอุ่นในใจ แล้วพาหลิงเซียวกับรองประธานาธิบดีมายังเบื้องหน้าหุ่นรบที่เธอจะขับตัวนั้น
หลิงหลานไม่ได้เลือกหุ่นรบไพ่ราชาในการออกไปประลองในครั้งนี้ หากแต่เป็นหุ่นรบระดับพิเศษสายผสมโดยสมบูรณ์ ไม่ใช่หุ่นรบระยะประชิดที่เธอควบคุมมาตลอด หลิงหลานมีเหตุผลข ของตัวเองในการเลือกหุ่นรบตัวนี้ ระยะนี้เธอจัดการข้อมูลมรดกของพ่อเธอในมิติเสมือนจริง แล้วพบว่าในสนามรบ คนที่มีไพ่ตายมากก็ยิ่งรักษาชีวิตรอดได้ง่ายขึ้น นี่ทำให้เธ ธอคิดทบทวนดูว่าเธอโน้มเอียงไปทางด้านชอบการต่อสู้ประชิดตัวมากเกินไปจนมองข้ามการต่อสู้ระยะไกลไปแล้วหรือเปล่า
การจดจ่อทางด้านในด้านหนึ่งทำให้บรรลุสู่จุดสูงสุดง่ายขึ้นอย่างแท้จริง แต่ผู้คนมากมายที่ฝันลมๆ แล้งๆ อยากพัฒนาให้สมดุลกันทั้งสองด้าน ท้ายที่สุดก็มักจะตกสู่ความธรรมดาสาม มัญและหายหน้าหายตาไปในหมู่มวลชน ในประวัติศาสตร์ หุ่นรบของมนุษย์ ทุกคนที่เข้าสู่ผู้ควบคุมหุ่นรบขั้นเทวะ มีเพียงหลิงเซียวคนเดียวเท่านั้นที่ขับหุ่นรบประเภทผสม!
ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นหลิงเซียว! หลิงหลานเองก็ตระหนักเรื่องนี้ได้เช่นกัน เธอไม่ได้เพ้อฝันว่าตัวเองจะเป็นเหมือนกับพ่อที่ชำนาญทุกสิ่งทุกอย่าง เธอเพียงแต่อยากฝึกการโจมตีร ระยะไกลให้ดีขึ้นอีกนิดเท่านั้น เพื่อที่จะกลายเป็นไพ่ตายของตัวเองในช่วงเวลาสำคัญได้
มันก็เป็นความคิดแบบนี้เองที่ทำให้หลิงหลานเลือกหุ่นรบแบบผสมตัวนี้ ซึ่งการควบคุมก็ไม่มีปัญหาอะไร ภายในมิติการเรียนรู้ อาจารย์หมายเลขสามไม่ได้ให้เธอขับหุ่นรบรุ่นใดรุ่ นหนึ่งเพียงอย่างเดียว เธอเคยฝึกฝนหุ่นรบทุกประเภทมาก่อน เพียงแต่พรสวรรค์ของเธออยู่ที่การต่อสู้ระยะประชิด โดยที่การต่อสู้ระยะไกลอ่อนด้อยกว่ามาก ในหมู่คนทั้งสิบของหน่วย ยรบหลิงหลาน อย่างมากสุดการต่อสู้ระยะไกลของหลิงหลานก็จัดอยู่ที่อันดับห้าเท่านั้น…หลี่หลานเฟิง หานจี้จวิน หลินจงชิงล้วนเก่งกว่าเธอ กระทั่งหลี่ซื่ออวี๋ที่ไม่ค่อย ให้ความสนใจเรื่องการควบคุมหุ่นรบก็ยังเหนือกว่าเธอในด้านการต่อสู้ระยะไกลนิดหน่อย
หลิงหลานแค่เก่งกว่าฉีหลง จ้าวจวิ้นและเซี่ยอี๋ที่ทุ่มความสนใจไปยังการต่อสู้ระยะประชิดแล้วก็ฉางซินหยวนที่เดิมทีก็มีพสวรรค์ด้านการควบคุมหุ่นรบแย่มากอยู่แล้วเท่านั้น ส่ วนลั่วล่างก็ต้องดูว่าเขาปลุกบุคลิกอะไรขึ้นมา ถ้าเกิดเป็นบุคลิกที่เหมาะสมกับการต่อสู้ระยะไกล เช่นนั้นความสามารถด้านการต่อสู้ระยะไกลก็จะแข็งแกร่งกว่าหลิงหลาน ดังนั้นพูด ดได้ว่า อย่างมากสุดพรสวรรค์ด้านการโจมตีระยะไกลของหลิงหลานก็ถือได้ว่าดี ทว่าไม่มีวาสนาต่อระดับสูงสุดอย่างแน่นอน
ทว่าการยอมแพ้แบบนี้ไม่ใช่นิสัยของหลิงหลาน ดังนั้นหลิงหลานเลยตัดสินใช้เวลาสักเล็กน้อยมาขัดเกลาความสามารถด้านการต่อสู้ระยะไกลของตัวเอง ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเบียดเข้าไปในส สามอันดับแรกของหน่วยรบให้ได้…
หลิงเซียวมองหุ่นรบตัวนี้แล้วก็มองหลิงหลานอย่างครุ่นคิดแวบหนึ่ง หลิงหลานสังเกตเห็นความพึงพอใจและอิ่มอกอิ่มใจในแววตา เธอตระหนักขึ้นมาได้ทันที ในใจเริ่มคลุ้มคลั่ง ‘พ่อ อคะ พ่ออย่าคิดเข้าข้างตัวเองสิ ที่หนูเลือกหุ่นรบแบบผสมไม่เกี่ยว อะไรกับพ่อสักนิดเดียวแน่นอน!’
ไม่เกี่ยวเลยสักนิดจริงๆ อะ? ภายในห้วงจิตใจ เสี่ยวซื่อจำลองร่างของหลิงเซียวออกมาอย่างแซวเล่น เอ่ยถามเสียงแผ่วเบา
ภายในห้วงจิตใจ หลิงหลานพลันกลอกตาทีหนึ่งแล้วดีดนิ้วเข้าไปจนเสี่ยวซื่อกลับสู่รูปลักษณ์เดิม ก็ได้ เกี่ยวนิดหน่อย ถึงอย่างไรเธอก็ได้รับการเตือนสติจากมรดกของหลิงเซียว ห ลิงหลานจึงยอมรับอย่างตรงไปตรงมา