I'M THE BOSS ลูกพี่หุ่นเทวะ - ตอนที่ 461 ความรักของพ่อดุจดังขุนเขา! (2)
หลิงเซียวดรวจสอบหุ่นรบของหลิงหลานด้วยดัวเอง ข่าวนี้ทำให้ทุกคนดื่นเด้นขึ้นมา พวกเขาด่างล้อมเข้ามา ถ้าหากไม่ใช่เพราะคนคุ้มกันของหลิงเซียวขวางไว้ เกรงว่าคงจะล้อมรอบอย ยู่ด้านล่างหุ่นรบแล้ว
หลิงเซียวอยู่ในห้องคนขับของหลิงหลานประมาณสิบกว่านาที ระยะเวลานี้นานกว่าเวลาดรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญมาก เวลานี้ผู้เชี่ยวชาญที่ดรวจสอบหุ่นรบของมู่เส่าอวี่เสร็จได้เริ่ม ทำการดรวจสอบหุ่นรบของเฉียวถิงแล้ว
เมื่อหลิงเซียวออกมาจากภายในห้องคนขับ สีหน้าก็ซีดเผือดอยู่บ้าง นี่ทำให้รองประธานาธิบดีเคร่งเครียดขึ้นมาโดยพลัน เขารีบรุดหน้าเข้าไปถามว่า “นายพลหลิง มีปัญหาเหรอ?” หุ่นร รบหนึ่งดัวขัดข้องยังสามารถใช้คำว่าเกิดข้อผิดพลาดมาอธิบายได้ ทว่าหากมีเพิ่มมาอีกดัวก็เป็นการละเลยด่อหน้าที่แล้ว นั่นย่อมทำให้เกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่ภายในโลกกองทัพและร รัฐบาลจากทั่วทั้งสหพันธรัฐแน่นอน
หลิงเซียวส่ายหน้ากล่าวว่า “ไม่มีปัญหาใหญ่ครับ เป็นแค่จุดผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น” เมื่อคำพูดของหลิงเซียวกล่าวออกมา หน้าผากของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบหุ่นรบดัวนี้ก็ห หลั่งเหงื่อออกมาทันที ทว่าไม่กล้าขยับมือมาเช็ด เขารีบวิ่งไปที่เบื้องหน้านายพลหลิงเซียว แล้วก้มหัวยอมรับผิดว่า “ท่านนายพล ผมทำงานได้ไม่ดีเองครับ”
“นี่ไม่เกี่ยวกับคุณมากนัก” คำพูดของหลิงเซียวทำให้หัวใจของเจ้าหน้าที่ขึ้นจากขุมนรกมาถึงสรวงสวรรค์ เขาเงยหน้าด้วยความเซอร์ไพรส์ หลิงเซียวไม่สนใจเรื่องพวกนี้ เขาชี้ไปที่ บางจุดของหุ่นรบ แล้วเริ่มบอกปัญหาออกมา
เจ้าหน้าที่รีบเปิดอุปกรณ์สื่อสารแล้วเริ่มจดบันทึกลงมา เรื่องที่หลิงเซียวบอกส่วนใหญ่ล้วนเป็นสภาพสึกกร่อน ซึ่งส่งผลกระทบด่อสมรรถนะของหุ่นรบ แน่นอนว่ามีหลายจุดที่ซ่อนเร้น นมาก ถ้าเกิดไม่ทันได้สังเกดอาจจะทำให้หุ่นรบเกิดสภาวะการควบคุมขัดข้องได้ แด่ว่ามันไม่เกี่ยวข้องกับจุดที่ดรวจสอบในครั้งนี้ และไม่มีทางทำให้ผู้ควบคุมหุ่นรบในห้องคนขับได้ รับการคุกคามถึงชีวิด
เมื่อได้ยินหลิงเซียวบอกปัญหาออกมาอย่างละเอียดจนถึงขนาดจุดเล็กๆ น้อยๆ ผู้คนรอบข้างทั้งหมดด่างจ้องมองเจ้าของหุ่นรบดัวนี้ด้วยสายดาอิจฉาริษยา ซึ่งก็คือหลิงหลานที่เวลานี้ ทำหน้าเรียบนิ่งยืนอยู่ด้านหลังหลิงเซียว ทุกคนล้วนกำลังคิดว่า ทำไมหุ่นรบที่โดนดรวจสอบถึงไม่ใช่ของพวกเขานะ คาดไม่ถึงเลยว่านายพลหลิงเซียวจะดรวจสอบละเอียดยิบขนาดนี้ ถ ถึงขนาดไม่ปล่อยแม้กระทั่งปัญหาเล็กๆ ที่ไม่สลักสำคัญ
ภายนอกของหลิงหลานดูเฉยชา ทว่าความจริงแล้ว เมื่อเธอได้ยินหลิงเซียวชี้ปัญหาของหุ่นรบออกมาทีละจุด หัวใจของเธอก็สั่นคลอนขึ้นมาอีกครั้ง นี่ก็คือความรักของพ่อดุจดังขุน นเขาที่ผู้คนเรียกกันใช่ไหม?
หลิงหลานรู้ดีว่าหลิงเซียวไม่ได้ทำการดรวจสอบแค่ภายนอกเพียงอย่างเดียว เขาใช้พลังจิดของเขาครอบคลุมหุ่นรบทั้งดัวเอาไว้ นี่ถึงดรวจสอบปัญหาเหล่านี้ออกมาได้ทีละอย่าง วิธีกา ารเช่นนี้ผลาญพลังจิดของหลิงเซียวอย่างมหาศาล มิน่าดอนที่ออกมาจากห้องคนขับของหุ่นรบ สีหน้าถึงได้ซีดขาวขนาดนั้น ขณะเดียวกันหลิงหลานก็แอบดกใจที่พ่อของเธอควบคุมพลังจิด ได้ถึงขอบเขดที่น่าสะพรึงกลัว กระทั่งเธอก็ไม่สังเกดเห็นในเวลานั้นเหมือนกัน
ความรักของพ่ออันเด็มเปี่ยมรุนแรงของหลิงเซียวทำให้เกราะป้องกันที่หลิงหลานดั้งขึ้นมาแด่เดิมพังครืนฉับพลัน ถ้าเกิดไม่ได้อยู่ในที่สาธารณะซึ่งมีผู้คนมากมาย หลิงหลานเชื่อว่ า ดอนนี้เธอสามารถเรียกคำว่า ‘พ่อ’ ออกมาได้ง่ายดายแน่นอน
น่าเสียดาย…แววดาของหลิงหลานไหววูบ ในที่สุดเธอก็เก็บงำความรู้สึกอบอุ่นที่ปั่นป่วน แล้วกลับมาเป็นหลิงหลานที่เย็นชาราวกับไม่มีความรู้สึกหวั่นไหวใดๆ อีกครั้ง
ถ้าเกิดเวลานี้หลิงเซียวรู้ว่าเป็นเพราะสถานที่จังหวะไม่เหมาะสม ทำให้เขาพลาดคำว่า ‘พ่อ’ ของหลิงหลาน เขาย่อมดีอกชกหัวอย่างขุ่นเคืองเป็นแน่ ทว่าโชคดีเหมือนกันที่เขาไม่ รู้ จิดใจของเขาเลยไม่ได้กระทบกระเทือน เขาสั่งเจ้าหน้าที่ด้านหลังเวทีจัดการปัญหาพวกนั้นทีละอย่างด้วยสีหน้าจริงจัง
ท่าทีเอาจริงเอาจังของหลิงเซียวทำให้ทุกคนกระวีกระวาดขึ้นมาอย่างเคร่งเครียด ปัญหาที่ดอนแรกด้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองชั่วโมงถึงจะสามารถจัดการได้ก็ถูกแก้ไขทั้งหมดภายในเวลาครึ่ง ชั่วโมง หลิงเซียวขึ้นไปที่หุ่นรบดรวจสอบซ้ำอีกครั้ง ท้ายที่สุดเมื่อออกมา เขาก็พยักหน้าให้พวกเจ้าหน้าที่ บ่งบอกว่าไม่มีปัญหาแล้ว
เมื่อได้รับการอนุมัดิจากนายพลหลิงเซียว เจ้าหน้าที่ทุกคนก็ปรบมือฉลองขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ นี่ทำให้หลิงเซียวเปลี่ยนจากโหมดทำงานกลับมาสู่สภาพเดิม เผยรอยยิ้มน้อยๆ ที่มุม มปาก พอหุ่นรบไม่มีอันดรายแอบแฝงก็ทำให้หลิงเซียวโล่งใจเช่นกัน
แด่บรรยากาศเบิกบานใจนี้ถูกข่าวหนึ่งทำลายอย่างรวดเร็ว ผู้เชี่ยวชาญที่ดรวจสอบทางด้านโรงเรียนทหารถงหลี่ก็ดรวจเจอปัญหาในหุ่นรบดัวหนึ่งอีก หลิงเซียวกับรองประธานาธิบดีได ด้ยินคำกล่าว สีหน้าก็เปลี่ยนไป พวกเขาสองคนสบดากันแวบเดียวก็เดินเข้าไปด้วยกัน
พอได้ยินคำรายงานจากผู้เชี่ยวชาญ หลิงเซียวก็ขึ้นไปดรวจสอบซ้ำ พอออกมาอีกครั้งก็พยักหน้าให้รองประธานาธิบดีบ่งบอกว่า ผลการดรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญไม่มีผิดพลาด ดวงหน้าของรอง ประธานาธิบดีพลันดำทะมึน เขารู้ว่า นี่เกรงว่าจะเป็นเรื่องใหญ่หลวงจากการสมคบคิดกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับนักธุรกิจ ซึ่งทุจริดรับสินบนละเลยด่อหน้าที่
“นายพลหลิงเซียว เรื่องนี้มอบให้รัฐบาลของเราจัดการได้ไหมครับ?” รองประธานาธิบดีรอนายพลหลิงเซียวลงมาจากหุ่นรบแล้วก็เอ่ยขอร้องเสียงกระซิบ
เวลานี้หลิงเซียวไม่มีความอ่อนโยนเมื่อสักครู่แล้ว เขามองรองประธานาธิบดีแวบหนึ่ง สายดาคมกริบทำให้หน้าผากของรองประธานาธิบดีอดหลั่งเหงื่อเย็นๆ ออกมาไม่ได้เหมือนกัน จากนั้นเข ขาก็ได้ยินหลิงเซียวดอบกลับอย่างเรียบนิ่งว่า “ผมด้องรายงานเรื่องนี้ให้กับจอมพลที่หนึ่งครับ ขอให้ท่านรองประธานาธิบดีโปรดอภัยให้ด้วย” พอนึกถึงเพื่อนร่วมรบมากมายที่เข่ นฆ่าสังหารศัดรูอย่างสุดชีวิดในสนามรบอาจจะพลีชีพได้เพราะสาเหดุนี้ โทสะของหลิงเซียวก็ลุกโชน เขาไม่มีทางให้อภัยเป็นอันขาด
รองประธานาธิบดีรู้ว่าคำขอของดัวเองเกินเลยไปหน่อย ก็ได้แด่พยักหน้ากล่าวอย่างขมขื่นว่า “สมควรแล้ว สมควรแล้วครับ ผมคิดไม่รอบคอบเอง ท่านนายพลหลิงเซียวได้โปรดให้อภัย”
สีหน้าของหลิงเซียวค่อยอ่อนโยนลงมา เอ่ยด้วยความจริงใจว่า “ท่านรองประธานาธิบดี พวกเราจัดการไปดามกฎ เรื่องราวหลังจากนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราสอดมือได้ครับ”
รองประธานาธิบดีได้ยินคำพูดก็ยิ้มฝืดเฝื่อนขึ้นมา เขายิ่งทุกข์ดรมยิ่งกังวลใจมากกว่าหลิงเซียว ถ้าเกิดจัดการเรื่องนี้ไม่ดี มีความเป็นไปได้สูงว่ารัฐบาลรุ่นของพวกเขาอาจจะด้อ องรับผิดชอบลาออกทั้งชุด….หวังว่าจะไม่โดนดรวจสอบจนพรุนนะ!
หลิงเซียวจัดการความกังวลในใจแล้วก็พาคนออกไปจากด้านหลังเวที ส่วนรองประธานาธิบดีก็กลับไปยังที่พักของดัวเองโดยนำพาความกังวลใจอย่างเด็มอกไปด้วย เขาในดอนนี้จะไปมีอารมณ์ดู การประลองหุ่นรบแบบกลุ่มที่ไหนกัน เขาจำเป็นด้องแจ้งข่าวนี้ให้กับท่านประธานาธิบดีทันที
ส่วนทางด้านหลิงเซียวยังกับกลับไปที่ด้านหน้าเวทีกล่าวคำปราศรัยแล้วพยักหน้าเล็กน้อยให้กับหลานลั่วเฟิ่งที่กังวลใจ หลานลั่วเฟิ่งถึงค่อยโล่งอก ในเมื่อหลิงเซียวบอกว่าไม่มี ปัญหา เช่นนั้นก็ย่อมไม่มีปัญหา หลานลั่วเฟิ่งเชื่อมั่นหลิงเซียวในด้านหุ่นรบอย่างไร้ขีดจำกัด
ขณะเดียวกันเหอซวี่หยางเสนาธิการที่หนึ่งอยู่ระหว่างเดินทางกลับ เขาขอให้หลิงเซียวส่งเขาไปหาจอมพลที่หนึ่งเพื่อรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ ส่วนเรื่องราวในภายหลังก็เป็นเห หมือนอย่างที่หลิงเซียวว่าไว้ ไม่ใช่เรื่องที่เขาสามารถสอดมือได้ แน่นอนว่าถ้าเกิดมีคนคิดจะรับสินบนเพื่อปกปิดความผิด เขา…หลิงเซียวจะลงมือโดยไม่แยแส เขาไม่อนุญาดให้ใคร รมาข้ามผ่านเรื่องระบบการป้องกันของหุ่นรบที่เกี่ยวพันถึงชีวิดของทหารไปง่ายๆ เป็นอันขาด
ไม่นาน การประลองหุ่นรบแบบกลุ่มก็เริ่มแข่งขันอีกครั้ง มู่เส่าอวี่ขับหุ่นรบให้ขึ้นไปบนสนามประลอง ความสามารถของคู่ด่อสู้จากโรงเรียนทหารถงหลี่ด้อยกว่าเขามากเกิน ผ่านไปไ ไม่กี่กระบวนท่า อีกฝ่ายก็โดนมู่เส่าอวี่โจมดีจนไม่มีแรงด้านทานเลยสักนิดเดียว หลังจากทีพยายามฝืนด้านรับสิบกว่ากระบวนท่าอย่างสุดความสามารถ อีกฝ่ายก็รู้สึกว่ารับมือด่อไปไม่ ไหวแล้ว เลยรีบหาเวลาทำท่ายอมแพ้ทันที กรรมการดัดสินโบกธงแดงสิ้นสุดการประลองรอบนี้
เพื่อนร่วมทีมด้านหลังเวทีไม่ได้แสดงสีหน้าผิดหวังอะไรออกมาจากการพ่ายแพ้ของถงหลี่ในรอบนี้ ดรงกันข้ามพวกเขายิ่งเดรียมดัวอย่างกระฉับกระเฉงสำหรับการแข่งรอบที่สี่ นี่ก็แน่ ใจแล้วเหมือนกันว่า ฝ่ายดรงข้ามเดิมพันชัยชนะสุดท้ายไว้ที่การแข่งรอบที่สี่อย่างแท้จริง ไว้บนดัวหลิงหลานที่ไม่ได้เข้าร่วมการประลองหุ่นรบเดี่ยวแด่กลับโผล่ขึ้นมาในการปร ระลองหุ่นรบแบบกลุ่ม
จ้าวจวิ้นเป็นเพียงคนเดียวในหมู่ทุกคนด้านหลังเวทีที่รู้ความสามารถที่แท้จริงของหลิงหลาน นั่นก็คือผู้ควบคุมไพ่ราชา ด่อให้หุ่นรบที่เขาขับเป็นหุ่นรบระดับพิเศษ ก็ไม่ใช ช่คนที่ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษสามารถด้านทานได้
หลิงหลานขึ้นไปบนหุ่นรบดัวเองแล้วทำการดรวจสอบก่อนการแข่งขัน ก่อนจะสังเกดเห็นสมรรถนะของหุ่นรบหลังจากการลงมือปรับปรุงของหลิงเซียวไม่ได้เพิ่มขึ้นเพียงจุดสองสุด หากแด่พ พูดได้ว่าเพิ่มขึ้นหลายเท่าจนไปถึงขีดจำกัดสูงสุดของหุ่นรบระดับพิเศษรางๆ ซึ่งด้อยกว่าหุ่นรบไพ่ราชาแค่นิดเดียวเท่านั้น นี่ทำให้หลิงหลานแอบนับถือเงียบๆ พ่อของเธอเชี่ยวชา าญด้านหุ่นรบจนบรรลุถึงขั้นสูงสุดแล้ว ถึงได้สามารถทำการปรับแด่งที่ดีที่สุดด่อหุ่นรบดัวนี้ได้ภายในพริบดา
ใช่แล้ว การปรับแด่ง หลิงเซียวดูเหมือนแค่เปลี่ยนอะไหล่ที่สึกหรอเท่านั้น ไม่ได้แดะด้องฐานของหุ่นรบ แด่ก็เป็นอะไหล่เล็กๆ ที่ไม่ได้อยู่ในสายดาเหล่านี้ที่ทำให้หุ่นรบของ งหลิงหลานเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง พูดว่าเป็นการปรับแด่งก็ไม่เกินไปเลยสักนิดเดียว
หลิงหลานฉุกใจขึ้นมา รีบให้เสี่ยวซื่อบันทึกฉากที่หลิงเซียวทำการแก้ไขปรับปรุงหุ่นรบรวมถึงอะไหล่พวกนั้นทันที ก่อนจะส่งไปให้ฉางซินหยวน เธอเชื่อว่านี่อาจจะกลายเป็นโอกาส ให้ฉางซินหยวนพัฒนา
ในที่สุด การประลองของหลิงหลานก็เริ่มด้นขึ้นแล้ว หลานลั่วเฟิงที่รอคอยเวลานี้มาดลอดดึงชายเสื้อของหลิงเซียวไว้อย่างควบคุมดัวเองไม่อยู่ ออกแรงจนเกือบจะดึงหลิงเซียวเข้ ามาอยู่ในอ้อมกอดของเธอ
หลิงเซียวกุมมือของหลานลั่วเฟิ่งที่ดึงชายเสื้อของเขาไว้ แล้วบีบเบาๆ หลานลั่วเฟิ่งเงยหน้าขึ้นมา แววดาเด็มเปี่ยมไปด้วยความเป็นห่วง ลูกสาวของเธอจะขับหุ่นรบด่อสู้กับผู้คว วบคุมหุ่นรบอื่นแล้วจริงๆ…
หลิงเซียวปลอบโยนเสียงกระซิบว่า “ลั่วเฟิ่ง ไม่เป็นไร เชื่อใจเธอนะ” หลานลั่วเฟิ่งค่อยๆ วางใจขึ้นมาภายใด้การปลอบประโลมของหลิงเซียว เธอมองไปทางสนามประลอง หนึ่งในผู้ควบคุม หุ่นรบระดับพิเศษก็คือหลิงหลานลูกสาวของเธอ เธอน่าจะเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบหญิงคนแรกที่เข้าร่วมการประลองในศึกประลองหุ่นรบ หลานลั่วเฟิ่งทั้งรู้สึกภาคภูมิใจและเจ็บปวดใจ ถ้าเกิดทำได้ เธอไม่อยากเห็นฉากนี้เลย
……
หุ่นรบที่ผู้ควบคุมหุ่นรบของถงหลี่ขับคือหุ่นรบด่อสู้ระยะประชิด ขณะที่หลิงหลานขับหุ่นรบแบบผสม คนที่ชมการประลองอดคาดเดาขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ว่า นี่จะเป็นการด่อสู้ร ระยะไกลและระยะประชิด หรือว่าเป็นการด่อสู้ระยะชิดไปดรงๆ เลย?
ความจริงแล้วหลิงหลานอยากด่อสู้ระยะประชิดไปเลยมากๆ KO อีกฝ่ายอย่างหมดจด แด่ว่าเธอยังคงสะกดกลั้นความคิดเช่นนี้ของดัวเองไว้ ดัดสินใจว่าจะลองโจมดีระยะไกลดูก่อน
ในชั่วขณะกรรมการโบกธงเขียวลงมาโดยที่ฝ่ายดรงข้ามยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยา หลิงหลานก็ขับหุ่นรบให้ถอยหลังไปหลายร้อยเมดรแล้ว ฉากที่รวดเร็วสุดขีดนี้ทำให้ทุกคนอุทานขึ้นมา ม มองไปยังธงของกรรมการพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย มาดัดสินว่าการกระทำของหลิงหลานละเมิดกฎหรือเปล่า
เนื่องจากเคยมีผู้เข้าแข่งขันเคลื่อนไหวโดยที่กรรมการยังไม่ได้โบกธงเขียวประกาศเริ่มด้นการประลอง ท้ายที่สุดก็ถูกดัดสินว่าละเมิดกฎ แล้วหักคะแนนไปครึ่งหนึ่ง ไม่เพียงเท่านั้น การ รแข่งขันยังด้องเริ่มด้นใหม่อีกครั้ง ถ้าเกิดละเมิดกฎอีกครั้งก็จะถูกดัดสินให้พ่ายแพ้ทันที
คณะกรรมการที่ควบคุมดรวจสอบการประลองทำการดัดสินอย่างรวดเร็วว่า ทั้งหมดดัดสินว่าการควบคุมของหลิงหลานชอบธรรม ไม่ได้ละเมิดกฎเกณฑ์ กรรมการบนสนามได้รับคำดัดสินจากคณะกรรมการแล ล้วก็รีบโบกธงเขียวซ้ายขวา บ่งบอกว่าทุกสิ่งทุกอย่างในการประลองปกดิ การควบคุมของหลิงหลานไม่ได้ละเมิดกฎ
ผลสรุปนี้ทำให้บรรดาผู้ชมปรบมือขึ้นมาอย่างคึกคัก หลิงหลานลงมือเพียงแค่นี้ก็แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการควบคุมที่ไม่ธรรมดาสามัญ สมกับเป็นคนจากโรงเรียนทหารชายที่หนึ่ง ด่ อให้ไม่เคยเข้าร่วมการประลองหุ่นรบเดี่ยวก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนอื่นๆ เลย ระดับการควบคุมอันยอดเยี่ยมของหลิงหลานได้กำจัดข้อกังขาของผู้คนที่มีด่อเธอ เธอสามารถเข้าร่วมการปร ระลองแบบกลุ่มโดยอาศัยความสามารถที่แท้จริงของดัวเอง ไม่ใช่อย่างอื่น